ฮามากุจิเผยที่มาของซีนจูบใน Rebirth
ฮามากุจิเผยภาค Remake กอดทิฟาไปแล้ว ภาคนี้อยากให้คลาวด์โตขึ้น ทีมงานคุยกันแล้วเลยเป็นที่มาของฉากจูบ
จากบทสัมภาษณ์นาโอคิ ฮามากุจิในงาน PlayStation Partner Awards 202
- ดีใจมากที่ได้รางวัล Grand Award ปลายปีแบบนี้มีงานประกาศรางวัลจัดเยอะหลายภูมิภาค แต่รางวัลนี้อิงตามยอดขายทั่วโลก ไม่ใช่มอบตามแรงอวยคนเล่น แต่เป็นมอบตามแง่ธุรกิจ ทำให้รู้สึกแฮปปี้และภูมิใจมาก
- ปกติ FF ภาคหลัก เปลี่ยนภาคก็เปลี่ยนทีม แต่กับโปรเจคท์นี้ ทีมงานเดิมได้ไปต่อ ทำให้ know-how ถูกต่อยอดต่อไป เลยทำสิ่งที่ท้าทายขึ้นได้
- ภาคแรก มีจังหวะเนื้อเรื่องอันรวดเร็ว เกมออกแบบมาให้มอบประสบการณ์แบบรถไฟเหาะตีลังกา (ยืมคำโยชิดะมา) แต่ตอนนี้ก็รู้สึกว่าสิ่งที่จำเป็นกับยุคนี้ คือเกมที่เราต้องปฏิสัมพันธ์กับโลกในแบบที่เราต้องการได้ หลังจากวางขาย Remake แล้วก็รู้สึกว่าอยากให้สำรวจมิดการ์ได้อย่างอิสระมากขึ้น ใน Rebirth ซึ่งสามารถสำรวจโลกกว้างได้แล้ว ก็ให้ผู้เล่นสำรวจโลกได้อย่างอิสระขึ้น
- ทีมงานส่วนใหญ่ ก็อายุไล่เลี่ยกับฮามากุจิ และได้รับอิทธิพลจากการเคยเล่น FFVII ในตอนเด็กมาก่อนเช่นกัน
- ภาคนี้ก็ผลักดันคอนเซปต์ สายสัมพันธ์เข้าไป ในการต่อสู้และ side content ต่าง ๆ จึงอิงตามความสัมพันธ์ระหว่างคลาวด์กับเพื่อน รวมถึงการเดท ซึ่งก็รู้สึกว่าประสบความสำเร็จนะ และได้รับเสียงตอบรับที่ดี
- แม้จะเป็นการรีเมค แต่ก็แบ่งเป็น Part ถ้าเราทำต่าง ๆ เหมือนออริจินอลหมด ความน่าสนใจก็จะลดลง เลยต้องเพิ่มอะไรเข้าไป แต่ก็ต้องระวังไม่ให้กลายเป็น Parody หรือทำในสิ่งที่ต่างไปโดยสิ้นเชิง
- ซีนจูบทิฟา ทีมงานมีเจตนาชัดเจน ในภาคแรกมีซีนที่คลาวด์กอดทิฟาในเหตุการณ์ทางเลือก ตอนก่อนจะมุ่งหน้าไปยังตึกชินระไปแล้ว ดังนั้นพอมาภาค Rebirth เราก็อยากให้คลาวด์โตขึ้นเช่นกัน ทีมงานคุยกันแล้ว ก็คิดว่ากอดในภาคแรกแไปแล้ว ภาคนี้ก็ควรเล่นใหญ่ขึ้น เลยเป็นที่มาของเหตุการณ์
- สำหรับภาคต่อไป คงไม่เปลี่ยนเกมดีไซน์ใหญ่ ๆ แต่อย่างใด แต่มีจุดนึงที่เสียใจและอยากแก้ไขในภาคที่ 3 ก็คือใน Rebirth นี้ปริมาณ content มันมหาศาล พอดู % ของผู้เล่นที่เล่น content ครบมันต่ำมาก ๆ ส่วนตัวเชื่อว่ามันไม่ใช่เรื่องที่แย่ในตัวมันเอง แต่เราเอามันไปตั้งเงื่อนไข Trophy แล้วพอเช็คแล้วโอกาสได้ Trophy (ครบ) มันแค่ 2% เอง เลยเสียใจที่ทำเกินไปหน่อย เลยคิดว่าจะทำให้เก็บ Trophy ง่ายขึ้นในภาค 3
https://game.watch.impress.co.jp/docs/interview/1644647.html
Post a Comment