สัจธรรมหุ้นเหลี่ยม

ชีวิตผมนะ ไปจับหุ้นกองทุนอะไรในไทยตามที่คนอื่นแนะนำ (ส่วนใหญ่อยู่กับกองทุนของบัวหลวง) ก็เจ๊งหมด ตั้งแต่เริ่มซื้อไป ราคาก็มีแต่สาละวันเตี้ยลง แล้วก็ไม่ค่อยได้เข้าไปใส่ใจดูราคา ทำให้ไม่เข้าใจกลไกเทรนด์ของมัน แล้วก็หาจังหวะซื้อถูกขายแพงไม่ได้ ด้วยความไม่สนใจ สุดท้ายก็เจ๊งอย่างเดียว

แต่ไอ้หุ้นเหลี่ยมที่ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเนี่ย ผมเข้าไปส่องดูราคามันเป็นประจำอยู่เรื่อย ๆ อย่างน้อยก็ตั้งแต่เริ่มโหลดรายงานผลประกอบการฉบับเต็มมาอ่านด้วยตัวเองเมื่อสิบปีก่อน ก็เริ่มสนใจดูกราฟมัน จนผ่านไปนาน ๆ ผมเข้าใจแท้แล้วว่า สภาวะปกติของราคาหุ้นเหลี่ยม มันจะอยู่ที่ 5,500-6,500 เยน คือไม่ว่ามันจะแผ่นดินไหวไฟไหม้ฟ้าผ่าอาเตี่ยแมนเพียงใด สุดท้ายมันจะกลับมาอยู่แถว 5,5000-6,500 เอง แล้วมันก็จะไม่โตไปกว่านั้น

ดังนั้น กุญแจสำคัญในการเกาะหุ้นเหลี่ยม คือเมื่อใดที่เกิดเหตุให้หุ้นมันตกไปถล่งร่วงต่ำกว่า 5,500 เยน เช่นตอนอ่านรายงานผลประกอบการในเดือนพฤษภาคมปีนี้ ก็รอให้มันต่ำจนสาแก่ใจ พอเริ่มทรงแล้วก็เข้าไปช้อนได้เลย จากนั้น อาจจะผ่านไปหลายเดือน แต่สุดท้ายมันจะกลับมาที่ 5,500 เยนเป็นอย่างน้อย เราก็เตรียมขายได้ ซึ่งตอนต้นพฤศจิกายน มันก็ดีดกลับจาก 4,5XX เยน ไปเป็น 6,2XX เยน มันก็ถึงจุดเทขาย คนก็เทขายกัน ให้ราคาตกเหลือ 5,5XX เยน พอให้ hater ได้เอาไปถ่มถุยและพาดหัวข่าวกันสนุกปากหน่อย

แล้วล่าสุด ผ่านไปไม่ถึงเดือน ตอนนี้ราคามันก็กลับขึ้นมาอยู่ที่ 6,1XX เยนแล้ว ผมว่าใครไม่อยากเสี่ยงก็เทขายได้เลย แต่ส่วนตัวเชื่อว่ามันน่าจะขึ้นไปได้ถึง 6,3XX-6,4XX เยน ก่อนจะร่วงลงมาอีกครั้ง

......เนี่ย คือมองหุ้นเหลี่ยมจนเข้าใจธรรมชาติของมัน แต่กับหุ้นไทยที่ผมแทบไม่แยแสเลย ก็เจ๊ง เจ๊ง เจ๊ง อย่างเดียว 😅