ฮามากุจิเผย หลังจบ Remake โดนคิตาเสะจองตัวให้ทำโปรเจคท์นี้ต่ออีก 12 ปี
Variety
- ตอนแรกที่ฮามากุจิเข้าบริษัทมา ก็ช่วยทำ FFXII แล้วต่อมาก็ FFXIII
- โปรเจคท์ Rebirth ประกอบด้วยทีมงาน FFX FFXIII เยอะ เป็นเกมที่เน้นเล่าเรื่อง แต่ Rebirth ต้องการเน้นการเดินทางไปในโลกกว้าง เป็น first time challenge ของทีม
- ตอนนี้ยังไม่มีเรื่อง DLC มาเล่า เราคิดว่าการมีตัวละครใหม่มาให้เล่นในอนาคตเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น ก็ไม่อยากปล่อยทุกอย่างออกมาทั้งหมดทีเดียว อยากให้จับตารอกันต่อไปมากกว่า
IGN
- สื่อถามว่าเกมได้เอาบทเรียนใดจาก FFXVI มาใช้รึเปล่า เพราะไหนก็พัฒนาในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน?
- ฮามากุจิบอกว่าถึงพัฒนาในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่มันยากที่จะหยิบของอีกเกมมาใช้นะ เพราะพวกโครงสร้างเกม มันถูกกำหนดไว้ตั้งแต่ช่วงต้นการพัฒนาแล้ว ใน FFXVI เองมีระบบ Active Time Lore และการเล่าเรื่องแบบภาพยนตร์ มีหลายอย่างที่สร้างแรงบันดาลใจ หรือน่าสนใจมาก แต่มันยากที่จะเอามาใส่ (เพราะโครงสร้าง FFVIIR มันถูกกำหนดไว้นานแล้วนั่นเอง)
- ตามโครงเรื่องของโนจิมะ หมู่บ้านร็อคเก็ตยังไม่ถูกใส่มาในภาคนี้ ส่วนการมาถึงของซิดในฉบับ Remake มันก็แตกต่างจากของเดิม ตัวเขา โนจิมุ โนมุระ ก็เห็นพ้องกันแล้วกับแนวทางนี้ และนำหมู่บ้านร็อคเก็ตเข้ามาในภาคต่อไป
- ตอนสิ้นสุดการพัฒนา Remake ฮามากุจิได้คุยกับคิตาเสะ หลาย ๆ เรื่อง แล้วคิตาเสะถามว่าฮามากุจิ จะสามารถอุทิศตัวให้โปรเจคท์นี้ไปไปอีกสักประมาณ 12 ปีได้มั้ย (2020+12 =ปี 2032 เลยทีเดียว เกมมันคงออกก่อนแหละ แต่คงต้องคิดเผื่อการ PR หลังกการขาย การพอร์ท การทำส่วนเสริม ฯลฯ ต่อไป) ซึ่งฮามากุจิก็บรรลุข้อตกลงไปแล้ว เขาก็รู้สึกมุ่งมั่น ที่จะพาซีรีส์ Remake ไปจนปิดไตรภาคให้ได้
The Verge
- คิตาเสะบอกว่าการคืนชีพแซ็ค ไม่เกี่ยวกับความนิยม แผนงานคือการเอาตัวละครจากจักรวาล FFVII ไม่ว่าปังหรือแป้ก ใส่เข้ามาอยู่แล้ว แซ็คและซิสเนย์ และเป็นตัวเพิ่มความจัดจ้านให้เรื่องทั้งนั้น
- ฮามากุจิบอกว่าถึงไม่เล่นภาค spin off มาเลย ก็ไม่ได้มีจุดไหนที่จะไม่เข้าใจ ทุกอย่างที่จำเป็นต้องรู้ ก็เล่าในตัว Rebirth นี้แล้ว
- นอกนั้นก็พูดเรื่อง side content อันหลากหลายที่เลือกเล่นตอนไหนก็ได้ ไม่บังคับ แล้วก็โฆษณา side content แต่ละที่ ทั้งล่า protorelic, สู้ซาโบเทนเทนเอร์เก็บคะแนน, ขวางอันธพาล, เล่น For Condoor ฯลฯ
Post a Comment