ปี 2025 กับการจบ Final Fantasy VIII อีกครั้ง
ชกกับ Omega เล่นไปหลายรอบแล้ว จนรู้สึกว่า
- ใครบอกว่าชนะโดยไม่ใช้ Holy Wars, Heroes, Invincible Moon นี่ ธรรมดามาก ไม่ใช่เรื่องน่าภูมิใจเลย เว้นแต่จะบอกว่าไม่ใช้ Megalixir ไปด้วย ถึงน่าภูมิใจ
- อย่างที่ทราบกันว่าช่วง Disc 1-2 ต้นเกมเราจะได้บันเทิงกับการเล่นการ์ดไปทั่ว เอาการ์ดมาแปลงเป็นเวทย์ไปจังค์ชัน เป็นไอเทมไว้อัปเกรดอาวุธ หรือเพิ่มท่า Limit ให้ควิสติส หรือทำอบิลิตี้ใหม่ ๆ ส่วน Disc 3 เราจะเริ่มอึน ๆ ต้องไปหาพวกแรร์ไอเทมจากมอนสเตอร์ต่าง ๆ ทั่วโลกแทน ทั้ง Adamantine, Elnoyle, Wendigo, Grendel, Anacondor ฯลฯ
- แต่พอกลับมาแผ่น 4 มันกลายมาเป็นการ์ดเกมเต็มรูปแบบอีกครั้ง เพราะอีน้องไดมอนด์ซ้าย ที่ฝรั่งเรียกกัน เค้ามีแรร์การ์ดแทบทุกใบบนโลกใบนี้ เราขาดการ์ดไหน นางก็จะเอาออกมาเล่น แล้วแรร์การ์ดทั้งหมด มันเอามาแปลงเป็น Holywars x10, Megalixir x100, ไอเทมเพิ่มสเตตัส, STR+60%, Vit+60%, HP+80%, MAG+60% ฯลฯ สารพัดความขี้โกงได้ เท่ากับว่า endgame มันกลายมาเป็นการเล่นตีการ์ดกับอีน้องไดมอนด์ซ้ายเนี่ยแหละ
- นี่คือตัวอย่างการสร้างระบบการเล่น การพัฒนาตัวละคร การตีอาวุธ อบิลิตี้ และทุกภาคส่วนของเกม ให้ไปยึดโยงกับการเล่นการ์ด ซึ่งโลกของภาคนี้ การ์ดเกมคือสิ่งที่มีมูลค่าสูงสุด ซึ่งเอาไปแลกอะไรก็ได้ทั้งนั้น แม่งเบียวยูกิโอกันทั้งเรื่อง....
- Lore ของเกม ทั้งกำเนิดแม่มด พระเจ้าไฮน์ จอมปราชญ์วาสคารูน เล่าได้ทุเรศมาก เล่าเหมือนไม่อยากจะเล่า คือทั้งเกมมีอธิบายสั้น ๆ "ครั้งเดียว" โดยครูที่อยู่บนเรือ SeeD ขาว และไม่อยู่ในเนื้อเรื่องหลัก แปลว่าคนที่ไม่ได้ย้อนกลับมาคุยเล่นบนเรือ SeeD ขาวก็จะไม่รับรู้ความเป็นมาเหล่านี้ ทั้งวไฮน์เป็นใคร แม่มดมาได้ยังไง..... ซึ่งประเด็นความเป็นมาของตัวร้ายเนี่ย มันสำคัญต่อเนื้อเรื่องและควรอธิบายให้ดีกว่านี้ ถ้าเป็นยุคสมัยนี้ ก็น่าจะโดนคนเล่นด่าว่าเล่าแบ็คกราวด์ตัวร้ายไม่รู้เรื่อง ควรขยาย Lore ตัวร้ายให้ชัดเจนแบบที่ Episode Ardyn ต้องมาใช้กรรมเล่าทั้งหมดนั่นแหละ
- ทั้งเกม ตั้งแต่ต้นเกม มีเอ่ยถึงไฮน์หลายครั้ง แต่กลับอธิบายแค่ครั้งเดียวตามที่ผมบอก ปล่อยให้คนเล่นงงกันว่ากรูพลาดอะไรไปตอนไหนวะะะ
- พูดได้เต็มปากว่า นี่คือภาคที่ระบบการเล่น "ซับซ้อน", "ยุ่งยากวุ่นวาย" ที่สุดในซีรีส์ ถ้าเล่นแบบโง่ ๆ ตามเทรดิชันของภาคก่อน ๆ ก็คงเลเวลเฟ้อ โดยที่สเตตัสต่ำ เพราะไม่ได้ทำ Stats Bonus และหาเวทย์มาจังค์ชันได้ไม่มากพอ แถมศัตรูดันมีพลังสูงเกินเราไปไกล กว่าจะรู้ตัวว่าเกมนี้เราต้องเข้า ๆ ออก ๆ เมนู Ability เป็นสม่ำ และมันไม่ใช่เกมต่อสู้ แต่มันเป็นเกมการ์ดที่เราต้องเล่นฟาร์มการ์ดมาใช้ Ability แปลงเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง ก็อาจสายเกินไปแล้ว
- ตอนนี้ผมเหลือแค่ถ้วยจบเกม แต่ยังรู้สึกว่าไม่ได้ใกล้เคียงกับการมีองค์ความรู้ของภาคนี้ครบเลย อย่างสมัยก่อน ผมจำได้ว่ามันมีทริค ใช้เวทย์เดียวจังค์ชันลง 2 สเตตัสได้ ตอนนี้ก็นึกไม่ออกแล้ว, เวทย์ Apocalypse ก็ยังไม่ได้เห็น รอไปดรอว์จากอัลติมิเซียอยู่, Omega ในภาค PS1 ก็แข็งแกร่งกว่าเวอร์ชันที่ออกมาตั้งแต่ภาค PC เป็นต้นไปมาก เออ พูดแล้วก็เหมือนเป็นกรรมอย่างนึงของ Omega ที่เกมเวอร์ชันหลัง ๆ ที่ออกตามมา มักจะมีค่าพลังต่างไปจากเดิม อย่าง Omega FFX ในภาค Eng เป็นต้นไป ก็มี HP เยอะกว่าเดิม 10 เท่า ส่วน FFXII ในภาค Eng เป็นต้นไป ก็มี HP น้อยกว่าเดิม 10 เท่า (แต่ตีแรงขึ้น)
- นิทานเรื่อง FFVIII สอนให้รู้ว่า จากหมาป่าเดียวดาย ถือคติจะไม่เป็นเพื่อนกับคนที่วันพรุ่งนี้ก็คงไม่ได้เจอหน้ากันแล้ว ไม่อยากให้ใจใครเพราะกลัวจะต้องแยกจากกันทีหลัง....... มันก็เปลี่ยนไปได้ถ้าเจอนางเอกที่เจอกันครั้งแรกก็ลากไปเต้นรำยกนิ้วให้ เจอกันครั้งที่สองก็กระโดดกอด แถมเพื่อนแม่งก็ชงเข้ม ๆ ชงแล้วชงอีก นางก็อ่อยแล้วอ่อยอีก ถึงขั้นบุกเข้ามาแอบดูพระเอกในห้องนอน จนแม่งเสพย์ติดการโดนผู้หญิงงุงิงุง่าใส่มากไป เลยต้องตามออกอวกาศไปช่วยนาง ถึงขั้นโดดออกจากยานลี้ภัยฉุกเฉินไปช่วยนางทั้งที่ในหัวไม่มีวิธีรอดกลับมาด้วยซ้ำ.... คือถ้าแต่งงานไป รับรองว่ามันต้องกลายเป็นคนที่ติด -ee โดยสมบูรณ์แน่นอนนนน
Post a Comment