3 อันดับตัวละครสุดถูกจริต (ส่วนตัว) ใน Final Fantasy XVI
--------------------------------------
1. ดิออน ร่างทรงบาฮามุท
--------------------------------------
- ดิออนเป็นลูกของจักรพรรดิซิลเวสต์ จึงโดนคนรอบข้าง คาดหวังให้เป็นจักรพรรดิคนต่อไปตั้งแต่เด็ก
- เขาโดนจับกวดวิชาประวัติศาสตร์ ศาสนา การพาณิชย์ การปกครอง แต่สติแตก แบกไม่ไหว เลยไม่เอาแล้ว กุไม่เป็นแล้วสัส ว่าแล้วก็ไปเข้าทัพดรากูน ไปเติบโตสายแม่ทัพ
- ดิออน เป็นคนที่จงรักภักดีต่อจักรวรรดิ รักพ่อ สำนักบุญคุณบ้านเกิด แต่ก็รักในขอบเขต ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก แยกแยะออกว่าพ่อเคยเป็นประมุขผู้มีธรรมาภิบาล แต่ตอนหลังพ่อเปลี่ยนไป กลายเป็นคนบ้าอำนาจ
- ส่วนตัวแล้ว ดิออนพร้อมน้อมนำพระราชดำรัสไปบริหารราชการแผ่นดิน โดยเฉพาะคำว่า "ชาติและประชาชน" เหนือสิ่งอื่นใด
- ถึงกระนั้น ดิออนเป็นคนที่มีความเป็นมนุษย์สูงมาก ในเรื่องมีบทที่เขาแสดงอารมณ์ฉุนเฉียว สบถหยาบออกมา น่าจะ 2 ซีนได้ คือด่าอี Canker กับนัง fork tongue witch รวม ๆ คือเขาเปรียบอนาเบลล่าเป็นงูพิษลิ้นสองแฉก
- แต่ในเวลาที่ดิออนหงุดหงิดฉุนเฉียว แต่ต้องวางตัวให้ดี เขาก็ยังสามารถรับมือได้ดี อย่างเช่นตอนที่กำลังหงุดหงิดอยู่แล้วโจชัวที่น่าจะตายไปแล้ว แหวกแคมป์เข้ามาทักทานพอดี ดิออนก็ตั้งสติรับมือได้ ไม่หัวเสียใส่
- เมื่อดิออนเห็นพ่ออยากพิชิตวาลิสเธีย อยากเปิดวอร์ไปทั่วโลก อ้างประกาศิตพระเจ้า ฟังแต่คำพูดของนังงูพิษ แล้วยังไปยกบัลลังค์จักรพรรดิให้เด็กเปรตอายุน้อย ดิออนก็สวมวิญญาณเซซิล และคิดว่าจะไม่ยอมฟังคำสั่งที่รู้อยู่แก่ใจว่าไม่ถูกต้องอีกต่อไป ว่าแล้วเขาก็สั่งทัพดรากูนไปล้อมวังแม่ง แล้วตัวเองก็ควงหอกเดินดุ่ย ๆ เข้าไป หวังจะไปล้มบัลลังคต์ ฆ่าอนาเบล่าและโอลิวิเยร์แม่ง
- การล้มบัลลังค์จักรพรรดิ เป็นเรื่องใหญ่ มันคือการก่อกบฎที่มีความเสี่ยงสูงสุด ถ้าไม่สำเร็จก็ตายหยังเขียด ดิออนเองก็มีความลังเลในใจบ้าง แต่ก็ถามลูกน้องไพร่พลกองดรากูนว่าตัวเองทำถูกมั้ย พอได้ความมั่นใจจากลูกน้อง ก็ลุยยยย
- ซีนที่ดิออนชี้หอกไปยังโอลิวิเยร์ พูดกล่าวความในใจ พอจักรพรรดิสั่งให้ทหารล้อมจับเอาตัวดิออนออกไป แต่ก็ไม่มีใครเข้าไปจับดิออนเลย ราวกับว่าดิออนพูดแทนความในใจของทุกคนไปหมดแล้ว
บทพูดที่ผมชอบมากของดิออนคือ : “ถึงประชาชนทั้งหมดล้มตาย ก็เกิดใหม่ได้ ถึงบ้านเกิดเมืองนอนถูกแผดเผา ก็สร้างใหม่ได้” พ่อพูดเองทั้งนั้น แต่เมื่อประชาชนทุกคนล้มตาย บ้านของทุกคนไหม้เป็นเศษธุลี แล้วจักรวรรดิจะเป็นยังไง? ประมุขล่ะ? พระเจ้าล่ะ? ในยามที่ Mothercrystal ล่มสลายไปที่ละก้อน แล้วโซนดำกลืนกินแผ่นดินของเราไปจนหมด พสกนิกรของเรา มองไปยังจักรพรรดิ หวังได้รับการปกป้อง แต่พ่อกลับไม่พยายามปกป้องอนาคตของพวกเขา หวังคิดแต่จะยึดครองทุกสรรพสิ่งบนแผ่นดิน เป็นของตนเอง! แม้ต้องแลกด้วยการสังเวยทุกสิ่งทุกอย่างที่ประชาชนผู้จงรักภักดี เพียรสร้างขึ้นมาก็ตาม!
- ต่อมาดิออนโดนอัลเทม่าสะกดจิต จนคลุ้มคลั่ง กลายเป็นบาฮามุทและเผาทำลายบ้านเมืองตัวเอง
- ดิออนในร่างติด Berserk น่าจะเป็นหนึ่งในตัวละครที่มีพลังสูงสุดในเรื่อง กระทั่งยิง Zetta Flare ออกมาได้ ซึ่งไคลฟ์กับโจชัวก็ขี้โกงด้วยการฟิวชั่นกัน เข้าไปหยุดดิออนไว้
- ภายหลังดิออนก็สำนึกผิดเสียใจในสิ่งที่ทำลงไปตอน Berserk แม้ว่าจะโดนอัลเทม่าสะกดจิต แต่มันก็คือร่างของเขา พลังของเขา เขาเลยใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อการไถ่โทษ
- ในภาพรวมผมดูแล้วรู้สึกว่าดิออนรับเอาจิตวิญญาณของไคน์และเซซิลเข้าไปในตัว แต่การกระทำของเขามันไปสุดยิ่งกว่าสองคนนั้นมัดรวมกัน ผมเลยตีค่าว่าดิออนเหมือนเป็นอีกหนึ่งพระเอกในเรื่อง เคียงข้างกับไคลฟ์และซิดเลยด้วยซ้ำ
- ดิออน คือบาฮามุทที่สง่างามที่สุดในซีรีส์ แก้ตัวจากที่ FFXV เอาบาฮามุทไปเป็นตัวร้ายได้อย่างดี
--------------------------------------
2. อนาเบลล่า
--------------------------------------
- อนาเบล่า เป็นแม่แท้ ๆ ของไคลฟ์และโจชัว
- นางสวยอมตะมากครับบ จะกี่ปีผ่านไปก็สวยยยย ผมชอบบบ
- แค่นางยิ้มนิ่ง ๆ กวน ๆ ก็สวยแล้ว เห็นแล้วอารมณ์ดี
- นางเป็นแม่ที่ขายชาติ ทิ้งอาณาจักรตัวเองเพื่อเป้าหมายของตัวเองได้ลงคอ... เป็นพล็อตที่แบบกล้าเล่นมาก
- อนาเบลล่า มองว่าคนเราต่างมีดีในแบบของตนเอง เอลวินเป็น Arch Duke, โจชัวเป็นร่างทรงฟินิกซ์และว่าที่ Arch Duke, ไคลฟ์มีความกล้าหาญเก่งกล้า ชนะการประลองชิงแชมป์ตั้งแต่วัยเยาว์ แต่เธอไม่มีอะไรเหล่านั้น จุดแข็งของเธอคือ เธอเป็นสายเลือดตระกูลที่ให้กำเนิดร่างทรงมาหลายยุคสมัย ทำให้ตระกูลเธอได้สมรสกับ Arch Duke ดังนั้นเธอจึงอยากสืบสานสายเลือดอันเล่อค่านี้ไว้ ไม่ให้สิ้นสมบัติการถูกเลือกในยุคของเธอ
- เธอมองว่าถ้าเธอสมรสกับชนชั้นสูงไปเรื่อย ๆ อย่างไรเสียหากจะมีบาฮามุทและฟินิกซ์จุติขึ้นมาใหม่ ก็ต้องจุติขึ้นด้วยครรภ์ของเธอ
- อาจจะด้วยความเย่อหยิ่ง ทรนง หรือใด ๆ ก็ตาม อนาเบลล่าก็มีปมที่เธอถูกพวกขุนนาง ซุบซิบนินทาลับหลังว่าแท้จริงแล้วไคลฟ์เป็นลูกของสนม ของเมียน้อย ไคลฟ์เลยไม่ได้เป็นร่างทรงฟินิกซ์ ซึ่งอนาเบลล่าก็รู้สึกเสียหน้ามาก
- ถึงแม้อนาเบลล่าจะขายชาติ ให้ข้อมูลซันเบรกเพื่อบุกเข้ามาฆ่าเอลวินในยามทีเผลอที่ออกจากวัง มีการป้องกันเบาบางที่สุด แต่อนาเบลล่า สั่งทหารว่าต้องไม่ทำอะไรโจชัว....
- และพอไคลฟ์รอดชีวิตมาได้ อนาเบล่าก็บอกให้ทหารซันเบรกไว้ชีวิตไคลฟ์ไว้ แล้วให้จับไปเป็นทหารทาสแทน.... มองในแง่ดีคือ นางจะสั่งให้ฆ่าไคลฟ์ก็ได้ แต่นางไม่ทำ.... ไคลฟ์ถึงรอดมาได้
- นางเองก็ไปก่อปมให้จิลไว้ โดยนางก็อยู่ในที่ประชุมที่หารือกันว่าจะใช้ประโยชน์จากจิลอย่างไรดี.... ระหว่างให้รัชทายาทสมรสกับจิล กับสมรสกับ 7 ตระกูลขุนนาง แบบไหนจะเป็นประโยชน์กว่ากัน ทำให้จิลเสียใจมากที่ตัวเองถูกมองเป็นแค่เครื่องมือ
- บอกตรงว่าเป็นตัวละครที่ผมเข้าใจสิ่งที่นางพูด แต่เข้าไม่ถึง... เพราะเราห่างไกลจากการอยู่ในสถานะที่ต้องรักษาสายเลือดชนชั้นสูงแบบนาง
บทพูดที่ผมชอบมากของเธอคือ
"ประมุขไม่ได้มีหน้าที่ปกป้องประชาชน แต่ต้องปกป้องที่มาของอำนาจปกครอง นั่นคือสายเลือดชนชั้นสูงที่ไหลเวียนในราชนิกุล"
"ตราบใดที่สายเลือดยังไม่เสื่อมคลาย ประเทศชาติจะล่มสลายไป ก็ไม่เห็นเป็นไร ยังไงก็ตั้งประเทศขึ้นใหม่ได้เสมอ"
"ฉันทำหน้าที่ของฉัน ธำรงรักษาสายเลือดตัวเอง! ไม่เหมือนมัน ฉันให้กำเนิดลูกจากสายเลือดชนชั้นสูง ที่โลกทั้งใบต้องคุกเข่าให้ ฉันถึงยกโรซาเรียให้ซันเบรก แล้วเข้าร่วมราชวงศ์ Lesage ให้กำเนิดผู้กอบกู้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ด้วยทั้งบาฮามุทและฟินิกซ์ "
"ฉันไม่มีอะไรเลย แกมันลูกพ่อนี่ ทั้งแข็งแกร่ง กล้าหาญ เป็นที่รัก แต่ดันไม่มีพลัง โจชัวดีกว่าแกเป็นสิบเท่า แกรู้มั้ยว่าพวกขุนนางมันหัวเราะกันยังไง มันหาว่าลูกคนโตของเอลวินที่จริงแล้วเป็นลูกสนม มันอับอายแค่ไหน! ความอับอายที่ถูกพวกต่ำชั้นกว่าใส่ร้ายป้ายสี! แกเคยเข้าใจบ้างมั้ย! ทั้งที่แกควรจะถูกเลือกแท้ ๆ! ทำไมฟินิกซ์ไม่เลือกแก!!"
--------------------------------------
3. ไคลฟ์
--------------------------------------
- ไคลฟ์เป็นตัวเอกที่ชีวิตรันทดที่สุดในซีรีส์แล้ว
- แม่ขายชาติ พ่อถูกฆ่าตาย เข้าใจว่าน้องชายตาย โดนจับไปเป็นทหารทาส 13 ปี ให้สาบานว่าจะจงรักภักดีกับชาติที่มายึดครองบ้านเกิดตัวเอง
- ไคลฟ์ถูกแยกกับหมา ถูกแยกกับหญิงที่รักไป 13 ปี ระหว่างนั้นไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไง และสิ้นหวังไปนานแล้ว
- หลังจากซิดพาไคลฟ์หนีจากการเป็นทหารทาสของซันเบรกออกมาได้ ไคลฟ์ก็ยังโดนคนอื่นตราหน้าว่าเป็นไอ้ทาสไปทั่ว
- ไคลฟ์เข้าใจผิดว่าตัวเองฆ่าน้องชายตายเองกับมือ
- อาจเป็นเพราะไคลฟ์ผ่านชีวิตทาสมาก่อน เลยเข้าใจความเจ็บปวดของการถูกกดขี่เป็นอย่างดี เมื่อไคลฟ์โดนลูกพรี่ซิดกล่อม จึงตกลงปลงใจ ไปช่วยกันปลดปล่อยโลก ให้เลิกระบบทาส สิ้นสุดการคืบคลานของโซนดำ เข้าสู่วิถีวีรบุรษกู้โลก
- ไปเป็นลูกหาบพรี่ซิดยังไม่ทันครบปี อ่าวลูกพรี่ซิดตายแล้ววว ไอ้ฉิบหายยยย!!! ปณิธานทั้งหมดตกที่กูเฉยยย
- เขาคือตัวเอกที่ Leadership สูงสุดใน Final Fantasy แถมแก่สุดด้วย จึงเต็มไปด้วยสหายมากมาย ที่ทุกคนไว้เนื้อเชื่อใจ เคารพศรัทธาหมดใจ
- ไคลฟ์เคารพในเจตจำนงค์อิสระ อิสรภาพ ความเป็นเสรีชนขั้นสุด แน่นอนว่าคนเราเมื่อโดนกดขี่และสูญเสียอะไรไปเสียนาน ก็ย่อมหวงแหนและเห็นคุณค่าของสิ่งเหล่านั้นที่สุด
- จิลบอกว่าไคลฟ์คิดแต่จะ save คนอื่น เลยลืมที่จะ save ตัวเอง เป็นคนที่ทิ้งทุกอย่างได้เพื่อให้คนอื่นมีความสุข จริง ๆ จุดนี้ไคลฟ์ก็เหมือนยูน่าใน FFX
บทพูดที่ผมชอบมากของไคลฟ์คือ
"แกเลือกที่จะอยู่ตัวคนเดียว ปฏิเสธสิ่งเดียวที่จะทำให้คนเราเข้มแข็งขึ้น ปัดมือที่จะช่วยดึงเราไปอยู่ในจุดที่สูงขึ้น นั่นคือความแตกต่างระหว่างเรา"
"ฉันไม่อาจมาถึงจุดนี้ได้ด้วยตัวคนเดียว ฉันแบกรับความหวังและความฝันของพี่น้องผองเพื่อน และพวกเขาก็คือคนที่มอบพลังให้ฉันหยุดยั้งแก"
"คนที่เพ้อฝัน (Fantasy) นั้นมีแต่แก และเราคือพยานคนสุดท้าย (Final) ที่จะได้เห็นมัน"
นอกจากนี้ตัวละครที่ชอบรองลงมา ในระดับไล่เลี่ยและผมจัดลำดับไม่ถูก คือ
--------------------------------------
วิเวียน
--------------------------------------
- อาจารย์ที่เกิดใน Crystal Dominion แล้วไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยใน Kanver
- จิตวิญญาณ Scholar ผู้คนหาความจริง โดนอำนาจมืดพยายามเอาชีวิต แต่มิดมาช่วยเตือนให้หนีก่อน
- เธอรู้สึกสันโดษกับวิถีของ Scholar แต่ก็ยินดีจะก้าวไปในวิถีนี้ต่อไป
- เธอบอกว่าความสันโดษไม่ใช่คำสาป แต่เป็นพรสวรรค์ และแม้ว่าการเดินทางตามหาความจริง มันจะเป็นการเดินทางอันโดดเดี่ยว (ไม่มีใครเอาด้วย) แต่สิ่งที่จะค้นพบในปลายทางนั้น มันยิ่งกว่าคู่ควร
- แผนภาพของจารย์เป็นสื่อการสอนที่ดีมาก!
--------------------------------------
ซิด
--------------------------------------
- เกิดในทวีปด้านนอก เห็นโลกแบบอื่นมาก่อนแล้ว
- คิดนอกกรอบ ไม่ยึดติดในกรอบ รู้จักตั้งคำถามมากมาย มันคือคุณสมบัติของนักวิทยาศาสตร์ตรง ๆ เลย
- ช่วยคนไปทั่ว รวมถึงมิดที่เป็นลูกบุญธรรมของเขา ก็ช่วยมาจากข้างถนนด้วย
- เห็นว่าวาลิสเธียมันป่วย มันผิดปกติ มีทั้งระบบทาสและโซนดำ ต้องหาทางเปลี่ยนแปลงให้มันถูกต้อง
- เขาเชื่อกันว่าโซนดำปลูกพืชไม่ขึ้น เลี้ยงสัตว์ไม่ได้ มนุษย์เลยอาศัยอยู่ไม่ได้ พรี่ซิดเลยไปตั้งรังลับในโซนดำ พากุ๊ก พ่อครัว หมอ นักบัญชี ไปร่วมวงกันด้วย ต่อมาก็พานักพฤษาศาสตร์ไปทดลองจนปลูกพืชได้ เลี้ยงไก่ได้ ทำให้เห็นว่ามันยังมีหวัง
- ไม่เคยล้างแก้ว กินแก้วเดิมวนซ้ำไปแบบนั้น
- ในขณะที่ทั้งวาลิสเธีย กราบไว้ Mothercrystal พรี่ซิดเดินเข้าไปทุบ ทุบ ทุบ แม่ง
--------------------------------------
มิด
--------------------------------------
- อัจฉริยะตั้งแต่เด็ก เจออะไรก็จับแยกส่วนและประกอบใหม่หมด
- สร้าง Orchestrion ของรังลับขึ้นมา
- ซิดเห็นแววเลยส่งไปเรียนมหาวิทยาลัยที่ Kanver
- เป็นคนประดิษฐ์เครื่องกรองน้ำ ทำให้กรองน้ำดำ เป็นน้ำที่มนุษย์ดื่มได้
- ดีไซน์ยาน Enterprise ร่วมกันกับซิด
- แม้จะไขปริศนาวิศวกรรมของ The Fallen มาใช้ไม่ได้ ก็ช่างแม่ง ไม่เป็นไร เราไม่ต้องไปตามรอยเขาก็ได้
- มิดบอกว่าพวก The Fallen มันบินกันบนฟ้าด้วย Magitek แต่เธอค้นพบแนวทางที่จะทำให้บินได้โดยไม่ต้องใช้เวทมนต์แล้ว
- แม้ช่วงเวลาในเรื่อง มิดจะยังสร้างเรือเหาะไม่สำเร็จ แต่เธอคิดว่าถ้าไม่สำเร็จจริง ๆ สุดท้ายเธอจะเอา Mythril Engine ที่คิดค้นได้ไปซ่อนที่ Dzemekeys และทิ้งปริศนาไว้ให้คนรุ่นหลัง คนช่างฝันที่คลั่งไค้ลที่สุดหามันพบ แล้วเอามรดกของเธอไปต่อยอด เป็นแนวคิดที่เจ๋งดี
--------------------------------------
เอลวิน
--------------------------------------
- วางแผนเลิกทาส สร้างโรงพยาบาล สร้างมหาวิทยาลัย
- รู้ว่าหลายอย่างไม่อาจทำเสร็จได้ในช่วงชีวิตของตนเอง โดยเฉพาะการเปลี่ยนค่านิยมของสังคม
- เลยฝากลูก สานต่อด้วยยยย
--------------------------------------
ทาร์ยา
--------------------------------------
- การุณยฆาต / Euthanasia / Mercy Killing
- เป็นคนมาจากนอกวาลิสเธียเหมือนกัน มีอาจารย์เคยสอนเรื่องการผสมยา เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด ให้ตายจากไปอย่างสงบ
--------------------------------------
จิล
--------------------------------------
- เจ้าหญิงของอาณาจักรทางตอนเหนือ ที่โดนโรซาเรียจับมาเป็นตัวประกัน เพื่อที่ประมุขดินแดนทางเหนือจะได้ไม่กล้าบุกมาตีอีก
- รู้ตัวว่าตัวเอง กลายเป็นเพียงเครื่องมือทางการเมือง
- แต่พรี่ไคลฟ์ดีกับเธอจนเกินไป พรี่ไคลฟ์เลยกลายเป็นแสงสว่างในชีวิตของเธอ
Post a Comment