ทำไม FFVII Rebirth จึงไม่สมควรได้รางวัล Best Story Telling


สืบเนื่องจากการชนะรางวัล Best Story Telling ของ FFVII Rebirth ที่มาจากการโหวตของแฟน ๆ 12 ล้านคนทั่วโลก...

โจทย์ของเกมนี้คือ ในเมื่อแฟนเก่ารู้เนื้อเรื่องทั้งเรื่องอยู่แล้ว ดังนั้น จะบิดเนื้อเรื่องไปอย่างไรให้มันสนุก?

ประเด็นใหญ่ที่กระแทกเข้ามาในหัวผมระหว่างเล่นทันทีเลยคือ


------------------------------

1. การเจรจากับรูฟัส

------------------------------

หลังรูฟัสขึ้นเป็นประธานคนใหม่ของชินระ แถมพวก Turks ยังบอกแอริธว่ามีคำสั่งใหม่ ให้ไม่ต้องติดตามแอริธแล้ว ทำให้แบร์เร็ตเกิดความคิดขึ้นว่า "เราควรจะต้องคุยกับรูฟัสหน่อยดีกว่า" ให้ได้รู้ว่ารูฟัสมีความคิดยังไงกับอวาแลนซ์ และจะเอายังไงกับดวงดาวต่อไป

มันไม่เหมือนออริจินอล ที่รูฟัสโผล่มาอย่างตัวร้าย และบอกว่าจะปกครองผู้คนความด้วยความหวาดกลัว แต่รูฟัสวันนี้โผล่มาด้วยมาดนักการเมืองที่มีความคิดเรื่องผลประโยชน์ซับซ้อน ไม่ได้เป็นตัวร้ายที่แสดงออกอย่างชัดเจนหมือนในออริจินอลว่ากูร้ายนั่นเอง

พวกคลาวด์เลยหาโอกาส ใช้การประกวดพาเหรด เข้าใกล้รูฟัส ซึ่งกลายเป็นว่ารูฟัสก็อยากจะคุยกับพวกคลาวด์อยู่แล้ว

รูฟัสบอกว่า ไอ้เรื่องจับตัวแอริธ เอาเจโนวากลับมา ปราบอวาแลนซ์ ที่เป็นพันธกิจของพ่อเขานั้น ตอนนี้เขาไม่ได้สนใจเลย... เขามีเป้าหมายอื่น (ตามหา Promised Land) ดังนั้นรูฟัสจึงขอให้คลาวด์ กำจัดเซฟิรอธ + อย่ามายุ่งกับมิดการ์ แล้วเขาจะปล่อยแอริธไป

ยังไม่ทันจะดีลกันลงตัววว ยุฟฟีแม่งก็เขวี้ยงชูริเคนยักษ์ลงมากางวงงงงง ไฮเดกเกอร์เข้าไปพุ่งรับแทนรูฟัส ทำเอาเลือดกระฉูดอาบแก้มรูฟัสส คลาวด์ตะโกนบอกไม่ใช่พวกกรู๊วววววววววววววว แต่ใครมันจะไปเชื่อออ


------------------------------

2. การดูเอลแห่งชะตากรรม

------------------------------

บนเรือชินระ-8 มีการเติมทัวร์นาเมนต์แข่งการ์ดเข้าไป ซึ่งทุกคนในเรื่องนี้ พอจับการ์ด ก็เหมือนโดนวิญญาณดูเอลลิสต์เข้าสิง กลายเป็นเบียวที่หลุดจากยูกิโอกันทุกคน

แม้กติกาจะห้ามสัตว์เข้าร่วมแข่ง แต่เรดยังไม่วาย ไปหาเรื่องปลอมตัว เดินถอยหลังสองขา มาเข้าร่วมแข่งในรอบสุดท้ายได้

นับว่าเป็นการ implement องค์ประกอบที่เรดพรางตัวเดินสองขาในออริจินอล มาใช้ได้อย่างยอดเยี่ยม

กระทั่งตอนคลาวด์จะแข่งกับแอริธเอง ก็ยังบลัฟกันไปบลัฟกันมา ราวกับแม่งไม่ใช่พวกเดียวกันนนน


------------------------------

3. กิจกรรมงานวัดแลกชุดว่ายน้ำ

------------------------------

ที่คอสตาเดลโซ ไม่มีอะไรมาก เราไปนั่งเล่นมินิเกมงานวัด เอาตั๋วรางวัล มาแลกชุดว่ายน้ำ ให้สาว ๆ ใส่เพื่อความเจริญหูเจริญตา แล้วก็มีรายละเอียดปลีกย่อยบ้าบอ เช่น


- ร้านยิงปืน ไม่ให้แบร์เร็ตเข้าร่วม เพราะเขาให้แต่มือสมัครเล่น

- คลาวด์ร่วมมือกับเรจินา แก้พัซเซิลการ์ดแบบคนคู่

- มาเทเรียขาว กลายเป็นมาเทเรียไร้สี แอริธสูญเสียความจำจากอนาคต

- ทิฟาชงคอสตาเดลโซลกินเอง

- แอริธพูดอย่างมั่นว่า ไม่รู้ว่าคลาวด์จะได้เจอตัวเธอในอนาคตเมื่อไหร่ แต่เชื่อเถอะ คลาวด์จะหลงรักเธอ.... 


------------------------------

4. บูเกนฮาเกน ยุค Baby Boomer

------------------------------

ตอนเจอบูเกนฮาเกนในเนื้อเรื่องหลัก แกไม่เชื่อเรื่องเวพอนที่พวกคลาวด์และทิฟาพูดเลย แกทำเหมือนคนแก่ที่ผ่านโลกมาเยอะ และคิดว่ากูรู้ กูแก่ กูแน่ที่สุด พวกเด็กน้อยมันขาดไร้การศึกษา ต้องจับไปเข้าคลาสสัมมนาเยอะ ๆ

ไม่ว่าพวกทิฟาจะพูดอะไรไป บูเกนก็ตอบกลับมาว่า "ความหลงผิดแบบนั้นอาจมาจากพิษมาโคได้ ไปหาหมอนะ ฟังจากที่พูดแล้วเหมือนพวกเธอสามคน ไม่รู้เรื่องพื้นฐานดวงดาววิทยาเลย"

จนตอนหลัง หลังจากพวกคลาวด์พิสูจน์อะไรมาเรียบร้อยแล้ว บูเกนถึงมาทบทวนว่าไอ้ที่พวกคลาวด์พูดตอนแรกมันถูก และเขาพูดรุนแรงไป ตามความรู้สึกที่ว่าตัวเขาเอง ก็ไม่ได้เจอของจริงมานานน ปกติที่ผ่านมาก็เป็นกูรู้กูแน่ที่สุด เลยจบลงด้วยการขอโทษพวกคลาวด์อย่างเป็นทางการในเควสต์


------------------------------

5. คลาวด์จำแซ็คได้แล้วววววว

------------------------------

ที่นีเบิลไฮม์ ในออริจินอล ชินระจะส่งคนมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้แทน และให้ทุกคนเล่นละครเหมือนว่าไม่เคยมีไฟไหม้เกิดขึ้นที่นี่มาก่อน และทุกคนล้วนอาศัยอยู่ที่นี่มาทั้งชีวิต

แต่เนื้อเรื่องแบบนั้น มันไม่สมเหตุสมผล มันพิสูจน์หักล้างได้ง่าย เลยบิดใหม่เป็นว่า ชินระก็ส่งคนมาอาศัยอยู่ในนีเบิลไฮม์ที่สร้างใหม่แทนนั่นแหละ แต่ไม่ได้โกหกบ้าบอแบบเดิมแล้ว ทุกคนยอมรับว่าถูกส่งตัวมาที่นี่ และตอนนี้ที่นี่คือบ้านของพวกเขา ไม่ใช่บ้านของคลาวด์และทิฟาอีกอต่อไป

ที่นี่เอง คลาวด์ก็จำได้แล้วว่า เคยมาอยู่ที่นี่กับแซ็ค และก็ไปภูเขานีเบิลด้วยกัน จากนั้นแซ็คคค ก็ตกน้ำตายยยยยยยยยยยยยยยยยย

ไอ้ฉิบหายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย


------------------------------

6. ขอให้ไม่มีชะตากรรมใด ผูกมัดเรา

------------------------------

การแสดงที่โกลด์ซอเซอร์ ที่เดิมในออริจินอลใช้ธีมการแสดงระดับโรงเรียน ให้ดูเหมือนนักเรียนแสดงกันอย่างง่าย ๆ  แต่ใน Rebirth มันได้ถูกยกระดับกลายเป็นการแสดงระดับแกรนด์ แบบงานมืออาชีพ

ซึ่งการแสดงนั้น รวมถึงการร้องเพลงเดี่ยวของแอริธ มีซีนปลีกย่อยมากมายที่แตกต่างกันออกไปตามค่าความสัมพันธ์ของตัวละคร ระหว่างที่ได้เล่นเก็บครบทุกรูปแบบ ถึงเข้าใจ แม้กระทั่งรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เขาก็เอา

ไม่ว่าจะเป็นยุฟฟีเต้นตามไปด้วยจนเซ เรดที่สะบัดไฟที่หางเป็นรูปหัวใจ คลาวด์ที่ยืนอ้าปากค้างคนเดียว หรือทิฟาที่เดินเข้ามาแนบข้างคลาวด์ด้วย แบร์เร็ตที่จับคลาวด์โยกไปด้วย.... หรือแม้แต่ซิดที่ร้องไห้งอแงเป็นเด็ก แม่งก็มี~~~~~


------------------------------

7. สแตมป์แบบที่ 3 4 5 ....

------------------------------

ผมที่เดามาก่อนเกมออกว่า เราอาจจะได้เจอสแตมป์แบบที่ 3

ผมที่เล่นไป แปลเนื้อเรื่องทั้งหมดลง doc ไป แล้วหมุนฉาก ซูมเข้าที่มืด ปรับแสง ไล่หาหมาสแตมป์มาตลอด ถ่ายสกรีนช็อตมา 5,000 รูปตลอดทั้งเกม

พอถึงวินาทีที่ไปถึง โลกแห่งความฝันของแอริธใน Chapter 14 ... เรดาห์ผมกระดิกทันที!! สิ่งแรกที่ทำคือหมุนรอบฉากอย่างถี่ถ้วน ผมเห็นโต๊ะมืด ๆ ที่เหมือนมีอะไรสี่เหลี่ยมวางอยู่ แต่มันมืดจนมองไม่เห็น

ผมเลยจับเข้าโหมดถ่ายรูป ซูมเข้าไป แล้วปรับ brightness สูงสุดดดด

หลังจากนั้นนน ผมก็หัวเราะลั่นนนน แบบไม่อาจกลั้นขำได้ เหมือนตอนเล่น Chapter สุดท้ายของภาค Remake....

คนอื่นที่เล่นผ่าน ๆ ปราดเดียวไปจนจบ Chapter 14 อาจรู้สึกว่ามันวุ่นวาย สับสน จำไม่ได้ว่าเจอหมากี่แบบ อะไรยังไง แต่นั่นไม่ใช่ปัญหากับวิธีการเล่นแบบผม ที่เล่นไป แคปไป และพิมพ์ลง doc ไปตลอด ผมมีแต่ขำอย่างเดียว


------------------------------

8. อื่น ๆ ก่อนจะจบ

------------------------------

ทั้งเกมยังมีอะไรที่แตกต่างจากออริจินอลอย่างมากมาย เช่น

- ทิฟากล้าที่จะไล่เพรสซิ่งถามสิ่งที่คาใจกับคลาวด์ตั้งแต่แรกเลย ซึ่งความกล้าตรงนี้ เป็นนิสัยของเธอที่เติบโตขึ้นตั้งแต่ภาค Remake ต่างจากออริจินอลที่เธอ "........" 

- ซิดกลายเป็นนักบินอิสระ และประธาน Bronco Airlines แถมยังเคยรู้จักอิฟาลนา และเจอแอริธมาก่อน

- เรดเสียงสอง เพราะอยากให้คนยอมรับ ไม่ใช่ปฏิบัติกับเขาแบบสุนัข เลยดัดเสียง

- ยุฟฟีนิสัยน่ารักกว่าออริจินอลมาก แถมยุฟฟีกับแบร์เร็ต ยังสงสัยแต่แรกว่าเคทเป็นสปายจากชินระ

- เคทพยายามพิสูจน์ตัวเอง แสดงความจริงใจกับพวกคลาวด์มากขึ้น และบอกว่าที่ให้คีย์สโตนกับพวกชินระไป ก็เพราะมันไม่เคยมีใครเข้าแล้วออกมาได้นี่หว่า เลยไม่อยากให้พวกคลาวด์เสี่ยง

- คำทำนายของเคท ข้อ 1 2 เปลี่ยนไป และสัมพันธ์กับเนื้อเรื่องมากขึ้น / เคท ยังไม่ได้ทำนายว่าคลาวด์เข้ากับแอริธได้แค่ไหน

- มนุษย์เคยรบกับเซทร่ามาก่อน

- เผ่ากิมาจากดาวดวงอื่น และกลับสู่วัฏจักรเวียนว่ายตายเกิดไม่ได้ กลายเป็นผีล่องลอยแบบใน Lightning Returns เลยใส่ความปรารถนาลงมาเทเรีย เกิดเป็นมาเทเรียดำที่จะทำให้ทุกสรรพสิ่งดับสลาย

- มาเทเรียดำในออริจินอล คือทั้งวิหารชนเผ่าโบราณย่อส่วนลงมา, แต่คราวนี้ไอ้ลูกที่อยู่ด้านในสุด เซฟิรอธบอกว่ามันเป็นกุญแจที่ใช้เปิดทางไปเอาลูกจริงที่อยู่ระหว่างโลกต่าง ๆ ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังไม่เคลียร์ว่ามันหมายความว่ายังไง


------------------------------

9. ชะตากรรมของแอริธ

------------------------------


ค คิด

ว วิเคราะห์

ย แยกแยก


ถ้าจะใช้คำว่า "ส้นตีน" สักครั้ง ก็ควรจะเป็นการเล่าเรื่องตั้งแต่ตรงนี้ไปจนจบ ซึ่งแม่งงงงงงงง และจงใจให้ทุกคน งงงงง

กลายเป็นว่า จะดีใจก็ไม่ได้ จะเศร้าก็ไม่สุด ทุกคนตกอยู่ในความงง แบบนี้อารมณ์มันไปไม่สุดสักทาง ราวกับคนปวดขี้ แต่ขี้ไม่ออก


มีทีมงาน FF ภาคอื่นท่านหนึ่ง ถึงกับกล่าวว่า

"ไม่ใช่ว่าผู้เล่นคาดหวังไปเอง ทีมงานมันจงใจมอบความหวังให้ เพื่อจะชิงกลับไป"

"จะให้แซ็คกลับมาทำไม ถ้าบั้นปลายไม่มีอะไรเปลี่ยน"

"ถึงมีแอริธที่รอดในเส้นเวลาอื่น แต่ไม่ใช่เส้นเวลาเราแล้วไง สุดท้ายเธอก็ไม่ได้อยู่ในโลกที่เราช่วยไว้"

"เรื่องเรดเสียงสอง ทำไมในกลุ่มไม่มีใครทัก"

"ทำไมคลาวด์ไม่พูดออกมาตรง ๆ ว่าสรุปเสียงปริศนาที่ได้ยินคือเรดเอง"

"วันแรก ๆ ว้าวกับเกมเพลย์มาก ไม่ได้เล่นเกมแบบนี้มานานมากแล้ว ทุกอย่างไฮควอลิตี้มาก ตอนมาถึงโกลด์ซอเซอร์นี่แบบ ในมุมคนทำงาน รู้เลยว่ากว่าจะออกมาแต่ละชิ้นได้เนี่ย มันผ่านอะไรมาบ้าง เลยแฮปปี้มีความสุขมาก งานศิลป์งานออกแบบ มันคุณภาพสูงมาก มินิเกมเยอะและสนุก"


"แต่แม่ง ตกม้าตาย ไอ้ซั๊สสสสสสสสสสสส"



จริง ๆ แค่จะบอกว่าทำไมมันไม่สมควรได้ Best Story Telling ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นบทความว่า เนื้อเรื่อง Rebirth ต่างจากออริจินอลยังไงบ้างไปซะฉิบ

ไม่มีความคิดเห็น