FFVII Rebirth - Regional Intel
Grasslands
- Kalm เป็นศูนย์กลางการคมนาคมใน Grasslands มีกำแพงเมืองอันโดดเด่นไว้เฝ้าดูการขนส่งสินค้าและการสัญจรต่าง ๆ ในช่วงสงครามกับสาธารณรัฐจูนอน ชินระยึด Kalm ไว้เพราะเป็นปราการอันแข็งแกร่งและเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ และยังคงอยู่ใต้ชินระนับแต่นั้นมา
- Kalm ไม่มีเตาปฏิกรณ์ของตัวเอง เลยใช้ต่อส่งมาโคจากมิดการ์ มีการกักเก็บไว้ในแทงก์ขนาดใหญ่ ทำให้ชาวบ้าน ได้ทั้งความสะดวกสบายและธรรมชาติที่ยังแข็งแรง การผสมผสานสองอย่างนี้ ทำให้เป็นที่ดึงดูดผู้เข้ามาอาศัยมากมายในช่วงหลัง
- ประมาณ 10 ปีก่อน เมืองได้รับความเสียหาย แม้ชินระจะเข้ามาแทรกแซง และพยายามฟื้นฟู แต่รายละเอียดของเหตุการณ์และความเสียหายนั้นก็ไม่เป็นที่แน่ชัด
- แม้ชานเมืองมิดการ์จะแห้งแล้งเพราะการสูบมาโค แต่ระบบนิเวศใน Grasslands ยังคงดีอยู่ มีสายน้ำไหลจากเทือกเขาตอนกลางหล่อเลี้ยงทุ่งหญ้าเบื้องล่าง กลายเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์มากมาย ชาวไร่ชาวนา ก็ได้รับประโยชน์จากสภาพแวดล้อมนี้
- ส่วนพื้นที่ชายเลนขนาดใหญ่ของดินแดนตอนล่าง สมัยก่อนเห็นเรือและเกวียนโจโคโบะประจำ แต่ทุกวันนี้ที่เดินทางกันทางทะเลและอากาศเป็นหลัก การเดินทางในพื้นที่ชายเลนเลยลดลงเรื่อย ๆ แถมยังมีงูกินคน Midgarsormr ปรากฏตัวในช่วงหลัง เลยไม่ค่อยมีคนกล้าเสี่ยงใช้เส้นทางเก่านี้ ถึงหนีงูพ้น ก็อาจตกเป็นเหยื่อของหล่มบึงที่ไม่สามารถออกมาได้
- เหมืองมิสริล เป็นเส้นทางธรรมชาติทะลุผ่านภูเขาที่กั้นระหว่างจูนอนและ Grasslands อุดมด้วยมิสริลมายาวนาน แร่นี้มีทั้งความแข็งแกร่งและระยิบระยับ ในประวัติศาสตร์ก็ถูกนำมาใช้สร้างอาวุธและเกราะชั้นเลิศ แต่แล้วก็เสื่อความนิยมหลังจากชินระสร้างแร่สังเคราะห์ที่เหนือกว่า
- หลังจากเหมืองถูกปิด สาธารณรัฐจูนอนได้เปลี่ยนเป็นอุโมงค์สำหรับการคนทั่วไป ทำให้สามารถเดินทางไปมาระหว่าง Grasslands กับจูนอนได้ มิสริลที่ระยิบระยับ ก็ยังดึงดูดสายตาคนนักท่องเที่ยว แต่แล้วหลังชินระพิชิตสาธารณรัญ อุโมงค์ก็ถูกทิ้งร้าง ส่วนต่าง ๆ ในเหมืองก็ชำรุดทรุดโทรม และส่วนลึกก็เต็มไปด้วยอันตรายมากมาย
Junon
- ชาวจูนอนส่วนใหญ่เคยเป็นกะลาสีมาก่อน พวกเขาจะกลับขึ้นฝั่งเพื่อเอาของในทะเลมาเร่ขาย ในขณะที่ชุมชนอื่นจะตั้งรกรานในพื้นที่ใดสักที่แล้วค่อย ๆ ขยายอาณาเขตออกไป แต่กะลาสีนั้นชอบอิสรภาพในทะเลเปิด เมื่อเวลาผ่านไปก็รวมกลุ่มคนที่มีจิตวิญญาณเดียวกันมาสร้างสังคมของตนเองขึ้น
- ในฐานะสาธารณรัฐ พวกเขานำกองเรือขนาดยักษ์มาสร้างเมืองลอยน้ำ เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางของเครือข่ายการค้า เมื่อมีรากฐานอันแข็งแกร่งแล้ว พวกเขาก็ตั้งเป้าจะรวมผู้คนจากทั่วโลกให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
- แม้จูนอน จะเป็นจุดเริ่มต้นของยุคแห่งความเจริญทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม แต่ก็ไม่ได้ยั่งยืนตลอดไป การปฏิวัติเทคโนโลยีมาโคของชินระ ทำให้เมืองแห่งความภาคภูมิใจของชาวจูนอน ซบเซาอยู่ใต้คลื่นไป
- เมื่อพิชิตสาธารณรัฐจูนอนได้ ชินระก็สร้างป้อมปราการไร้เทียมทานบนชายฝั่งใจกลางถิ่นศัตรู ติดตั้งปืนใหญ่ขนาดมหึมาที่ยิงไปได้ไกลถึงวูไถ ฐานบัญชาการนี้มีลักษณะคล้ายเรือรบจขนายักษ์ที่ผงาดขึ้นจากทะเลลึกเพื่อปกป้องทวีปฝั่งตะวันออก
- จูนอนนั้นเป็นเมืองที่ประกอบด้วยหลายชั้น แต่ละชั้นมีอาคารที่เดิมออกแบบมาเพื่อสนับสนุนความต้องการของบุคลากรในกองทัพ หลังจากสงครามกับวูไถ หลายอาคารเปลี่ยนนเป็นโรงแรมและร้านค้าปลีก ปัจจุบันท่าเรือและสนามบิน ก็มีก็มีประชาชนมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก
- ทั้งนี้ กองทัพก็มีการฝึกซ้อมอยู่เป็นประจำ หากมีความจำเป็นเกิดขึ้น ก็สามารถใช้มาตรการป้องกันตอบโต้ได้ในฉับพลัน แปลงเมืองให้เป็นป้อมปราการที่พร้อมจะต่อสู้ได้ทันที
Corel
- ปัจจุบันคอสตาเดลโซลเป็นรีสอร์ทริมชายหาดที่โด่งดัง แต่ครั้งหนึ่งก็เคยเป็นเครือข่ายหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ รวมกัน ทว่าเมื่อความสัมพันธ์ระหว่างชินระและสาธารณรัฐจูนอนเสื่อมลง ชินระก็ได้ยึดหาดส่วนนี้ไว้ หลังสงคราม ชินระก็ได้ปฏิรูปพื้นที่แปลงนี้ใหม่ ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับผู้แสวงหาแสงแดดมาจนถึงทุกวันนี้
- คอสตาเดลโซลยังมีแพ็คเกจท่องเที่ยวสำหรับงบประมาณทุกระดับ รองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก แพลนแบบที่รวมทริปไปยังโกลด์ซอเซอร์ค่อนข้างได้รับความนิยม
- ในยุคของสาธารณรัฐ ถ่านหินเป็นที่ต้องการเป็นอย่างมาก ภูเขาโคเรลที่มีถ่านหินมั่งคั่งก็ดึงดูดเหล่าคนขุดเหมืองจากแดนไกล แม้งานจะลำบากและอันตราย แต่คนงานก็รวมพลังกันก้าวข้ามความยากลำบาก และสร้างชุมชนที่กลมเกลียวกันขึ้น
- แต่แล้วการมาถึงของมาโค ทำให้ราคาถ่านหินถล่มร่วง ชาวโคเรลถึงคราหายนะ ขณะที่พวกเขาพยายามดิ้นรนหาทางออก ชินระก็เสนอให้ก่อสร้างเตาปฏิกรณ์มาโค และหลังจากโต้เถียงกันมากมาย ชาวบ้านก็ยอมรับข้อเสนอนั้น
- เตาปฏิกรณ์ได้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนน่าประหลาดใจ แต่ก่อนที่มันจะได้เปิดใช้งาน มันก็ระเบิดเป็นเสี่ยง ๆ และเหลือไว้เพียงซากนับจากนั้นมาก
- ตำนานของโกลด์ซอเซอร์ เริ่มต้นจากพนักงานของชินระที่ชื่อดิโอ โน้มน้าวให้บริษัทสร้างพิพิธภัณฑ์สถานขึ้น แม้ว่ามันจะล้มเหลว แต่ดิโอก็ไม่ท้อถอย เขาจึงตั้งเป้าที่จะก่อตั้งสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยตอนแรกคิดว่าจะให้เป็นเพียงสถานที่จัดนิทรรศการเล็ก ๆ
- หลังเหตุการณ์เตาปฏิกรณ์มาโคของโคเรลระเบิดเมื่อ 4 ปีก่อน ก็มีแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจในท้องที่นี้ขึ้น พอได้ยินแบบนั้น ดิโอเลยตัดสินใจย้ายที่จัดนิทรรศการของเขามายังที่แห่งนี้ จนกลายมาเป็นสถานบันเทิงสุดล้ำสมัย
- โกลด์ซอเซอร์ที่รู้จักกันในปัจจุบัน ใช้พลังงานจากเตาปฏิกรณ์ย่อยหลายเตา ซึ่งมันไปเร่งการแปรสภาพพื้นที่โดยรอบที่แห่งนี้ให้กลายเป็นทะเลทราย เพื่อทุเลาปัญหานี้ ปัจจุบันจึงให้เตาปฏิกรณ์ให้ทำงานน้อยที่สุด เพื่อบรรเทาความเสียหายที่เกิดต่อสิ่งแวดล้อม
Gongaga
- สมัยโบราณก็องกาก้า เป็นที่อาศัยของลูกหลานชาวเซทร่าที่ใช้ชีวิตกันอย่างสันโดษ ในยุคต่อ ๆ มาดินแดนแห่งนี้ก็มักถูกมองข้ามจากอาณาจักรและจักรวรรดิต่าง ๆ จนกระทั่งสาธารณรัฐจูนอนคิดจะแผ่ขยายอิทธิพลมายังตะวันตก พวกเขาก็ค้นพบที่แห่งนี้ ทว่าค่าใช้จ่ายในการสร้างเส้นทางการค้าผ่านเข้าไปยังป่าทึบนั้น มันสูงกว่าผลประโยชน์ที่จะได้รับจากชุมชนเล็ก ๆ แห่งนี้ จึงเลือกที่จะสร้างลานบินและสิ่งอื่น ๆ แทน
- เมื่อสงครามระหว่างสาธารณรัฐและชินระปะทุขึ้น คนบนโลกก็ได้รับผลกระทบในระดับที่แตกต่างกัน ทว่าคนในก็องกาก้าเป็นข้อยกเว้น การอยู่ไกลห่างจากเวทีสงคราม แปลว่าพวกเขาไม่ถูกเกณฑ์ไปรบ และไม่เคยเกิดการนองเลือดในหมู่บ้านมาก่อน
- หมู่บ้านก็องกาก้าตั้งอยู่ใจกลางป่าชื้น ซึ่งมีมอส เฟิร์น และเห็ดนานาพันธุ์เจริญเติบโต ผู้คนที่นี่มีธรรมเนียมในการพึ่งพาตนเอง โดยปลูกพืชผลและทำปศุสัตว์ให้เพียงพอต่อการดำรงชีพของส่วนรวม แม้หมู่บ้านนี้จะไม่ได้มีความทะเยอทะยานด้านธุรกิจ แต่เห็ดก็องกาก้า ก็เป็นพืชท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงในด้านกลิ่นที่แรงเข้มข้นและราคาที่เอาเรื่อง
- สถานการณ์ของก็องกาก้าแย่ลงหลังจากเกิดการระเบิดของเตาปฏิกรณ์มาโคในบริเวณใกล้เคียง แม้พื้นที่ป่าส่วนใหญ่จะถูกประกาศให้เป็นเขตภัยพิบัติชั่วคราว แต่ด้วยความที่หมู่บ้านตั้งอยู่ในพื้นที่สูง ชาวบ้านจึงรอดพ้นจากผลลัพธ์อันเลวร้าย นับเป็นความโชคดีเล็ก ๆ จากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นเบื้องล่าง
- เตาปฏิกรณ์รุ่นแรกซึ่งใช้แม่แบบจากเครื่องที่นีเบิลมีแนวโน้มที่จะเกิดความผิดปกติเนื่องจากความผิดพลาดในการออกแบบระบบความดัน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ชินระย่อท้อที่จะนำมันไปติดตั้งในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลกรวมถึงก็องกาก้า
- การที่บริษัทเกิดความผิดพลาดในกระบวนการตรวจสอบและขั้นตอนบำรุงรักษา นำไปสู่การเกิดระเบิดร้ายแรงที่คร่าชีวิตชาวบ้านมากมาย เพื่อแสดงการยอมรับว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ดังกล่าว ชินระจึงได้สร้างอนุสาวรีย์อุทิศให้กับเหยื่อในเหตุการณ์
- อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ใช่ความผิดพลาดเพียงหนึ่งเดียว ยังมีเตาปฏิกรณ์อื่น ๆ อย่างน้อยอีกหนึ่งเตาที่ระเบิดในลักษณะเดียวกัน (โคเรล) และไม่น่าแปลกใจที่บริษัทกำลังพยายามสืบสวนเรื่องสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ที่เรียกว่า “เวพ่อน” ที่มีผู้พบเห็นใกล้ซากเตาปฏิกรณ์มาโคที่เหลือออยู่
Cosmo Canyon
- คอสโมแคนยอนตั้งอยู่ทางภาคใต้ของทวีปตะวันตก ที่นั่นมีหุบเขาและถ้ำมากมายก่อตัวขึ้นภายในชั้นดินสีแดง ในอดีตกาลได้เกิดแผ่นดินไหวที่ทำให้ชั้นดินเหล่านี้ขึ้นมาอยู่เหนือผิวน้ำ ต่อมามันถูกกัดเซาะโดยกระแสไลฟ์สตรีมจากเบื้่องล่าง ทำให้ดินแดนแห่งนี้มีลักษณะเฉพาะตัว (*เป็นการอธิบายว่าทำไมที่นี่ถึงมีเกลืออยู่มากมาย ตอบคำถามที่บิลลีบ็อบสงสัยว่าที่นี่เคยเป็นทะเลรึเปล่า?)
- ตลอดทั้งปี หุบเขาแห่งนี้จะมีฝนตกน้อยมาก แถมระหว่างที่ราบสูงกับหุบเขาก็มีความแปรปรวนของอุณหภูมิค่อนข้างมาก เพราะฉะนั้นเลยทำเพาะปลูกยาก ทางรอดเดียวก็คือการดิ้นเราเอาตัวรอดไปวัน ๆ ถึงกระนั้นก็ตาม หุบเขาแห่งนี้เป็นจุดหมายของผู้สนใจศึกษาค้นคว้าดวงดาววิทยา นอกจากนักวิชาการ และสาวกแล้ว ที่แห่งนี้ยังมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งมาเพื่อแสวงหาบรรยากาศความลี้ลับ นอกจากนี้ในทางปฏิบัติแล้ว ความแห้งแล้งและการที่ไม่มีเมฆปกคลุมก็เอื้อต่อการสังเกตการณ์รายละเอียดบนฟากฟ้า ทำให้หุบเขาแห่งนี้เป็นที่นิยมในหมู่นักดาราศาสตร์เช่นกัน
- เหล่าผู้ก่อตั้งหมู่บ้านที่มีชื่อเดียวกันกับหุบเขา ได้ใช้ประโยชน์จากถ้ำที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และหลังการคิดค้นเรื่องดวงดาววิทยา ผู้คนก็เริ่มหลั่งไหลเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ ปริมาณทางเดินชั่วคราวเอย ที่พักลักษณะเต็นท์เอย ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้พื้นที่อาศัยยังคงขยายตัวต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงทุกวันนี้
- แทนที่จะพึ่งพามาโค ชาวบ้านที่นี่ได้สร้างกังหันลมขึ้นมาหลายแบบ แต่ละบ้านก็มีอุปกรณ์สำหรับกักเก็บกระแสไฟฟ้า ผู้นำของนักดวงดาววิทยา บูเกนฮาเกน เป็นผู้แนะนำพลังงานลมแก่คอสโมแคนยอน แถมยังว่ากันว่าเทคนิคสุดอัศจรรย์ของเขานั้น ได้แรงบันดาลใจมาจากวิถีของชาวเซทร่า
- ในส่วนอาหารการกิน อาหารของชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบด้วยธัญพืชและพืชตระกูลถั่วที่ปลูกแถวหมู่บ้าน เสริมด้วยเนื้อสัตว์ป่าที่ได้จากการล่าสัตว์แบบดั้งเดิม
- ในอดีตอันไกลโพ้น ชาวเซทร่าได้ติดต่อกับชาวกี สิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถหวนกลับสู่ไลฟ์สตรีมได้ ด้วยความเวทนา เซทร่าจึงได้สร้างแทนบูชาเพื่อสื่อสารและปลอบวิญญาณที่ทุกข์ทรมานเหล่านั้นให้สงบลง ด้วยความหวังว่าจะสามารถหาหนทางที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติได้
- แต่เมื่อเวลาผ่านไป ชาวเซทร่าก็เริ่มรู้ถึงหายนะที่จะเกิดขึ้นกับดวงดาว จึงตัดสินใจที่จะถ่ายทอดความรู้ของพวกเขาแก่ชาวคอสโมแคนยอน คำสอนนั้นได้กลายมาเป็นรากฐานของดวงดาววิทยา ซึ่งยังคงถูกพัฒนาต่อไป ผ่านการค้นคว้า แลกเปลี่ยน พร้อมเผยแพร่ออกไปทั่วโลก
- เมื่อชาวเซทร่าออกไปจากคอสโมแคนยอนจนหมด ก็ไม่เหลือใครที่จะคอยประโลมชาวกี พวกมันที่ทุกข์ทนและโกรธแค้น จึงหันมาลงกับชาวบ้าน มีนักรบผู้กล้าหาญมากมายที่สละชีวิตต่อสู้กับวิญญาณอาฆาตเหล่านั้น และจองจำพวกมันไว้ในคุก
Nibel
- ว่ากันว่าอีกฝั่งของหน้าผาอันสูงชันขรุขระและรกร้างของหุบเขานีเบิล มีดินแดนของผู้ตายอยู่ ทำให้น้อยคนนักที่กล้าจะย่างเท้าเข้าไปใกล้ ที่จริงแล้วขนาดพืชพรรณก็ยังต้องดิ้นรนในการที่จะเจริญเติบโตขึ้นในที่แห่งนี้ ไหนจะหินถล่ม หินกลิ้งลงมาอีก ชาวบ้านจึงแทบไม่มีเหตุผลที่จะเดินทางเข้ามาเสี่ยงอันตราย
- ถ้ำหลายแห่งภายในหุบเขานั้น เต็มไปด้วยไอระเหยจากมาโค ด้านในนั้นก็มีบ่อมาโคที่ตกผลึกมาเทเรียขึ้นเองตามธรรมชาติ การที่ชินระพยายามค้นหาแหล่งพลังงานใหม่ ทำให้พวกเขาได้มาพบภูเขานีเบิล ซึ่งการที่มันเป็นสถานที่ซึ่งอุดมไปด้วยมาโค ทำให้มันเป็นที่ในอุดมคติสำหรับการสร้างเตาปฏิกรณ์เครื่องแรกของโลกขึ้น
- แม้ที่แห่งนี้จะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาพลังงานมาโค ทว่าช่วงเวลาที่เตาปฏิกรณ์ของนีเบิลโด่งดังปังพลุแตกก็ค่อนข้างสั้น ปัจจุบันเตาก็เดินเครื่องด้วยกำลังผลิตที่ลดลงเป็นอย่างมาก
- ภายใต้ร่มเงาของแนวเขาขรุขระที่ตีนเขานีเบิล ชาวนีเบิลไฮม์นั้นแทบไม่มีอะไรไปนำเสนอต่อโลกภายนอก ทว่าชีวิตอันเงียบสงบของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เพื่อชินระค้นพบมาโคปริมาณมหาศาลภายในหุบเขา
- บริษัทเริ่มต้นความพยายามด้วยการก่อตั้งคฤหาสน์ชินระบนที่ดินเช่า ที่นั่นเองที่หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนา ศจ.กัสต์, และผู้ช่วยของเขา ศจ.โฮโจ ได้บุกเบิกการศึกษาเกี่ยวกับมาโคและเจโนวา
- การที่ชินระเข้ามาลงทุนในที่แห่งนี้ ช่วยให้ชาวนีเบิลไฮม์หลุดพ้นจากความยากจน แต่แล้วความสุขและความรุ่งเรืองของพวกเขาก็คงอยู่ได้ไม่นาน เมื่อหมู่บ้านถูกเผาจนราบและคนบริสุทธิ์มากมายถูกเซฟิรอธฆ่าตาย
- ภายหลังได้มีการสร้างนีเบิลไฮม์ขึ้นใหม่ให้เหมือนเดิมเป๊ะ ๆ ขึ้นในที่แห่งนี้
Post a Comment