FFVII Rebirth - รวมเรื่องเควสต์ Cosmo Canyon
เควสต์ 1 - เจอพวกปอล์ก นาโย บิลลีบ็อบ ที่เข้ามาทักทายยุฟฟี บิลลีจะถามถึงโซนอน ขณะที่ยุฟฟีอึกอัก แบร์เร็ตจะเข้ามาทัก นาโยรู้ว่าพวกแบร์เร็ตเป็นกลุ่มแยก ยุฟฟีเลยแนะนำว่า 3 คนนี้มาจาก HQ และช่วยเหลือเธอตอนอยู่ในมิดการ์ แบร์เร็ตจะถามนาโยว่า ตอนที่พวก HQ บุกตึกชินระกัน เวจด์อยู่ด้วยใช่มั้ย? ทั้งสามอธิบายว่าตอนที่เกิดการถล่มเพลท 7 เพื่อสังหารหมู่ พวกเขาอยากช่วยแต่ไม่รู้จะทำไงเลย จากนั้นเกิดการเรียกจาก Avalanche HQ เราได้ทราบว่าชินระเป็นคนสั่งดรอปเพลท และถ้าพวกเราไม่ทำอะไร เขาจะดรอปเพลทอื่นอีก ทาง HQ เลยขอกำลัง ช่วยกันบุกเข้าตึกชินระ
- เวจด์กับปอล์กขึ้นรถตู้คันเดียวกัน กัปตันบอกว่าจะลอบเข้าตึกผ่านลานจอดรถชั้นใต้ดิน และค่อย ๆ ยึดขึ้นไปทีละชั้น จากนั้นมีคนในทีมบอกว่า ไม่สามารถติดต่อทีมของลูเซียได้ พวกเขาทั้งหมดอาจจะ… กัปตันบอกพอแล้ว เช็คกับแมตต์ก่อน
- เวจด์เอาแซนวิชมาแบ่งให้ปอล์กที่กระวนกระวาย เพื่อลดความเครียด
- ปอล์กเล่าว่าพวกเราก็วิ่งขึ้นบันได กะขึ้นชั้นบนไปปลิดชีพประธาน ทีแรก Avalanche ก็ไม่คิดทำอะไรแบบนั้น แต่เหตุการณ์เพลทถล่ม ทำให้กฎเปลี่ยนไป
- พอผ่านบันไดมาได้ กัปตันบอกในที่สุด เราจะเอาโลกเราคืนมา
- เวจด์เจอโดมิโน แล้วบอกว่าอยากบอกให้เพื่อนที่อยู่ด้านบนรู้ว่าพวกเขามาแล้ว แต่ไม่อยากให้พวกเขาบาดเจ็บ
- นาโยที่รอด้านนอกตึก ฟังวิทยุสื่อสาร ได้ยินว่าว่าทีมที่บุกเข้าไปเสียท่า แถมยังขาดการติดต่อกับกำลังเสริม แบบนี้ไปไม่ถึงออฟฟิศของประธานแน่ ยกเลิกภารกิจ แล้วก็มีเสียงอ๊ากกกก
- พวกบิลลี ปอล์กวิ่งออกมานอกตึก แล้วเห็นเวจด์ตอนโดนฟีลเลอร์พัดตกตึกลงมาพอดี
- แบร์เร็ตเลยได้ยินและเสียใจ แต่จากนั้นเขาได้ยินเสียงเวจด์บอกว่าไม่เป็นไรนะลูกพี่
- เรดบอกว่า คนที่จากไปแล้วจะกลายเป็นหนึ่งเดียวกับไลฟ์สตรีม เสียงที่ได้ยินอาจเป็นแค่สายลม
- นาโยบอกในอดีตเซทร่า จะมาที่บ่อน้ำมนต์ (fonts) เพื่อขอบคุณไลฟ์สตรีม แต่ทุกวันนี้เหลือไม่มากแล้ว เลยอยากรักษาเท่าที่เหลืออยู่ไว้ เพื่อคนที่กลับสู่ดวงดาว นาโยอยากให้ช่วยฟื้นฟูบ่อน้ำมนต์ที่นี่ มันเป็นแหล่งพลังงานหลักของดินแดนแห่งนี้ เป็นวาล์วระบายไลฟ์สตรีม แต่มาโคมันเข้มข้นไป เข้าใกล้ไม่ได้เลย เลยใช้เครื่องมือเข้าไปซ่อมแทน แต่หุ่นช่วยเหลือมันเก่าไปหน่อย
- แชดลีย์อัปเดต Robochad ให้เข้าไปจัดการฟื้นฟูได้
- ไปบ่อถัดไป แชดลีย์บอกเขาได้ข้อสรุปว่าเซทร่าสร้างที่แห่งนี้ มาใช้เก็บสิ่งที่มาจากนอกโลก เรดจะสงสัยว่าเป็นพวกกิรึเปล่านะ แชดลีย์บอกอาจจะนะ แต่สัญญาณบอกว่าเป็นอย่างอื่น
- แบร์เร็ตคุยกับทิฟาว่าตอนอยู่บาร์ เราเคยอยากมาที่แคนยอนกันตลอดเลยเนอะ ทิฟาก็บอกว่าจำได้ ตอนนั้นทุกคนช่วยกันลองค็อกเทลใหม่ของเธอ เจสซีดื่มคอสต้าเดลโซลจนเมา ส่วนบิ๊กส์ลองคอสโมแคนยอน เวจด์เปิดประตูเข้ามาและบอกว่าหาเกลือคอสโมมาให้ได้แล้ว จะได้มีรสชาติท้องถิ่นด้วย เกลือที่ขุดมาจากแคนยอนเลย ซึ่งพอหยอดเกลือลงไป ค็อกเทลทั้งหมดก็ยิ่งรสชาติดีขึ้นมา จนทิฟาเสียดายที่มันหายาก เวจด์เลยงัดขึ้นมา 7 กระปุก บอกว่าเหมามาหมดร้านแล้ว บิ๊กส์บอกว่าถ้ามันฮิตขึ้นมา แป็ปเดียวก็หมดแน่ เวจด์เลยบอกงั้นไปคอสโมแคนยอนกันเถอะ จะเอากลับมาเท่าไหร่ก็ได้ แบร์เร็ตถามว่าเรามีเงินกันขนาดไปทริปแบบนั้นเหรออออ ทิฟาเลยยื่นให้แบร์เร็ตลองดื่ม แบร์เร็ตบอกฉิบหาย งี้ต้องไปให้ได้แล้ว
- บิลลีบ็อบบอกว่าเคยมีอุตสาหกรรมเกลือเจริญรุ่งเรืองที่นี่มาก่อน แต่ล่มสลายไปพร้อมยุคสาธารณรัฐ แต่เกลือมันต้องมาจากทะเลใช่มั้ย? ดังนั้นที่นี่ อาจเคยเป็นทะเลมาก่อน
- สมัยก่อนเวจด์เคยบอกว่า อยากทำประโยชน์มากกว่านี้ ไม่อยากเป็นตัวถ่วง ทว่าไม่มีใครพูดแบบนั้นเลย เวจด์มักคิดไปแบบนั้นเอง แบร์เร็ตก็บอกว่าถ้าหมอนั่นเอาเวลาไปสนใจแมวกับการกินแทน ก็คงจะดี
- พอได้ Protorelic มา แชดลีย์จะสงสัยว่าเมื่อเขาตาย เขาจะกลับคืนไลฟ์สตรีมด้วยมั้ยนะ? แบร์เร็ตก็บอกแหงแซะ
- ทิฟาบอกพวกนาโยว่าเราซ่อมบ่อน้ำในโบราณสถานหมดแล้ว เอาไงต่อ? บิลลีบ็อบบอกว่าอยากเข้าร่วมกลุ่มพวกเราด้วย? นาโยขัดขึ้นว่ามึงใจเย็น บิลลีบ็อบก็บอกว่าพวกเราทำอะไรได้มากกว่า HQ ซะอีก
- แบร์เร็ตขัดว่าเขาไม่ต้อนรับพวกที่ไม่พร้อมจะตาย ใจนายคิดถูกแล้ว แต่พวกนายมีเส้นทางของตัวเอง ที่ต้องเดินต่อไป
- แบร์เร็ต นึกถึงตอนวันที่ตัวเองกล่าวกับทุกคนว่าจะไม่ถอยจนกว่าชินระจะมอดไหม้ควันโขมง แล้วทุกคนก็ไชโย
- กลับมาปัจจุบันแบร์เร็ตบอกทิฟาว่า 3 คนนั้นคงไม่อยากให้เราเป็นแบบนี้ ฉันไม่ได้อยากให้ลืม จะไม่มีวันลืมพวกเขา แต่ฉันกับเธอ เราต้องเลิกใช้ชีวิตแบบรู้สึกผิดและจมทุกข์
- แบร์เร็ต ทิฟา คลาวด์ ปล่อยโคม แล้วแอริธภาวนา
- คลาวด์วาร์ปมามิติกิลก้าแมช กิลก้าแมชเข้ามาโจมตีทันที หวังจะเอา Protorelic คืน เลยสู้กัน กิลก้าแมชแพ้แล้วบอกว่าเพราะตัวเองขาดพลังของเก็นจิ แล้วกิลก้าแมชก็รู้สึกอยากได้ดาบของคลาวด์ขึ้นมา เขาคิดว่าความกระหายอาวุธ ทำให้หลงมาที่นี่? ทำไมถึงจำไม่ได้กันนะ? มันจะตะเกียกตะกายขอเก็นจิคืน แต่คลาวด์หลบแล้วบ่ายเบี่ยงท่าเดียว
- กลับมามิติปกติ แชดลีย์บอกเขาใจละ เขาสูญเสียความทรงจำ แล้วอยากได้ Protorelic ไปทำให้ความจำกลับมา จะได้เป็นคนเดิม Protorelic น่าจะเป็นเครื่องอาวุธจากมิติอื่น เพราะยักษ์ที่เคยเจอ ก็น่าจะมาจากมิติอื่น แล้วเขาก็สามารถสร้างปรากฏการณ์ในมิตินี้ได้ ทั้งที่ไม่มี Protorelic ด้วยซ้ำ เดาไม่ถูกเลยว่าถ้าเขาได้พลังคืนมาเต็มที่ จะร้ายกาจขนาดไหน ดังนั้นเราหาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจว่าจะคืนเขาหรือไม่ดีกว่า
- ปอล์กบอกว่าพวก SRC พยายามทำข้อตกลงกับ HQ ไม่รู้ว่าพวกมันคิดเล่นเกมอะไร
- ยุฟฟีถามนาโยว่าไม่เห็นซีเจี่ยเลย นาโยบอกว่าซีเจี่ยแยกทางไปจัดการธุระ หลังพวกเธอมาถึงคอสโมแคนยอน
เควสต์ 2 - ช่วยม็อคกลับมาเปิด Moogle Emporium ได้ครบ
- คลาวด์โดนสาปให้กลายเป็นม็อก และโดยจับฝึกหัดบิน
เควสต์ 3 - Kamaria มีลูกสาวชื่อ Shani เป็นจ็อคกี้ของฟาร์ม เคยขี่โบะแล้วตกลงมาระหว่างแข่ง จากนั้นก็ไม่กลับขึ้นไปบนอานอีกเลย เขาทำคอร์สวิ่งไว้มากมาย แต่สูญเปล่า ลูกไม่ได้ใช้แล้ว แต่ถ้าอยากลอง ต้องไปจับโบะเองนะ พวกไม่กลัวความสูงอย่าง Aponi
- เจอ Shani ซึ่งยังดูแหยงการขี่โบะอยู่
- ยุฟฟีเอา Aponi ไปขี่คล่องแคล่วแล้วมาบลัฟ Shani
- Shani บอกว่าเธอขี่ Aponi มานาน เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว แต่ตอนการแข่งครั้งสุดท้าย เธอพลาดชนโจโคโบะอื่น ตัวเองร่วงลงมา เห็นอุ้งตีนอุ้งเท้าโจโคโบะตัวอื่น พุ่งมาหาตัวเอง แล้วก็เป็น PTSD หลอนเห็นภาพนั้นตลอด
- Shani บอกว่าวันที่ร่วงลงมานั้น มั่นใจเกินไป คิดแต่ว่าจะเอาเงินไปทำอะไรดี คิดว่าหวานเจี๊ยบแล้ว แต่ตอนโค้งสุดท้าย ซิงโครหลุด รู้ตัวอีกทีก็คลุกฝุ่นแล้ว Aponi ก็รีบกระโดดเข้ามาขวางตีนให้ เพื่อปกป้องเธอ ทำให้ Aponi บาดเจ็บ ตอนนี้เลยไม่กล้ากลับขึ้นอาน กลัวทำ Aponi ต้องบาดเจ็บอีก
- ยุฟฟีบอกคลาวด์เอาเลยลูกพี่ ใช้ทักษะการแปลภาษาโบะของพี่ซะ
- คลาวด์บอก Aponi พูดว่ามันเป็นอุบัติเหตุ เราเรียนรู้และเติบโต จะไม่พลาดซ้ำสองอีก ไว้หายแล้ว กลับไปลงสนามกันอีกเถอะนะ
- Shani เลยกลับขึ้นขี่อีกครั้ง โดยแม่ Kamaria ก็ดีใจ แล้ว Shani จะขอฝาก Aponi ให้เราดูแลไว้ก่อน ส่วนเธอก็จะไปเคาะสนิมให้ฝีมือกลับมา
เควสต์ 4 - Caesar ครูคนหนึ่งในแคนยอน เห็นแมลงป่องที่เป็นสัญญาณถึงลางร้าย แต่ดวงดาวจะแสดงปรากฏการณ์บนท้องฟ้า ด้วยกลุ่มดาวที่เป็นหลักฐานแห่งชัยชนะ ตามรูปตัวอย่างทางประวัติศาสตร์ เมื่อดวงดาวชนะ อุกกาบาตแห่งความรุ่งโรจน์จะตกลงมาจากสวรรค์ เลยอยากให้พวกเราไปช่วยถ่ายรูปมาให้หน่อย ตามจุดที่แมลงป่องอยู่
- ไปถ่ายรูปตามจุดต่าง ๆ แล้วคลาวด์แอบถ่ายแอริธด้วย
- พอจุดสุดท้ายแอริธบอกรู้นะว่าแอบถ่ายรูปชั้นอยู่ มาเซลฟี่กัน แล้วคลาวด์ก็ถ่ายให้ เสร็จแล้วแอริธจะภาวนาต่อดวงดาวต่อ คลาวด์จะเรียกชื่อ เหมือนจะพูดอะไรด้วย แต่ก็เปลี่ยนใจไม่พูด
- เอารูปไปส่งให้ Caesar เขาจะบอกว่าดวงดาวเราแข็งแกร่งและงดงาม ไม่ว่าหายนะอะไร เราก็ไม่ต้องกลัว
- ผู้ช่วยบอกว่า มีอุกกาบาตเยอะกว่าที่เคยสังเกตการณ์ไว้นะครับ หรือเป็นลางว่าดวงดาวเราแข็งแกร่งขึ้น
- Caesar บอกใช่แล้ว และถ้าพิจารณาตำแหน่งและลากกันเป็นเส้น ก็เป็นแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย
- คลาวด์ถามแอริธว่าขออะไรกับดาวตกหรอ? แอริธบอกก็ขอเหมือนทุกคน ให้ดวงดาวปกป้องเราจากภยันตราย
- แอริธถามบ้างว่าตอนข้อ b นั่น จะถามอะไรเธอ แต่คลาวด์แกล้งทำเป็นไม่รู้หมายถึงตอนไหน แอริธก็หวังว่าดาวตกจะพูดอย่างตรงไปตรงมา
เควสต์ 5 - บูเกนฮาเกน กำลังหาเครื่องมือไปทำงานภาคสนาม นานาคิจะอาสาทำแทน บูเกนบอกว่า Lifespring มันเปลี่ยนสถานที่ได้ ไม่ค่อยอยู่ที่เดิมนาน แล้วเขาจะให้เอามิเตอร์ไปวัดความถี่มาโคแต่ละจุด
- บูเกนบอกเขาต้องจัดของบ้างแล้ว จำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ทำรายการครุภัณฑ์นั้นนานแค่ไหนมาแล้ว
- บูเกนตามมาเปิดเกท และดูเราวัดค่าด้วย
- หน่วยวัดเป็น Gz มาจาก Giesel ชื่อของบูเกนฮาเกน เพราะเขาเป็นคนแรกที่ค้นพบว่าไลฟ์สตรีมปล่อยพลังงานที่เราวัดค่าได้ จุดที่ 3 วัดได้ 400 Gz
- มีฟีลเลอร์ดำล้อม Lifespring จุดที่ 4 อยู่ เรดถามบูเกนว่าเชื่อเรื่องชะตากรรมมั้ย? บูเกนบอกคำว่าชะตากรรม ก็แค่คำพูดไว้ใช้บรรเทาความเจ็บปวดจากการผิดหวังเท่านั้น เราคือนายของชีวิตเราเอง เห็นด้วยมั้ยคลาวด์? คลาวด์ก็เห็นด้วย เข้าไปวัดได้ 7,000 Gz บูเกนบอกไม่ต้องสงสัยเลยว่ากระแสไลฟ์สตรีมมันเปลี่ยนในทางใดทางหนึ่ง คำถามคือมันเปลี่ยนเองตามธรรมชาติ หรือจากปัจจัยภายนอก
- ไปถึงจุดที่ 5 บูเกนยอมรับแล้วว่ามันเกิดเรื่องขึ้นกับดวงดาว
- Lifespring เป็นบ่อมาโค ตำแหน่งของมันกำหนดจากทิศทางไหลของไลฟ์สตรีมที่เปลี่ยนแปลงเรื่อย ๆ ในช่วงชีวิตบูเกน เขาไม่เคยเห็นบ่อที่เคยอุดมสมบูรณ์เหี่ยวเฉาในเวลาอันสั้นแบบนี้มาก่อน ดวงดาวกำลังเกิดความเปลี่ยนแปลงระดับประวัติการณ์
- เรื่อง Weapon บูเกนเคยได้ยินครั้งแรกในตำราของเซทร่า นึกว่าเป็นนิทานน่าขัน เขาเคยไม่เชื่อว่ามันมีตัวตนอยู่จริง นึกว่าเป็นแค่การอุปมาอุปมัยเท่านั้น ตอนที่เรา (ทิฟา) พูดเรื่องเจอเวพ่อนมา เขาเลยไม่เชื่อ ไม่สิ จริง ๆ เขาคงกลัว เวพ่อนนั้นเกิดเมื่อดวงดาวอยู่ในขั้นวิกฤต เมื่อความอยู่รอดของสรรพชีวิตอยู่ในความเสี่ยง ก็หวังว่าพวกเราจะให้อภัยกับการที่เขาเสียมารยาทในตอนนั้น ทั้งที่เราพูดด้วยดี เขากลับไม่มีเยื่อใย เราต้องเผชิญหน้ากับความกลัว จึงจะหวังถึงการเอาชนะได้ ก็ต้องยอมรับว่าเวพ่อนมาแล้วและเป็นลางของอนาคตอันเลวร้าย
- มีพลังงานร้ายมุ่งเข้าสู่ Lifespring เขาไม่เคยเจอปรากฏการณ์แบบนี้มาก่อน สำหรับตอนนี้ การเฝ้าดูเงียบ ๆ คงเป็นกุญแจไขปริศนา
- สำหรับดวงดาวและไลฟ์สตรีมอันยิ่งใหญ่แล้ว ชีวิตมนุษย์อย่างเรา ๆ และบทบาทสมทบที่เราเล่น ไม่ได้สำคัญอะไร เพราะโลกเราคือการสั่งสมของดวงวิญญาณนับล้าน ๆ ทุกสรรพชีวิตทั้งหมดที่เคยมีมาและจะมีอยู่ไป แต่อย่างไรเสีย พวกเราก็เป็นส่วนนึงของดวงดาว และดวงดาวก็เป็นส่วนนึงของเรา แม้คลื่นเล็ก ๆ ก็อาจรวมพลังกันเป็นคลื่นใหญ่ได้ พวกเราต่างก็ต้องพยายามเต็มที่ในเวลาที่มี บูเกนก็จะพยายาสมค้นหาความลับของดวงดาวต่อไป
- เครื่องส่งสัญญาณของบูเกนสั่น ยาม (Watchman) ในหมู่บ้านแจ้งว่า ทีมสำรวจกลับมาแล้วโดยรายงานว่าพบวิญญาณของชาวกิในหุบเขา เรดก็งงว่าพวกนั้นโดนผนึกไว้ในถ้ำไม่ใช่เหรอ? บูเกนบอกมันเป็นวิญญาณ เราไม่รู้หรอกว่ามันทำอะไรได้บ้าง ดังนั้นฝากไปคุยกับยามด้วย
เควสต์ 6 - ยามบอกว่าทีมสำรวจเห็นเผ่ากินอกเมือง พอเจอก็รีบทิ้งเกวียนแล้วหนีขึ้นลิฟต์ไป
- พวกกิเข้าใจว่าเรดคือเซโตะ แล้วมันจะล้างแค้นด้วยการไล่สิงมอนสเตอร์อื่นมาสู้กับเรา
- พวกกิบอกว่ามันเคยขอร้องให้เซโตะเอามาเทเรียดำกลับมา
- พวกกิเล่าว่าวันนั้น เซโตะบุกเข้าไปในถ้ำใต้คอสโมแคนยอนคนเดียว หวังเจรจาให้ยุติการรุกราน แต่เราเห็นศักยภาพของเขาจนประทับใจ เลยมอบหมายความปรารถนาของเราให้เขา เราหวังให้เขาเอามาเทเรียดำกลับมา และทำให้พวกเราหลุดพ้นจากขุมนรกนี้ เราคิดว่าเซโตะเป็นคนรักษาคำพูด แต่เขากลับทรยศ ทั้งที่ฝากความหวังไว้ กลับเหยียบย่ำ เราเลยคลั่งแค้น เราแห่ยิงธนูใส่ แต่เซโตะไม่สะทกสะท้าน ทั้งที่เขาควรเก็บความลับและสำนึกผิดแท้ ๆ มันไม่ยอมให้พวกเราออกไปจากที่ถ้ำได้ มันตัดสินใจเด็ดเดี่ยว แล้วทุกศรที่ปักลงไป ร่างของมันก็ค่อย ๆ แข็งขึ้น จนเราสูญเสียจิตใจ ยอมรับชะตา จมดิ่งสู่ความมืดที่เรามา แต่ความมืดนั้นมันไม่ได้สุขสบาย และไม่ใช่การดับสูญที่พวกเราไขว่คว้า
- เรดบอกว่า เขาอยากทำสิ่งที่พ่อสัญญาไว้ให้เป็นจริงแทน ต่อให้พวกนายไม่เชื่อ แต่ Gi Nattak เชื่อและมอบหมายให้เราไปเอามาเทเรียกลับมาแล้ว เราจะทำทุกอย่างให้พวกแกได้สู่สุขคติ อย่างที่บอกไป ขอแค่ให้รออยู่ในถ้ำนั้น จนกว่าเขาจะกลับมา มันอาจใช้เวลา แต่เขาก็จะทำ
- พวกกิบอกสัญญาแล้วนะ อย่าเสียสัจจะล่ะ บุตรแห่งเซโตะ
- คลาวด์ถามเรดว่ามึงแน่ใจนะะะ เรดบอกพ่อเข้าใจความทรมานของพวกกิ แต่ก็เข้าใจว่าถ้าพวกกิได้มาเทเรียไป คนอื่น ๆ จะต้องทรมานแทน เขาเลยตั้งใจแบกรับความเจ็บปวดนั้นแทน แม้ต้องกลายเป็นหิน แต่ถ้ามันทำให้คนอื่นไม่ต้องรับผลของความโกรธแค้นนั้นไว้ ก็ยอม เราแค่ต้องหามาเทเรียดำ และทำให้ไม่มีใครเอามันไปได้อีก ไม่ว่าชาวกิ หรือใครก็ตาม… แต่ฉันก็อยากรักษาสัญญา ฉันจะหาทางปลดปล่อยพวกเขาจากความทรมานนี้ มันต้องมีทางออกแน่
- บูเกนก็ออกมาบอกว่าอย่าทอดทิ้งความฝันนั้น มันจะมอบพลังให้เรา และในไม่ช้าก็จะพบคำตอบแน่
เควสต์ 7 - เจอซีเจี่ย กลางดินแดนที่คอสโมแคนยอนกำลังซ่อมรถ ยุฟฟีเลยแนะนำว่านี่คือคนของ Avalanche HQ เป็นเจ้ากรมข่าวสาร
- ซีเจี่ยบอกตอนแรกที่ได้ยินแผนถล่มเพลท 7 ก็ไม่เชื่อ แต่หลังจากแยกกันกับยุฟฟี เขารายงาน HQ ไปทุกอย่างที่ได้ยินมา และให้เพื่อนอพยพให้ทันเวลา ซึ่งส่วนใหญ่หนีทัน แต่ก็ไม่ใช่ทุกคน ภาพที่เพลทถล่มลงมา จะหลอนไปอีกนาน
- ซีเจี่ยบอกหวังว่าเราจะได้ยินคำพูดของผู้พันเกล็นแล้ว ในที่สุดก็มีคนรวมพลังกันจะสู้กับบริษัทเชี่ยนี่สักที วูไถจะกลายเป็นใจกลางของสงครามนี้ เขาพร้อมเดิมพันทุกอย่างเพื่อให้เราชนะ
- ซีเจี่ยบอกพวกนาโยบอกว่าจะเคาะสนิมเรื่องดวงดาววิทยาในคอสโมแคนยอนนี้ซะก่อน เลยแยกทางกันก่อน
- ซีเจี่ยจะขอให้จัดการมอนสเตอร์ที่ถ้าไม่ล่าก็แอบอยู่ใต้ดินให้ เราก็ใช้เครื่องวัดแรงสั่นสะเทือนใต้ดินตามหา
- ซีเจี่ยขับรถมาบอกว่าชินระ น่าจะหาทางตอบโต้ SRC ดังนั้น หลังจากนี้ที่พรมแดนวูไถคงตรวจตราเข้มงวดขึ้น การเดินทางจะลำบาก เขาเลยตัดสินใจกลับวูไถก่อน ส่วนยุฟฟีบอกว่าเธอยังกลับไม่ได้ จนกว่าจะรวบรวมมาเทเรียเจ๋ง ๆ ได้เยอะ ๆ
- เลยลากัน ยุฟฟีบอกกันที่วูไถ
Post a Comment