บทสัมภาษณ์ทาเคโอะ คุจิราโอคะ ผู้กำกับ DLC - FFXVI : The Rising Tide โดย Push Square
- FFXVI แปลกจากภาคหลักภาคอื่นในระยะหลัง ตรงที่มีเนื้อเรื่องแจ้มจ้นและได้แรงบันดาลใจจากโลกยุคยุโรปกลาง และยังเป็น Action-Rpg เต็มรูปแบบครั้งแรกของซีรีส์
- ในช่วงหลัง กลุ่มผู้เล่น FF มีช่วงอายุสูงขึ้นเรื่อง ๆ ทว่าจากการทำแบบสำรวจภาคนี้ พบว่ากลุ่มวัยรุ่นและคนอายุ 20+ หันมาเล่น FF กันมากขึ้น ในเรื่องนี้ เราก็บรรลุเป้าหมายตั้งต้นไปอย่างนึง นั่นคือการทำให้ FF เข้าถึงผู้เล่นได้ทุกวัย
- แต่นั่นไม่ได้แปลว่า FF ในอนาคตทุกภาคไป จะเอาแนวทาง FFXVI ไปใช้นะ เขาแค่อยากดึงกลุ่มผู้เล่นใหม่เข้ามา และเปิดทางใหม่ ๆ ให้กับทีมที่จะทำภาคในอนาคตต่อไป
- โยชิดะกำหนดชัดแต่แรกแล้วว่าต้องทำเกมที่จบในตัวเอง แต่เราก็ถูกขอให้ใส่ชิ้นส่วนองค์ประกอบที่จะสามารถขยาย setting และ lore ได้ทันที หากผู้เล่นเรียกร้องให้ทำ DLC ดังนั้น มันเลยพอมีไอเดียพื้นฐานและคอนเซปต์อยู่บ้าง ตั้งแต่ก่อนจะเริ่มทำ DLC แล้ว
- The Rising Tide ก็จะแตะเรื่องประวัติศาสตร์ 2 Mothercrystal ที่ไม่ปรากฏในเกมหลัก ซึ่งก็คือ Drake's Horn และ Drake's Eye
- FFXVI เป็นครั้งแรกที่ใช้ Action แบบนี้ ดังนั้นเพื่อให้แฟนเก่าแก่ของซีรีส์สามารถจบเกมได้ เราเลยปรับบาลานซ์ของเกมให้ปานกลาง ๆ สำหรับเนื้อเรื่องหลัก พวก Combat Team รวมถึงตัวผมเอง ก็กลัวว่ามันจะง่ายไป แต่พอเห็นพวกคนที่ไม่ได้มั่นใจในฝีมือการเล่นเกม Action สามารถสนุกไปกับเกมและจบเกมได้ เรารู้สึกว่าเราก็มาถูกทางแล้ว
- เราเห็นฟีดแบ็คจากไลฟ์สตรีม และโลกโซเชียล ว่าอยากได้การต่อสู้ที่ยากขึ้นอีก ผมคิดว่าชาเลนซ์นั้นจะเป็นที่ยอมรับได้หากอยู่ในรูปแบบ DLC ก็ดีใจที่ Ecvhoes of the Fallen ฟีดแบ็คออกมาดี สำหรับ The Rising Tide เราก็บาลานซ์ความยากในระดับเดียวกัน
- คอนเซปต์ของ The Rising Tide คือ Expansion ของ MMO คือมีหมู่บ้าน ไซด์เควสต์ ของสวมใส่ใหม่ อบิลิตี้ใหม่ บอสใหม่ รวมถึงสู้กับ Eikon และ endgame content หลังจบ DLC
- ในส่วนการทำ DLC หลังจากโยชิดะอนุมัติให้ทำ DLC เราก็ปักหมุดเลยว่าจะทำเป็น 2 ตัว และไม่ให้ผู้เล่นต้องรอนานเกินไป จากนั้นก็ตั้งทีมทำ DLC ซึ่งส่วนใหญ่ก็ประกอบด้วยกลุ่มคนที่เสร็จงานแล้ว เอาประสบการณ์จากเกมหลัก มาใช้ต่อได้เลย
Post a Comment