FFVIII กับ Love Parameter ที่หายไป

คิตาเสะบอกว่าในภาคที่แล้ว เรามี Love Parameter สำหรับตัวละครหญิง 3 ตัว แอทิยุฟ ผู้เล่นจะได้คู่เดทตามการกระทำของตัวเอง สำหรับภาคนี้ ตอนแรกโนะก็อยากทำแบบเดียวกัน โดยมีค่าเหล่านี้สำหรับริโนอา เซลฟี และควิสติส แล้วให้รีแอคชันพวกเขาเปลี่ยนไปตามการกระทำของตัวเอก แต่หลังจากคุยกันไปมา โนะกับโนจิมะ ก็ตัดสินใจว่าริโนอามีความสำคัญเป็นพิเศษสำหรับเนื้อเรื่องที่พวกเขาอยากทำ 

ตัวอย่างเช่น โนมุระอยากให้สคอลล์กับริโนอา ได้มีการพบพานแห่งชะตากรรมในงานเลี้ยงของ SeeD แต่พอคิดว่าหากมีค่าความสัมพันธ์แล้ว สคอลล์อาจจะได้ไปเต้นรำกับเซลฟีและควิสติสแทน โนะก็บอกว่ามันควรจะเป็นริโนอาเพียงคนเดียวเท่านั้นสิ ก็ชัดเจนว่าโนะยึดมั่นในริโนอาเป็นพิเศษ เราเลยตัดค่าความสัมพันธ์ทิ้ง แล้วเจาะไปที่ริโนอาคนเดียว

ด้วยการโฟกัสแบบนี้ เราก็สามารถทำสิ่งที่แตกต่างจากภาคก่อนได้ แล้วเราก็รีเควสต์โนจิมะ ให้เขียนเนื้อเรื่องที่ลุ่มลึกระหว่างความรักของตัวละครหลัก 2 คน แต่มันก็เป็นการเดินพันที่เสี่ยง ผมก็คุยกับโนจิมะนะว่า งี้คนจะชอบหรือไม่ชอบ FFVIII มันขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาชอบหรือไม่ชอบริโนอา ล้วน ๆ เลย

ผู้สัมภาษณ์ถามว่า ในหมู่ปาร์ตี้ตัวละคร มีเพียงสคอลล์และริโนอาเท่านั้น ที่ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนชื่อได้ใช่มั้ย?

คิตาเสะบอกว่าใช่แล้ว ขึ้นชื่อว่าตัวละคร RPG ผมรู้ว่ามีคนมากมายชอบตั้งชื่อตัวละครเป็นชื่อตัวเองกับคนที่ชอบ ทีนี้ด้วยความที่ควิสติสเป็นตัวละครหญิงตัวแรกที่โผล่ขึ้นมาในเกมนี้ ขืนผู้เล่นเอาชื่อแฟนไปตั้งเป็นชื่อควิสติสขึ้นมาก่อน หลังจากนั้นคงจะฉิบหายแน่ เพราะคุณจะไปได้กับผู้หญิงอีกคนที่ไม่ได้ใช้ชื่อแฟนของตัวเอง เพราะงี้ เราเลยตัดสินใจว่าให้เปลี่ยนชื่อได้แค่สคอลล์และริโนอาก็พอ

ผู้สัมภาษณ์ถามว่า เกมนี้มีฉากจบ Happy Ending คือทีมงานตั้งใจจะทำให้มันคอนทราสต์กับฉากจบ FFVII ที่เศร้ากว่าใช่มั้ย?

คิตาเสะบอกว่า เอาจริง ๆ ก็คือใช่ โลกใน FFVII มันมืดมนและหนักใจกว่า ตั้งกะเริ่มต้นในมิดการ์ ก็มองไม่เห็นท้องฟ้าด้วยซ้ำ เกมนี้เราเลยอยากทำสิ่งที่ต่างออกไป อยากให้เป็นเรื่องราวที่สดใสกว่า ผมไม่รู้ว่าโนะเอาฮารึเปล่า แต่โนะบอกว่าเขาอยากให้เป็นเรื่องราวที่ใช้เซตติ้งโรงเรียน ตอนแรกเราก็ไม่รู้จะทำไง แต่ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจเอาอิมเมจที่สดใสกว่า และไฟเขียวไปในทางนั้น

ผู้สัมภาษณ์ถามถึงซีนที่ชอบเป็นพิเศษใน FFVIII

คิตาเสะบอกว่า เขาทำอีเวนต์เยอะแยะเอง ชอบทั้งหมดเลย แต่ถ้าเลือกสักอันนึงเป็นพิเศษ ก็ต้องเป็นฉากจบเกม

คุณนาริตะก็บอกว่า เขาว่าฉากจบเองก็เยี่ยมยอดเช่นกัน

คิตาเสะบอกว่า มูวีที่จากกล้องแฮนดีแคมถ่ายคลิปตัวละครกำลังเฮฮากันไปมา ผมคิดว่าเราถ่ายทอดความมีชีวิตชีวาของตัวละครผ่านการผสมผสานระหว่าง CGI เทคโนโลยีและไอเดียต่าง ๆ ออกมาได้ดีมาก

ผู้สัมภาษณ์บอกว่า เป็นซีนที่คุณคงอยากให้คนที่ซื้อเกมไป ได้เห็นกันมาก ๆ เลย

คิตาเสะบอกว่า ใช่แล้ว ถ้าได้เห็นฉากนี้ ความประทับใจก็จะเปลี่ยนไปเลย

นาริตะบอกว่า ตอนได้เห็นฉากนี้ครั้งแรก ก็ได้ขนลุก หลังจากที่ไม่ได้ขนลุกเพราะเกมมานาน

จาก FFVIII Ultimania หน้า 466-467