บันทึกการเล่น FFXVI วันที่ 7
- ไคลฟ์แยกไปย่านการค้า เจอฮาร์เบิร์ดและจำได้ว่านี่มันคนที่ไปอยู่ในห้องใต้ดินบ้านเขา แล้วตอนนี้มาพร้อมกับ Ultima’s Thrall
- ฮาร์เบิร์ดบอกว่าพวกนั้นก็เป็นมนุษย์เหมือนกับเรา เพียงแต่ปลดเปลื้องจากจิตที่ทำให้เราคลุ้มคลั่ง พวกมันบริสุทธิ์ ดุจดั่งเทพ และพวกมันคือสิ่งที่เหลืออยู่ในเมืองนี้ (แนวคิดว่าเทพ จิตบริสุทธิ์ และต้องการทำให้มนุษย์เป็นแบบเดียวกัน เป็นแบบ LRFFXIII เลย)
- แล้วฮาร์เบิร์ดก็สวมหมวกหน้ากาก บอกว่าตัวเองคือ Sleipnir แห่งตระกูลฮาร์เบิร์ด (เป็นประเด็นที่นักข่าวทายถูกหมดว่า หมอนี่คือ Sleipnir ถึงอยู่กับโอดินตลอดได้)
- มันจะใส่ Gungnir เข้ามาสู้กับไคลฟ์ แล้วก็แพ้ไป
- โจชัวกับจิลตามมาสมทบ และขอโทษที่ช่วยใครไม่ได้ ไคลฟ์คิดว่าพวกเราน่าจะมาช้าไป
- โจชัวมองศพ Sleipnir แล้วสงสัยบางอย่าง
- ทันใดนั้นตึกด้านหลังทุกคนถูกฟัน แล้วถล่มลงมา บาร์นาบัสก็เดินออกมา แนะนำตัวว่าเขาคือผู้พิทักษ์ดินแดนธุลี ราชาแห่งวาลูด
- ไคลฟ์ให้โจชัวกับจิลถอยไป
- บาร์นาบัสคว้าดาบแถวนั้นจากพื้นเข้ามาท้า (ไม่ได้ใช้ดาบมายา) โดยเขาใช้แขนข้างเดียว อีกข้างไขว้หลังไว้ แต่ไคลฟ์สู้ไม่ได้
- บาร์นาบัสบอกป่าเถื่อนเลือดร้อนแบบนี้ ไม่รู้ชนะแม่ทัพเขาได้ยังไง ทว่านายของเขาก็ต้องการตัว Mythos เพราะมีศักยภาพ
- ไคลฟ์บอกให้เลิกเรียกเขาแบบนั้น
- บาร์นาบัสบอกว่า Mythos คือทุกสิ่ง คือเสาเข็มของทุกสรรพสิ่ง ภาชนะของท่าน นั่นคือเป้าหมายของแก
- ไคลฟ์ถามว่าเป้าหมายของเขา คือต้องจำนนร่างกายและจำยอมจิตใจให้งั้นเหรอ? ไม่ เป้าหมายของเขา ก็คือของเขาเอง เขาสัญญากับเพื่อน กับผู้คน
- บาร์นาบัสบอกอย่าให้มายาภาพของเจตจำนงค์อิสระ มาขวางกันหนทางไปสู่ความเจริญได้ จิตของแกมันเป็นมะเร็งร้าย ที่ต้องตัดทิ้งไป แล้วบาร์นาบัสก็ทิ้งดาบจริง เสกซันเท็ตสึเคนขึ้นมาในมือ ฟันไคลฟ์ร่าง half-prime ทีเดียวร่วง
- โจชัวเข้าไปอุ้มไคลฟ์หนี จิลเข้าไปแปลงร่างเป็นศิวะ พยายามถ่วงเวลาไว้ แต่ก็โดนฟันใส่
The Ironworks (ชานเมือง Kanver)
- เป็นอู่ต่อเรือครบวงจร ในถ้ำทะเลแห่งนึงชานเมือง Kanver มีผาสูงและคลื่นทะเลแรง ทำให้ป้องกันคนสอดแนมได้
- เวลาต่อมา โจชัวพาไคลฟ์มารักษา ถึงรักษาแผลได้ แต่จิตวิญญาณนั้นไคลฟ์ต้องรักษาตัวเอง
- มิดบอกว่าที่นี่เต็มไปด้วยสิ่งมหศัจรรย์ที่โลกยังไม่พร้อมรับรู้ ถ้า Guild จับได้ว่าพวกเราทำอะไร พวกเขาต้องมาเอาไปแน่
- ไบรอนบอกโจชัวอย่าโทษตัวเองเลย ตอนมาถึง ไคลฟ์แทบสิ้นลมแล้ว
- โจชัวบอกบาร์นาบัส จะฟันตัดเส้นเอ็นทุกเส้นบนร่างพี่ก็ได้ แต่เขาจงใจให้แผลไม่ร้ายแรงถึงตาย
- Gav ขอบคุณไบรอนที่มอบเงินมหาศาล ให้ทั้งรังลับ และการสร้างเรือลำนี้
- มิดถามไคลฟ์ที่หมดสติว่า ทำไมเสี่ยงชีวิตเพื่อสาวน้อยที่แทบไม่รู้จักกันแบบนี้
- ไคลฟ์ได้สติพอดี บอกว่าเขาแค่อยากจะช่วย โลกมันช่วยตัวเองไม่ได้ เพราะพ่อเธอสอนไว้
- ตอนนี้ทหารขึ้นเรือดำออกไปแล้ว บาร์นาบัสคงไปด้วย Gav บอกว่าจิลถ่วงวลาให้แล้วไม่ได้กลับมา แต่ไคลฟ์บอกว่าจิลปลอดภัย
- โจชัวบอกว่า aether จาก eikon ของเธอยังอยู่ แปลว่าเธอยังไม่ตาย
- ไคลฟ์บอกเราต้องตามไปที่เรือดำ จิลคงอยู่กับบาร์นาบัส
- มิดบอกว่า mythril engine ยังไม่พร้อม มันดีดเป็นโจโคโบะเถื่อน พร้อมจะฉีกยานเป็นสองส่วน ถ้าเธอมีบันทึกของพ่อที่เขียนถึงเรื่องนี้บ้าง แล้ว Gav บอกว่า Otto น่าจะพอมีเก็บไว้
- ไคลฟ์บอกเขาจะกลับไปหา Otto
รังลับ
- คารอนบอกว่า แต่ก่อนเธอก็เป็นแม่ค้าที่แทงข้างหลังลูกค้า จนได้มาเจอซิด ซิดบอกว่าจะช่วยให้เข้าถึงคอมมูฯ ใหญ่ของคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ต้องการอาวุธและของต่าง ๆ เหมือนกัน แต่มีข้อมูลว่าคารอน ต้องขายของให้เขาคนเดียว แล้วซิดเล่าแผนที่จะล้ม mothercrystal ให้ฟัง และบอกว่าถ้าไม่มีมันแล้ว โลกนี้ก็จะต้องการของต่าง ๆ มากมาย และเป็นโอกาสที่เธอจะโกยเงินเป็นกอบเป็นกำ และช่วยให้เธอเป็นแม่ค้าที่รวยที่สุดใน The Twins เธอเลยปิดร้านแล้วมาเข้าร่วมรังลับ ผ่านไป 12 ปี แม้จะไม่ได้รวยที่สุด แต่ก็มีความสุขมาก ๆ แล้ว
- ข้อมูล Sleipnir เขียนว่าเขากับบาร์นาบัส ฆ่า Guildmasters และเหล่ารัฐมนตรีของดัลเมเคีย ตายหมดแล้ว ที่ Agora
- ไคลฟ์กลับมาหา Otto คนเดียว Otto ให้ไปดูที่ห้องทำงาน Mid
- เจอทั้งไดอารีที่มิดน่าจะอ่านหมดแล้ว ไปป์ของซิด ตุ๊กตาที่สอดกระดาษปริศนาไว้ ซึ่งบอกว่าเขาซ่อนของไว้ที่ first opus
- ที่ตู้เพลง เด็กมากดเล่นทุกปุ่มพร้อมกันจนพัง
- ไคลฟ์ถอดชิ้นส่วนนึงออกมา แล้วเครื่องมันเล่นเพลงใหม่ออกมาได้
- Otto บอกว่าเขาเคยเห็นซิดถือมัน มาแล้วบอกสิ่งที่ทำให้ฝันเป็นจริง
- Tarja บอกดิออนออกไปแล้ว ต้องตามไปมั้ย? ไคลฟ์บอกเราไม่ใช่ผู้ดูแเขา เขาอยากทำอะไรก็แล้วแต่เห็นควรเลย แต่ Tarja บอกว่าเขาควรจะนอน แผนยังไม่ใกล้หายเลย ไคลฟ์เองก็ด้วย
- Otto บอกว่าต่อให้ล้มเหลว ก็พยายามมีชีวิตรอดนะ
- ไคลฟ์บอกต้องไปแล้ว ยิ่งเสียเวลานาน เรือดำยิ่งไปไกล
- ข้อมูล Orchestrion บอกว่าเป็นสิ่งที่มิดสร้างในวัยเด็ก ซิดบอกว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงอันแรกของเธอ แต่ซิดก็ซ่อนผลงานชิ้นโบว์แดงของเขาไว้ข้างใน มันคือสิ้นส่วนสุดท้ายที่จะทำให้การ calibrate mythril engine ที่ทั้งสองดีไซน์ร่วมกัน เสร็จสมบูรณ์
- เควสต์ ไปพูดกับ Tarja ที่ดูแลแบร์เรอร์ใกล้ตายมาหลายวัน ไม่ยอมหลับยอมนอน Tarja บอกว่าถ้ามี Tears of Mercy, Elysia จะช่วยให้ไปสบายได้ บางทีการได้ตายดี มันก็เป็นความเมตตาที่สุดเหมือนกัน
- เราไปช่วยหาส่วนผสมมา แล้วทุกคนต่างก็ไม่อยากทำกับผู้ป่วยหรอก ใช้นิดเดียวจะขจัดความเจ็บปวด และการรับรู้ทั้งหมด > พอเอาไปใช้ ผู้ป่วยก็ตัวเบาสบาย แล้วก็ตาย > Tarja บอกว่าคน ๆ นี้คือครูของเธอเอง สมัยอยู่เกาะทางใต้ เกิดสงคราม เธอถูกส่งตัวมาเข้าเต็นท์ผู้ป่วย ใช้พลังรักษาคนไข้ แต่ในดินแดนโซนดำแบบนั้น เธอใช้พลังไม่ได้ จนครูมาสอนให้รู้ถึงภายวิภาคศาสตร์ Tears of Mercy ก็เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ครูสร้างขึ้นมาเพื่อแบร์เรอร์ทั่วโลก เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดจากการตายด้วยคำสาป
- ไคลฟ์บอกว่า มันเป็นความเมตตา ที่ซิดก็ต้องยอมรับด้วยแน่
- Tarja บอกในการรบ ผู้บังคับบัญชาไม่ได้สนใจแบร์เรอร์ที่มารับใช้หรอก แต่ผลงานของครูเธอ มอบความสงบให้ก่อนจะลาจากไป เธอไม่เหลือน้ำตาแล้ว เธอเสียเพื่อนไปมากมาย และมันต้องเปลี่ยนแปลง เราต้องเป็นคนเปลี่ยนมัน > Rodrigue ก็บอกว่าถ้าแบร์เรอร์เป็นอิสระเมื่อไหร่ เราก็จะไม่ต้องมาทำอะไรแบบนี้
- เควสต์ Blackthorne อยากกลับไปดูแหวนของผู้ใหญ่บ้าน Zoltan ที่หมู่บ้าน Dravozd บ้านเกิดของเขา เพราะเขาทำละเอียดได้ไม่ถึงครึ่งของแหวนนั้น > เป็นหมู่บ้านนัก Smith กำลังมีปัญหาว่าเอาแบร์เรอร์มาเผาไฟ แล้วไฟแรงไม่พอจะตีอาวุธ > ไคลฟ์ถามว่าทำไมเขาไม่ต้อนรับเรา > เพราะ Blackthorne ทิ้งหมู่บ้านนี้ ทิ้ง Zoltan ไป ในตอนที่นายคนก่อนตายและทิ้งภาระผู้นำหมู่บ้านไว้ให้ โลกนี้มี smith 2 ประเภท คือคนที่ตีแม่งเช้าจรดเย็นให้งานออกมาดี ส่วน Zoltan มันทำงานเร็วงานถูก เพื่อทำกำไร เราเลยเถียงกันคอแหบทุกวัน จนคนในหมู่บ้านเริ่มแบ่งข้าง เขาเลยทิ้งหมู่บ้านออกมา แต่ Zoltan มันก็เป็นผู้นำที่ดีกว่าเขาแหละ วิถีของ Zoltan ทำให้คนมีข้าวกิน หมู่บ้านยั่งยืนได้ แต่ตอนนี้พอคริสตัลใช้งานไม่ได้ เตาเผาทำงานไม่ได้ หมู่บ้านนี้ก็ตายทั้งเป็น > August บอกว่ามันต้องมีทางอื่นในการจุดไฟสิ เรายังทำที่รังลับเราได้เลย > Blackthorne บอกว่าเพราะความหลักแหลมของซิด เขารู้ว่าเรื่องแบบนี้จะมาถึง คริสตัลคือปัญหาไม่ใช่ทางออก และหาทางจุดไฟโดยไม่ใช้คริสตัลขึ้นมา แต่ขืนปล่อยไว้แบบนี้ หมู่บ้านนี้ล่มจมแน่ แล้วก็หันมาถามไคลฟ์ว่า ถึงเวลาแบ่งปันภูมิปัญญาของซิดให้โลกรู้แล้วรึยัง? ซึ่ง August ก็ลังเล คิดว่าซิดสร้างไว้ให้พวกเราเท่านั้น แต่ไคลฟ์บอกว่า ไปบอกเลย นี่คือบ้านเกิดนาย นวัตกรรมของซิดไม่ได้ถูกคิดขึ้นมาเพื่อกั๊กเอาไว้ มันอยู่ที่เวลาเท่านั้น ว่าเราจะเปิดเผยให้โลกรู้เมื่อไหร่ ให้นี่เป็นอีกก้าวหนึ่งของการปลดปล่อยวาลิสเธีย ไปจากคุกของพรคริสตัล Dravoz จะแสดงให้โลกเห็นว่า มันเป็นจริงได้
- แล้ว Blackthorne ก็เข้าไปสอนคนในหมู่บ้าน ให้ทำเตาเผาด้วยวิธีปกติธรรมชาติเป็น > Zoltan เข้ามาขอโทษและมอบ Pit-coal cinder ให้เป็นถ่านที่ทำให้เตาเผาไฟอยู่ได้ยืด ใส่เข้าไปในกองไฟ ไฟร้อนขึ้น อยู่ได้นานขึ้น เป็นความลับของเขา แล้ว Zoltan บอกว่าเขาอิจฉา Blackthorne เขาก็พยายามเอาเวลาว่างทั้งหมด ฝึกให้เทียบชั้นไอ้บ้านั่น แต่ไม่ว่าจะอดนอนเท่าไหร่ ก็ไม่อาจถมช่องว่างได้เลย มันคืออัจฉริยะ ที่หมู่บ้านต้องการตัว
- ไคลฟ์บอกว่าแต่การรู้ว่าต้องใช้ cinder ก็แปลว่าคุณเติบโตขึ้น Zoltan บอกว่าเขาต้องยกโทษให้หมอนั่นก่อน แต่คงไม่มีวัน… แล้วก็เดินจากไป
- ไคลฟ์มาบอก Blackthorne ว่าแม้ Zoltan จะไม่ได้พูด แต่ก็รู้สึกได้ว่าเขาอยากยกโทษให้
- Blackthorne บอกว่าเขาไปจากที่นี่ไม่ได้ ไคลฟ์กับเหล่า Cursebreaker ฝากชีวิตไว้กับเขา ไม่มีเกียรตใด ๆ สูงไปกว่านี้แล้ว ดังนั้น เขาจะไม่กลับไปขอให้ Zoltan ยกโทษให้ แต่จะเอา cinder ที่ได้มา ทำงานให้ดี ถ้ามันช่วยให้ปกป้องชีวิตคนได้อีกสักคน เขาก็รู้สึกเป็นพระคุณ
- ไคลฟ์คิดในใจว่า ให้ไอ้สองคนนี้มันแข่งกันแบบนี้แหละ ดีแล้ว
- Nigel หัวหน้านักพฤกษศาสตร์ ให้เราไปหาสิ่งต่าง ๆ มาช่วยปรับดิน จนสุดท้ายพอใส่ลงดินที่เป็นโซนดำแล้ว พืชก็เบ่งบานแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
มีการทำข้อตกลงเป็นชาติพันธมิตร ระหว่างดัลเมเคียกับโรซาเรีย ในปี 850 เพื่อป้องกัน Kanver แยกตัวเป็นอิสระ ต่อมาซันเบรกเข้าร่วมด้วย แต่สายสัมพันธ์ระหว่างโรซาเรียและดัลเมเคียก็ยังแน่น โดยโรซาเรียแบ่งปันเคล็ดลับด้านการชลประทาน ทำให้สองประเทศมีสัมพันธ์ทางการทูตที่ดี
**มันมีสงครามแยกตัว Kanveriam War ปี 849 แล้วแยกตัวสำเร็จปี 857**
ข้อมูล Triunity
ปี 859 มีการตกลงเป็นพันธมิตรกันระหว่างโรซาเรีย ดัลเมเคีย ซันเบรก เพื่อคัดค้านการแยกตัวออกมา เพราะกลัวจะเป็นแรงบันดาลใจในการแบ่งแยกดินแดนอีก แต่ปี 860 ก็ยุบข้อตกลงนี้ไป หลังการโจมตีที่ฟินิกซ์เกท
ข้อมูล Dzemekys
เป็น Mothercrystal ที่เชื่อกันว่าอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของดัลเมเคีย ตำนานเล่าว่ามันถูกทำลายในการต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับเทพเจ้า ทำให้เกิดหลุมเครเตอร์ขนาดใหญ่จนทุกวันนี้
ข้อมูล Magitek (จักรกลเวทย์)
ข้อมูล Magitek (จักรกลเวทย์)
เป็นคำปรากฏในช่วงต้นประวัติศาสตร์ของอารยธรรม The Fallen เป็นเทคโนโลยีเวทมนต์ชั้นสูง เช่น เรือเหาะ พวกเขายังผลิตอาวุธที่รูปร่างเหมือนสิ่งมีชีวิต แต่มีพลังทำลายล้างเทียบเท่าเทพเจ้าในตำนาน พงศาวดารเก่าเรียกอสูรนั้นว่า Eikonoklastes (Breaker of Icon) คำว่า Eikon ที่ใช้ในปัจจุบันนี้ ก็ล้อมาจากตรงนั้น
ข้อมูล Kanver
ขาดกำลังทหารของตนเอง ใช้ทหารรับจ้างที่พ่อค้าและนักธุรกิจจ้างมา แต่ถูกกองทัพ Akashic ของวาลูดถล่มในปี 878 จึงสูญเสียผู้นำทางการเมืองและพลเมืองจำนวนมาก มันเลยไม่เหลือความเป็นชาติแล้ว
ข้อมูล Joshua
ด้วยความช่วยเหลือของกองทัพอมตะ เขาจึงได้บันทึกพงศาวดารของ Moss มา (Journal of Moss the Chronicler) ซึ่งเขาอ่านจนทราบเรื่องการมีอยู่ของอัลเทม่า สิ่งที่เขาพบและภายหลังผนึกไว้ในตัวที่ Drake’s Head ตอนนี้กลับมาพบกับพี่ชาย และสู้เพื่อกำจัดอัลเทม่า และสร้างชะตาชีวิตใหม่ให้มนุษยชาติ
------------------------
ตอบลบการเผยแพร่วิทยาการใหม่ให้โลก
------------------------
- เควสต์ Blackthorne อยากกลับไปดูแหวนของผู้ใหญ่บ้าน Zoltan ที่หมู่บ้าน Dravozd บ้านเกิดของเขา เพราะเขาทำละเอียดได้ไม่ถึงครึ่งของแหวนนั้น
- Dravozd เป็นหมู่บ้านนัก Smith ซึ่งกำลังประกอบปัญหาว่าเอาแบร์เรอร์มาเผาไฟ แล้วไฟแรงไม่พอที่จะตีอาวุธแล้ว (โลกตอนนั้นเกิดภัยพิบัติขึ้น ทำให้ใช้เวทย์ตามปกติจากคริสตัลได้เสื่อมลงเรื่อย ๆ)
- ไคลฟ์ถามว่าทำไมหมู่บ้านนี้เขาไม่ต้อนรับพวกเราเลย?
- Blackthorne เล่าในอดีตเขาทิ้งหมู่บ้านนี้ ทิ้งเจ้า Zoltan ไปในตอนที่ผู้นำหมู่บ้านคนก่อนตายและทิ้งภาระผู้นำหมู่บ้านไว้ให้พวกเขาสองคน โดยเขาเห็นว่าโลกนี้มี smith 2 ประเภท คือคนที่ตีอาวุธแม่งเช้าจรดเย็นให้งานออกมาดี ส่วน Zoltan เป็นพวกทำงานเร็วงานถูก เพื่อทำกำไร พอทำงานแบบต่างอุดมการณ์กัน เราสองคนเลยเถียงกันคอแหบทุกวัน จนคนในหมู่บ้านเริ่มแบ่งพักแบ่งพวก เขาเลยทิ้งหมู่บ้านออกมา
- Blackthorne ยอมรับว่า Zoltan มันก็เป็นผู้นำที่ดีกว่าเขาแหละ วิถีของ Zoltan ทำให้คนมีข้าวมีปลากิน หมู่บ้านยั่งยืนได้ แต่ตอนนี้พอคริสตัลใช้งานไม่ได้ เตาเผาทำงานตามปกติไม่ได้ หมู่บ้านนี้ก็เหมือนตายทั้งเป็น
- August บอกว่ามันต้องมีหนทางอื่นในการจุดไฟสิ พวกเรายังทำที่รังลับเราได้เลย
- Blackthorne บอกว่าเพราะความปราดเปรื่องของซิด ซิดรู้ว่าเรื่องแบบนี้จะมาถึงเข้าสักวัน คริสตัลคือต้นตอของปัญหาไม่ใช่ทางออก และซิดได้คิดค้นการจุดไฟโดยไม่ใช้คริสตัลขึ้นมา แล้ว Blackthorne ก็หันมาถามไคลฟ์ว่า ถึงเวลาแบ่งปันภูมิปัญญาของซิดให้โลกรู้แล้วรึยัง?
- ซึ่ง August ก็ลังเล คิดว่าซิดสร้างวิทยาการใหม่นี้ (การจุดไฟด้วยวิธีตามธรรมชาติ โดยไม่ใช้ aether) ไว้ให้พวกเราเท่านั้น แต่ไคลฟ์บอกว่า ไปบอกเลย นี่คือบ้านเกิดนาย วิทยาการของซิดไม่ได้ถูกคิดขึ้นมาเพื่อกั๊กเอาไว้ มันอยู่ที่เวลาเท่านั้น ว่าเราจะเปิดเผยให้โลกรู้เมื่อไหร่ ให้นี่เป็นอีกก้าวหนึ่งของการปลดปล่อยวาลิสเธีย ไปจากคุกของพรคริสตัล Dravoz จะแสดงให้โลกเห็นว่า มันเป็นจริงได้
- แล้ว Blackthorne ก็เดินเข้าไปสอนคนในหมู่บ้าน ให้ทำเตาเผา และจุดไฟด้วยวิธีปกติธรรมชาติเป็น
- Zoltan เข้ามาขอโทษไคลฟ์และมอบ Pit-coal cinder ให้เป็นถ่านที่ทำให้เตาเผาไฟอยู่ได้ยืด ใส่เข้าไปในกองไฟ ไฟร้อนขึ้น จะอยู่ได้นานขึ้น เป็นความลับของเขา แล้ว Zoltan บอกว่าเขาอิจฉา Blackthorne เขาก็พยายามเอาเวลาว่างทั้งหมด ฝึกให้เทียบชั้นไอ้บ้านั่น แต่ไม่ว่าจะอดนอนเท่าไหร่ ก็ไม่อาจถมช่องว่างได้เลย Blackthorne คืออัจฉริยะ ที่หมู่บ้านต้องการตัว ไคลฟ์บอกว่าแต่การรู้ว่าต้องใช้ cinder ก็แปลว่าคุณเติบโตขึ้น Zoltan บอกว่าเขาต้องยกโทษให้หมอนั่นก่อน แต่คงไม่มีวัน… แล้วก็เดินจากไป
- พวกเรากลับมาที่รังลับ แล้วไคลฟ์มาบอก Blackthorne ว่าแม้ Zoltan จะไม่ได้พูด แต่ก็รู้สึกได้ว่า Zoltan อยากยกโทษเรื่องที่ทิ้งหมู่บ้านไปให้
- Blackthorne บอกว่าเขาไปจากที่รังลับนี้ไม่ได้ ไคลฟ์กับเหล่า Cursebreaker ได้ฝากชีวิตไว้กับเขา ไม่มีเกียรติยศใด ๆ สูงส่งไปกว่านี้แล้ว ดังนั้น เขาจะไม่กลับไปขอให้ Zoltan ยกโทษให้ แต่จะเอา cinder ที่ได้มา ทำงานให้ดี ถ้ามันช่วยให้ปกป้องชีวิตคนได้อีกสักคน เขาก็รู้สึกเป็นพระคุณ
- ไคลฟ์คิดในใจว่า ปล่อยให้ไอ้สองคนนี้มันแข่งกันแบบนี้แหละ ดีแล้ว
------------------------
ฯลฯ
------------------------
- จากเดิมที่โลกเชื่อกันว่าในโซนดำ ดินไม่มี aether อยู่ ก็จะปลูกพืชไม่ได้ พอไม่มีพืช ก็เลี้ยงสัตว์ไม่ได้ คนก็จะอยู่อาศัยไม่ได้ แต่ซิดพิสูจน์ให้เห็นแต่แรกว่าเราจุดไฟด้วยวิธีอื่นได้ และให้ทุกคนช่วยกันคิดค้นการใช้ชีวิตโดยไม่พึ่งพา aether ขึ้นมา
- Nigel หัวหน้านักพฤกษศาสตร์ ให้เราไปหาสิ่งต่าง ๆ มาช่วยปรับปรุงดิน จนสุดท้ายพอใส่ลงดินที่เป็นโซนดำแล้ว พืชก็เบ่งบานแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ตอนนี้มั่นใจแล้วว่า ถึงกลายเป็นโซนดำทั้งโลก ก็ไม่ได้แดกพวกกูหรอก
- ข้อมูล Magitek (จักรกลเวทย์) เป็นคำปรากฏในช่วงต้นประวัติศาสตร์ของอารยธรรม The Fallen เป็นเทคโนโลยีเวทมนต์ชั้นสูง เช่น เรือเหาะ พวกเขายังผลิตอาวุธที่รูปร่างเหมือนสิ่งมีชีวิต แต่มีพลังทำลายล้างเทียบเท่าเทพเจ้าในตำนาน พงศาวดารเก่าเรียกอสูรนั้นว่า Eikonoklastes (Breaker of Icon) คำว่า Eikon ที่ใช้ในปัจจุบันนี้ ก็ล้อมาจากตรงนั้น