ปี 2025 กับการจบ Final Fantasy VIII อีกครั้ง (2)
พึ่งได้จบ FFVIII อีกครั้ง หลังจากจบครั้งสุดท้ายตอน ม.ต้น น่าจะสักปี 2000 ได้
พอมาคราวนี้ รู้สึกประทับใจกับการนำเสนอช่วงโค้งสุดท้ายมากเลย
- อัลติมิเซียอยากบีบอัดกาลเวลา อดีต ปัจจุบัน อนาคต แล้วปฏิเสธสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ขึ้นเป็นตัวตนที่อยู่เหนือมิติกาลเวลาเวลาและสรรพสิ่งทั้งปวง (for whatttt?)
- เพื่อการนั้น อัลติมิเซีย ที่อยู่ในอนาคต จึงต้องมีตัวตนอยู่ในปัจจุบัน และอดีต รวม 3 ยุค พวกโอไดน์เลยวางแผน ยอมให้เอลโลเนส่งอัลติมิเซียไปยังอดีต และเริ่มทำการบีบอัดกาลเวลา แล้วให้เอลโลเนตัดการเชื่อมต่อเพื่อขัดจังหวะชั่วคราว แล้วอาศัยประโยชน์จากเวลาที่ถูกบีบอัดครึ่ง ๆ กลาง ๆ นั้น ให้เพื่อนทั้ง 6 ไหลข้ามไปยังอนาคตของอัลติมิเซียแล้วปราบนางซะ
- พรรคพวก 6 คนข้ามไปยังอนาคต สู้กับอัลติมิเซียที่จะบีบอัดอดีตปัจจุบันอนาคตให้กลายเป็นหนึ่ง
- การต่อสู้กับอัลติมิเซีย นางถึกดี เพราะเป็นภาคที่ศัตรูเก่งตามเรา ทำให้พอเราฝึกมาเยอะ นางก็มี HP เยอะ ทนไม้ทนมือดี พอให้เราสาด Limit โชว์ได้หลายชุด
- อัลติมิเซียสุ่มตัวละครไปสู้ด้วย ผมชอบมาก ทำให้เราได้สนุกกับการ Junction กระจายทรัพยากรให้เพื่อนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
- การที่นางดรอว์ กรีเวอร์ ไปจากหัวใจของสคอลล์ และทำให้มันเป็นตัวตนขึ้นมา จากนั้นก็บังคับจังค์ชันตัวเองใส่เข้าไปในกรีเวอร์ แม่งล้ำจัด ๆ แถมโชว์ (.)(.) ด้วยยยย อยากเห็นโมเดลแบบสมศักดิ์ศรียุคนี้เลย
- ร่างสุดท้ายที่นางดูดกลืน มิติ กาลเวลา และสิ่งมีชีวิตทั้งหมดไป คอนเซปต์ดี และดูเป็นสุดยอดจอมเวทย์กาลเวลาที่ขลังมาก ๆ
- เพลงสู้ หลังจากเนือยมาทั้งเกม พอเข้าสู่ร่างสุดท้าย ทั้งเพลงเปิด เอฟเฟคท์เสียงต่าง ๆ โคตรมันส์.... ผมใส่เฮดโฟนอยู่คือฟินตัวแตกสบาย ๆ
- แล้วมันดันมีเวทย์ Apocalypse ซ่อนไว้อยู่แค่ในช่วงนี้ด้วยนะ!
- "เมื่อนึกถึงครั้งยังเด็ก ความรู้สึก คำพูด อารมณ์เหล่านั้น..."
"เวลาไม่เคยคอยใคร ไม่ว่าจะพยายามเหนี่ยวรั้งมันไว้แค่ไหน สุดท้าย มันก็จะไปจากเรา...."
- ผมลองให้ไอ้แชทตีความดู (แม้มันจะเชื่อถือไม่ค่อยได้ เพราะขณะที่ถาม มันยังพยายามชักจูงให้ผมเชื่อในทฤษฎี Ultimecia=Rinoa ทั้งที่โนจิมะปฏิเสธแล้ว แถมอิเดียก็บอกว่าอัลติมิเซียมาจากอนาคตอีกหลายเจเนอเรชัน ประกอบกับลากูนาก็บอกว่านางอยู่ในอนาคตแสนไกลที่พวกเราเด๊ดห่ากันไปหมดแล้ว)
แชทบอกว่าคำพูดนั้น เตือนใจถึงการสูญเสียความไร้เดียงสา ทั้งที่อัลติมิเซียเคยเป็นเด็กผู้หญิงธรรมดาคนนึงมาก่อน แต่ก็ถูกความกลัว ความโดดเดี่ยว การถูกทอดทิ้งกลืนกิน แล้วสะท้อนถึง Loop เวลา ที่ทำให้ตัวตนของตัวเองติด Loop แล้วยังสื่อว่าสคอลล์กับอัลติมิเซียเอง ก็เผชิญกับความโดดเดี่ยว การผลักคนออกจากชีวิต และการเติบโตอย่างเจ็บปวดไม่ต่างกัน แม้อัลติมิเซียพยายามควบคุมเวลา แต่ก็ล้มเหลว เป็นบทเรียนว่าเราไม่อาจรั้งอดีตหรืออนาคตไว้ได้ เราไม่สามารถหยุดการไหลของเวลาและชะตากรรมได้ สิ่งที่มีอยู่จริงก็คือปัจจุบัน และการยอมรับในอดีตของตัวเอง
- หลังชนะแล้ว ทุกคนต้องตั้งสติ นึกถึงเวลาและสถานที่อันเป็นบ้านของตัวเอง ที่ ๆ จะกลับไป แต่สคอลล์แม่งไปโผล่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ในวันที่เอลโลเนจากไป พอพินิจแล้ว นั่นก็คือ "บ้านเก่า" ในความทรงจำของสคอลล์ (เพราะการ์เดนก็ไม่ใช่บ้านซะทีเดียว แถมตอนเกิดที่วินฮิลล์สคอลล์ก็เด็กจนไม่มีความทรงจำ) มันคือบ้านที่เขาเติบโตมากับเอลโลเนที่เป็นเพียงคนเดียวที่เขารู้สึกว่าเป็นครอบครัวด้วย และเขาก็กลับไปในวันที่เขาแยกจากเอลโลเน นั่นคือวันอันเป็นจุดกำเนิดของสคอลล์ที่ปฏิเสธความสัมพันธ์ ผลักคนอื่นออกไป เท่ากับว่านั่นคือเวลาและสถานที่ อันเป็นบ้านที่เขาโหยหาและอยากกลับไปอยู่กับพี่สาว มากที่สุดนั่้นเอง
- สคอลล์ถ่ายทอดเรื่อง SeeD ให้อิเดียฟัง กลายเป็นว่าตัวเองเป็นคนย้อนไปลิขิตการสร้าง SeeD, การที่ตัวเองจะกลายเป็นผู้นำ SeeD มาปราบแม่มดนั่นเอง การที่ตัวเอกย้อนเวลากลับไป Predestined ตัวเอง ก็เหมือนเรื่องของนักรบแห่งแสงใน FFI ที่ย้อนเวลากลับไปสร้างตำนานเมื่อ 2000 ปีก่อน เป็นการทำตามขนบ FFI ได้เยี่ยมมาก ๆ และยังสวนกับประโยคที่สคอลล์ตัดพ้อตอนกลางเรื่องว่าซิดอย่ามาทำเหมือนว่าฟ้าลิขิตมาให้เขาต้องเป็นผู้นำสิโว้ย!! (ซึ่งฟ้าไม่ได้ลิขิต แต่สคอลล์ในอนาคต ลิขิตตัวเองในอดีตเอง)
- ฉากที่สคอลล์ความทรงจำปั่นป่วน นึกถึงเวลาและสถานที่อันจะกลับไปไม่ได้ เห็นภาพเวลา สถานที่ ความทรงจำบิดเบี้ยวซ้อนทับกันไปหมด หน้าของริโนอาแม้จะขึ้นมาบ่อยที่สุด แต่ก็เบลอออกไปเรื่อย ๆ ถึงขั้นหลอนเห็นความทรงจำตอนไปช่วยริโนอาในอวกาศ ว่าหน้ากากของชุดนักบินแตก แล้วตัวเองเห็นศพริโนอาต่อหน้าต่อตา โคตรหลอนนนน
ตรงนี้ผมเชื่อว่าโนจิมะ คงเขียนในสคริปต์แค่ความทรงจำปั่นป่วน กลับไม่ได้ หลอนจนเห็นริโนอาตาย... แต่ลีลาการถ่ายทอดคำว่า "ความจำปั่นป่วน" และเอฟเฟคท์ต่าง ๆ ในซีนนั้น ไม่รู้ว่าโนมุระวาดสตอรีบอร์ดให้? คิตาเสะคิดเอง? หรือทำร่วมกับทีมอีเวนต์? แต่มันสุดยอดมาก คือเอาเอฟเฟคท์เท่าที่มี มาสร้างภาพมายาของความทรงจำปั่นป่วนได้หลอนสะใจมาก... ตอนเด็ก ๆ เราดูอาจจะเบื่อ งง หรือไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้พอกลับมามองแล้วรู้สึกชอบที่กล้าเล่นแบบนี้มาก
- เรื่องของเรนที่ลากูนาบอกว่ามันหนักเกินไป ยังไม่พร้อมที่จะเล่า ก็มาเล่ารวดเดียวในฉากจบว่าขอแต่งงานแล้ว ซี้ม่องเซ็กแล้ว
- ฉากงานเลี้ยง มีแองเจโลเดินไปเดินมา เล่นกับคนอยู่ด้านหลัง เซลล์กินฮ็อตด็อกโดยมีคนคุยอยู่ข้าง ๆ เซลฟีถึงกล้องแฮนดี้แคมที่กำลังฮิตในสมัยนั้นและแบตใกล้หมดพอดี มีการส่งไปให้เออร์ไวน์ถือแทน แล้วพอถึงไฮไลต์ แบตก็หมดพอดี พร้อมตัดเข้าสู่ฉากเครดิต เป็นมุกที่เด็ดมาก ๆ และทำให้การดูฉากจบในยุคนั้น เป็นเรื่องบันเทิงจน เอ่อ ไม่ทันได้ดูรายชื่อเครดิตเลย
- ถ้วย End of Game กับ Lion Heart เด้งขึ้นมา
- จบด้วยสคอลล์ฉีกยิ้มให้เห็นเป็นครั้งแรก พอสบายใจแล้วก็จูบกับริโนอาเลย แล้วภาพก็ซูมออกไกล เผยให้เห็นดวงจันทร์ดวงใหญ่ในฉากหลัง... มั่นใจว่าจากนี้ไป สคอลล์มันต้องติดอ่างตามแบบเบจิต้าแน่นอน...
- เป็นหนึ่งในการนำเสนอโค้งสุดท้าย และปิดเรื่องได้อิ่มมาก
Post a Comment