รวมอภิธานศัพท์จาก FFIX Ultimania

แทนทาลัส

กลุ่มเด็กกำพร้าที่บาคูซึ่งเป็นเด็กกำพร้ามาก่อนเช่นกัน รวบรวมขึ้นมา พวกเขามีรังลับกันอยู่ในย่านโรงละครของลินบลูม ในฉากหน้าพวกเขาเล่นละครและขายเครื่องประดับเล็ก ๆ น้อย ๆ ในฉากหลังนั่นคือซ่องโจร พวกเขาใช้ประโยชน์จากการเล่นสองหน้า รวบรวมข่าวสารและรายงานต่อซิด ที่จริงแล้ว คนเดียวที่มีความสัมพันธ์ฉันท์มิตรกับซิด คือผู้นำบาคูคนเดียวเท่านั้น สมาชิกคนอื่นในกลุ่มไม่รู้เลยว่าแผนการทั้งหมดของพวกเขาล้วนผ่านการอนุมัติของซิดมาก่อนแล้ว

บาคูมีนโยบายบอก "จะรับคนนอกไว้จนกว่าพวกมันยืนหยัดด้วยลำแข้งตนเองได้เท่านั้น" จำนวนสมาชิกในกลุ่มแทนทาลัสเลยเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ประมาณ 10 ปีก่อน บาคูได้รับซีดานวัยเด็กมาเลี้ยงและนำเข้ากลุ่ม หลงจากนั้นสมาชิกรุ่นเยาว์ในกลุ่มก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นมา

เรือเหาะโรงละคร Prima Visata นั้นเป็นวิธีการเดินทางของคณะแทนทาลัส และยังเป็นเวทีในการแสดงละครด้วย

เผ่าคู

เผ่าพันธุ์ที่เต็มไปด้วยปริศนา ทุกคนในเผ่าใช้พลังทั้งหมดไปกับการคิดค้นสูตรอาหารและเดินหน้ากินต่อไป พวกเขาไม่มีเพศ และไม่ปรากฏแน่ชัดว่าพวกเขาผลิตทายาทกันอย่างไร

มีทฤษฎีหนึ่งกล่าวการเติมเต็มความหิวโหยของตัวเอง ด้วยการกินแม่งทุกอย่าง เกี่ยวข้องกับการผลิตทายาทของพวกเขา ทั้งนี้ยังปรากฏว่าผู้ปกครองและทายาทในเผ่าคู จะเติบโตมาในความสัมพันธ์แบบศิษย์กับอาจารย์ โดยจะถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้กับศิษย์เพียงคนเดียวเท่านั้น

บึงที่เผ่าคูอาศัยอยู่นั้น เรียกว่า บึงเผ่าคู ซึ่งมีด้วยกัน 4 แห่งบนโลก

อันวินพลูโต

กลุ่มอัศวินชายแห่งอเล็กซานเดรีย ก่อตั้งขึ้นจากไอเดียของสไตเนอร์ หลังจากที่เขาชนะในการประลองกับแบร์ทริกซ์เมื่อ 11 ปีก่อน สไตเนอร์ทำหน้าที่กัปตันอย่างแข็งขันเรื่อยมา ชื่อ "อัศวินพลูโต" เอามาจาก "สามทหารเสือพลูโต" ที่ร่วมรบในสงครามลินบลูมครั้งที่ 15

ที่ผ่านมาอัศวินพลูโตจะเป็นแบบอย่างของผู้ชายไม่เอาถ่านในอเล็กซานเดรีย ซึ่งเป็นเมืองที่ผู้หญิงมีอิทธิพลมาก ทว่ากลุ่มอัศวินพลูโตในปัจจุบัน ประกอบด้วยคนแก่ 1 คนที่ทำหน้าที่มาตั้งแต่ก่อตั้งกลุ่มอัศวินพลูโต อัศวินหนุ่มไร้ประสบการณ์ 7 คนที่สไตเนอร์ไปบังคับเกณฑ์เข้ามา พวกเขามักก่อความผิดพลาดบ่อย ๆ และเป็นที่ขบขันของผู้คนทั้งภายนอกและภายในปราสาท

แม้กัปตันของพวกเขาจะทะเยอทะยานในการทำภารกิจใด ๆ ให้ลุล่วง แต่ลูกทีมไม่ได้มีขวัญกำลังใจแบบนั้น

เจนอม

"ภาชนะใส่วิญญาณ" ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยวิทยาการของเทอร์รา เพื่อรองรับวิญญาณของชาวเทอร์ราที่กำลังหลับใหลและรอการคืนชีพ เจนอมนี้ดำรงอยู่มาตั้งแต่โบราณกาล โดยการ์แลนด์ซึ่งเป็นผู้สร้างเจนอมรุ่นปัจจุบัน ก็เป็นเจนอมที่ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อหลายพันปีก่อนเช่นเดียวกัน

แม้เจนอมเพศหญิงและชายจะมีความแตกต่างกัน แต่พวกเขาทั้งหมดล้วนไม่มีอายุ กายเนื้อของพวกเขาจะไม่เติบโต จนกว่าจะได้รับวิญญาณเข้าไป

เฉพาะเจนอมตัวพิเศษเลิศล้ำที่การ์แลนด์เลือกไว้เท่านั้น จึงจะได้รับวิญญาณ และมีบทบาทมากกว่าจะเป็นเพียงแค่ภาชนะ นั่นคือการช่วยฟื้นฟูเทอร์ราไปด้วย

จนกว่าจะได้รับวิญญาณ เจนอมจะใช้ชีวิตฆ่าเวลากันอยู่ในบรานบัล โดยไม่โตขึ้น

ไกอา

ดวงดาวที่เป็นเวทีหลักของ FFIX มีการพัฒนาอารยธรรมที่ด้านเทคโนโลยีมากกว่าเวทมนตร์ แต่อารยธรรมนั้นพัฒนาขึ้นบนแผ่นดินเดียว เนื่องจากดวงดาวนั้นยังเยาว์วัย

เทอร์รา

ดวงดาวที่พัฒนาอารยธรรมด้านเวทมนตร์ไปไกล ชาวเทอร์ราใช้เวทมนตร์ที่เรียกว่า ฟิวชัน เพื่อให้มีชีวิตเป็นนิรันดร์ ปัจจุบันชาวเทอร์ราได้มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้การ์แลนด์เป็นผู้ดูแล และเข้าสู่การหลับใหล โดยรอคอยที่จะตื่นขึ้นอีกครั้งในวันที่การฟิวชันเสร็จสิ้น

ฟิวชัน

การฟิวชัน จะเกิดขึ้นเมื่อคริสตัลของดวงดาวที่ชาวเทอร์ราอาศัยอยู่แก่ตัวลง พวกเขาจะค้นหาดวงดาวที่ยังเยาว์วัยและมีดวงวิญญาณที่ยังไม่พัฒนา แล้วทำการช่วงชิงคริสตัลบริสุทธิ์ของดวงดาวเยาว์วัยนั้นมา เปลี่ยนระบบไหลเวียนวิญญาณในคริสตัลให้กลายเป็นของเทอร์รา นั่นคือการฟิวชัน

คริสตัล

ที่ใจกลางของดวงดาว จะมีคริสตัลที่ควบคุมการไหลเวียนวิญญาณ คริสตัลจะผลิตวิญญาณให้สิ่งมีชีวิตในยามที่พวกมันเกิด แล้วเมื่อตายลง วิญญาณที่สั่งสมความทรงจำต่าง ๆ ในระหว่างที่ยังมีชีวิตจะกลับคืนสู่คริสตัล เมื่อเกิดการสั่งสมความทรงจำไปเรื่อย ๆ คริสตัลจะเติบโตขึ้น และสามารถให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตขั้นสูงขึ้น ยิ่งคริสตัลเติบโต ก็จะยิ่งส่องสว่างมากขึ้น ทำให้ดวงดาวอุดมสมบูรณ์

ในขั้นสุดท้ายของการสั่งสมความทรงจำ เมื่อไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรในการไหลเวียนวิญญาณได้แล้ว คริสตัลก็จะหยุดการเจริญเติบโต ทำให้ดวงดาวเสื่อมถอย คริสตัลและดวงดาวก็จะกลับคืนสู่จักรวาล

คริสตัลของไกอายังมีแสงที่เยาว์วัย ขณะที่คริสตัลของเทอร์รามีแสงที่ชรา

การฟิวชันไกอา & เทอร์รา

เมื่อไม่สามารถหาดวงดาวที่มีคริสตัลบริสุทธิ์ได้ การ์แลนด์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเลือกดวงดาวที่เยาวว์วัยอย่างไกอา และดำเนินแผนการฟิวชัน

ทว่าท้ายที่สุด เมื่อคริสตัลของไกอาไม่บริสุทธิ์ จึงเกิดปฏิกิริยาสะท้อนกลับ เกิดภัยพิบัติที่แทบทำให้อารยธรรมของไกอาต้องมลายสิ้น พื้นผิวของดวงดาวเหลือเพียงซากหายนะ

การฟิวชันธรรมชาติและสรรพชีวิต ได้สำเร็จไปแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ มีเผ่าพันธุ์ยิบย่อยมากมายถือกำเนิดขึ้น แม้สิ่งปลูกสร้างมากมายของเทอร์ราจะปรากฏบนไกอา แต่เทอร์รานั้นได้ย้ายเข้าไปอยู่ภายในไกอา นอกจากนี้ ดวงจันทร์ของเทอร์ราไม่ได้ถูกหลอมรวมไปด้วย เลยยังค้างเติ่งไว้ ควบคู่กับดวงจันทร์เดิมของไกอา ทำให้ไกอามีดวงจันทร์สองดวง

เนื่องจากดวงจันทร์นั้นรับแสงมาจากคริสตัล ดวงจันทร์ของไกอาจึงมีสีน้ำเงิน ในขณะที่ดวงจันทร์ของเทอร์รานั้นมีสีแดง นอกจากนี้ การที่เกาะประกายแสงซึ่งตั้งอยู่นอกชายฝั่งของเอสโตกาซา เป็นทางเชื่อมระหว่างสองมิติ (ไกอา & เทอร์รา) แสงจากคริสตัลจึงไหลแพล่มออกมาจากที่แห่งนั้น

เพื่อเร่งการฟื้นฟูธรรมชาติที่ถูกทำลาย การ์แลนด์จึงได้ย้ายต้นไม้วิเศษจากเทอร์รา "ต้นอีฟา" มาสู่ไกอา เมื่อประมาณ 5,000 กว่าปีมาแล้ว

ต้นอีฟา

ต้นไม้วิเศษของเทอร์รา รากของมันชอนไชไปทั่วพื้นผิวของดวงดาว ขณะที่ลำต้นเติบโตขึ้นภายในดวงดาว แท้จริงแล้วส่วนที่ปรากฏเหนือพื้นดินคือรากของมัน และส่วนที่ดูเหมือนลำต้นนั้นแท้จริงแล้วคือกอราก

การที่มันปล่อยรากชอนไชไปทั่วพื้นผิวของดาวนั้นช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับผืนดิน ส่วนรากที่ยืดตรงไปสู่คริสตัลที่ใจกลางดวงดาว ก็สะกดการไหลเวียนของวิญญาณไว้

ประมาณ 3,000 ปีก่อน ต้นอีฟาแผ่นดินไกอากลับสู่เสถียรภาพได้สำเร็จ การ์แลนด์จึงตัดสินใจว่าถึงเวลาฟื้นฟูชาวเทอร์รากลับมาแล้ว เขาจึงเริ่มสร้างเจนอมขึ้นมา

เจนอม

เจนอมคือสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นภาชนะให้กับวิญญาณของชาวเทอร์ราหลังจากการที่ฟิวชันสำเร็จ

ทว่าการฟิวชันระหว่างไกอาและเทอร์รา มันไม่เหมือนการฟิวชันที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านั้น มีแต่เพียงเจนอมที่ไม่เหมาะสมจะเป็นภาชนะและอ่อนแอเกิดขึ้นมา

การ์แลนด์ซึ่งสังเกตเห็นการเสื่อมถอยของแสงจากคริสตัลเทอร์รา ในขณะที่สร้างเจนอมขึ้นมา เขาก็เริ่มการควบคุมการไหลเวียนวิญญาณของชาวไกอาไปด้วย

การควบคุมการไหลเวียนวิญญาณ

เพราะคริสตัลของไกอาได้ไหลเวียนดวงวิญญาณที่มีความทรงจำอยู่ก่อนแล้ว การฟิวชันที่สมบูรณ์แบบจึงไม่มีทางเกิดขึ้นได้ คริสตัลของเทอร์ราที่อยู่ในสภาพเดียวกันอยู่แล้วจึงได้แทรกการไหลเวียนวิญญาณเข้าไป จึงเกิดการไหลเวียนสองกระแสปะปนกัน

กระแสของเทอร์รานั้นบางและสงบ ไม่อาจแข่งขันกับกระแสของไกอาที่เข้มข้นและรุนแรงได้

การ์แลนด์ใช้ต้นอีฟาหยุดการไหลเวียนวิญญาณของชาวไกอากลับคืนสู่คริสตัล เมื่อหยุดคริสตัลไม่ให้ให้กำเนิดดวงวิญญาณใหม่ได้ เขาหมายมั่นที่จะให้วิญญาณของไกอาตายลง และสร้างโลกที่มีแต่วิญญาณของเทอร์ราไหลเวียนอยู่เท่านั้น

ทว่าแม้จะหยุดกระแสวิญญาณของไกอาได้แล้ว กระแสวิญญาณของเทอร์ร่าก็ยังคงอ่อนแออยู่ดี

ความผิดปกติของวิญญาณ

กระแสวิญญาณที่อ่อนแอของเทอร์รา ส่งผลให้ดวงวิญญาณของเทอร์ราที่ทับซ้อนกับไกอาในกระบวนการฟิวชัน พ่ายแพ้แพ้แก่พลังวิญญาณของไกอา จึงถูกกลืนไปกับกระแสวิญญาณของไกอา

การ์แลนด์จึงตัดสินใจว่าต้องคัดแยกวิญญาณของเทอร์ร่า ออกมาจากวิญญาณไกอา

การคัดแยกวิญญาณ

เพื่อจะแยกวิญญาณของเทอร์ราออกมาจากไกอา จึงมีการติดตั้ง Soul Divider ไว้ที่จุดใต้สุดของต้นอีฟา

ต้นอีฟาจะส่งวิญญาณของไกอาไปยัง Soul Divider ซึ่ง Soul Divider ก็จะคัดแยก ถึงเฉพาะวิญญาณของเทอร์ราออกมา ด้วยวิธีนี้ก็จะได้วิญญาณของชาวเทอร์ราบริสุทธิ์

นอกจากนี้การ์แลนด์ยังตัดสินให้วิญญาณส่งผลกระทบต่อหัวใจของสิ่งมีชีวิต นั่นคือให้ละทิ้งการใช้เหตุผล และดำรงอยู่ด้วยสัญชาตญาณ

เพราะเหตุนี้เอง เมื่อส่งกระแสวิญญาณในส่วนของเทอร์รากลับเข้าระบบไหลเวียน ส่วนของไกอาจะถูกส่งไปยังรากของต้นอีฟา ไปยังทวีปที่มีอารยธรรมเจริญก้าวหน้าที่สุด

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 1,000 ปีก่อน เป็นเหตุให้เกิด "มิสท์" และความขัดแย้งขึ้นเป็นประจำในทวีปแห่งนี้

มิสท์

วิญญาณของไกอาที่ขับออกมาจากราก ก็คือ "มิสท์" ที่ปกคลุมทวีป

มนุษย์ซึ่งรู้สึกว่าการอาศัยในหมอกจะเป็นภัย จึงหนีขึ้นไปอยู่บนที่สูงแทน (แต่ก็ยังมีกลุ่มผู้ที่อาศัยอยู่ใต้หมอก)

เพราะเช่นนี้ ทวีปนี้จึงมีความขัดแย้งเป็นประจำ มีประเทศเล็ก ๆ เกิดขึ้นและล้มตายไป เป็นวัฏจักรไม่จบไม่สิ้น

เกิดสงคราม ทำให้ผู้คนล้มตาย เป็นวิธีที่เพิ่มจำนวนวิญญาณที่จะกลับคืนสู่คริสตัล ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นไปตามแผนของการ์แลนด์ วิญญาณของเทอร์ราก็เริ่มรวมตัวกัน

แต่เมื่อล่วงเลยไปถึงจุดหนึ่ง สงครามก็ไม่เกิดขึ้นอีก การไหลเวียนวิญญาณก็กลับไปอยู่ในสภาพเดิม

สงคราม

การ์แลนด์ตั้งสมมติฐานว่าสงครามหยุดลงเพราะมีประเทศหนึ่งพัฒนายานบินที่ใช้ "มิสท์" ขึ้นมาได้ และมีกำลังเหนือชาติอื่น ๆ

ช่วงเวลานั้นเอง เขาจึงคิดที่จะสร้างเจนอมที่มีจิตวิญญาณกล้าแกร่ง และส่งไปยังไกอาเพื่อปั่นให้เกิดสงครามอีกครั้ง เจนอมคนนั้นคือ คุจา

เจนอมและคุจา

เมื่อการฟิวชันครั้งล่าสุดนี้ไม่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนที่ผ่านมา เจนอมที่สร้างขึ้นจึงยังไม่เหมาะจะเป็นภาชนะวิญญาณ การ์แลนด์จึงทำการทดลองต่อไปโดยพยายามสร้างเจนอมที่เหนือกว่าเดิม คุจาจึงเกิดขึ้นมาเป็นภาชนะวิญญาณที่มีเจตจำนงค์แรงกล้า

ก่อนจะทิ้งเจนอมตนนั้น การ์แลนด์ส่งเขาไปยังไกอา ใช้เขาเป็นเบี้ยหมากยุยงให้เกิดสงครามในที่แห่งนั้น

หลังจากส่งเจนอมชื่อคุจาออกไป การ์แลนด์ได้ตัดสินใจสร้างเจนอมอีกตนขึ้นมาจากศูนย์โดยตั้งใจว่าจะให้มันมีความสามารถที่จะทำลายไกอาได้แน่

ซีดานและคุจา

ไม่เหมือนคุจา ซีดานเป็นเจนอมที่ถูกสร้างขึ้นในสภาพของเด็กซึ่งมีความสามารถในการ Trance การถูกสร้างขึ้นในสภาพเด็ก หมายความว่าเขาจะสามารถเติบโตและเรียนรู้ได้ การสามารถ Trance ได้ หมายความว่าจะรับรู้อารมณ์อันมากมาย เขาเหนือกว่าคุจาในทุก ๆ ด้าน

คุจา ไม่อาจให้อภัยต่อการมีตัวตนอยู่ของซีดานได้ ลับหลังการ์แลนด์ เขาได้แอบทิ้งซีดานไปในไกอา การ์แลนด์จึงห้ามคุจาไม่ให้เข้าออกเทอร์ราได้อีก แต่ท้ายที่สุดการ์แลนด์ก็ยอมรับในการกระทำนั้นของคุจา

เพราะมันก็สอดคล้องกับเป้าหมายที่การ์แลนด์ต้องการวิญญาณ

ความทุกข์ใจของการ์แลนด์

การฟิวชันจะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อยึดการไหลเวียนวิญญาณในคริสตัลได้ หมายความว่าแสงแห่งคริสตัลของไกอา (สีน้ำเงิน) ต้องกลายเป็นแสงแห่งคริสตัลของเทอร์รา (สีแดง)

ทว่าบัดนี้เทอร์รา กลับถูกฉาบไปด้วยแสงสีน้ำเงินของไกอา และการ์แลนด์ไม่สามารถทำลายไกอาให้พินาศสิ้นในชั่วพริบตาได้

เนื่องจากการ์แลนด์ต้องทยอยเปลี่ยนแปลงอะไรหลาย ๆ อย่าง เขาจึงสร้างคุจาขึ้นมา

เมื่อฝากหน้าที่ในการทำลายไกอาให้คุณจา การ์แลนด์ที่หันไปผลิตเจนอมที่เหนือกว่า ก็ตรวจพบพลังงานแรงกล้าเหมือนกับที่เคยพบเมื่อ 500 ปีก่อน

500 ปีก่อน

อสูรมายายักษ์ถูกอัญเชิญออกมาโดยชาติมหาอำนาจในทวีปแห่งหมอก อสูรนั้นมีพลังมากจนถึงขนาดทำให้การ์แลนด์แปลกใจได้ มันได้โจมตีดินแดนแห่งหนึ่งและทำลายจนพินาศสิ้น เหล่าผู้ที่อัญเชิญมันออกมา จึงได้ผนึกซ่อนมันไว้ อเล็กซานเดอร์ อสูรมายาที่สร้างความหายนะขึ้นเมื่อ 500 ปีก่อนนั่นคือเล็กซานเดอร์  บัดนี้มันยังคงหลับใหลอยู่ในอเล็กซานเดรีย

อสูรมายา

อสูรมายาคือสิ่งมีชีวิตพลังมหาศาลที่เกิดจากคริสตัล ในร่างนั้นสั่งสมไปด้วยความทรงจำมากมาย และดำรงอยู่เพื่อปกป้องคริสตัล

รูปร่าง ความสามารถ และสิ่งต่าง ๆ ของพวกมันนั้น ถูกกำหนดด้วยพลังจากคริสตัล ดังนั้นอสูรมายาที่เกิดจากคริสตัลวัยชราของเทอร์รา จึงไม่อาจเทียบเคียงอสูรมายาของไกอาได้

การ์แลนด์ที่กำลังค้นหาต้นตอของพลังงานมหาศาล ได้ค้นพบชนเผ่าที่สามารถสื่อสารกับอสูรมายา ณ จุดที่เป็นดั่งเส้นเลือดของไกอา

พวกเขายังไม่มีพลังพอที่จะคุกคามเทอร์ราได้ แต่การ์แลนด์มองว่าพวกเขาอาจเป็นภัย และได้สั่งให้คุจาไปกวาดล้างพวกเขาทิ้ง และสำเร็จไปเมื่อ 10 ปีก่อน

ความทุกข์ใจของคุจา

เนื่องจากการ์แลนด์สร้างเจนอมชื่อซีดานขึ้นมาให้เหนือกว่าเขา คุจาเลยตระหนักว่าตัวเองถูกมองเป็นแค่ตัวแถมเท่านั้น

คุจาสามารถใช้สิ่งปลูกสร้างของเทอร์ราที่หลงเหลืออยู่บนพื้นผิวของไกอาได้อย่างอิสระ (เดสเสิร์ทเอ็มเพรส, ปราสาทโบราณอิปเซน, ภูเขาไฟกูล์ก, โออิลเวิร์ท และต้นอีฟา) สามารถใช้มังกรเงินในการเดินทาง สามารถเรียกยานอินวินซิเบิลได้ แต่เขาถูกห้ามไม่ให้เข้าเทอร์รา ดังนั้นต่อให้ใช้สิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นได้ เขาก็ไม่มีหนทางจะก่อกบฎได้อยู่ดี

ทว่าคุจาที่เชื่อฟังคำสั่งของการ์แลนด์นั้น เกิดความสนใจในเมืองที่เขาไปทำลายขึ้นมา หลังจากที่เขาเรียนรู้เรื่องตัวตนของอสูรมายาได้ไม่นาน เขาก็เข้าใจเรื่องที่เคยเกิดขึ้นที่อเล็กซานเดรียเมื่อ 500 ปีก่อน

หลังจากนั้น เขาก็ได้เรียนรู้กระบวนการสร้างจอมเวทมนตร์ดำ และส่งต่อให้ราชินีในยุคนี้ ซึ่งก็คือบราเนห์

จอมเวทมนตร์ดำ

พวกเขาคือสิ่งมีชีวิตที่สร้างจากมิสท์และเทียบเคียงได้กับเจนอม เจนอมนั้นอิงขึ้นจากคุณลักษณะของเทอร์รา ส่วนจอมเวทมนตร์ดำนั้นอิงจากคุณลักษณะของไกอา

พวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างมาให้ถูกยับยั้งอารมณ์ไว้ แต่ผลลัพธ์จากการผ่านสภาพแวดล้อมอันโกลาหล (สงคราม) ลักษณะอันเป็นปัจเจกบุคคลจึงเริ่มปรากฏขึ้น

นอกจากนี้ยังมีคู่เทียบอีกอย่างมอนสเตอร์ที่กำเนิดจากมิสท์ และมังกรเงิน ซึ่งอิงขึ้นจากองค์ประกอบของไกอาและเทอร์ราเช่นกัน

พระจันทร์สองดวง

ตอนที่การหลอมรวมระหว่างเทอร์ราและไกอาผิดพลาด มันมีบางส่วนที่ซ้อนทับกัน แต่ก็มีบางอย่างที่ไม่ซ้อนและเหลือทิ้งไว้ ดวงจันทร์คือตัวอย่างนึง หลังจากนั้นดวงจันทร์สีน้ำเงินของไกอา และดวงจันทร์สีแดงของเทอร์ราก็โคจรอยู่รอบดาวด้วยกันทั้งคู่

คริสตัลและพระจันทร์สองดวง

สีของแสงจันทร์นั้น คือสีที่แท้จริงของดวงดาวซึ่งเปล่งออกมาจากแสงคริสตัล  ที่ดวงจันทร์ของไกอาเปล่งแสงสีน้ำเงิน และดวงจันทร์ของเทอร์ราเปล่งแสงสีแดง เพราะนั่นคือสีของคริสตัลของพวกมัน (ภาพที่ 4)

ด้วยเหตนี้ มันจึงต่างจากดวงจันทร์ในชีวิตจริง มันไม่มีข้างขึ้นข้างแรม และจะโคจรเป็นวงอยู่เสมอ แต่เนื่องจากคริสตัลของเทอร์รานั้นอ่อนแอกว่าคริสตัลของไกอา เมื่อดวงจันทร์ของไกอาโคจรมาอยู่หน้าดวงจันทร์ของเทอร์ราและเคลื่อนเข้าใกล้กัน ฟากนึงของดวงจันทร์เทอร์ราก็จะกลายเป็นเงามืด (ภาพที่ 5)

ดวงจันทร์ทั้งสองจะเคลื่อนที่ตามวงโคจรในภาพ และทุก ๆ 16 วัน ดวงจันทร์ทั้งสองด้วยก็จะโคจรมาซ้อนทับกัน โดยสลับแดงและน้ำเงิน  (ภาพที่ 6)

แต่ในกรณีที่ดวงจันทร์ของไกอาโคจรมาอยู่ด้านหลังดวงจันทร์ของเทอร์รา เนื่องจากดวงจันทร์ของไกอาสว่างกว่า จึงกลายเป็นตามภาพ (ภาพที่ 7)

คริสตัลและเกาะประกายแสง

แสงจาก "เกาะประกายแสง" ที่ชาวเอสโตกาซามองว่าเป็นเรื่องทางศาสนา เป็นแสงจากคริสตัล เนื่องจากมันเป็นประตูที่เชื่อมระหว่างไกอาและเทอร์รา

เมื่อประตูทางเข้าออกเทอร์ราเปิด นั่นคือช่วงที่แสงจะสว่างจ้าที่สุด