Memoria Project เผยคลิปเดโม Final Fantasy IX Remake Project


Memoria Project เผยคลิปเดโม Final Fantasy IX Remake Project (Fanmade) ความยาว 25 นาที ซึ่งเป็นผลงานจากความร่วมแรงร่วมใจของแฟน ๆ กว่า 50 ชีวิต และทำกันมานาน 3 ปี ด้วย Unreal Engine 5

>>> https://youtu.be/BaMiPb6KiWo

โดยในต้นคลิป ระบุว่าเป็นเพียง Concept ในจินตนาการเท่านั้นว่าหากแฟน ๆ กลุ่มนี้ Remake Final Fantasy IX กันเอง เขาจะทำออกมาหน้าตาประมาณไหน โดยชี้ชัดว่า "ไม่ได้จะทำออกมาให้เล่นกัน และจะไม่ทำอะไรให้ละเมิดลิขสิทธิ์ของ Square Enix"

อันที่จริงแล้ว กรณีนี้อันเป็นการเอา Final Fantasy IX ของ SQEX มาดัดแปลงและเผยแพร่ ก็เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์แล้ว เพียงแต่อย่างตาม พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ ของไทย (ซึ่งประเทศเข้าร่วม WTO เกือบทั้งหมด ก็ได้ลงนามใน TRIPS Agreement และใช้กฎหมายลิขสิทธิ์ในลักษณะเดียวกัน) [1] การจะฟ้องร้องได้นั้น ผู้เสียหายต้องพิสูจน์ให้ได้ด้วยว่างานที่ละเมิดลิขสิทธิ์นั้น "ขัดต่อการแสวงหาประโยชน์ของเจ้าของลิขสิทธิ์" หรือ "กระทบกระเทือนถึงสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของเจ้าของลิขสิทธิ์เกินสมควร" มันก็จะเข้าข้อยกเว้น ที่ทำให้ยังฟ้องร้องไม่ได้

การที่คลิปนี้ เปิดหัวมาด้วยข้อความแบบนั้น ก็เหมือนเป็นการพยายามแสดงเจตนาไว้ก่อนว่า "อิชั้นไม่ได้จะทำเกม Remake แข่งกับ SQEX จริง ๆ นะจ๊ะนายจ๋า ชั้นแค่ทำกันเล่นเฉย ๆ ไม่ได้จะไปแข่งกับ FFIX Remake ที่ SQEX อาจจะเปิดตัวขึ้นในอนาคต และถ้ามองว่าผลงานอิชั้นกระทบสิทธิเกินสมควร อิชั้นก็พร้อมบินนนน"

[1] - https://en.wikipedia.org/wiki/TRIPS_Agreement

[2] - http://web.krisdika.go.th/data/law/law2/%C506/%C506-20-9999-update.pdf

-----------------------------------

เรื่องนี้ทำให้ผมคิดถึงเรื่อง Operation Suzaku และทีมของ Sky Blade Cloud ที่ทำ Patch ภาษาอังกฤษของ Final Fantasy Type-0 (PSP) เป็นเวลา 1 ปีครึ่ง ตั้งแต่ปลายปี 2012 และปล่อยออกมา 8 มิ.ย. 2014 ซึ่งเร็วกว่าที่ทีมวางแผนไว้แต่แรกถึง 2 เดือนทั้งที่งานยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี

โดยสาเหตุที่ปล่อยเร็วขึ้นนั้นเนื่องจากคุณ Sky ผู้เป็นหัวหน้าทีม ได้ข่าวมาก่อนว่า Square Enix จะเปิดตัว FF Type-0 HD ที่มีภาษาอังกฤษแล้ว ในงาน E3 วันที่ 10 มิ.ย. 2014 ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ผลงานที่ทีมของพวกเขาตรากตรำเวลาส่วนตัวทำกันมาปีครึ่ง ก็อาจจะดูด้อยค่าลงไป ไม่ได้รับความสนใจ และไม่เกิดประโยชน์ต่อคอมมูฯ Final Fantasy ทั่วโลกมากเท่าที่วาดหวังไว้ตอนแรก โดยภายในทีมก็มีการแตกคอกันว่า หากระหว่างที่พวกเราทำ Patch ENG ยังไม่เสร็จ แล้ว SQEX ดันเปิดตัวภาค ENG ขึ้นมา เราจะทำยังไง? ซึ่งก็มีทั้งคนที่ยอมทิ้งโปรเจคท์ และปล่อยให้ความพยายามทั้งหมดที่ผ่านมาหายไปฟรี ๆ ได้ และก็มีทั้งคนที่ยังไงก็อยากปล่อย Patch ENG ที่แฟน ๆ แปลกันเองอยู่ดี ซึ่งในที่สุด หัวหน้าทีม ตัวคุณ Sky เองก็ชิงปล่อย Patch ENG เท่าที่อัปเดตกันถึง 8 มิ.ย. 2014 โดยไม่ฟังความเห็นจากเพื่อนสมาชิกในทีม (ซึ่งงานมันก็แปลหมดแล้วแหละนะ เพียงแต่ยังไม่ได้ polish ทุกจุดดี เนื่องจากทีมใช้คนแปลหลายคน ทำให้แต่ละคนแปลศัพท์เฉพาะหรือประโยคเดียวกัน ออกมาไม่เหมือนกัน และยังไม่ได้ polish เก็บงานกัน) [3]

ซึ่งกรณีดังกล่าว ก็โดน SQEX สั่งเก็บในวันที่ 18 ก.ค. 2014 และแม้ตอนแรก Sky จะบอกว่าถึงโดนฟ้องก็ไม่กลัว เพราะเขาอาศัยอยู่ในประเทศสเปนที่กฎหมายลิขสิทธิ์ต่างออกไปหน่อย โดยกฎหมายสเปนนั้นระบุให้ "modification to produce successive versions by the holder of the rights of exploitation" ทว่าสุดท้าย Sky ก็ยอมถอย แล้วระเบิดทุกอย่างบรึ้มทิ้งเป็นทุ่งข้าวสาลีอยู่ดี [4]

กรณีของ Operation Suzaku และทีมของ Sky Blade Cloud จึงเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับผู้ที่สนใจ จะเหยียบย่างเข้าไปในดินแดนของการดัดแปลงผลงานของ Square Enix

[3] - http://re-ffplanet.blogspot.com/2014/07/kotaku-final-fantasy-type-0.html

[4] - http://re-ffplanet.blogspot.com/2014/07/sqex-skybladecloud-type-0.html


อีกกรณีหนึ่งที่แฟนรุ่นหลังควรศึกษากันคือ Chrono Trigger: Crimson Echoes อันเป็นเกม Fan Made ภาคต่อของ Chrono Trigger ซึ่งเริ่มพัฒนาตั้งแต่ปี 2004 ถึงปี 2009 รวมเป็นระยะเวลา 6 ปี โดยสำเร็จไปแล้ว 98% เนื้อหาในเกม Fan Made นี้เป็นเรื่องราว 5 ปีต่อจากเกมต้นฉบับ และทีมงานได้ทำ ROM Hack เพื่อแก้ไขข้อมูลตัวเกมเดิม [5]

เคสนี้ก็จบที่ SQEX สั่งพับเก็บ ก่อนจะถึงวันปล่อยเกมที่กำหนดไว้

[5] - https://en.wikipedia.org/wiki/Chrono_Trigger:_Crimson_Echoes

ไม่มีความคิดเห็น