LRFFXIII Ultimania - Official Timeline ก่อนเริ่มเกม
โลกของ LRFFXIII
เซตติ้งของภาคนี้ คือ 1,000 ปีหลัง FFXIII โลกได้แปรเปลี่ยนไปอย่างมากตามเวลาที่ล่วงเลยไป มีหลายสิ่งหลายอย่างปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรก มาดูโลกที่พวกไลท์นิ่งอาศัยอยู่กันอีกครั้ง
ประวัติศาสตร์ของโลกจนถึงตอนนี้
เหตุการณ์ในอดีตนำพามาซึ่งจุดจบของโลก เพื่อจะทำความเข้าใจเรื่องราวของภาคนี้ มาย้อนดูเหตุการณ์เหล่านั้นกัน
1. หลังจากเทพสูงสุดบูนิเบลเซให้กำเนิดเทพทั้งสาม พัลส์ ลินด์เซย์ เอโทร เขาก็เข้าสู่การหลับใหลนิรันดร์
2. ลินด์เซย์สร้างมนุษย์จากเลือดที่เอโทรหลั่งออกมา แล้วเอโทรได้มอบเคออส (=หัวใจ) ให้แก่มนุษยื
3. พัลส์และลินด์เซย์สร้างข้ารับใช้ที่มีพลังเหนือธรรมชาติ เรียกว่าฟัลซิ ซึ่งสามารถเปลี่ยนมนุษย์เป็นลูซิ แล้วใช้มนุษย์เป็นข้ารับใช้อีกทอดนึง
ความเป็นมาของผืนแผ่นดิน
พัลส์และลินด์เซย์ต่างมอบหมายให้ฟัลซิของตนตามหาประตูสู่โลกที่มองไม่เห็น ฟัลซิฝั่งพัลส์ออกค้นหาด้วยการตัดถนนเปิดโลก มนุษย์เข้าใจผิดว่านั่นเป็นการบุกเบิกเส้นทาง ดินแดนแห่งนั้นจึงถูกเรียกว่า "แกรนพัลส์" ดินแดนของมหาเทพพัลส์
4. หลังจากไคอัสทำภารกิจในฐานะลูซิของเขาสำเร็จ ก็กลายเป็นคริสตัล แล้วเอโทรก็ได้มอบ "หัวใจแห่งเคออส" ให้กับเขา ไคอัสที่เป็นคริสตัลไปแล้วจึงได้คืนร่างมนุษย์ และได้รับหัวใจแห่งเคออสอันทำให้เขากลายเป็นอมตะ ทำให้เขาต้องแบกรับความเจ็บปวดจากการได้เห็นมิโคะยูลตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า และมาเกิดใหม่โดยมีอายุเพียงสั้น ๆ อยู่เรื่อยมา
การแทรกแซงของเทพธิดาเอโทร
เอโทรผู้ปกครองโลกที่มองไม่เห็น รู้สึกผูกพันกับมนุษย์ที่เกิดจากเลือดของตนเอง จึงได้มอบพลังให้กับพวกเขา
5. ฟัลซิบาร์ธานเดลุสที่สร้างโดยลินด์เซย์ ได้สร้างนครลอยฟ้า "โคคูน" ขึ้นมาเพื่อเพาะพันธุ์มนุษย์
ประมาณ 1,700 ปีก่อน
6. เพื่อจะต่อต้านโคคูนที่ปล้นสดมภ์และผู้คนไป ฟัลซิอนิมาแห่งพัลส์ได้สั่งให้ลูซิทำลายโคคูน (สงครามล้างโลกเริ่มต้น)
7. ในระหว่างสงครามล้างโลก เทพธิดาได้เข้าแทรกแซง แฟงก์คลายจากร่างที่แปลงเป็นอสูรมายาแร็คนาร็อค วานิลล์และแฟงก์ได้กลายเป็นคริสตัล
ประมาณ 1,000 ปีก่อน
8. มนุษย์บนแกรนพัลส์แทบสูญพันธุ์เนื่องจากถูกฟัลซิใช้งานมากเกินไป ในทางกลับกัน ประชากรในโคคูนได้เพิ่มมาถึงสิบล้านคน บาร์ธานเดลุสจึงเริ่มแผนที่จะทำลายโคคูน สังหารหมู่มนุษยชาติ และเปิดประตูสู่โลกที่มองไม่เห็น
เหตุผลในการดำรงอยู่ของโคคูน
ในขณะที่ฟัลซิฝั่งพัลส์ค้นหาประตูสู่โลกที่มองไม่เห็นไปทั่วฟ้าดินอันเป็นดินแดนแห่งรูปธรรม ฟัลซิฝั่งลินด์เซย์นั้นตระหนักว่าเมื่อมนุษย์ตาย วิญญาณเหล่านั้นจะมุ่งหน้าไปยังโลกที่มองไม่เห็น เพื่อจะสังหารมนุษย์จำนวนมากในคราเดียวกันและเปิดประตูสู่โลกที่มองไม่เห็นในดินแดนแห่งวิญญาณ บาร์ธานเดลุสจึงได้สร้างฟาร์มมนุษย์ที่เรียกว่าโคคูน ทว่าภารกิจของบาร์ธานเดลุสคือการรักษาโคคูน เขาจึงไม่สามารถแทรกแซงโดยตรงได้ จึงพยายามหาลูซิสของพัลส์มาทำลายโคคูนแทน
FFXIII
9. เซราห์ที่เข้าไปในสิ่งปลูกสร้างประหลาดได้กลายเป็นลูซิ
10. ไลท์นิงเข้าไปในสิ่งปลูกสร้างประหลาดเพื่อช่วยเซราห์ แต่เซราห์กลับกลายเป็นคริสตัล แล้วพวกไลท์นิ่งก็กลายเป็นลูซิ
11. เมื่อได้รู้เจตนาที่แท้จริงของฟัลซิ เพื่อจะปกป้องโคคูน พวกไลท์นิงจึงกำจัดบาร์ธานเดลุสที่เมืองหลวงเอเด็น
12. โคคูนที่สูญเสียแหล่งกำเนิดพลังงานได้ตกลงมา แฟงก์และวานิลล์ร่วมกันแปลงเป็นอสูรมายาแร็คนาร็อค สร้างเสาคริสตัลค้ำจุนโคคูนเอาไว้ จากนั้นก็กลายเป็นคริสตัลและหลับใหลไป
13. เอโทรแทรกแซงโลกมนุษย์ โดยคืนสภาพไลท์นิงและพวกเซร่าห์ที่กลายเป็นคริสตัล ให้กลับเป็นมนุษย์ แต่หลังจากนั้น ไลท์นิงที่ควรจะได้อยู่ร่วมกับเซร่าห์ ก็ถูกส่งตัวไปยังวาลฮัลลาในโลกที่มองไม่เห็น
ปาฏิหาริย์แห่งเทพธิดาและการเปลี่ยนประวัติศาสตร์
เทพธิดาเอโทร ได้มอบปาฏิหาริย์ให้กับพวกไลท์นิง เช่นการคืนสภาพพวกเขาที่กลายเป็นคริสตัลไปแล้วให้กลับเป็นมนุษย์ ทว่าตอนนั้นเอง เคออสที่มองไม่เห็นได้ไหลผ่านประตูที่ถูกเปิด โลกกำลังจะล่มสลาย เอโทรจึงจัดการด้วยวิธีขั้นเด็ดขาดนั่นคือการ "ย้อนเวลา" แม้โลกจะรอดพ้นจากหายนะที่มาถึงอย่างฉับพลัน แต่ไลท์นิงก็ถูกเคออสดึงตัวไป และทำให้เกิดข้อขัดแย้ง (Paradox) อันนับไม่ถ้วนขึ้นทั่วมิติกาลเวลา
14. [วาลฮัลลา] ไลท์นิงมาถึงวิหารของเทพธิดา ได้สัมผัสกับเจตจำนงค์ของเอโทร และตัดสินใจที่จะปกป้องเทพธิดา
FFXIII-2
15. [วาลฮัลลา] ไคอัสซึ่งวางแผนจะสังหารเทพธิดาและสร้างโลกซึ่งไร้กาลเวลา ได้ต่อสู้กับอัศวินของเทพธิดา ไลท์นิง
เป้าหมายของไคอัส
ดวงตาแห่งเอโทร ที่ยูล มิโกะกาลเวลาครอบครองนั้น ทำให้เธอมองเห็นอดีตและอนาคต แต่ราคาที่ต้องจ่ายคืออายุขัยที่สั้นลง ราวกับว่ามันเป็นคำสาป ด้วยเหตุนี้เองทุกครั้งที่ยูลกลับมาเกิดใหม่ก็จะมีอายุสั้น แล้วไคอัสที่ต้องเฝ้าดูแลเธอในฐานะผู้พิทักษ์ ก็เกิดความคิดขึ้นว่า "หากเราทำลายกาลเวลาได้ ยูลจะหลุดพ้นจากคำสาปกาลเวลา" วิธีของไคอัสคือการทำให้พลังเคออสในโลกที่มองไม่เห็นรั่วไหลออกมา ทำลายคอนเซปต์ของการเวลาไปพร้อมกับโลก เพื่อให้แผนเป็นจริง เขาจึงพยายามจะสังหารเอโทร เทพธิดาที่ควบคุมเคออส ขณะเดียวกันเซราห์ที่คืนสภาพจากคริสตัล ก็ได้รับดวงตาแห่งเอโทรเช่นกัน และพลังนี้เป็นสาเหตุให้เธอเสียชีวิต
16. [วาลฮัลลา] โนเอล มนุษย์คนสุดท้ายที่เหลือรอดอยู่ ถูกดึงตัวมาที่วาลฮัลลา ไลท์นิงได้ขอร้องให้เขาดูแลเซราห์
ประมาณ 997 ปีก่อน
17. เซราห์ท่องกาลเวลาไปพร้อมกับโนเอลเพื่อตามหาพี่สาวที่หายสาบสูญไป
ประมาณ 600 ปีก่อน
18. เพื่อเตรียมการสู่วันที่เสาคริสตัลที่ค้ำจุนโคคูนไว้จะถล่มลงมา โฮป บุคคลผู้เป็นหัวใจของอเคเดเมีย องค์กรวิทยาศาสตร์ที่ปกครองสังคมอยู่ ก็ได้สั่งการให้ก่อสร้างโคคูนเทียม (ภายหลังเรียกว่าอาร์ค) เพื่ออพยพมนุษยชาติเข้าไป
ประมาณ 500 ปีก่อน
19. พวกเซราห์และไคอัสห้ำหั่นกันเดิมพันด้วยอนาคตของโลก ระหว่างการต่อสู้ เกิดการบิดผันของมิติกาลเวลาขึ้น ทั้งสามได้ไปถึงวาลฮัลลา
20. [วาลฮัลลา] หลังจากพ่ายแพ้ต่อพวกเซราห์แล้ว ไคอัสก็บังคับให้โนเอลปลิดชีวิตเขา
21. คริสตัลของวานิลล์และแฟงก์ถูกเก็บกู้ออกมา เสาคริสตัลได้ล้มทลายลง ขณะเดียวกัน โคคูนเทียมก็ได้ลอยขึ้นสู่ฟ้า
21. หลังกลับสู่โลกเดิมของตัวเองได้สำเร็จ เซราห์ก็หมดอายุขัยเนื่องจากความสามารถในการมองข้ามกาลเวลา
22. เมื่อเอโทรเสียชีวิต เคออสที่มองไม่เห็นก็ไหลเข้ามาสู่โลก โคคูนเทียมเทียมที่ปนเปื้อนไปด้วยเคออส ก็ถูกทิ้งร้าง
ความตายของเทพธิดาและหายนะครั้งใหญ่
โนเอล ผู้เป็นศิษย์ของไคอัส เป็นเพียงผู้เดียวที่จะหยุดหัวใจแห่งเคออสได้ ไคอัสที่ปลิดชีวิตตัวเองด้วยน้ำมือของเขา ก็สามารถหยุดยั้งหัวใจแห่งเคออสที่เป็นอีกอัตตาหนึ่งของเทพธิดาเอโทรได้สำเร็จ และบรรลุเป้าหมายในการสังหารเทพธิดา เมื่อปราศจากเทพธิดาที่คอนควบคุมพลังแห่งเคออสแล้ว เคออสที่มองไม่เห็นก็เข้าปกคลุมโลก นำไปสู่การล่มสลาย
23. [วาลฮัลลา] ไลท์นิงที่หวั่นไหวจากการรับรู้ชะตากรรมของเซราห์ ก็พ่ายแพ้ให้กับไคอัส เพื่อที่จะเก็บรักษาดวงวิญญาณของน้องสาวไว้ เธอจึงกลายร่างเป็นคริสตัลและเข้าสู่การหลับใหล
เหตุผลที่กลายเป็นคริสตัล
ไลท์นิงคิดว่าหากเธอกลายเป็นคริสติล ที่ว่ากันว่ายังคงเปล่งประกายอยู่เสมอแม้ว่าจะถูกเคออสกลืนกิน เธอก็จะยังคงสามารถรักษาจิตใจของเซราห์ไปไว้ได้ชั่วนิรันดร์ ด้วยความคิดเช่นนั้น เธอจึงตัดสินใจกลายเป็นคริสตัลด้วยตัวเอง เพื่อจะทำหน้าที่เป็นโลงศพอมตะที่จะคอยปกปักรักษาวิญญาณของน้องสาวไว้
เป็นการกระทำเพื่อจะปกป้องวิญญาณของน้องสาวไว้ แต่เมื่อไลท์นิงตื่นขึ้นมาในฐานะผู้ปลดปล่อย วิญญาณของเซราห์ก็ไม่ได้อยู่ในหัวใจของไลท์นิงแล้ว
169 ปีก่อน
24. โฮปที่เป็นผู้นำมนุษยชาติสู้กับวิกฤต ได้หายตัวไปอย่างกะทันหัน เมื่อปราศจากผู้นำแล้ว โลกก็ตกสู่ความโกลาหล องค์กร Order of Salvation ที่กลายมาเป็นที่ปลอบประโลมผู้คน ก็เข้ามากุมอำนาจแทน
13 ปีก่อน
25. แฟงก์และวานิลล์ตื่นจากสภาพคริสตัล และถูกพาตัวเข้าสู่องค์กร Order of Salvation
ช่วงที่เกมกำลังจะเริ่มขึ้น
26. บูนิเบลเซปลุกไลท์นิงขึ้นมาในฐานะ "ผู้ปลดปล่อย"
LRFFXIII สตาร์ต
จาก LRFFXIII Ultimania หน้า 28-29
Post a Comment