อัปเดตล่าสุดเนื้อหา FFXVI : The Rising Tide
เรื่องราวที่แสดงให้เห็นอนาคตอันสดใสของวาลิสเธีย
- ไอเดียของ DLC นี้คือการทำ Expansion สำหรับ MMORPG คือมีทั้งเนื้อเรื่องหลัก ฟิลด์แมป หมู่บ้าน เควสต์ที่เกี่ยวข้องในดินแดนนั้น ๆ แอคชันต่าง ๆ เหนือสิ่งอื่นใด คืออยากถ่ายทอดเนื้อเรื่องใหม่ ในดินแดนใหม่ ภายใต้ฟ้าสีคราม
- แม้เนื้อเรื่อง จะไม่ใช่หลังจบเนื้อเรื่องหลักไป แต่เรื่องราวของมันก็จะให้ความหวัง ว่าถึงแม้คริสตัลจะหายไปจากวาลิสเธีย มนุษย์ก็จะสามารถฟื้นกลับมาได้อย่างแน่นอน
- ในตอนจบเนื้อเรื่องหลัก เรื่องราวอาจทำให้ผู้เล่นกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เราก็อยากให้ผู้เล่นจินตนาการได้ถึงอนาคตอันสดใส ให้รู้สึกได้ว่าผู้คนจะมีชีวิตกันอย่างไรต่อไป
- DLC ยาวประมาณ 10 ชั่วโมง
- สาเหตุที่ใช้ชื่อดินแดนว่ามิซิเดีย เพราะเป็นคำที่ใช้ในภาคเก่าแก่ (FFII, FFIV) อันที่จริงมันไม่ได้มีความหมายลึกพิเศษ แต่ก็ใช้กับเซตติ้งที่เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์ และเหมาะสมกับอิมเมจของแอเรียพอดี เลยเอามาใช้เพื่อเป็นการเคารพของเก่า
- แฟมิซือถามว่าเอาจริง ตอนสร้างเนื้อเรื่องหลักนี่ มีคิดเซตติ้งของมิซิเดียไว้บ้างมั้ย? ทาคาอิบอกว่า ไม่ได้คิดรายละเอียดอันใดไว้
- โยชิดะรับว่า เพื่อเปิดโอกาสที่เผื่อสร้าง DLC ต่อ เลยตัดสินใจกันตั้งแต่เนิ่น ๆ ว่าจะมีลิเวียธานนะ และมีหมู่บ้านลับแลและชาวบ้านที่อาศัยอยู่โพ้นไปจากคลื่นยักษ์ แต่ถ้าเขียน Lore ลึกไปกว่านั้น ก็คงทำเนื้อเรื่องหลักไม่เสร็จ ตอนนั้นเลยบอกไปว่า "ปล่อยเอาไว้ก่อน ไว้ถ้ามีโอกาสค่อยมาทำ..." ดังนั้น เมื่อถึงเวลาที่ต้องมาทำ DLC ก็เลยได้มาเซ็ตกันใหม่อีกครั้ง
- คอนเซปต์ของมิซิเดียที่เป็นฟ้าสดใสและทุ่งหญ้า คือทีมงานเริ่มต้นด้วยความคิดว่าอยากให้ผจญภัยในโลกที่สดใส มาเอฮิโระนั้นคิดว่าในเนื้อเรื่องหลัก โลกมันตกสู่ความมืดไปแล้ว ดังนั้นจึงอยากให้การผจญภัยถัดไปอยู่ในที่สว่าง ๆ
- โยชิดะบอกว่ามิซิเดีย ไม่ได้รับผลกระทบจากออริจิน
- เรื่องฉากคลื่นที่ถูกหยุดแข็งเอาไว้ โยชิดะก็บอกว่าอยากให้ทุกคนเห็นต้องหยุดมองร้องว๊าว ทีมงานก็ลองผิดลองถูกกันเยอะ แต่ละหยดน้ำก็เป็นกราฟิกจริง ๆ
- ตอนไปถึงมิซิเดียครั้งแรก จะมีคัตซีนที่ได้เห็นภาพรวมของดินแดน
- มีระบบดาวซิ่ง ใช้ตามหาไอเทม Aquamarine ในดินแดนนี้ โดยเราจะรับรู้ผ่านการสั่นของ Pad และเสียง แล้วเอา Aquamarine ไปทำเครื่องประดับ
- พอมีฟิลด์ใหม่ ก็อยากให้มีเผ่าใหม่ อันที่จริงจะสร้างเผ่าใหม่เลยก็ได้ แต่ก็อยากใช้ legacy element มากกว่า ซึ่งมันมีภาพ art ของทอนแบรีที่สร้างเอาไว้ตอนทำเกมหลัก แล้วยังไม่เคยเอามาใช้เลย ก็เลยเอามาใช้
- ทาคาอิเสริมว่าทอนแบรีนั้น อยู่ในกลุ่มที่ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเอาใช้ในเนื้อเรื่องหลักมั้ยจนกระทั่งวินาทีสุดท้าย ก็ไม่ได้ใส่ลงไป
- คุจิราโอคะ บอกว่ามันมีอาร์ทของทอนแบรีน่าสยดสยอง เขียนว่าเป็น undead แล้วทั้งตัวเป็นแค่กระดูกด้วย
- โยชิดะบอกว่าดีไซน์ดั้งเดิมของทอนแบรีมันเป็น pixel art แบบเรียบง่าย แต่ใน FFXVI มันเป็นโลกอันสมจริง ดังนั้น หากไปใช้ดีไซน์แบบมาสค็อต มันก็คงดูแปลกไปไม่เหมาะกับโลก มันก็จะดูลอย กว่าจะปรับดีไซน์ม็อกให้เข้ากับ FFXVI ได้ก็ยากเหมือนกัน
- ทอนแบรียักษ์ จะให้ความรู้สึกเหมือนเป็นนักดาบที่ถือมีดยักษ์ไล่ฟัน แล้วยังมีทอนแบรีคิงที่ปรากฏตัวในไซด์เควสต์ และใช้พลัง "ความริษยาของทุกคน"
- ในมิซิเดียมีประมาณ 10 ไซด์เควสต์ มีทั้งเควสต์ที่สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโลก เควสต์ที่ปลดล็อคฟังก์ชันอย่างการเอาโจโคโบะมาใช้ในมิซเดีย เควสต์ปลดล็อคการเก็บ Aquamarine ฯลฯ และยังมีเควสต์ที่จะโผล่เมื่อจบ DLC ทั้ง 2 ตัวแล้ว เป็น Epilogue เพื่อแสดงความขอบคุณต่อคนที่เล่น DLC เป็นเนื้อหาที่ให้ความหวัง บอกคนเล่นว่า โลกจะปลอดภัย
- ก็จะได้พลังของลิเวียธานมา และเครื่องประดับเสริมพลังของลิเวียธาน นอกจากนี้ยังมีเครื่องประดับที่เสริมพลังของ eikon ที่มีอยู่เดิม มีเพิ่มของสวมใส่ใหม่ ๆ ลงไป
- มีการแจก Cortana ดาบใน FFXIV เป็นโบนัสจากการซื้อ DLC และแจกเพลง 2 เพลงจาก FFXIV ไปใช้กับตู้เพลงในเกม (โยชิดะบอกเคยแจกของภาคก่อน ๆ ไปแล้ว FFI, FFIII, FFVII คราวนี้ถึงตาของ FFXIV บ้าง)
- โยชิดะบอกว่าเรากำหนดกันไว้ตั้งแต่ตอนทำเนื้อเรื่องหลักแล้วว่า โดมิแนนต์ของลิเวียธานเคยปรากฏตัวในอดีต แต่ไม่โผล่มาในช่วงหลัง เราไม่ได้กำหนดว่าโดมิแนนต์ของเขาเป็นยังไง แต่จะได้เห็นกันใน DLC นี้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของมาเธอร์คริสตัล Drake's Eyes (ของดินแดนทางเหนือ บ้านเกิดจิล) ที่สลายไปตั้งแต่ก่อนจะเริ่มเกม เนื้อเรื่องมันจะเกี่ยวพันกันหมด ตอนแรกก็ไม่ได้แพลนว่ามันเกี่ยวข้องกัย Drake's Eye นะ แต่ทีม DLC จับมันโยงกันได้ดี
- คุจิราโอคะบอกว่า DLC ตัวแรกเป็นเรื่องอารยธรรมลอยฟ้าโบราณ DLC ตัวสองก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกเอ่ยถึงในปัจจุบัน ทั้งสองยังคงคอนเซปต์ การทำให้เข้าใจวาลิสเธียมากขึ้น ผ่านมุมมองของไคลฟ์
- ทีมงานก็ปรับการวางจำหน่ายของศัตรูในมิซิเดีย และ AI ของศัตรู ในแบบที่จะทำให้ผู้เล่นรู้สึกได้ว่าการใช้พลังของลิเวียธานนั้นสนุก
- โยชิดะบอกว่าตอนนี้ก็ไม่ได้มีแผน DLC ในอนาคตหลังจากนี้แล้ว ซึ่งโอกาสจะได้สร้างสิ่งใหญ่โตมาปะทะกันมันมีไม่บ่อยนัก ดังนั้นคราวนี้ก็มุ่งหวังผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และมันจะต้องกับเนื้อเรื่องหลัก ที่เราสร้าง Eikon Battle ให้เน้นการพรีเซนต์ ทรงพลัง แต่เคลียร์ผ่านง่าย ทว่าการปะทะกับลิเวียธานนั้น คือการต่อสู้สำหรับคนที่เล่นผ่านมาจนถึงจุดนนี้ นี่คือการต่อสู้ที่จะได้สัมผัสแก่นแท้ของ Eikon Battle ซึ่งต้องใช้พลังของอิฟรีตออกมาอย่างเต็มศักยภาพ
- สำหรับเลเวลที่แนะนำ ถ้าเป็น Action Focus รอบแรกก็ Lv.48, ถ้าเป็น FF Mode ก็ Lv.95 ถ้าใส่เครื่องสวมใส่ดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง ทว่าด้วยความที่มันเป็น Action RPG ดังนั้น ก็สามารถชนะด้วยเลเวลที่ต่ำกว่านั้นได้ และแพ้แม้จะเลเวลสูงกว่านั้นได้เช่นกัน
- ผมข้ามเรื่อง Kairos Gate ไปนะ ไม่ค่อยสนใจ
- สุดท้ายแฟมิซือถามเรื่องไคลฟ์ติดปีดในตอนท้ายที่สุด
- โยชิดะบอกว่าถ้าพิจารณาถึงเหตุผลที่ไคลฟ์ตกเป็นเป้าของอัลเทม่า (ร่างภาชนะที่สมบูรณ์แบบ) ก็จะทำนายได้ ในเนื้อเรื่องที่ผ่านมา ลิเวียธานในตำนานได้หายสาบสูญไป แต่เมื่อทั้งหมดได้มาบรรจบกันล่ะ? เราได้เตรียมเกมเอาไว้แล้ว และหากพูดมากไปกว่านั้นก็คงสูญเสียความสนุก ดังนั้นเลยอยากให้ไปเล่นเอง
- ในตัวเกม Ver. 1.30 จะมีเพิ่มเนื้อเรื่องตอนที่ไคลฟ์ลบรอยสักของแบร์เรอร์ไปจากหน้า โยชิดะบอกว่ามันเป็นความคิดเขาเอง เนื่องจากหลังเกมออก เคยไปคุยกับผู้กำกับหนังคนนึง เขาบอกอยากรู้ว่าไคลฟ์เอารอยสักแบร์เรอร์ออกจากหน้าทำไม ได้แบบมีคิดไว้มั้ย? ซึ่งโยชิดะก็คิดว่าในเซตติ้งของพวกเขา มันก็เป็นแค่ตอนธรรมดาตอนนึง เขาคิดว่าภาพรวมของเรื่องน่าจะแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะลบรอยสักออกอยู่แล้ว แม้ว่าจะไม่ได้เล่าถึงไคลฟ์ในขณะที่ลบรอยสักนั้นให้เห็นออกมาก็ตาม แต่ก็โอเค ถ้าถ่ายทอดความหมายและความตึงเครียดของการลบรอยสักผ่านไคลฟ์ มันก็จะเข้าใจได้ง่ายกว่า เลยต้องเพิ่มเนื้อหาเข้าไปอีก เพื่อให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
- จะไม่ได้เล่าใน Main Story แต่เล่าในรูปแบบ Side Quest
- โยชิดะบอกว่าตอนดูคนสตรีมเล่นเกม พอเห็นว่ารอยสักของไคลฟ์หายไป พวกคอมเมนต์ช่องแชท ก็ช่วยอธิบายเสริมความเข้าใจให้คนสตรีม แต่มันก็ไม่ดีไงที่คนเล่นต้องมาเมนต์เสริมกันเอง มันทำให้อารมณ์ขาดช่วงไป เลยต้องทำให้เข้าใจง่ายขึ้น
- เรื่องภาค PC โยชิดะบอกว่ายังราบรื่นดี ยัง Optimize อยู่ รออีกไม่ถึงปีหรอกน่า
Post a Comment