บันทึกการเล่น FFXVI วันที่ 1
ขอทดเป็นภาษาแมว ๆ ไว้ให้ตัวเองอ่านรู้เรื่องคนเดียวก่อน
Nysa Defile
- ปี 873
- ชื่อสมาชิกทีม เป็น codename เผ่ามังกรทั้งหมด เช่น Tiamat Biast Wyvern Aevis ทุกคนเป็นแบร์เรอร์
- ไคลฟ์จำจิลได้ เลยฆ่าไม่ลง แล้วบอกเทียแม็ตว่าเขาสู้ให้จักรวรรดิเพื่อเอาตัวรอด แต่ไม่เคยภักดีด้วย
- เทียแม็ตถามใครฝึกแก ใครทำให้แกมีชื่อ
- ไคลฟ์ที่หมดเรี่ยวแรง จากการสู้กับเทียแม็ตและกองทัพเหล็ก เลือกที่จะกอดจิลไว้เพื่อปกป้อง ไม่ยอมทิ้งเธอหนีไป
- แต่แล้วมีสายฟ้ารามูมาช่วย
- ทอร์กัล โผล่มากับซิด มาช่วยทั้งสองหนี
- เบเนดิคต้า งงว่าฮิวโก้ปล่อยไปได้ไงฟะ
- ซิดเคยได้ยินข่าวลือว่าไคลฟ์รอด แต่ไม่ได้เชื่อจริงจังว่ารอด
- ซิดชวนให้เข้าร่วมกลุ่ม ถ้าอยากช่วยจิล
รังลับ
- รังมันอยู่ในดินแดนโซนดำ ไม่มีพืชสัตว์อะไรต่าง ๆ รวมถึงผู้คน ใช้เวทมนต์ก็ไม่ได้ ไคลฟ์ก็ทึ่งว่าอยู่กันได้ไง
- แต่ซิดปลูกแอปเปิ้ลได้ แล้วยื่นให้กิน แต่ไคลฟ์ไม่กิน
- interface ไอเทม คำอธิบาย การวางเมนู โมเดล npc การแอนิเมชั่น ต่าง ๆ ดู FFXIV มาก
- ส่วนใหญ่คนที่รังลับ เป็นแบร์เรอร์
- คนปลูกพืชเล่าว่าซิดเคยบอกว่า โซนดำไม่ได้ทำลายดินแดน ก็แค่ทำให้ลืมตัวตน แต่ถ้าเตือนหน่อย ก็จะจำได้
- ไก้ก็มี ผลไม้ก็มา
- มี Spoony Bard ที่ลุคคล้ายกิลเบิร์ตด้วย
- ซิดบอกเขาแค่อยากช่วย ให้มีชีวิตของตัวเองกัน ทั้งโดมิแนนต์และแบร์เรอร์ แต่โลกไม่ยอมรับ เลยต้องมาอาศัยกันในถ้ำ
- ไคลฟ์บอกว่าหวังว่าซิดจะทำสิ่งที่ถูกต้องกับจิล แต่เขาจะไปล้างแค้นคนที่ฆ่าน้อง เขารอมา 13 ปีแล้ว ทั้งนอนที่โสโครก ดื่มรางน้ำ ฆ่าคนนับไม่ถ้วน
- ซิดบอกลูกน้องได้เบาะแสร่างทรงไฟ ไคลฟ์เลยจะไปดู
- คารอนบอกว่าทอร์กัล ตามซิดกลับมาในวันนึง
- ตอนฮาร์โปคราเคสเด็ก ๆ พ่ออ่านพงศาวดารวาลิสเธีย โดย Moss ให้ฟังก่อนนอน แกก็อยากเจริญรอยตาม Moss และบันทึก ปวศ.
- พงศาวดารของมอส เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของนักวิชาการมาก แกเลยปลีกวิเวกไป
- ข้อมูลฮิวโก้บอกว่า พร้อมทรยศทุกคน เพื่อเบเนดิคต้า เจ้าตัวมีอิทธิพลทั้งทางกองทัพและการออกนโยบายของดัลเมเคีย
- พ่อครัวโรงอาหารโบะอ้วน บอกว่าอยู่ที่นี่คนเป็นคนเท่าเทียมกัน ได้กินอย่างที่อยาก ไม่ใช่ของเหลือที่นายเลือกให้ อยากพูดอยากทำไรได้อิสระ เลยอยากให้เชื่อในวิสัยทัศน์ของซิด
Greatwood
- วัตถุที่ใช้สร้างอารยธรรมโบราณแข็งแรงกว่าเหล็ก คนเลยไปอาศัยข้างในหรือรอบนอก สิ่งที่ร่วงลงมา ปัจจุบันหาทางซ่อมกันไม่ได้
- ซิดใช้ไฟฟ้าสู้กับ Fafnir แล้วกระอักเลือด
- ซิดบอกว่าความสามารถในการอัญเชิญหรือใช้เวทย์ ควรได้รับการเคารพ แต่กลับถูกเหยียด ใช้เป็นเครื่องมือ เขาไม่ได้อยากก่อสงคราม แต่อยากสร้างที่ ๆ เราจะตายได้ด้วยเจตจำนงค์ของเราเอง
- ซิดอยากให้จับเบเนดิคต้ามาถาม
- ซิดบอกว่า Creator สร้าง Eikon 8 ธาตุ ทำหน้าที่ดูแลกฎ The One Law แกไม่ได้สนใจหลักคำสอนมาก แต่เนื้อหาตรงนี้เคลียร์ชัดเจน ไฟก็มีแค่คนเดียว ทุกธาตุก็เช่นกัน คนใหม่เกิดขึ้นมาไม่ได้ถ้าคนเก่ายังไม่ตาย แล้วก็อาจจะใช้เวลานาน
The Orabelle Down
- ดินแดนซันเบรกแล้ว
- คนที่อาศัยที่ lostwing เชื่อว่าที่นั่นเคยเป็นชิ้นส่วนยานเหาะ ปัจจุบันก็คือสร้างที่อาศัยรอบ ๆ และในซากนั้น
- เด็กบอกว่า คนชั่วพาพ่อแม่และทุกคนไปที่โบสถ์
- เบเนดิคต้า ด่าว่าพวกจักรวรรดิดื่มฉี่อะไรเนี่ย แล้วพวกทหารราชา ก็โจ๊กว่าเพราะงั้นลมหายใจพวกมันเลยเหม็น
- ไคลฟ์ตามไปเจอเบเนดิคต้า สู้อสูรลมจิราด้า
- ซิดตามมา เบเนดิคต้าถามซิดที่เป็น Lord Commander ว่าทำไมทรยศวาลูดไป ซิดบอกเพราะพอแล้วกับความงี่เง่า
- มีทหารมาแจ้งว่าเจอร่างทรงแล้ว พวกเบเนดิคต้าเลยหนีไป
- ชาวบ้านบอกพวกเบเนดิคต้า คิดว่าพวกเขาซ่อนร่างทรงไว้ พอไม่มีใครพูดเลยจับพวกมีรอยสักมารวมกันขัง หวังว่าจะมีคนพูด ซิดเคยชวนพวกนี้มาเป็นพวกแล้ว แต่เขาไม่ยอมทิ้งบ้าน
- ซิดบอกฆ่าไปน้องก็ไม่ฟื้น ไคลฟ์บอกตอนนั้นเขาทำอะไรไม่ได้เลย แต่ตอนนี้ทำได้ จะทำให้วิญญาณน้องเป็นสุข หลังจากนั้นอะไรจะเกิดก็เกิด ซิดบอกว่าเหมือนเป็นทาสของชะตากรรม
- เบเนดิคต้าจับโม่งที่คิดว่าเป็นคนฆ่าฟินิกซ์ได้แล้ว กำลังถามว่าทำไมไม่สู้ไม่หนี และจับคนรับใช้ของโม่งเป็นตัวประกันด้วย
- หาข้อมูลจากคนหมู่บ้าน ซิดก็งงว่าถ้าคนที่เราสงสัย เป็นร่างทรงจริง ทำไมมันไม่เผาทหารวาลูด แล้วยังมีผู้หญิงที่มาด้วยกันอีก
- ควินเต็นจะให้นอนพื้น ซิดบอกวันหลังมึงก็ไปนอนพิ้นที่รังเหมือนกัน
- ซิดบอกอย่างสร้างโลกที่ไม่เกี่ยวว่าเราเป็นอะไร แต่สำคัญที่เราเป็นใคร แต่โลกตอนนี้ยังไม่พร้อมที่จะเป็นแบบนั้น ก็อยากใช้พลัง แสดงให้เห็นว่ามีความหวัง
Caer Norvent
- ย้อนอดีต บาร์นาบัสบอกธาลันล่มแล้ว ดินแดนตะวันออกกลายเป็นของพวกออร์ค ดินแดนกลายเป็นโซนดำ คนมองหา Mothercrystal และรับพรใหม่ แต่ยิ่งทำสงครามกัน มันก็เร่งให้เราล่มสลายกันลงไป เขาเลยอยากรวมร่างทรงให้กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว จะได้ยุติความขัดแย้ง แล้วก่อตั้งการปกครองขึ้นใหม่
- เบเนดิคต้าบอกว่าถ้าซิดไม่ทรยศก็คงพร้อมแล้ว
- บาร์นาบัสไม่พอใจว่ายังคิดถึงอ้อมกอดหมอนั่นอยู่เหรอ
- กลับมาปัจจุบัน พวกไคลฟ์ตามมาถึงแล้ว
- พอเจอเบเนดิคต้าที่โบสถ์ เธอบอกว่าต้องพาตัวร่างทรงไปยังวาลูด และอยากให้ซิดกลับไปด้วย มาสร้างโลกด้วยกัน ซิดบอกว่าเขาก็จะสร้างโลกใหม่ในแบบของตนเอง แต่ไม่ใช่โลกแบบที่บาร์นาบัสต้องการ
- ซิดจำได้ว่าเบเนดิคต้าเคยบอกว่าเหนื่อยแล้ว ไม่อยากหนีแล้ว อยากเป็นอิสระ ทำไมต้องสละตัวตนเดิม เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการด้วยล่ะ
- เบเนดิคต้าบอกว่าถ้าจะขัดขวางความฝันของบาร์นาบัส ก็ไม่มีทางเลือก ต้องกำจัดซิด
- เบเนดิคต้าเรียกสมุนมารุม ซิดสู้ไม่ได้ เบเนดิคต้าไม่คิดว่าจะกระจอกขนาดนี้
- ไคลฟ์ไต่หอคอยขึ้นไปคนเดียว จนเจอเบเนดิคต้า
- เบเนดิคต้าชักชวนคนเก่งหายากแบบไคลฟ์มาเป็นลิ่วล้อเธอดีกว่า
- ไคลฟ์จะขอตัวร่างทรงดี ๆ
- เบเนดิคต้าสู้ไม่ได้ ซิดบอกว่าเพราะไคลฟ์สู้เพื่อสิ่งที่เชื่อ
- พลังการูด้าไหลเข้าตัวไคลฟ์เอง
- เบเนดิคต้าใช้พลังการูด้าไม่ได้แล้ว ทุกคนงงว่าเกิดไรขึ้น เบเนดิคต้าบอกว่าเอาคืนมาาา แล้วก็เสียใจ ลูกน้องมืดขวา Gerulf มาปลอบ แล้วพากันหนีไป
- หอคอยจะถล่มซิดบอกร่างทรงคงหาทางออกได้แล้ว เราไปกันก่อน
- ตอนเช้าหนีออกมาจาก Gav ทุกคนงงว่าตกลงใครเป็นคนระเบิดหอคอยเพื่อช่วยปล่อยร่างทรงออกมา
- Gav บอกว่าครอบครัวเขาก็โดนจักวรรดิฆ่า ความแค้นก็เป็นแรงขับดันให้เดินหน้าเหมือนกัน แล้วซิดให้ Gav ไปช่วยหาเบาะแสต่อ
- เบเนดิคต้ากำลังกลัวว่าบาร์นาบาสจะไม่ต้องการเธอแล้ว มีขวานบินมาจามหัว Gerulf เป็นชาวบ้านเนี่ยแหละจะจับเธอไปให้นายค้าทาส
- เบเนดิคต้านึกถึงแต่ก่อน ที่โดนทรมานแล้วซิดมาช่วย บอกให้กลับบ้านด้วยกัน
- เบเนดิคต้าเลยเสียใจว่านี่คือโทษของการไม่ฟังซิด
- แล้วก็โกรธแค้นว่าโลกเฮงซวยแบบนี้ ทุกคนสมควรตาย > กลายเป็นการูด้า
- ซิดบอกว่าเธอดูด aether เข้าไปมากเกินไป ถ้าไม่หยุดการูด้า พายุนี้จะทำลายทั้งป่า
- ไคลฟ์บอกเขาได้ยินเสียงคนเรียก แล้ววิ่งไป ซิดบอกก็ไม่ต้องไปฟังงง
- ปีปฏิทินของ Twins Realm เกิดจากการลงนามตกลงเมื่อ 800 ปีก่อน ศตวรรษต่อ ๆ มา แม้มีประเทศเกิดใหม่และล่มสลาย แตกสามัคคี แต่ปฏิทินยังคงอยู่
- การต่อสู้ระหว่าง Twins Realm คือระหว่างซันเบรกและวาลูด ในปี 865 ซันเบรกใช้บาฮามุท ชิง Strait of Autha คืนมาได้ วาลูดไปเป็นพันธมิตรกับดัลเมเคียที่ชนกับอาณาจักรเหล็กอยู่เหมือนกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ซันเบรกรุกคืบมาได้
- ชาวซันเบรกเชื่อว่าคริสตัลเป็นพรของ พระแม่ Greagor
- เมืองหลวงวาลูดอยู่ที่ Stonhyrr ตรง Drake Spine
- Egis คือลูกสมุนที่ร่างทรงเรียกออกมาได้ ถ้าร่างทรงตาย มันก็จะหายไปด้วย
- ไล่ตามร่างทรงไป คลาดจากซิดที่เจอหินถล่ม
- ไล่ตามไป แต่การูด้ามาขวาง ถึงฟันไปเท่าไหร่ การูดก้าก็รักษาบาดแผลตัวเองได้หมด
- ไคลฟ์ได้ยินเสียงในหัว บอกให้ตื่นขึ้นอิฟรีต
- ไคลฟ์กลายเป็นอิฟรีตเผาการูด้า แล้วคลุ้มคลั่ง
- ซิดแปลงร่างเป็นรามูหยุดไคลฟ์ไว้ ทำให้คืนร่าง
- ซิดบอกว่าผีที่ไคลฟ์ไล่ตามมาตลอด อยู่ในตัวนาย มาตลอดเลย
- ซิดไปลาศพของเบเนดิคต้า เอาสร้อยไปวาง
Benelnus Tor
- อีกทางด้านหนึ่ง ในเวลาต่อมา ซันเบรกรบอยู่กับวาลูด โอดินซัดกับบาฮามุท
- มีข่าวว่าเมืองหลวงซันเบรกถูกโจมตี แต่จักรพรรดิยังปลอดภัย
รังลับ
- ไคลฟ์โดนจับขังคุกไปก่อน และจำได้แล้วว่าตัวเองฆ่าโจชัวเอง
- ไคลฟ์คลุ้งคลั่งแล้วบอกให้ซิดช่วยฆ่าเขาที
- ซิดบอกเขาทำได้ แค่อยากให้ไคลฟ์ได้รู้อะไรมากกว่านี้ก่อน ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ ก็ยังมีประโยชน์
- ซิดให้ไปหา Gav ที่ไปช่วยหาเบาะแสของร่างทรงให้
The Kingsfall
- ได้ยินเสียงนกหวีดของพวกจักรวรรดิ
- ซิดบอกแถวนี้มันเป็นโซนดำ ไม่ควรมีคนอยู่แล้วนี่
- ตามไปเจอ Gav กำลังโดนต้อน แล้วช่วยไว้ได้ทัน
- Gav บอกว่าร่างทรงกับเพื่อน กำลังเดินทางไปที่โรซาเรียเก่า
- ซิดบอกว่า ชั้นเห็นไคลฟ์กลายเป็นอิฟรีตต่อหน้าต่อตา มีโอกาสสูงที่ไคลฟ์จะเป็นคนฆ่าฟินิกซ์เอง แต่ตอนนั้นเราก็เห็นมีคนอีกคนอยู่ในวังวนพายุ ไปหาเขาเถอะ ลองไปดูว่าใช่เขามั้ย ถ้าไม่ใช่ เอ็งจะฆ่าตัวเองทิ้งก็ได้
- ตัดไปทาง Margrace ที่กำลังเดินทางไปโรซาเรีย บอกว่าเราจะกลับไปยังจุดเริ่มต้น ต้องหยุดเขาให้ได้ แล้ว Margrce ถอดผ้าคลุมออกมาเป็นโจชัว (Margrace เป็นชื่อไว้พรางตัว)
รังลับ
- ไคลฟ์เจอม็อคในรังลับ เคยได้ยินแค่ในตำราของพ่อ ได้ยินว่าปกติอาศัยในป่าลึก ไม่ปรากฏตัวให้มนุษย์เห็น
- ตัวนี้ชื่อ Nektar the Bold
- มันบอกว่าโดนลมหอบมา แต่มันพูดกับใครไม่มีใครเข้าใจ มีไคลฟ์ฟังมันออกคนเดียว
- จิลฟื้นแล้ว เล่าให้ฟังว่าตอนนั้นอาณาจักรเหล็กบุกเข้ามา ฆ่าคน จับตัวผู้หญิงไปยังดินแดนของมัน กะว่าจะ have fun with me จนกว่าจะถึงจุดจบ ทว่าไม่มีจุดจบ พลังตื่นขึ้นมา แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป พวกนั้นให้เลือกว่าจะสู้ให้พวกเขา หรือจะเห็นเชลยหญิงแบบเรา โดนฆ่าทิ้ง
- ไคลฟ์เล่าว่าเขาฆ่าโจชัวเอง แต่จิลยังไม่เชื่อ
- ไคลฟ์จำได้ว่าในคืนนั้น โม่งพูดกับเขาว่าเจอตัวแล้ว
- จิลบอกว่ากลับไปยังฟินิกซ์เกทกัน อยากรู้ว่าคืนนั้น เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ถ้ามันเป็นอย่างที่ไคลฟ์พูด เราก็จะเผชิญหน้ากับมันด้วยกัน
- ทำเควสต์ออกไปช่วย Martelle ที่เก็บตัวอย่างดินให้นักพฤกษาศาสตร์
- Gav บอกว่าโรซาเรียโดนจักรพรรดิยึดไปแล้ว และไม่ได้เป็นอย่างที่เคย ให้ไคลฟ์ไปที่ Martha’s Rest แล้วถามหญิงเจ้าถิ่น
- ไคลฟ์ไล่บอกลาเพื่อน ๆ
Three Reeds
- ไคลฟ์บอกว่าเขากลัวที่จะกลับมา แต่เพราะมีจิลมาด้วยเลยมาได้
- แถวนี้กลายเป็นที่จักรพรรดิแล้ว ถ้าเจอคนอื่น ให้บอกไปว่าเขาเป็นทหารเชลย มาคุ้มกันให้นายหญิง
- เควสต์รถโบะโดนล้ม ต้องเอาของไปส่งที่คอกโบะให้แทน
- พวกไคลฟ์งงว่าทำไมแถวนี้แบร์เรอร์เหลือน้อยจัง ตอนเด็ก ๆ เยอะกว่านี้ มาร์ธาบอกเพราะจักรวรรดิเอาตัวไปใช้งาน แล้วก็ปฏิบัติแย่ แต่ก่อนในรัชสมัยของเอลวิน แบร์เรอร์โดนดูแคลน แต่ก็ยังเป็นคน ทว่าพวกจักรวรรดิทำแย่กว่า เด็กก็ต้องถูกจับไปทดสอบว่าเป็นแบร์เรอร์มั้ยตั้งแต่เกิด
- มาร์ธาเป็นคนจัดหาเสบียงส่งรังของซิด และ
- มาร์ธาฝากเอายาใส่ถุงไปบริจาคที่โบสถ์ เข้าไปเจอแบร์เรอร์ที่มาร์ธาส่งให้หลวงพ่อช่วยดูแล เราเห็นแบร์เรอร์ดูด Aether เข้าตัวมากเกินไป จนกลายเป็นหิน เขาช่วยไม่ได้ แค่ประคับประคองให้วาระสุดท้ายไม่อดสู
- มาร์ธาก็อยากเปลี่ยนแปลงระบบทาสนี้ เธอเลยช่วยซิดในแบบที่จะช่วยได้
- ออกมาจากโรงแรม เจอซิด แขนซิดกลายเป็นหินไปแล้ว ซิดบอกว่าใช้สายฟ้าไปเป็นพันครั้ง คงทำแบบเดิม ๆ ไม่ได้แล้ว
- ซิดบอกตอนเขาเจอเบเนดิคต้า เธอก็เป็นทาสชะตากรรมเหมือนไคลฟ์ เขาอยากช่วย แต่แค่คิดมันช่วยไม่ได้ เขาก็แค่คนอวดดีงี่เง่า ไม่ใช่ผู้ปลดปล่อย บอกว่าผู้คนจะช่วยกันสร้างอนาคต แต่แทนที่จะยื่นค้อนให้ ดันฟาดพวกเขาซะเอง
- ซิดบอกแต่ไงซะ ไคลฟ์ไม่ใช่มอนสเตอร์ แต่เป็นคนเดิมที่เคยเป็น ยอมรับ แล้วจะหลุดพ้นจากชะตากรรม
- ซิดไปหาแนนต่อ
- มี Norreis เป็นแบร์เรอร์ที่ไม่ถูกสัก แล้วก็ไม่ถูกจับได้ จนเพื่อนแฉ แล้วเลยต้องหนี ไคลฟ์กลับไปโกหก Ronald ว่า Norreis ตายแล้ว
Eastpool
- ไปถึงกังหัน เจอ Hanna ภรรยาของมอร์ดอช ครูฝึกสอนไคลฟ์
- ฮันน่าบอกว่าที่นี่มีความทรงจำมากมาย เธอจะอยู่ที่นี่ไม่ไปไหน อนาเบลล่าแต่งงานใหม่กับจักรพรรดิของซันเบรก ทำให้ที่นี่เปลี่ยนไปมากมาย ส่วนเมอร์ดอช เสียไปตั้งแต่คืนที่ฟินิกซ์เกท
- ไคลฟ์ช็อค และคิดว่านอกจากเขาฆ่าโจชัว ยังฆ่าเมอร์ดอช และคนอื่น ๆ ไปอีก ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม จิลบอกว่าเธอเองก็ฆ่าคนมาเป็นร้อย ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม ชีวิตที่อยากเป็นคนอื่น
- จิลถามว่าจำได้มั้ยคืนนั้นที่มองจันทร์ด้วยกัน เธอภาวนาต่อ Metia และคำภาวนาก็ได้รับการตอบสนอง ไคลฟ์กลับมา สวรรค์ต้องมีแผนให้สำหรับสองเรา
- Metia คือดาวแดง ที่เชื่อว่าเป็นผู้ส่งสาส์นไปยังดวงจันทร์
- ฮันน่าเอาชุดเก่าของพ่อไคลฟ์ให้ใส่ แต่ก่อนเอลวินกับเมอร์ดอช เป็นเหมือนพี่น้องกัน
- เหตุการณ์ที่ฟินิกซ์เกท ภายหลังมีการปล่อยข่าวว่าเพราะฟินิกซ์คลุ้มคลั่ง
- อนาเบลล่า ทรยศสามีเพราะอยากสืบสานสายเลือดตระกูลที่ให้กำเนิดฟินิกซ์ไว้ เลยต้องเข้าร่วมกองทัพที่ใหญ่กว่า ตอนนี้เธอปกครองโรซาเรียในฐานะจังหวัดหนึ่งของจักรวรรดิ และปกครองแบบดุร้ายกดขี่
- Invictus เป็น 1 ใน 7ดาบที่ตีขึ้นที่ภูเขา Drustanus และส่งต่อในตระกูลอาร์กดุ๊กมาหลายชั่วอายุ เอลวินมอบดาบนี้ให้เมอร์ดอช ในตอนที่ได้แต่งตั้งเป็นแม่ทัพ
- ผู้ใหญ่บ้านจำไคลฟ์ได้ อยากให้ไปเอาแบร์เรอร์กลับ แต่ไคลฟ์จำที่นี่ไม่ค่อยได้เพราะเคยมาตอนเด็ก ๆ มาก แล้วที่นี่เปลี่ยนไปเยอะ
- ผู้ใหญ่เล่าว่า 13 ปีก่อน พวกอาณาจักรเหล็กเข้ายึดเมืองหลวง แบร์เรอร์หนีมาที่นี่ ก็ตั้งใจจะส่งกลับหากชิงเมืองหลวงกลับมาได้ แต่กลายเป็นว่าพวกจักรวรรดิดันบุกเข้ามาเช่นกัน แล้วโรซาเรียก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิ พวกแบร์เรอร์เหล่านี้เลยไม่มีบ้านให้กลับ ในยุคของเอลวิน แบร์เรอร์ที่สูญเสียนาย ก็จะกลายเป็นของดุ๊ก (ward of the duchy) เราจะส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ แล้วแบร์เรอร์จะถูกมอบหมายตำแหน่งใหม่ให้ แต่เมื่อเราเห็นว่าพวกจักรวรรดิปฏิบัติต่อแบร์เรอร์ยังไงแล้งว เราก็รู้ว่าส่งตัวไปไม่ได้ พวกเขาเลยอยู่ที่นี่กัน ดังนั้น ตามพินัยกรรมแล้วแบร์เรอร์เหล่านี้ จึงควรเป็นคนของไคลฟ์ทั้งหมด หลายคนก็เคยรับใช้รอสฟิลด์ และยังนับถือเป็นนาย
- ไคลฟ์บอกว่าเขาไม่ใช่นายของใคร อยู่กับเขาก็ไม่ปลอดภัย
- ผู้ใหญ่อยากให้ไปหาแบร์เรอร์คนนึง แล้วบอกว่าไคลฟ์ยังไม่ตาย
- ได้เบาะแสว่าเป็นคนแก่เคยทำงานครัวของโรซาเรีย ออกมาทำอาหาร รอรับไคลฟ์กลับมา
- เจอเขาแล้ว เขาอยากกลับวัง แต่ไคลฟ์บอกว่ายังไม่ได้ เขาต้องออกเดินทางก่อน อยากให้รอเขาที่ Eastpool นี้ เขาก็ยินดีรอจนวันตาย
- ไคลฟ์รับปากผู้ใหญ่บ้าน ว่าจะไปคุยกับซิด ให้แบร์เรอร์ไปอาศัยที่นั่นแทน หลังเขากลับจากฟินิกซ์เกท
- Eastpool อยู่ติดกับ Blight แค่ขอบประตูแล้ว ทำให้ปลูกพืชไม่ได้ โซนดำมันดูด aether ไปจากดิน
ซากฟินิกซ์เกท
- ราวกับเวลาหยุดไว้ เหมือนไม่มีใครกลับมา
- ตามร่างทรงลงไปที่ฮอล เจอ relic ที่มีแต่ร่างทรงฟินิกซ์ถึงเปิดได้ โจชัวควรจะได้ผ่าน relic เข้าไปฟังเสียงบรรพชน เขากับองครักษ์ควรจะยืนรอตรงนี้ (เหมือนห้อง Fayth ใน FFX)
- ไคลฟ์เปิดได้เพราะมีพลังในตัว
- เข้าไปข้างในยังสมบูรณ์ ราวกับถูกสร้างเมื่อวาน
- หุ่นยนต์ข้างในยังทำงานอยู่
- จิลงงว่าโจชัวต้องมาฝ่าอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ? ไคลฟ์เองก็ไม่ได้คิดแบบนั้นเช่นกัน นึกว่าจะเข้าง่ายสบายกว่านี้
- ไปถึงภาพฝาผนัง เวลาหยุดลง เจอโม่งมาถอดผ้าเป็นไคลฟ์
- ไคลฟ์ถูกส่งย้อนกลับไปวันนั้น
- ได้เห็นเหตุการณ์อีกครั้ง แล้วชัดเจนว่าตัวเองกลายเป็นอิฟรีตฆ่าน้องเอง แต่หนีความจริง โทษคนอื่นมาตลอด เสียใจ แต่ต้องมุ้ฟอร จะไม่หนีอีกแล้ว ต้องไปแล้ว (หยั่งกับ FF7)
- ไคลฟ์เจอร่างมืดของตัวเอง (FF4) และต้องสู้เพื่อก้าวข้ามตัวเอง ไคลฟ์ต้องยอมรับว่าตัวเองคืออิฟรีต เอาพลังของอิฟรีตมาใช้ เอาชนะตัวเอง
- มีเสียงบอกว่าในที่สุดก็ยอมรับความจริง แกเกิดมาเพื่อจะมีพลังไร้ขีดจำกัด
- ไคลฟ์ได้สติ กลับมาที่หน้าภาพฝาผนังเช่นเดิม
- ไคลฟ์สารภาพให้จิลฟัง ว่าเขาพังทุกอย่างเอง และต้องการไถ่บาป แต่อยากรู้ก่อนว่า Eikon ไฟตัวที่สองออกมาได้ยังไง แล้วไอ้โม่งนั่นใคร เขาต้องการอะไร
- จิลก็ตกลง เธอบอกเธอเปลี่ยนไปมาก แต่ไม่อยากเป็นคนแบบนั้นแล้ว เธอทำสิ่งที่อภัยไม่ได้ไปเยอะ
Dazbog Castle
- ฮิวโก้โกรธที่เบเนดิคต้าตายแล้ว มีโลงมาส่ง
- ซิดจ้างคนมาส่งโลง
Eastpool
- ไคลฟ์จะกลับไปหาฮันน่า ชวนไปอยู่กับพวกซิด
- พวกจักรวรรดิรับคำสั่งจากอนาเบลล่ามาให้ฆ่าล้างหมู่บ้าน ทั้งแบร์เรอร์และคนให้ที่หลบภัย
- Gav ตามมาบอกว่าสงสัยมีคนปากโป้ง ถ้าพวกชาวบ้านมาอยู่กับพวกเราก่อนก็ดี
- ไคลฟ์บอกแม่เกลียดแบร์เรอร์มาตลอด พ่อรับพวกเขาเป็นข้าราชบริพารในขณะที่ชาติอื่นเอาเป็นทาส แล้วก็การเกิดมามีพลังที่คนอื่นขาด พวกเขาแค่อยากเป็นอิสระ เราต้องเปลี่ยนแปลงมัน
รังลับ
- ไคลฟ์มาบอกซิดว่าเขายอมรับความจริงแล้ว และคิดถึงแต่เรื่องการฆ่ามาตลอด ทว่าตอนนี้ เห็นชีวิตคนรอบตัวมีค่า จะแบร์เรอร์ หรือยาจก ทุกคนควรมีสิทธิเลือกที่ตายของตัวเอง เขาไม่อยากหลับตาอีกแล้ว
- ซิดบอกงั้นลอบเข้าเมืองหลวงจักรวรรดิ ไปหา mothercrystal
Oriflamme
- พฤฒสภาคุยกันว่า ฝั่งขวาอาณาจักรกลายเป็นโซนดำแล้ว แบบนี้หน้าหนาว เมืองหลวงลำบากแน่
- จักรพรรดิ Sylvestre จะให้ชิงดินแดนเพิ่ม ต้องการดินแดนอุดมสมบูรณ์ทางใต้ ไม่ต้องสนใจสนธิสัญญาว่าจะไม่รุกราน Crystal Dominion ยังไงประชาชนต้องมาก่อน นี่คือพระประสงค์ของพระแม่กรีกอร์ ส่วนลูกชายที่รบกับโอดินอยู่ ก็ส่งข่าวให้ดูแลตัวเองดี ๆ
รังลับ
- ซิดบอกว่า mothercrystal มันเป็นต้นเหตุของโซนดำ ต้องทำลายมัน ถึงจะเปลี่ยนแปลงโลก และยุติโซนดำได้ ก็ mothercrytal นั่นแหละที่ดูด aether ไป
- ความจริงนี้ มันคงไม่สมประโยชน์กับเบื้องบน กับเทพเจ้า เลยถูกปกปิดไว้ มันไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประทานพร ที่สวรรค์ส่งมาให้ ใดใดทั้งนั้น
- Continental Accord สนธิสัญญาที่ทำขึ้นตอนเริ่มยุคสมัย มีทั้งเรื่องการปฏิบัติต่อแบร์เรอร์ การตั้งสกุลเงินร่วมกัน ข้อกำหนดสังคมต่าง ๆ การสักแบร์เรอร์ และการถือว่าแบร์เรอร์ไม่ใช่คน มีเรื่องปีปฏิทิน เป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของมนุษยชาติ แม้ว่าคนใช้เวทมนต์ได้จะเสียเปรียบ
- ลูกสาวซิดเรียนอยู่ที่ Kanver เวลาเขียนจดหมายส่งมา ซิดจะอารมณ์ดีไปทั้งวัน
Post a Comment