FFVIII - เนื้อเรื่อง Disc 3 ท่อนแรก


Balamb Garden

  • สคอลล์กลับมานอนว่าจบแล้วเหรอ? เกิดอะไรขึ้นกันนะ? เกิดอะไรกับริโนอา?
  • สคอลล์ไปดูริโนอาที่ห้องพยาบาล แล้วมีเสียงควิสติสประกาศว่าให้สคอลล์มุ่งหน้าไปยังบ้านอิเดียทันที อิเดียกลับไปบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้ว
  •  นักเรียนสงสัยว่ามันจขบแล้วเหรอ คนหายไปเยอะเลย
  • พวกแก็งนักเรียนโรงอาหารดีใจที่รอดมาได้ ขนาดตัวเองยังไม่เป็น SeeD 
  • สาวเปียห้องสมุดกลัวเซลล์ไม่ชอบหนังสือที่เธอแนะนำ เซลล์มาห้องสมุดไม่บ่อย ไม่ใช่คนชอบอ่าน 
  • เซลล์บอกริโนอายังโคมาอยู่เหรอ อย่าเครียดมาก เธอต้องฟื้นแน่นอน
  • ชั้นใต้ดิน ที่เดิมที่นอร์กเคยอยู่ เผ่าชูมิที่เป็นนักเดินทางบอกว่าพวกเขารูปร่างเปลี่ยนตามหัวใจ เมื่อ corrupt ก็จะเปลี่ยนไป ดูสิ่งที่เกิดขึ้นกับนอร์กแล้ว บางทีพวกเราอาจไม่ควรออกจากหมู่บ้าน
  • นักเดินทางอีกคนบอกว่า มาเป็นตัวแทนหมู่บ้านเพื่อขอโทษสำหรับการกระทำของนอร์ก


บ้านของอิเดีย

  • ซิดจะขอบคุณที่เราพยายามหนัก เขาไม่โกรธหากจะโทษเขา เขาพูดจาใหญ่โต แต่ในเวลาลำบาก เขากลับหนี เขาอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีทางชนะ… ถ้าแพ้ก็จบชีวิต ถ้าชนะก็แปลว่าเมียตาย เขารับไม่ไหว ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกด้านไหนก็ตาม เขาไม่ห่วงตัวเอง แต่ได้โปรดอภัยให้อิเดียด้วย
  • พอลงไปเจออิเดีย อิเดียก็ขอโทษเรา พวกสคอลล์ก็ขอโทษกลับ 


อิเดีย

"มันยังไม่จบนะ ฉันอาจจะโดนสิงอีกเมื่อไหร่ก็ได้"

"ที่ผ่านมาก็คือโดนสิงมาตลอด"

"ฉันอยู่ในกำมือของแม่มดอัลติมิเซีย"

"อัลติมิเซียเป็นแม่มดจากอนาคต แม่มดที่อยู่หลังพวกเราไปอีกหลายยุค"

"เป้าหมายของอัลติมิเซียคือการตามหาเอลโลเน"

"นางตามล่าพลังลึกลับของเอลโลเนอยู่ ฉันรู้จักเอลโลเนดี"

"อัลติมิเซียเป็นแม่มดที่น่าสะพรึง"

"หัวใจเธอนั้นเปี่ยมไปด้วยความโกรธแค้นเกลียดชัง"

"ฉันไม่มีวันยอมให้อัลติมิเซียเจอเอลโลเนเด็ดขาด"

"ทางเดียวที่ฉันทำได้คือยอมเสียวิญญาณให้อัลติมิเซีย สูญเสียการควบคุมจิตใจ นั่นคือทางเดียวที่จะช่วยเอลโลเนได้"

"ผลลัพธ์สุดท้าย ก็อย่างที่ทุกคนรู้"

"แม่มดที่ปรากฏตัวในกัลบาเดีย แท้จริงแล้วก็คืออัลติมิเซีย ภายในคราบของฉัน"

"อัลติมิเซียยังไม่บรรลุเป้าหมาย เชื่อว่านางจะใช้ร่างของฉันดำเนินแผนต่ออีกครั้ง"

"ครั้งนี้ฉันจะว่าจะพยายามต้านไว้ แต่ถ้าเกิดไม่สำเร็จ เราอาจจะต้องสู้กันอีกครั้ง"

"ฝากด้วยนะ SeeD หนุ่มทั้งหลาย 


อิเดียกล่าวต่อ

"ทุกคนเคยได้ยินเรื่องแม่มดอาเดลมั้ย?"

"เธอเป็นผู้ปกครองเอสตาร์ระหว่างสงครามแม่มด หลังจากนั้นก็ไม่มีข่าวคราวอีกเลย"

"ทางกัลบาเดียต้องคิดว่าฉันคือแม่มดที่รับสืบทอดพลังของอาเดลมา แต่มันไม่ใช่แบบนั้น ฉันได้รับพลังจากแม่มดคนก่อน ตั้งแต่ตอน 5 ขวบ"

"ฉันเชื่อว่าอาเดลยังมีชีวิตอยู่ แล้วที่อัลติมิเซียปลดปล่อยร่างกายของฉันก็เพื่อจะใช้ร่างกายของอาเดล"

"อาเดลเป็นพวกที่ไม่ลังเลที่จะใช้เพื่อเพื่อความเห็นแก่ตัวของตัวเอง ถ้าอัลติมิเซียจากอนาคต มอบความโกรธแค้นเกลียดชังให้อาเดล พลังของพวกเขาคงเหนือจินตนาการ"


ซิด

"ฟังอิเดียให้ดี ไม่มีใครรู้ว่าเธอจะถูกสิงอีกเมื่อไหร่"


สคอลล์คิดในใจ

(ฉันฟังพอแล้ว เข้าใจว่าสิ่งที่ม๊าพูดสำคัญ แต่ริโนอา...)

 "ว่าทราบมั้ยว่าเกิดอะไรขึ้นกับริโนอา"


อิเดีย

"จำไม่ค่อยได้ว่าเกิดอะไรขึ้น"


สคอลล์

"หลังการต่อสู้ ร่างของเธอก็เย็บเฉียบ และไม่ขยับเขยื้อนอีก"

.

ซิดหันมาตกใจ

"เธอตายเหรอ!?"


สคอลล์

"ไม่!!"


อิเดีย

"ขอโทษด้วยนะ ฉันไม่คิดว่าจะช่วยอะไรได้"


ซิด

"เข้าใจความรู้สึกสคอลล์นะ แต่สคอลล์อยู่ในตำแหน่งของผู้นำ"

"นักเรียนคนอื่น ๆ ในการ์เดนมีสิทธิที่จะรู้ผลของการต่อสู้ และสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป"

"ช่วยนำข้อมูลที่ได้จากที่นี่ กลับไปยังการ์เดนด้วย"

"จำไว้ว่าไม่ใช่แค่ริโนอาเท่านั้น ทุกคนก็สู้มาด้วยกัน"


สคอลล์

"ผมเข้าใจ แต่..."


ซิด

"แต่ แต่ แต่" 

"นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผู้นำควรพูด"


สคอลล์ก็ …. แล้วเก็บอาการไม่อยู่จนต้องหันไปต่อยคำแพง พร้อมคิดในใจว่า

(....ห่าเอ้ยยย)

  • สคอลล์ที่หันหน้าเข้ากำแพง หลับตาคิดในขณะที่เพื่อน ๆ พูด ว่าเราเจอกัน (ริโนอา) ครั้งแรกในวันที่ฉันได้เป็น SeeD เราเจอกันอีกครั้งที่ทิมเบอร์ ตอนแรกเราเถียงกันเยอะ แต่แล้ว อะไร ๆ ก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไป เธอมองมาที่ฉัน… ยิ้มให้ในตอนที่เราสบตากัน มันทำให้ฉันรู้สึกสงบสบายใจ ริโนอา ขอโอกาสให้ฉันอีกครั้งนะ
  • เสียงเพื่อน ๆ คุยกันว่า เป้าหมายของอัลติมิเซียคือเอลโลเน ผู้มีพลังลึกลับในการส่งจิตของใครก็ได้กลับไปยังอดีต ดังนั้นอัลติมิเซียอาจต้องการใช้พลังของเอลโลเน อัลติมิเซีย ต้องการส่งจิตเธอจากยุคนี้ กลับไปยังอดีตที่ไกลโพ้นกว่านั้น เธอตั้งใจจะทำอะไรในอดีตกันนะ การบีบอัดเวลา มันคือเวทย์กาลเวลาที่บีบอัดอดีต-ปัจจุบัน-อนาคตเข้าด้วยกัน โลกจะเป็นยังไง? ทำไมถึงทำแบบนั้น นึกสภาพโลกที่เวลาบีบอัดเข้าด้วยกันไม่ออกเลย 
  • เซลล์ทักว่าโย่ววว สคอลล์
  • เซลฟีบอกว่าไม่ได้ฟังอยู่นี่นา!!
  • สคอลล์หันมาตอบได้ทันทีว่า เบื้องต้นเราต้องป้องกันไม่ให้อัลติมิเซียได้ตัวเอลโลเน เราจะกลับไปยังการ์เดน บอกให้ทุกคนรู้ 
  • เออร์ไวน์บอกพวกเราก็ห่วงริโนอาเหมือนกัน นายเข้าใจเนอะ?
  • สคอลล์ถามกลับว่าแล้วทำไมนาย…..!? เออ ช่างมันเหอะ
  • ถ้ากลับมาซิดบอกว่าเอลโลเนเดินทางรอบโลกอยู่ ถึงอัลติมิเซียสิงอิเดียอีก ก็คงหาตัวเจอยาก


Balamb Garden

  • สคอลล์กลับมากระจายเสียง อัปเดตสถานการณ์ให้ทุกคนฟัง จากนี้เราจะหาเอลโลเน แล้วจัดการเรื่องอัลติมิเซีย เขาเชื่อว่าเอลโลเน อยู่บนเรือของ SeeD ขาว เราจะออกตามหากัน คงใช้เวลาหาข้อมูลสักพัก ส่วนอิเดียนั้นกลับบ้านเธอแล้ว เธอคงไม่ใช่ศัตรูของพวกเราอีกแล้ว ไม่ต้องไปยุ่งกับเธอ
  • ควิสติสบอกว่าไว้จะไปเยี่ยมริโนอาที่ห้องพยาบาล
  • ซูบอกว่าไม่รู้ว่าหลายคนจะให้อภัยเรื่องที่เกิดขึ้นมั้ย
  • สคอลล์ลงไปดูห้องพยาบาล ริโนอาตัวเย็นเฉียบ เธอจะเป็นแบบนี้ไปตลอดรึเปล่านะ ไม่มีอะไรที่ฉันพอจะทำได้เลยเหรอ!? เธอที่เล่นใหญ่อยู่เสมอ ตอนนี้กลับไม่ส่งเสียงออกมา.. ฉันอยากได้ยินเสียงเธอ (ราวกับคุยกับกำแพง) ริโนอา เรียกชื่อฉันสิ 


บทลากูนา ในทุ่งหิมะ น่าจะแถวเอสตาร์

  • พวกลากูนาถังแตก จากการพักโรงแรมบ่อย ลากูนากำลังบอกว่าตัวเองไม่เหมาะกับงานแสดง แล้วก็โดนจับใส่ชุดเกราะ ส่วนแม่มดนั้นคือคนที่เป็นควีนออฟการ์ด
  • คนเล่นเป็นมังกรป่วย คิรอสเลยต้องสวมชุดเล่นแทน
  • ซีน 12 การตายของแม่มด แม่มดกำลังขออัศวินให้ปกป้องจากมังกรร้าย 
  • รูบี้ดราก้อนดันผ่านมาทางนั้นจริง ๆ ซึ่งในช่วงนี้ลากูนาได้ใช้กันเบลด โดยบอกว่าไม่ได้ใช้มานานแล้ว นับจากตอนฝึกซ้อม
  • ลากูนาก็หนี แล้วก็บ่นว่ามันมีกี่ตัวเนี่ย มากันไม่หยุดเลย
  • เอลโลเนส่งจิตคุยกับสคอลล์ว่าเธอตัดการเชื่อมต่อไม่ได้ สงสัยว่าฉันจะนอนอยู่ ก็เลยควบคุมไม่ได้ ขอโทษด้วยนะ แต่ขอใช้วิญญาณ (spirit) ของเธออีกสักพัก
  • สคอลล์จะคิดว่าปล่อยกูกลับไป

  • ภาพตัดมาที่ลากูนากำลังคุยกับอิเดียในวันฝนตก ลากูนาบอกว่าเอลโลเนไม่อยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกัน ทหารเอสตาร์ลักพาตัวไป เขาเดินทางไปทั่ว พยายามหาทางเข้าไปในเอสตาร์แต่… 
  • อิเดียถามว่าพวกเขากำลังหาผู้สืบทอดแม่มดอาเดลเหรอ
  • ลากูนาบอกใช่เลย 
  • อิเดียถามว่าเขาเป็นลูกสาวคุณเหรอ
  • ลากูนาบอกเปล่า แต่เธอน่ารักมาก แล้วก็อยากจะได้ยินเสียงของเธออีก (สคอลล์คิดว่าเขาก็อยากได้ยินเสียงริโนอา เขาไม่สนว่าจะเป็นอดีตหรือไม่ แค่อยากได้ยินเสียงริโนอา อยากเจอริโนอา มันต้องมีทางช่วยเธอสิ)
  • เอลโลเนบอกว่าฉันก็พึ่งรู้ว่าเราเปลี่ยนอดีตไม่ได้ ตอนที่ฉันถูกลักพาตัว ลุงลากูนาออกเดินทางตามหาฉัน แต่เพราะเขาทำแบบนั้น ลุงลากูนาจึงไม่สามารถอยู่ข้างเรนได้ในตอนที่เธอเสีย เรนก็อยากจะให้ลากูนาได้เห็นทารกของเธอที่พึ่งได้ลืมตาดูโลก เรนเรียกหาลากูนาอยู่เสมอ ไม่ว่ายังไง ฉันก็อยากให้ลากูนาอยู่ในหมู่บ้าน แต่ก็ไม่สำเร็จ ฉันไม่สามารถกลับไปยังช่วงเวลานั้นได้อีกแล้ว (แปลว่าเอลโลเนอยากเปลี่ยนแปลงอดีต ให้ลากูนาไม่ตามหาเธอ แต่อยู่ดูสคอลล์ตอนเกิดมานี่เอง) นอกจากนี้ ฉันสามารถส่งเธอเข้าไปสู่คนที่ฉันเคยเจอมาก่อนเท่านั้น ขอโทษด้วยนะสคอลล์ ฉันจะตัดการเชื่อมต่อ เดี๋ยวนี้แหละ ฉันจะหาทางคุยกับเธอแบบนี้อีก 
  • สคอลล์ส่งจิตกลับมา พี่! เอลโลเน! ผม… ผมอยากได้ยินเสียงของริโนอา
  • สคอลล์ฟื้นมาในห้องพยาบาล พูดว่าถ้าเราย้อนเวลากลับไปได้ ก็จะได้เจอเธออีก บางทีอาจจะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ได้ ว่าแล้วก็ตะโกน เอลโลเน! เอลโลเน! ได้ยินฉันมั้ย!? ส่งฉันกลับไปยังช่วงเวลาก่อนที่ริโนอาจะโคม่า 
  • ไม่มีเสียงตอบรับ สคอลล์คิดว่าเอลโลเนคงอยู่บนเรือของ SeeD ขาว ซึ่งเป็น SeeD ของอิเดีย ถ้างั้นอิเดียก็อาจจะรู้ว่าพวกนั้นไปไหน ฉันก็จะได้เจอเอลโลเน ฉันก็อาจจะได้ย้อนเวลากลับไป


บ้านของอิเดีย

  • อิเดียบอกว่าเด็ก ๆ SeeD ขาวระวังตัวมาก พวกเขาไม่อยู่ที่ใดที่นึงนาน แต่พวกเขาก็ชอบอยู่ในแถบเซนทรา ดังนั้น พวกเขาอาจจอดเรืออยู่ที่ทางเข้าสักที่ ในทวีปเซนทรา แล้วขอให้สคอลล์เอาจดหมายไปด้วย ด้วยจดหมายนี้ พวกเขาจะต้อนรับสคอลล์
  • ซิดบอกว่าไอเดียของ SeeD ขาว คิดขึ้นเพื่อปกป้องเอลโลเนจากเอสตาร์ (SeeD ดำสู้กับแม่มด, SeeD ขาวปกป้องเอลโลเน) อิเดียเป็นกัปตันของเรือ แต่ไม่ทันไร เด็กมากมายก็ถูกพาขึ้นเรือมา แล้วก็กลายเป็นสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า อิเดียสอนเด็กพวกนั้นดี พวกเขาก็ถูกเรียกเป็น SeeD เหมือนกัน 


เรือ White SeeD

  • สคอลล์มาแสดงความประสงค์ว่าต้องการพบเอลโลเน พวกเขาไม่ได้เป็นภัย อิเดียเป็นคนบอกเองว่า SeeD ขาวอยู่แถวนี้ ตอนนี้อิเดียไม่ได้อยู่ใต้การควบคุมของอัลติมิเซียแล้ว ตอนนี้เธอเป็นพวกเราแล้ว จึงไม่มีเหตุผลให้พวกคุณต้องซ่อนเอลโลเนจากพวกเรา เราต้องการเอลโลเนกลับมาเพื่อปกป้องเธอจากอัลติมิเซีย 
  • SeeD ขาวจะขอบคุณแต่บอกว่าพวกเขาไม่มีเหตุผลที่จะเชื่อ จงไปเสีย
  • เด็ก ๆ บนเรือไม่คุยด้วย เพราะโดนสั่งมาว่าห้ามคุยกับคนแปลกหน้า
  • SeeD คนอื่น ๆ ก็บอกว่าไม่มีอะไรจะพูดกับเรา หลังจากอิเดียจากไปแล้ว หัวหน้าก็ดูแลทุกอย่างแทน ถ้าหัวหน้าไม่ให้พูดก็ตามนั้น
  • เจอ Zone กับ Watts บนเรือ พวกเขาหนีจากทหารกัลบาเดียมาถึงเรือนี้ ตอนแรก Zone นึกว่าต้องว่ายน้ำข้ามทะเลหนีแล้ว พวกเขาถามถึงริโนอา สคอลล์เลยบอกว่าหลังสู้กับอิเดีย ริโนอาก็หมดสติ ตอนนี้พักอยู่ในการ์เดน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน เราปกป้องเธอไม่ได้ ขอโทษด้วย 
  • Zone เข้ามาด่าสคอลล์อย่างแรก ก็บอกแล้วว่าให้ดูแลเธอ อย่าให้เกิดอะไรขึ้นกับเธอเด็ดขาด!! ไอ้ระยำ น่าสมเพช ไอ้ระยำตอแหล 
  • Watts เข้ามาห้ามไว้ แล้วบอกว่ายังไม่ตายสักหน่อย เราแค่ไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไร สคอลล์ไม่มีทางตัดใจอยู่แล้ว 
  • สคอลล์บอกว่าเรามาหาเอลโลเน เพราะมีผู้ร้ายคนใหม่ตามล่าเธอ ถ้าเอลโลเนกับรีโนอาเจอกัน เราอาจจะช่วยริโนอาได้ 
  • Watts บอกว่าริโนอาสัญญาว่าจะกลับมา พวกเราจะปลดปล่อยทิมเบอร์ด้วยกัน ไม่ต้องห่วงน่า (พูดกับ Zone) 
  • Zone จะก็ได้ แต่ขอพูดอีกครั้ง ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับริโนอาอีก ฉันจะ…. (แล้วก็วิ่งหนีไป)
  • Watts บอกว่าหลังจากอิเดียออกจากเรือไป ก็แทบไม่มีผู้ใหญ่บนเรือนี้ จนถึงตอนนี้ก็มีแค่เด็ก ๆ และคนรุ่นพวกเรา ทุกคนที่นี่เป็นเด็กกำพร้ากัน เขากับ Zone ก็กำพร้าเช่นกัน พวกเราเลยเข้าใจกันและกัน บางครั้ง เด็ก ๆ ก็ดูเหงา มันทำใจยากเสมอ 
  • Watts บอกเอลโลเนออกจากเรือไปแล้ว ตอนที่เรือลำอื่นมาหา เรือที่มีทหารบนเรือ เคยเห็นมาก่อน พวกทหารเอสตาร์ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่ตอนเธอจากไป เธอยิ้มนะ ทุกคนชอบเธอมาก เธอเป็นคนเจอพวกเราในน้ำ ถ้าไม่ได้เธอไว้ พวกเราจมไปแล้ว เธอต้อนรับเราดี คุยกับพวกเราเยอะตอนที่เราขึ้นเรือครั้งแรก เราติดหนี้บุญคุณเธอ และทุกคนก็เป็นห่วงเธอ
  • Watts บอกหัวหน้ามักจะอยู่ในเคบินใต้เด็คเสมอ พอเป็นเรื่องเอลโลเนเขาจะซีเรียสเสมอ อาจจะแข็งกร้าวไปบ้าง แต่เขาเป็นคนดี เขาช่วยเหลือคนมากมายที่ลำบาก 
  • Zone ตอนนี้ไปช่วยคนขับเรือ เขาบอกว่าดูทะเลไม่เคยเบื่อเลย เขาได้เรียนรู้วิธีการขับเรือนิดหน่อยด้วย ถ้าเป็นรถไฟมันแค่อยู่ในราง แต่เรือนี่ต้องระวังทั้งทะเล 
  • เอาหนังสือ Girl Next Door ให้ Zone แล้วเขาจะให้การ์ดศิวะ
  • สคอลล์เอาจดหมายจากอิเดียไปให้ผู้นำของ SeeD ขาว เขาจะบอกว่านี่มันลายมือม๊านี่นา เขาเองก็เรียกอิเดียว่าม๊ามาตั้งแต่เด็ก สคอลล์ก็พอบอกว่าอิเดียเลี้ยงเขามาเช่นกัน ตอนต้องสู้ด้วยก็ลำบากใจมาก แต่ผลลัพธ์ก็ออกมาดี เธอไม่ได้ร้ายแล้ว เธอกลับเป็นคนเดิม ม๊าใจดีที่เรารู้จัก
  • ผู้นำก็จะขอบคุณ และบอกว่าเขาเป็นหนี้สคอลล์และบาลัมการ์เดนแล้ว สคอลล์ก็แสดงความเคารพกลับเช่นกัน
  • ผู้นำบอกเอลโลเนไม่อยู่ที่นี่แล้ว พวกเขารับเธอจากการ์เดนตอนที่เลยมาใกล้ถึง Fishersman Horizon จากนั้นก็มุ่งหน้าไปทางตะวันออก ให้ไกลจากอิเดียและกัลบาเดียให้มากที่สุด ไม่ทันไรก็เจอกองทัพเรือของกัลบาเดีย ที่กำลังตามหาพวกเรา แล้วมันก็ไล่ตามเรามาสุดกำลัง เราหนีมาได้ แต่เรือเราเสียและเราก็ติดแหงก เราไม่มีวันยอมให้กัลบาเดียได้เอลโลเนไป ท้ายที่สุด กัลบาเดียก็ไล่มาทัน เราก็ไม่มีทางเลือกนอกจากเตรียมสู้ แต่แล้วเรือของเอสตาร์ก็โผล่มา พวกนั้น (เอสตาร์และกัลบาเดีย) สู้กัน แล้วเราก็ติดร่างแหไปด้วย แต่แล้วก็เกิดเรื่องประหลาดขึ้น เรือของเอสตาร์เข้าเทียบเรา แล้วทหารเอสตาร์ก็ขึ้นเรือมา พวกเขาบอกให้ขึ้นยานเขา ฟังดูเหมือนให้เราอพยพ เราปฏิเสธเพราะเราไม่เชื่อใจเขาพอ ๆ กับที่ไม่เชื่อใจพวกกัลบาเดีย พวกเขาก็พยายามชักชวนเราในขณะที่การต่อสู้ก็เคร่งเครียดขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาเลยจำใจต้องออกจากยานเรา ขณะที่เรือพวกเขากำลังจะออก เอลโลเนก็ตะโกนอะไรสักอย่าง แล้วก็กระโดดขึ้นยานพวกเขาไป มันดูไม่สมกับเป็นเธอเลย จนถึงวันนี้ ฉันก็ไม่เข้าใจว่าเธอทำแบบนั้นทำไม หลังจากนั้นกองเรือของเอสตาร์ก็ถอนกำลังและหนีไป หลังจากพวกเขาไปแล้ว เรื่องก็อีกยาว หลังจากที่เรือเราซ่อมเสร็จสมบูรณ์ เราตั้งใจจะไปยังเอสตาร์ ขอโทษด้วยนะสคอลล์ ที่เราปกป้องเธอไว้ไม่ได้ ตอนนี้เรือเชื่อว่าเอลโลเนอยู่ในเอสตาร์

  • มี SeeD ขาวสอนตำรา ตำนานของ Vascaroon เป็นเรื่องราวของคนฉลาดชื่อ Vascaroon ครั้งหนึ่งเคยมีคนชื่อ Hyne เป็นผู้ปกครองโลก แต่เขากลายเป็นคนขี้เกียจ และตัดสินใจสร้างเครื่องมือให้ชีวิตง่ายขึ้น Hyne สร้างเครื่องมือขึ้นมา และเครื่องมือของเขาก็สามารถสร้างเครื่องมืออีกได้ด้วยตัวเอง ในไม่ช้าเลยมีเครื่องมือมากมายเกิดขึ้นบนโลก เครื่องมือเหล่านั้นก็คือมนุษย์ พอ Hyne ตื่นขึ้นมาก็ตกใจว่ามีมนุษย์มากมายเลย เขาอยากลดจำนวนมนุษย์ เลยใช้เวทย์แผดเผามนุษย์ตัวเล็ก มนุษย์ตัวเล็กพวกนั้นเราเรียกกันว่าเด็ก มนุษย์นั้นทะนุถนอมเด็กกันมาก มนุษย์เลยกบฎต่อ Hyne เขาเลยใช้เวทย์ทรงพลังต่อสู้กับมนุษย์ มนุษย์นั้นใช้เวทย์ไม่ได้ แต่พวกเขามีปัญญา ท้ายที่สุด Hyne ก็เริ่มแพ้สงคราม เพราะมีมนุษย์ที่ต้องสู้ด้วยมากเกินไป และพวกเขาฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจสงบศึกกับมนุษย์ โดยการมอบร่างกายและพลังครึ่งหนึ่งของเขาให้ Hyne นั้นแบ่งครึ่งร่างเขาและมอบให้มนุษย์ตามสัญญา แต่แล้วสงครามครั้งใหม่ก็บังเกิดขึ้น มนุษย์เริ่มต่อสู้เพื่อแย่งชิงพลังที่ Hyne มอบให้ผ่านทางร่างกายของเขา สงครามนั้นยาวนานหลายทศวรรษ ท้ายที่สุด กษัตริย์ Zebalga และชนเผ่า Zebalga ก็ได้รับชัยชนะ และเรียกร้องเอาร่างครึ่งนึงของ Hyne กับพลังไป แต่ร่างกายนั้นกลับไม่ตอบสนองต่อคำร้อง ต่อมา Vascaroon ก็เข้ามาช่วย เขาปรากฏตัวต่อหน้า Zebalga ที่สับสน และเปิดเผยว่าร่างครึ่งนึงของ Hyne นั้น corrupt และไม่มีพลังจริง ๆ ร่างครึ่งนึงนั้นมันเป็นแค่ผิวหนังที่ Hyne ลอกทิ้งไว้ ทาง Zebalga เลยโกรธจัดและตัดสินใจทำลาย Hyne แต่ Zebalga ก็หา Hyne ไม่พบ มนุษย์จึงเริ่มเรียกเขาว่าจอมเวทย์ Hyne และตามล่าเขาไปอีกนับหลายศตวรรษ
  • ผู้นำบอกว่าพวกเขามาถึงทวีปนี้สักพักแล้ว และก็ชอบทวีปเซนทรากัน ทวีปเอสตาร์อยู่ทางตะวันออกของที่นี่ ไม่รู้ไปทางทะเลได้มั้ย พวกเขาเดินทางไปทั่วโลกเพื่อให้เอลโลเนปลอดภัย  แต่เราก็ยังไม่เคยไปที่เอสตาร์ แล้วถามว่าเราได้ยินข่าวหรือเปล่าว่าทางกัลบาเดียเก็บกู้สิ่งที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาจากทะเลได้ เหมือนว่าวัตต์กำลังคุยเรื่องนี้อยู่ 


Balamb Garden

  • สคอลล์มาแจ้งพวกควิสติสว่าจะไปเอสตาร์กันต่อ นิดาบอกว่าพวกนั้นรังเกียจคนต่างชาติ (Xenophobic) ดินแดนแถวนั้น ก็ไม่เหมาะก็ไม่เหมาะกับการให้การ์เดนบินผ่าน แต่สคอลล์บอกยังไงก็ให้ตั้งจุดหมายไว้ที่เอสตาร์
  • ควิสติสบอกว่าทวีปเอสตาร์ล้อมไปด้วยทิวเขาสูง มันเหมือนถูกซ่อนไว้กลางเขา พวกเขาไม่ค่อยติดต่อกับโลกภายนอก ถึงเรียกกันว่าประเทศเงียบงัน ฉันว่าการ์เดนไม่น่าบินข้ามภูเขาเหล่านั้นได้ แต่ก็มีทางรถไฟเชื่อมจาก FH ไปยังเอสตาร์ FH เคยมีสัมพันธ์กับเอสตาร์มาก่อน เลยมีทางรถไฟเหลืออยู่ 
  • ซูบอกไม่น่าเชื่อเลยว่าเราจะไปเอสตาร์ ทหารพวกนั้นน่าขนลุก 
  • สคอลล์กลับมาที่ห้องพยาบาลแล้วอุ้มริโนอาขึ้นมา ในใจคิดว่าไปหาเอลโลเนกัน เอลโลเนจะทำให้เราได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีก ขอโทษด้วยนะทุกคนฉันไปต่อทั้งแบบนี้ไม่ไหว มันอาจไกลหน่อย แต่จะสำเร็จ


ทางรถไฟเก่า

  • บนทางรถไฟเก่า สคอลล์คิดว่า



(ค่อนข้างไกลแฮะ)

(ไม่คิดเลยว่าจะไกลขนาดนี้)

(ฉันทำอะไรอยู่เนี่ย)

(ไปที่เอสตาร์ไปหาเอลโลเน)

(คุยกับเอลโลเน)

(แต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าเมื่อคุยกับเอลโลเนแล้วเรื่องจะคลี่คลาย)

(แต่ถึงกระนั้นฉันก็ยัง…..)

(ฉัน.......... เปลี่ยนไปเนอะ)


บนทางรถไฟยามเย็น สคอลล์นั่งพักระหว่างทาง แล้ววางริโนอาลง คิดในใจว่า



(ทุกคนกำลังทำอะไรกันอยู่นะ?)

(อาจจะหัวเราะฉันอยู่หรือเปล่า?)

(หรือว่าพวกเขาอาจจะโกรธอยู่?)


สคอลล์หันไปถามริโนอาที่ไม่ได้สติ

"เธอคิดว่าไง?"

"บอกตามตรงนะ ฉันคิดมากเลยว่าคนอื่นจะมองฉันยังไง"

"ฉันไม่ชอบตัวเองในด้านนี้เลย"

"เพราะงั้นก็เลยไม่อยากจะให้ใครได้รู้จักฉัน"

"ฉันอยากจะซ่อนแง่มุมนี้ของตัวเองไว้"

"ฉันเกลียดมัน"


"สคอลล์เป็นคนไม่น่าคบ"

"เป็นคนอินโทรเวิร์ต"

"พอคนอื่นมองฉันแบบนี้แล้วฉันก็สบายใจกว่า"


  • เดินทางต่อมาจนถึงเช้า สคอลล์เจอควิสติสและเซลล์ที่ยืนรออยู่ที่สถานี ควิสติสบอกว่าสคอลล์มาช้านะ เซลล์ถามว่าเจ้าหญิงยังหลับอยู่หรอ ควิสติสบอกว่าเธออาจจะตื่นขึ้นด้วยจุมพิตจากเจ้าชายก็ได้นะ สคอฃฃ์ถามว่ามาเพื่อจะบอกฉันแบบนี้เนี่ยนะ ควิสติสบอกว่าจะไปเอสตาร์ใช่มั้ย พวกเราก็จะไปด้วย เซลล์บอกว่าเราเป็นผู้คุ้มกันของอีเดียไง

  • อิเดียก็โผล่มาบอกว่าไปกันเถอะสคอลลล์ อินเดียจะไปหา ดร. โอไดน์ เซลล์บอกว่ารู้จักพวกแบรนด์โอไดน์ที่โด่งดังไหม ทั้งหมดเป็นผลงานของ ดร. โอไดน์ เมื่อพูดถึงความรู้เกี่ยวกับแม่มดแล้ว เขาคือเบอร์หนึ่งเลย
  • อีเดียบอกว่าอัลติมิเซียยังมีชีวิตอยู่ เธอสามารถเข้าควบคุมร่างกายฉันเมื่อไหร่ก็ได้ ถ้าเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น ฉันจะนำพาความน่ากลัวมาอีกครั้ง ฉันเองก็เป็นห่วงตัวเอง ก็อยากป้องกันตัวเองเหมือนกัน ถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากเอาพลังแม่มดออกไปจากตัวเอง ดร. โอไดน์อาจจะมีวิธี เขาอาจจะช่วยฉันได้
  • เซลฟี่กับเออไวน์เดินกลับมา ควิสติสบอกว่าพวกเขาทั้งสองไปสำรวจล่วงหน้า เซลฟี่ถามว่าริโนอายังหลับอยู่เหรอ ตอนเธอหลับน่ารักจัง สคอลล์เปลี่ยนเรื่องว่าเราจะไปถึงเอสตาร์ ได้ใช่ไหม เซลฟี่บอกว่าเขินเหรอจ๊ะ? เออร์ไวน์บอกเซลฟี่อย่าทำให้สคอลล์โกรธสิ ว่าแต่เอสตาร์อยู่บนทวีปนี้ใช่ไหม มันคงใหญ่มาก ๆ ไม่รู้ว่าทำไมแต่ว่าฉันหาไม่เจอเลย เซลฟี่บอกว่าจะทางเหนือหรือทางใต้ก็ไม่เห็น งั้นเราไปทางตะวันออกกันต่อไปเถอะ
  • อิเดียบอกว่าถ้าอัลติมีเซียสิงเธออีกทุกคนคงรู้นะว่าจะต้องทำอะไร…. 
  • เซลฟี่บอกว่าเราจะต้องทำให้ริโนอากลับมาเป็นเหมือนเดิมให้ได้ ตอนนี้ก็เหมือนมาปิกนิกกัน มาสนุกกันเถอะ
  • สคอลล์บอกว่าเค้าพูดกันว่าถ้าพูดว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น มันก็จะเป็นจริง ผมรู้ว่ามันฟังดูงี่เง่า แต่ตอนนี้ผมก็อยากจะเชื่อแบบนั้น เพราะฉะนั้นอย่าพูดเรื่องไม่ดีกันอีกเลย
  • ปราบบอส Abadon แล้วไปต่อ เจอรูอยู่กลางอากาศ สามารถปีนเข้าไปได้ ทุกคนจะงงว่าใครเป็นคนสร้างที่แห่งนี้ขึ้นมา มันดูมีกลไกประหลาด อิเดียเองก็ไม่รู้เลย สคอลล์เองก็ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน จะไปถึงเอสตาร์ได้หรือเปล่า แต่ไม่สนหรอกยังไงก็ไม่มีทางถอยหลัง
  • ปรากฏว่าเราอยู่บนลิฟท์ที่กำลังพุ่งเข้าไปยังเมืองเอสตาร์กันซึ่งทั้งกลุ่มตกใจมาก สคอลล์บอกว่าดูจากเทคโนโลยีของพวกเขาแล้ว พวกเขาคงรู้แล้วล่ะว่าเรามาถึงที่นี่ เราอาจเจอศัตรูได้ ดังนั้นระวังเอาไว้จากนั้นอาการปวดหัวก็จะกลับมาอีก สคอลล์บอกว่าไม่ใช่ตอนนี้ไม่มีละเราก็สลบไป




ห้องทดลองใน Lunartic Pandora (ฝั่งลากูนา)

  • ทหารเอสตาร์บอกว่า ไอ้ผอมแล้วไอ้อ้วนลงไปยังลูนาติกแพนโดรา พวกแกจะต้องอยู่ที่นี่ทำงาน ส่วนที่เหลือกลับไปทำงาน แล้ววอร์ดกับคิรอสก็ออกจากห้องไป
  • ลากูนาบอกเขาหิวแล้ว ทหารบอกว่าแค่ 3 วันเอง ตอนเขาหนุ่ม ๆ เขาทำงานทั้งวันทั้งคืน ไม่ได้หลับไม่ได้นอน
  • ทหารห้ามวิ่งไปมา ห้ามคุย (ในห้องมีคนงานอีกคนกับมุมบา)
  • ลากูนาสงสัยว่าคิรอสและวอร์ดก็ทำงานอยู่รึเปล่านะ
  • พอถึงเวลาอาหาร ทหารไม่ให้กินเพราะลากูนาพูดมาก แล้วบอกมุมบาว่าแกก็ไม่ได้กินจนกว่าจะทำงานเสร็จ ลากูนาบอกว่าไม่จริงน่า ของฉันทำอีก 2-3 ชั่วโมงก็เสร็จแต่ของมุมบานั้นมันต้องทำอีกเป็นวันเลยนะ ทหารบอกว่าแค่อดข้าวไม่กี่วันเองน่ะ ถ้าอยากกินข้าวก็รีบทำให้มันเร็วขึ้นสิ (ส่วนคนงานอีกคนได้ลงลิฟต์ไปกินข้าว)
  • มีเสียงทหารจากห้องอื่นตะโกนเรียกให้ไปช่วยจัดการกับไอ้ตัวใหญ่ ทหารห้องเราเลยบอกว่าอย่าทำอะไรโง่ ๆ นะตอนนี้พวกเขาไม่อยู่ยังไงก็มีกล้องจับตามองพวกแกอยู่
  • ลากูนาถามมุมบาว่าแกไหวไหม ดูท่าทางเพลียนะ เขาให้แกกินอิ่มไหม เป็นไข้หรือเปล่า หรือว่ากลัวความสูงไหม มุมบาก็ตอบได้แค่การ์ ๆ คนงานอีกคนบอกว่าการ์ ๆ น่าจะหมายถึงขอบคุณนะ รู้เปล่านายเป็นคนแรกเลยนะที่เป็นห่วงว่าพวกมันจะเป็นยังไง พวกมุมบาน่ะ โดนให้ทำงานจนตัวตายอย่างไม่มีเหตุผล พวกมันได้อาหารและเวลานอนแค่ครึ่งเดียวของที่มนุษย์ได้เท่านั้น
  • มีเสียงคนตะโกนทดลองทำอะไรสักอย่าง แล้วก็เกิดแผ่นดินไหว คนงานบอกว่าสงสัย ดร.โอไดน์ที่อยู่ข้างบนคงทำอะไรอยู่เจ้าโอไดน์คงไม่รู้ว่าเราอยู่ที่นี่ พวกนักวิทยาศาสตร์ก็เหมือนกันหมดสนใจแต่งานทดลองของตัวเอง ลากูนาถามมุมบาว่าแกต้องการเครื่องมือหรอเดี๋ยวไปเอามาให้นะ
  • ทหารเข้ามาเรียกลากูน่าบอกว่าให้ขึ้นไปหาทหารด้านบนบอกพวกเขาว่าเกิดเรื่องฉุกเฉินแล้ว 
  • ลากูนาโยนเครื่องมือให้มุมบา มุมบาที่รับก็เผลอปล่อยมือจากราวที่จับอยู่ และเกือบตกลงไป แต่ลากูนาจับแล้วก็ดึงกลับขึ้นมาได้ทัน คนงานบอกว่านายเป็นคนดีนะ ทุกวันนี้หาคนแบบนี้แทบไม่ได้เลย ดูหน่วยก้านนายเหมาะจะเป็นหัวหน้าพวกเราได้
  • ลากูนาถามว่าหัวหน้าหรอ? คนงานบอกว่าใช่แล้วพวกเราไม่พอใจกับวิธีการที่อาเดลปกครองเอสตาร์ตอนนี้เราอาจจะไม่เป็นกลุ่มก้อน แต่สักวันเราจะรวมกำลังเพื่อปลดอาเดลออกจากเอสตาร์ เราจะโค่นคนที่ปกครองประเทศนี้ แม่มดที่มีพลังไกลห่างจากพวกเรา แต่แผนครึ่ง ๆ กลาง ๆ คงไม่มีวันสำเร็จเราจะรอจนกว่าจะถึงเวลา คนส่วนใหญ่ที่อยู่ในกลุ่มต่อต้านอาเดล เป็นผู้เชี่ยวชาญ พวกเขาจะสามารถหาทางสู้กับอาร์เดลได้ แต่ไม่มีใครกล้าเป็นผู้นำได้ สถานการณ์ตอนนี้ก็เป็นแบบนี้ เรากำลังมองหาใครสักคนแบบนาย คนที่เข้มแข็งและเที่ยงธรรม
  • ทหารเข้ามาถามว่าเฮ้ยนายขึ้นไปบอกพวกเขายังทำอะไรอยู่ แล้วก็จะเข้ามาทำร้ายลากูนา
  • ลากูน่าจัดการทหารที่เข้ามาทำร้ายแต่แล้วมีทหารอีกคนลงลิฟต์มาจากด้านบน ลากูนาเอามือดันทหารไว้แล้วบอกให้คนงานกับมุมบ้าขึ้นลิฟท์หนี พอสองคนนั้นหนีไปแล้ว คิรอสกับวอร์ดก็เข้ามาในห้องพอดี พร้อมกับมีทหารอีกคนตามมาด้านหลัง ลากูน่าบอกว่า 2 ดีกว่า 1 และ 4 ดีกว่า 2 ถูกไหม คิรอสถามว่าแล้วคนที่ 4 เป็นใคร? นายหลอนเหรอ? ลากูนาก้มลงไปพูดกับอากาศ แล้วบอก เอ้ย ฉันเห็นนะ เอลล์น้อยของฉัน เธอทำให้ลุงมีความสุข ส่งซิกว่าได้โอกาสละ จัดการพวกมันแล้วออกไปจากที่นี่กัน
  • พอชนะได้แล้วทั้ง 3 ขึ้นลิฟท์หนีมายังด้านบนเจอห้องที่มี ดร.โอไดน์อยู่กับผู้ช่วย แล้วก็ไม่มีทหารคุ้มกันด้วย พวกเขากำลังตกใจปรากฏการณ์จันทร์ร่ำไห้ ลากูน่าเลยอาศัยจังหวะนี้วิ่งออกมา เจอมุมบาและคนงานที่รออยู่ด้านนอก ลากูนาบอกระวังอย่าให้โดนจับมาอีกล่ะ แล้วมุมบาก็วิ่งไป ลากูนานึกขึ้นได้ว่าแย่ล่ะสัญญาว่าจะเลี้ยงข้าวและหาที่นอนให้เมื่อเราออกมาได้แล้วนี่นาแต่เอาน่ะให้เขาได้วิ่งออกไปอย่างเป็นอิสระอย่างนี้ก็ดีแล้ว
  • ผู้ช่วยของโอไดน์ เดินตามออกมาจากอาคาร แต่คนงานบอกว่าไม่เป็นไรเขาก็เป็นสมาชิกกลุ่มต่อต้านอาเดลด้วยเหมือนกัน พวกข้อมูลสำคัญจากห้องทดลองก็ได้มาจากเขา ผู้ช่วยถามว่านายเป็นสมาชิกใหม่หรอยินดีต้อนรับสู่กลุ่มของเราพวกนายทำเสียงดังข้างล่างนะแต่นี่ก็เป็นโอกาสดีที่จะออกไปจากห้องทดลองนี้ ลากูนาถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับด็อกเตอร์หรอ หรือว่าอาเดลไม่ให้งบกับห้องทดลองแล้ว
  • ผู้ช่วยบอกว่าไม่ใช่หรอก ดร. โอไดน์ทำแบบเดิมอีกแล้ว เค้าเจอของเล่นใหม่ที่ชอบยิ่งกว่าของชิ้นโตอย่างลูนาติกแพนโดราเป็น เด็กที่ชื่อเอลโลเน
  • ลากูนาตกใจ คนงานถามว่านายรู้จักหรอ คิรอสบอกว่าไม่ใช่แค่รู้จักหรอก แต่เธอเป็นเหตุผลที่พวกเรามายังที่นี่ ลากูนาถามว่าเธออยู่ที่ไหน เอลโลเนอยู่ที่ไหน ผู้ช่วยบอกว่า ดร.โอไดน์น่าจะรู้นะ ลากูนาบอกว่าถามโอไดน์ใช่มั้ย งั้นเราจะกลับไป ขอบคุณที่ช่วยเหลือไป หาที่ปลอดภัยนะ ลาก่อน (แล้วกำลังจะวิ่งไป)
  • ผู้ช่วยบอกว่าถ้านายกำลังตามหาเอลโลเน นายจะต้องการความช่วยเหลือ การเผชิญหน้ากับเอสตาร์ และอาเดลด้วยพวกนายแค่ 3 คนมันจะลำบาก ทำไมไม่ให้พวกเราช่วยล่ะ เราจะหาข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็นให้ คิรอสบอกว่าไม่เลวนะ เพราะเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเอสตาร์เลย ฉันไม่อยากไปซุยมั่วแล้ว วอร์ดเองก็คงรู้สึกแบบเดียวกัน ลากูนาก็โอเคเอา เราจะยอมรับความช่วยเหลือจากพวกคุณ ในทางกลับกันเราจะตอบแทนด้วยการช่วยในการเคลื่อนไหวต่อต้านอาเซล ระหว่างนี้วอร์ดก็จะยกมือให้อย่างเดียวก็พูดไม่ได้
  • คิรอสบอกว่าอาเดลโว้ย ตั้งใจฟังหน่อยสิ อย่าทำให้ขายหน้า วอร์ดกำลังพูดแบบนี้อยู่นายมองตาเขาแล้วไม่เข้าใจหรอ ลากูนาบอกว่าใครจะไปสนฉันพูดด้วย passion จากหัวใจนั่นแหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุด คนงานบอกว่าใช่แล้วอาจจะฟังดูบ้าบอแต่ฉันชอบแกว่ะ อยากให้แกเป็นหัวหน้าของพวกเรา
  • ลากูนาบอกว่าไว้ใจได้เลยไว้เราเจอตัวเอลโลเนแล้วฉันจะรับข้อเสนอนั้น แต่ขอเราไปหาโอไดน์ก่อน รออยู่ที่นี่แหละ ลากูนาหันไปคิดในใจว่าฉิบหายละทำไมฉันไม่คิดให้รอบคอบก่อนจะตอบไปนะ แต่ในเมื่อมันก็โอเคเรื่อย ๆ มาจนถึงตอนนี้ฉันว่ามันก็น่าจะลุล่วงไปได้ด้วยดีนั่นแหละ
  • คนงานถามว่าเอลโลเนเป็นคนพิเศษของนายหรอ ลากูนาบอกว่าก็ประมาณนั้นแหละ คิรอสเตือนว่าลากูนาได้โปรดเขาเป็นเหมือนลูกสาวนายนะ ลากูนาบอกว่าเธออาจจะตัวเล็กแต่ยังไงเอลล์ก็เป็นผู้หญิง เธอจะโกรธขนาดไหนถ้าได้ยินฉันพูดเหมือนกับว่าเธอเด็กอมมือ ดังนั้นฉันถึงบอกว่าเป็นคนพิเศษด้วยความเคารพและยำเกรง คิรอสบอกว่าถูกแล้วอย่าไปทำให้เธอโกรธ ลากูน่าถามว่าจำ ภัยพิบัติ ย. ได้ไหม คิรอสบอกเธอโกรธแล้วเอาแยมผลไม้ใส่เข้าไปในรองเท้าของนาย นายนี่น้ำตาตกใน ลากูน่าบอกว่าแค่คิดถึงก็ขนลุกแล้ว 
  • พอกลับเข้าไปในอาคาร ดร. โอไดน์บอกว่าเอลโลเนอยู่ที่ศูนย์วิจัย พวกลากูนาเลยมาขึ้นแท็กซี่ไปกัน แล้วผู้ช่วย บอกว่าเดี๋ยวจะตามไปทีหลังระวังตัวด้วย 
  • ระหว่างทาง คนงานก็โดดออกจากรถไปแบบงง ๆ
  • พอถึงศูนย์วิจัยของโอไดน์ในเมืองเอสตาร์ คนงานตามเข้ามาทีหลังแต่ว่าพวกลากูน่าขึ้นลิฟต์ไปก่อนแล้ว 
  • เห็นเอลโลเนโดนจับอยู่ในห้องทดลอง กดปลดล็อก ลงมาด้านล่าง เจอคนงาน เข้าไปช่วยเอลโลเนได้สำเร็จ


Esthar (ฝั่งสคอลล์)

  • มีรถออกมารับทุกคน ผู้ช่วยประธานาธิบดีชื่อไอด์ (Aide) เดินออกมา อิเดียบอกว่าเรามาเพื่อตามหา ดร. โอไดน์ สคอลล์พูดขึ้นทันทีว่าเขาต้องการพบเอลโลเน เธออยู่ที่ไหน? อิเดียบอกว่าใจเย็นสคอลล์ เชื่อฉันให้ฉันจัดการเอง
  • รถที่มารับบอกให้ตามเขามา ไอด์บอกว่าเรากำลังจะไปยังทำเนียบประธานาธิบดี อิเดียบอกว่าหวังว่า ดร. โอไดน์ จะอยู่ที่นั่นส่วน ควิสติสบอกว่าไม่เคยเจอเมืองใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลย 
  • พอถึงทำเนียบ อิเดียอธิบายให้ไอด์ฟังว่าเราตามหา ดร. โอไดน์ ให้ ดร. ช่วยฉัน ฉันอยากเป็นอิสระจากการควบคุมของอัลติมีเซีย ดร. โอไดน์ที่หลบมุมอยู่ ก็เดินมาบอกว่าง่ายมาก ๆ เราพึ่งขับไล่แม่มดไป ไม่มีอะไรที่โอไดน์ทำไม่ได้
  • สคอลล์ก็จะโวยวายว่าเขาต้องการช่วยริโนอา เขาต้องการพบเอลโลเนเดี๋ยวนี้ โอไดน์บอกว่าคิดจะจับโอไดน์เป็นตัวประกันหรอ แกมันไอ้โง่
  • แต่สคอลล์บอกว่าเขาไม่สน พาเขาไปพบเอลโลเน เดี๋ยวนี้
  • โอไดน์บอกไอด์ว่าทำตามที่สคอลล์พูด เขาอนุญาต
  • ไอด์ก็บอกว่าตกลง โอไดน์บอกว่าแต่ต้องมีเงื่อนไขอย่างนึงนะ คือให้ฉันได้ตรวจสอบผู้หญิงคนนี้ (ริโนอา) ไอด์ก็บอกว่าเราจำเป็นต้องใช้เวลาเตรียมตัว ก่อนพาคุณไปพบเอลโลเน่ ดังนั้นคุณต้องปล่อยผู้หญิงคนนั้นไว้ให้กับพวกเราดูแลจนกว่าจะถึงตอนนั้น โอเคมั้ย
  • อิเดียบอกว่าให้ยอมรับข้อเสนอของพวกเขาไป
  • สคอลล์เตือนว่าพวกแกห้ามทำอะไรริโนอาเด็ดขาด 
  • ไอด์บอกว่าให้ไปเดินเล่นรอบเมืองก่อน แล้วเจอกันที่ Lunar Gate เราเจริญขึ้นมากหลังยุคของแม่มด หวังว่าคุณจะสนุกกับเมือง
  • ทหารบอกเมืองแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ศูนย์วิจัยอยู่ทางซ้าย / ห้างอยู่ทางเข้าเมือง




  • คนในเมืองบอกว่าไม่มีแขกเข้ามานานแล้ว พวกเขาก็ตื่นเต้นกับเรา
  • เจอไอด์กลางเมือง เขาพักอยู่
  • เจ้าหน้าที่บ่นว่าประธานาธิบดีไม่ค่อยอยู่ 
  • เลขาประธานาธิบดีบ่นว่าประธานาธิบดีเริ่มสะสมหนังสือเหล่านี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาสั่งหนังสือมาจากทั่วโลกทำยังไงกับมันดี (Occult Fan 4)
  • ทหารบอกว่าอาวุธและยานพาหนะของพวกเราเจริญก้าวหน้าไปมากเมื่อเทียบกับโลกภายนอก เรามีวิศวกรและนักวิทยาศาสตร์เก่ง ๆ แต่ว่าเราก็ยังคงแยกตัวออกจากโลก มันไม่ใช่ว่าเราตั้งใจหรอกนะ แต่มันเป็นไปเองตามธรรมชาติ รัฐบาลของเราก็ไม่ได้สนใจเรื่องการทูตสักเท่าไหร่ แต่ว่ามันก็ออกมาดีละนะ เราต่างต้องการมีชีวิตอย่างสงบสุขและทำงานวิจัยของเราไป ส่วน ดร. โอไดน์ เป็นคนแปลก พอเป็นเรื่องการทดลองแล้วเขามักเปลี่ยนใจกลับไปกลับมา ฉันยังแปลกใจเลยที่เขาทำสิ่งต่าง ๆ สำเร็จได้ด้วยดี แล้วก็ที่นี่ไม่ได้มีแม่มดมาตั้ง 17 ปีแล้ว ในยุคของอาเดลเกิดเรื่องโหดร้ายขึ้นมากมาย แต่หลังจากนั้นก็สงบสุขดี การรักษาสันติภาพและความสงบสุขไม่ใช่เรื่องง่าย มันต้องใช้ความพยายามอย่างมาก 
  • ชาวเมืองคิดว่าเราก็ปลีกวิเวกมา 17 ปีแล้วน่าจะกลับไปติดต่อกับโลกภายนอกและแบ่งปันความรู้ 
  • ทหารบอกว่า ดร. โอไดน์ ไม่ค่อยสนใจคนอื่นนัก ยิ่งถ้าเป็นร่างทดลอง ดังนั้นก็ห่วงผู้หญิงของนายไว้หน่อยละกัน สคอลล์คิดในใจว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นกับริโนอา ฉันฆ่ามันแน่ 
  • ที่หน้าห้องแลปมีผู้ช่วยวิจัยบอกว่าดอกเตอร์สั่งไว้ว่าไม่ให้ใครเข้า 
  • ชาวบ้านบอกว่าประธานาธิบดีไม่ค่อยอยู่ เขาน่าจะยุ่งมาก ๆ
  • ชาวบ้านอีกคนบอกเมืองสงบสุขได้เพราะประธานาธิบดี 
  • สนามบินปิดอยู่
  • คนในเมืองใส่เดรสกันแล้วก็บอกว่าเมืองสะอาดมาก ยังไงชุดก็ไม่เลอะ
  • ชาวบ้านบอกว่า Lunar Cry กำลังจะกลับมาอีกแล้วคราวก่อนก็เกิดขึ้นที่ใกล้กับทราเบีย
  • ชาวบ้านถามว่ามาถึงที่นี่ได้ยังไงเนี่ย สคอลล์บอกว่าก็เดินมา ชาวบ้านบอกว่ามาทาง Fishermans Horizon น่ะหรอ กว่า 17 ปีก่อนก็มีเพื่อน ๆ หลายคนจากที่นี่ไปยังที่นั่นหวังว่าตอนนี้ทุกคนจะยังสบายดี 
  • ถ้าตอบว่ามาด้วยการ์เดน ชาวบ้านบอกว่าได้ยินว่ามันสร้างที่เอสตาร์นี่ ขอดูได้มั้ย แต่ก็รู้นะว่านายโกหก น่าเสียดาย 
  • พอตอบว่านั่งยานอวกาศมาชาวบ้านบอกว่าคิดว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีแต่พวกเราที่ทำได้เท่านั้นซะอีกขอดูหน่อยได้มั้ย แต่ก็รู้ว่านายโกหกนั่นแหละ 
  • ชาวบ้านบอกประธานาธิบดีขอให้มีเครื่องมือที่เกาส่วนไหนก็ได้ของร่างกาย จะได้ไม่ต้องเอื้อมมือไปเกา 


Tear’s Point

  • เจอ solomon ring


ศูนย์วิจัยลูนาติกแพนโดรา

  • มีผู้ดูแลอยู่บอกว่ามันยังคงยืนอยู่ตรงนั้นแต่ พวกมันไม่ทำอะไร แต่เวลาที่ร่างทดลองเคลื่อนไหว พวกมันก็จะเคลื่อนไหวไปด้วย

 


Lunar Gate

  • พอเข้ามาถึงที่นี่จู่ ๆ แองเจโลมาจากไหนก็ไม่รู้ สคอลล์ก้มลงไปลูบแองจะโลแล้วบอกว่าไม่เป็นไรนะฉันจะดูแลริโนอาเอง
  • เจ้าหน้าที่ถามว่าเราเป็นคนที่จะออกเดินทางหรอ สคอลล์ก็เออออไป เจ้าหน้าที่บอกว่ามันค่อนข้างไกลนะ แต่จะถึงในเวลาอันรวดเร็ว พอตื่นขึ้นมาก็ถึงแล้ว สคอลล์ถามว่าไปไหนอ่ะ?
  • เจ้าหน้าที่บอกว่าเขาจะอธิบายทั้งหมดเลยก่อนอื่นคุณต้องเข้าไปในแคปซูลภายในท่อนี้จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการจำศีล พอเสร็จกระบวนการนี้แล้วแคปซูลก็จะโหลดเข้าไปในบูสเตอร์แล้วก็จะออกตัวคุณจะไปถึงที่นั่นตอนตื่นขึ้น พอไปถึงแล้วที่เหลือปล่อยให้สตาฟฟ์ จัดการเอง นี่ก็คือย่อ ๆ ทั้งหมด แต่ไม่รับปากว่าจะไม่มีความเสี่ยงนะ 
  • สคอลล์ถึงพึ่งรู้ว่าไปอวกาศ
  • เพื่อนทุกคนบอกให้เชื่อพวกเขาเถอะทุกอย่างต้องผ่านไปได้ด้วยดี ทำเพื่อริโนอา 
  • เจ้าหน้าที่ถามว่าจะเอาใครไปด้วยผู้หญิงชุดสีน้ำเงินนั้นเข้าสู่กระบวนการจำศีลและโหลดเข้าไปแล้วยังเหลือที่ว่างอีก 1 ที่
  • อิเดียบอกว่าในเวลาเดียวกันเธอต้องไปหาทางสะกดพลังตัวเอง เซลล์บอกว่าเขาจะไปคุ้มกันให้เอง อิเดียก็ยินดีที่เซลล์จะมาคุ้มกันให้ รู้สึกปลอดภัย ทุกคนก็ไม่ค้านอะไร
  • ทุกคนออกมาด้านนอก แล้วแองเจโลก็หอน แล้วก็วิ่งออกไป 
  • ที่ด้านนอกมีอะไรก็ไม่รู้มาปกคลุมเมืองเอสตาร์ เซลล์ตกใจในขนาดความใหญ่ของมันมาก ควิสติสบอกว่า ดร.โอไดน์อยู่ในอันตรายแล้ว เราต้องรีบกลับเมืองกัน


Esthar

  • ทหารหน้าเมืองบอกว่านี่มันอะไรกันเนี่ยไม่เคยเห็นมาก่อนเลยทั้งชีวิต สัญลักษณ์เอสตาร์อยู่ข้างบนด้วย 
  • ทหารกลางเมืองบอกว่าเห็นไหมแค่ความสามารถด้านวิทยาศาสตร์วิศวกรรมมันไม่เพียงพอการฝึกฝนส่วนตัวก็สำคัญด้วย 
  • ชายชราบอกว่าสิ่งที่หายไปเมื่อ 17 ปีก่อนมันกลับมาแล้วรู้สึกไม่ดีเลย
  • พวกยานพาหนะต่างๆก็ใช้การไม่ได้ 
  • นักวิจัยคนนึงบอกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เกิดอะไรขึ้นที่ Sam hill นะ
  • เจ้าหน้าที่ทำเนียบบอกว่ามันเหมือนกับสิ่งที่ศึกษากันอยู่ในแลปที่ดวงจันทร์เลย 
  • ดร. โอไดน์กำลังงงว่าทำไมลูมาติกแพนโดร่าถึงมาอยู่ที่นี่ตอนนี้? ใครเป็นคนเคลื่อนไหวมัน?
  • ผู้ช่วยบอกพวกกัลบาเดียครับ พวกมันเข้าไปกู้มา เราต้องส่งสัญญาณเตือนภัยเข้าไปในเมืองแล้ว 
  • ดร. บอกว่ามันไม่โจมตีเราหรอกเมืองนี้ไม่ใช่เป้าหมายของมัน แต่ที่ Tear’s Point ก็ไม่แน่
  • ดร. บอกเซลล์ว่าเขาไม่ได้เห็นลูนาติกแพนโดรามาตั้งนานแล้ว เขาตรวจสอบ แพนโดรา มาตลอดตั้งแต่ที่มีการขุดพบมัน ดร. พยายามอธิบายยาว แต่เซลล์จะตัดบทให้รีบกระชับ 
  • ดร. เปิดผังอธิบายให้ดูว่าลูนาติกแพนโดรา จะลอยมาจากทะเลฝั่งตะวันตกข้ามผ่านเมืองเอสตาร์ โดยในเมืองนั้นจะมีสกายเวย์ทั้งด้านนอกและด้านในทั้งหมดนั้นเชื่อมมายังทำเนียบ รูนาติกแพนโดราก็จะมุ่งไปทางตะวันออกจากห้องแล็บนี้ไปยังศูนย์การค้ าเวลาที่ใช้ในการข้ามผ่านเมืองก็จะประมาณ 20 นาที การขึ้นไปยังลูนาติกแพนโดราเป็นไปได้ โดยจะมีจุดเชื่อมต่อกัน 3 จุดด้วยกัน จุดแรกคือใจกลางเมืองมันจะมาถึงช่วงเวลาประมาณ 5-8 นาทีหลังจากที่มันเข้าสู่เขตเมือง จุดเชื่อมต่อที่ 2 คือแถว ๆ พวกสกายเวย์ฝั่งขวามันจะมาถึงในช่วงเวลาประมาณ 10-15 นาทีหลังจากเข้าสู่เขตเมือง ส่วนจุดเชื่อมต่อที่ 3 คือทางเหนือของศูนย์การค้ามันจะมาถึงประมาณนาทีที่ 17 หลังจากเข้าสู่เขตเมือง
  • ดร. จะพยายามอธิบายต่อและบอกว่าปัญหาคืออะไร แต่เซลล์บอกไม่ฟังแล้ว 
  • ดร. บอกว่าคนร้ายไม่ใช่พวกกัลบาเดีย
  • ดร. บอกว่ารู้ใช่ไหมว่าพวกมอนสเตอร์อ่ะมันมาจากดวงจันทร์ ซึ่งมันเกิดขึ้นไม่ได้บ่อยนัก แพนโดรานั้นมีผลกระทบต่อดวงจันทร์ อันนี้เป็นปัญหาฉับพลันยิ่งกว่าพวกกัลบาเดีย ส่วน Tear’s Point กับลูนาติกแพนโดรา จะช่วยกันเสริมผลกระทบนั้นให้รุนแรงยิ่งขึ้น 
  • โดดเข้าลูนาติกแพนโดรา จากจุดที่ลอยผ่านเมือง


Lunartic Pandora

  • เข้าไปหลงอยู่ด้านใน จนโดนบอส Mobile Type 8 เตะไปไกล
  • ยานกำลังบินผ่านมาถึง Tear’s Point ทำให้ผลึกที่ตั้งรอบ ๆ ส่องแสง และรูปปั้นแถวนั้นแตก
  • เซลล์บอกเราต้องลงแล้ว อิเดียบอกว่าจันทร์ร่ำไห้… แล้วทุกคนก็วิ่งออกไปกัน

1 ความคิดเห็น:

  1. FFVIII - เนื้อเรื่อง Disc 1
    https://www.ffplanet.page/2025/04/ffviii-disc-1.html
    .
    FFVIII - เนื้อเรื่อง Disc 2
    https://www.ffplanet.page/2025/04/ffviii-disc-2.html
    .
    FFVIII - เนื้อเรื่อง Disc 3 ท่อนแรก
    https://www.ffplanet.page/2025/04/ffviii-disc-3.html
    .
    FFVIII - เนื้อเรื่อง Disc 3 ท่อนสอง
    https://www.ffplanet.page/2025/04/ffviii-disc-3_15.html
    .
    FFVIII - เนื้อเรื่อง Disc 4
    https://www.ffplanet.page/2025/04/ffviii-disc-4.html

    ตอบลบ