พล็อตตัวละคร FFVII ดราฟต์แรกเริ่ม จาก Ultimania Omega

หลังจากทีมพรี่ค้อนและ Odysseus แปลและเรียบเรียงหนังสือ Final Fantasy VII Remake Ultimania และ FFVII Dismantled เป็นภาษาอังกฤษทั้งเล่ม และเผยแพร่แจกจ่ายเสร็จแล้ว (ย้ำอีกรอบว่าเถื่อน ละเมิดลิขสิทธิ์)

ล่าสุดพวกเขาก็มาสานทำโปรเจคท์ หนังสือ Final Fantasy VII Ultimania Omega (2005) ต่อ

ผมเห็นเค้ากำลังจัดหน้า ช่วงหัวเรื่อง FFVII Early Material FILE อยู่ เป็นหัวเรื่องเกี่ยวกับพล็อตที่เขียนไว้เกี่ยวกับตัวละครแต่ละตัว ซึ่งบางส่วนก็เอามาใช้ในตัวเกมเวอร์ชั่นสุดท้าย บางส่วนก็ถูกเปลี่ยนไปหลายตลบ

ในที่นี้ผมอยากรวบรวมพวกเรื่องที่ต่างไปจากพล็อตสุดท้าย เพื่อบอกว่าหลักฐานมันหาอ่านได้จากเล่มนี้ ช่วงหน้า 518 เป็นต้นไป

--------------------------------------------

คลาวด์

--------------------------------------------

- Job หรือวิชาสู้ตอนแรก เป็น Magic Swordmand / Berserker

--------------------------------------------

แบร์เร็ต

--------------------------------------------

- แบร์เร็ตเป็น Foreman ของเหมือง โดยมีดูเอล (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นไดน์) เป็นผู้ช่วย

- ชินระซื้อกรรมสิทธิ์เหมืองไป แล้วสั่งให้พวกแบร์เร็ตไปติดตั้งเตาปฏิกรณ์

- สร้างเตาไปประมาณปีครึ่ง เกือบเสร็จแล้ว ชาวบ้านเตรียมฉลอง เตาระเบิดตอนแบร์เร็ตกับดูเอลไม่อยู่

- แบร์เร็ตและดูเอลวิ่งกลับบ้าน แบร์เร็ตเจอมีน่า (ภรรยา) วิ่งหนีออกจากบ้านไฟไหม้ ซึ่งเธออุ้มมาร์ลีน (ในพล็อตนี้คือลูกแท้ ๆ ของแบร์เร็ต) ที่พึ่งคลอดออกมาด้วย

- เจ้าหน้าที่ชินระคนหนึ่ง ซึ่งกำลังทึ่งกับศักยภาพไร้ขอบเขตของเตามาโค ได้ชักปืนยิงมีน่าเข้ากลางหน้าอก และตั้งใจฆ่าผู้เกี่ยวข้องกับการสร้างเตาทั้งหมดเพื่อปกปิดความลับบริษัท

- แบร์เร็ตอุ้มมาร์ลีนหนีออกมาได้ ไปเจอกับดูเอล แล้วก็พยายามหนีด้วยกัน เหตุการณ์ที่แบร์เร็ตคว้ามือดูเอลไว้ แล้วโดนยิงใส่มือจนเสียมือทั้งคู่ เหมือนตัวเกมสุดท้าย

- ตอนกลับมาพบกับดูเอลอีกครั้ง แบร์เร็ตเล่าให้ฟังว่าตอนเขาเดินทางไปถึงคอสโม่แคนย่อน ก็ตัดสินใจได้ว่าจะทำอะไรต่อไป แล้วก็นึกว่าดูเอลจะหันมาสู้กับชินระเหมือนกัน แต่ดูเอลบอกว่าแบร์เร็ตยังมีมาร์ลีน แต่เขานั้นชีวิตมีแค่ภรรยาเอลีนอร์ (ที่เสียไปในเหตุการณ์เตาระเบิดแล้ว) เลยอยากส่งทุกคนลงนรกไปอยู่กับเอลีนอร์

*ก่อนจะมาเป็นชื่อไดน์ เคยมีทั้งชื่อดูเอล บิสก์ และชื่ออื่น ๆ 

**เจ้าหน้าที่ชินระที่มีความหลังกับแบร์เร็ต เคยเปลี่ยนตัวหลายคน มีทั้งพล็อตที่เป็นรีฟ เป็นไฮเด็กเกอร์ ก่อนจะมาเป็นสการ์เล็ต

--------------------------------------------

ทิฟา

--------------------------------------------

- รู้จักคลาวด์มานาน ชอบและเก็บความรู้สึกชอบเขาไว้กับตัว

- ทิฟามีแผลกลางหลังขนาดใหญ่ที่เกิดจากฝีมือของคลาวด์ แต่ความช็อคจากเหตุการณ์นั้น ทำให้เธอสูญเสียความทรงจำของเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงเกิเเหตุ

--------------------------------------------

แอริธ

--------------------------------------------

- Job Geomancer

-ใช้เวทมนต์ได้เพราะความเป็นทายาทชนเผ่าโบราณ

- แม่ของแอริธเป็นชนเผ่าโบราณ หลังให้กำเนิดแอริธ ก็ถูกชินระจับตัวไป และถูกบังคับให้กำเนิดเซฟิรอธและชนเผ่าโบราณเทียมคนอื่น ๆ หลังจากนั้นก็ตายไป

- แอริธเป็นพวก Late Bloomer ที่ไม่เคยเดทกับชายคนไหน มีความอินโนเซนต์

- แอริธแอบตกหลุมรักลูกค้าคนนึง ที่มาซื้อดอกไม้จากเธอประจำ พอเล่าให้คลาวด์ฟัง คลาวด์ก็ปะติดปะต่อได้ว่าคน ๆ นั้นคือเซฟิรอธ

- เวลามีสถานการณ์ที่จะทำให้แอริธรู้ได้ว่าตัวตนที่แท้จริงของคนที่เธอเคยแอบชอบนั้นคือเซฟิรอธ คลาวด์จะพยายามกลบเกลื่อนไว้

- ในบทสนทนาที่ Evergreen Park คลาวด์ถามว่าทำไมแอริธดีกับเขาจัง? แอริธบอกว่าเธอมักคิดว่าคนที่ซื้อดอกไม้จากเธอไปย่อมเป็นคนดี ชายคนแรกที่เธอตกหลุมรักก็เช่นกัน

- คลาวด์ถามต่อว่า "คนรักคนแรกเหรอ?" แอริธตอบ "ไม่ใช่แบบนั้น ก็แค่คนที่อยากอยู่ด้วย ทุกครั้งที่เค้าเห็นฉัน เขาก็จะเข้ามาซื้อดอกไม้ ตอนที่เธอซื้อดอกไม้จากฉัน มันก็ทำให้นึกถึงเขา แต่มันไม่มีอะไรหรอก เรื่องมันนานมาแล้ว ไปต่อ ไปกันเถอะ"

*note ว่ามีไอเดียเกี่ยวกับสัมพันธ์ระหว่างแอริธและเซฟิรอธหลายแบบ ทั้งเป็นคนแอบรักเอย ทั้งพี่น้องเอย

[หมายเหตุผู้แปล]

ในบทสัมภาษณ์ครบรอบ 15 ปี FFVII ของแฟมิซือ ก็มีพูดถึงเรื่องพล็อตที่เซฟิรอธเป็นพี่น้องของแอริธ และพล็อตที่เป็นรักแรกของแอริธ >>> http://re-ffplanet.blogspot.com/2012/05/15-ffvii.html

Script เกมออริจินอล >>> https://finalfantasy.fandom.com/wiki/Final_Fantasy_VII_script

--------------------------------------------

Red XIII

--------------------------------------------

- เป็น Beast Type SOLDIER

- เดิมอยู่กับบูเกนฮาเกน แต่ถูกชินระจับมาทดลองกับมาโค

- ชนเผ่าของ Red ปกป้องชนเผ่าบูก้า (เผ่าของบูเกนฮาเกน) ตลอดช่วงร้อยปีที่ผ่านมา ทว่าเซโตะ พ่อของเรด หนีไปจากการต่อสู้กับชนเผ่ากิ

- ในเนื้อเรื่องเดิม พวกคลาวด์จะไปตามหาแกนดอล์ฟ หนึ่งใน 3 เซนต์ที่โรงงานแห่งหนึ่งของชินระ

- เป็นเหตุการณ์ที่บังคับเรดเข้าร่วมกลุ่มโดยอัตโนมัติ

- ข้างในจะเจอโฮโลแกรมของโฮโจ และเจอร่างโคลนของเรด ชื่อ Cobalt 14 และ Indigo 15 ซึ่งกราฟิกจะต่างจากเรดออกไปหน่อย

- โฮโจสร้างร่างโคลนจากการเอาเซลล์ของเรดไปเพาะ

- จะมีแบทเทิลที่ทีม ต้องสู้กับกับ Cobalt 14, Indigo 15 ในขณะที่พวกมันก็สลับตำแหน่งกับเรดมั่วไปหมด ถ้าเราโจมตีถูกเรด พวกร่างโคลนก็จะหัวเราะ ถ้าโจมตีถูกตัวศัตรู เรดก็จะช่วยโจมตีเสริม

- เมื่อเอาชนะ Cobalt 14, Indigo 15 ก็จะได้สู้กับโฮโจที่ทดลองร่างกายตนเองจนกลายร่างไปแล้ว หลังกำจัดโฮโจได้ก็จะเจอแกนดอล์ฟที่หมดสภาพ

- โฮโจตายในเหตุการณ์นั้น แต่เรดขอให้พวกเราไว้ชีวิต Cobalt 14 และ Indigo 15 เพราะสองตัวนี้ก็เหมือนพี่น้องของเขา ยิ่งเผ่าพันธุ์เขาใกล้สูญพันธุ์แล้วยิ่งไม่ควรเอาชีวิต

- ในดันเจียนสุดท้ายของเกม เราจะเจอ Cobalt 14 และ Indigo 15 ที่ไปดัดแปลงร่างกายเป็นครึ่งไซบอร์กมา เรดจะบอกว่าโฮโจตาย ชินระล่มสลาย เราไม่มีเหตุผลต้องสู้กันแล้ว

- แต่ Indigo 15 จะบอกว่าตราบใดที่เรดยังอยู่ พวกเขาก็เป็นแค่ร่างโคลน ไม่ได้เป็นตัวจริง พวกเขาเลยต้องการกำจัดเรดตัวจริงทิ้ง (เหตุผลหยั่งกะริคุจีนแดงใน Chain of Memories)

*ในตัวเกมสุดท้าย ไม่ได้บอกว่าโฮโจทดลองอะไรกับเรด แต่ใน Episode นี้ จะเล่าถึงการทดลองทำร่างโคลนที่เกิดขึ้น

[หมายเหตุผู้แปล]

- เราไม่รู้เลยว่าโฮโจทำการทดลองอะไรกับเขา แต่จากพล็อตที่ถูกตัดไป ว่าจับไปทดลองกับมาโค และทำร่างโคลน มันก็เมคเซนส์ดี

- เรื่องที่ว่าร่างโคลน อยากกำจัดร่างต้น เพราะไม่อยากเป็นร่างโคลน นี่มันมุกหากินเลย ริคุเสิ่นเจิ้นเองก็เหมือนกัน

- ในพล็อตนี้โฮโจตายกลางเรื่องเลย ไม่ใช่ท้ายเกม

--------------------------------------------

เคทซิธ

--------------------------------------------

- เดิมเป็น Job Toysaurus (Beastmaster) ใช้แส้ และการ์ด

- หุ่นยนต์ทำนายดวงในสวนสนุก แมวเด็ก ขี่บนหลังม็อคอ้วน สะสมมอนสเตอร์ ใช้การ์ดและการโยกสล็อต

- เป็นตุ๊กตาที่ถูกควบคุมด้วยความสามารถ Inspire ของรีฟ

- รีฟมีพลัง Inspire เป็นพลังในการให้ชีวิตกับสิ่งไม่มีชีวิต แล้วก็ควบคุมเคทซิธให้ไปสปายพวกคลาวด์

- แม้คทซิธจะชอบพูดจากแปลก ๆ แต่ก็มีความซีเรียส และช่างคิดวิเคราะห์ มันเป็นเพราะบุคลิกส่วนตัวของรีฟที่เก็บซ่อนไม่อยู่ และแม้เดิมรีฟจะตั้งใจมาสปาย แต่ก็ค่อย ๆ ผูกพันกับพวกคลาวด์ผ่านการสื่อสารด้วยเคทซิธ

- รีฟมีความสงสัยมาตลอดว่าชินระตั้งใจทำลายเมือง?

- ณ จุดหนึ่งรีฟจะถูกพวกคลาวด์จับได้ว่า เป็นสปายเอาข้อมูลส่งให้ชินระ

- ระหว่างการเดินทาง บางครั้งเคทซิธก็จะเถียงเรื่องบทบาทของเตามาโคและวิถีชีวิตของมนุษย์

- ท้ายเรื่อง จะมีสถานการณ์ที่ทั้งโลก ต้องปิดเตาปฏิกรณ์เพื่อกำจัดเซฟิรอธ

- ทิฟาจะบอกว่าไม่ทันแล้ว ไม่มีทางจะปิดเตามาโคทั้งโลกอย่างฉับพลันได้เลย แต่เคทซิธจะบอกว่าเขาทำได้ และเฉลยว่าเขาคือรีฟผู้เป็น Inspire ซึ่งควบคุมระบบเตาปฏิกรณ์ทั่วโลก และสามารถปิดการส่งพลังงานได้

*เหตุการณ์ Episode นี้เป็น prototype ของความโกลาหลที่ปืนใหญ่มาโคในตัวเกมเต็ม โดยทีมงานเคยวางแผนจะให้แบ่งปาร์ตี้เป็นสองกลุ่ม ทีมหนึ่งไปปิดเตา อีกทีมมุ่งหน้าไปยังหลุมทางเหนือ

[หมายเหตุผู้แปล]

- ในเกมไม่เคยมีการอธิบายสถานะของเคทซิธเลย ผมงงมาตลอด และเชื่อว่ามันเป็นหุ่นยนต์ที่มี A.I. ของตนเอง สามารถเปิดโหมด Auto (A.I.) ก็ได้ หรือ Manual แบบที่รีฟบังคับโดยตรงก็ได้ - http://re-ffplanet.blogspot.com/2018/05/cait-sith-ai-final-fantasy-vii.html

- ทว่าในเอกสารนี้ อธิบายว่ารีฟมีพลังในการให้ชีวิตกับสิ่งไม่มีชีวิต.... มึงเป็นโจรูโน่เหรออออ

- ว่ากันตามตรง มันก็ไม่ได้อธิบายอะไรละเอียดยอยู่ดี แต่เอาเป็นว่าถึงทำให้เคทซิธมีชีวิตขึ้นมาได้ แต่นิสัยนั้น ก็อ้างอิงมาจากตัวรีฟผู้เป็น Inspire อยู่ดี 

- แสดงว่าคอนเซปต์ที่ว่าสิ่งที่เคทซิธคุยกับพวกคลาวด์ทั้งหมด ก็ถึงหูรีฟ ก็มีมาตั้งแต่แรกแล้ว

- ไอ้เรื่องท้ายเรื่องจะมีสถานการณ์ที่ต้องปิดเตาทั้งโลกเพื่อกำจัดเซฟิรอธ เมื่อประกอบกับพล็อตในเกมจริงที่ใช้ปืนใหญ่มาโคแคนน่อน-ซิสเตอร์เรย์ ยิงทะลุบาร์เรียร์ของหลุมทางเหนือแล้ว.... ผมว่าพวกโนะ ลอกไอเดียนี้มาจากยุทธการยาชิมะ หรือ Operation Yashima ใน Evangelion ตอนที่ 6 ซึ่งฉายวันที่ 8 พ.ย. 1995 ก่อนที่โนจิมะจะมาร่วมทีมซะอีก ซึ่งใน Evangelion คือดับไฟฟ้าทั้งญี่ปุ่น เพื่อยิงไรเฟิลโปรซิตรอน ทะลวงบาร์เรียร์ของรามิเอล 

- เรื่องที่ว่ารีฟควบคุมระบบเตาทั้งโลก สามารถสั่งตัดไฟได้ ถูกตัดทิ้งไป รีฟเลยไม่เกี่ยวกับระบบเตา (แม้ในเกมจะมีฉากยกหูบอกลูกน้องให้ปิดพลังงานที่ส่งไป main frame ก็ตาม)

- ในเอกสารนี้ พูดถึงพล็อตที่แบ่งปาร์ตี้เป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งไปปิดเตา และอีกกลุ่มไปหลุมทางเหนือ --- ทว่าพล็อตที่พัฒนามาภายหลังคือ ทั้งกลุ่มไปโดดร่มลงมิดการ์เพื่อปิดเตา โดยโนจิมะและคิตาเสะ จะให้ตายเกือบยกตี้ เว้นแค่ 3 คนที่ผู้เล่นเลือกพอ - https://www.polygon.com/a/final-fantasy-7#the-game

--------------------------------------------

ยุฟฟี่

--------------------------------------------

- อายุ 25 ปี

- Job Ninja/Assasin

- กำหนดให้เป็นนินจาหญิง ปากหมา

- เป็นนักล่าค่าหัว

- แต่เธอดันมีโปสเตอร์ประกาศจับเธอติดทั่วทั้งเกม ทว่าแต่ละป้ายกลับมีหน้าตา อายุ และของรางวัลแตกต่างกันออกไป?

- เป็นอดีต SOLDIER ที่เคยทำงานให้ชินระ

- การเอาเธอเข้าเป็นพวก มีวิธีสุ่มจากการต่อสู้ กับตอนไปนอนที่โรงแรม เธอจะสุ่มออกมาโจมตีพวกคลาวด์

- สามารถสุ่มเจอยุฟฟี่ได้ หลังผ่านเมือง Elm (ชื่อแรกของเมือง Kalm) เป็นต้นไป

- รูปร่างและเลเวลของเธอ จะเปลี่ยนไปตามโปสเตอร์ประกาศจับแผ่นล่าสุดที่เราเห็น ถ้าอยากได้ยุฟฟี่ร่างไหน ก็สำรวจโปสเตอร์ร่างนั้นก่อน

- ยุฟฟี่เป็นนักล่าค่าหัว และหวังค่าหัวของคลาวด์และเซฟิรอธ เลยไล่ตามคลาวด์มา แต่พอได้ปะทะพวกคลาวด์ แบร์เร็ตก็ชวนให้มาร่วมทางกัน เธออาจจะได้ปลาตัวที่ใหญ่กว่า ซึ่งก็คือเซฟิรอธ

- วูไถเป็นประเทศศาสนจักร บูชาเทพธิดาต่าง ๆ ตำแหน่งสูง ๆ ในลัทธิก็เป็นผู้หญิง

- ผู้นำคนปัจจุบันชื่อ ซาซาเมะ ยังเป็นเด็ก อิซาโยย ที่เป็นแม่และเป็นมิโกะชั้นสูงเลยเป็นผู้นำแทนโดยพฤตินัย

- อิซาโยย อยากรักษาวิถีชีวิตที่มนุษย์ใช้ชีวิตกันโดยไม่พึ่งพิงบนเทคโนโลยี

- อิซาโยย เอายุฟฟี่มาเลี้ยงตั้งแต่ยังเด็ก

- ซาซาเมะ เป็นผู้นำคนที่ 89 ตอนนี้มีอายุเพียง 15 ปี ถูกอิซาโยยเลี้ยงมาแบบสปอยล์จนดื้อรั้น เธอไม่ชอบที่อิซาโยยปฏิบัติกับเธอเหมือนเป็นเด็ก

- เซระ เป็นเจ้าหน้าที่ชินระ ที่ส่งมาเจรจากับวูไถ แต่เซระก็วางแผนทำลายวูไถ

- โกโด้ คิซารางิ เป็นพ่อยุฟฟี่ และผู้นำตระกูลคิซารางิ ที่รับใช้ศาสนจักรมาหลายรุ่น ทำงานอยู่ในเงามืด ปัจจุบันไปนอกประเทศ ทำงานสอดแนมตามคำสั่งของอิซาโยย

- คาสึมิ คิซารางิ เป็นแม่ของยุฟฟี่ ป่วยตายตั้งแต่ยุฟฟี่ยังเด็ก

- วูไถเป็นเมืองวัด ด้านหลังเมืองมีภูเขาที่ตั้งรูปแกะสลักมากมายที่คล้ายพระโพธิสัตว์คันนนอยู่ เรียกว่าภูเขาสิบหน้า

- พอเข้าใกล้เมืองวูไถ ยุฟฟี่จะหายตัวไป แล้วยังขโมยเงินพวกเราไปหมด

- ชินระรู้ว่าใต้วูไถมีบ่อพลังงานมาโคอยู่ ก็อยากก่อสร้างเตาปฏิกรณ์ที่นี่ แต่อิซาโยยและความอนุรักษ์นิยมของชาวเมือง ก็ต่อต้านและทำให้โครงการนิ่งอยู่ ชินระเลยกดดันด้วยการตั้งกำแพงภาษีสินค้าที่ส่งมายังวูไถให้บวกไปสูง ๆ หมู่บ้านที่ห่างไกลอย่างวูไถ ก็ไม่มีกำลังทหารจะไปสู้กับชินระ ยุฟฟี่เลยพยายามรวบรวมเงินเพื่อช่วยเหลือเมือง

- ยุฟฟี่บอกว่าเธอโตในวัดมาตั้งแต่เด็ก เลยไม่ได้เรียนวิชานินจาจากพ่อ เพราะงี้เธอเลยไม่ได้เป็นสมาชิกของตระกูลคิซารางิ แต่เธอก็ไม่ได้ฝักใฝ่ข้างไหน เะอแค่อยากเป็นตัวของตัวเอง

- ทว่าซาซาเมะ กลับไปรับเงินจากยุฟฟี่ และมองว่ามันเป็นเงินสกปรกที่ได้มาจากอาชญากรรม แล้วซาซาเมะก็คิดว่าวูไถควรร่วมมือกับชินระ เธอถูกชักจูงโดยเซระ คนของชินระ

- เซระ คอยปั่นซาซาเมะว่าคลาวด์เป็นพวกผู้ก่อการร้าย ยุฟฟี่ก็เป็นคนทรยศที่เคยเป็น SOLDIER ของชินระมาก่อน ที่อิซาโยยปิดบังเรื่องนี้ก็เพราะอยากปกป้องยุฟฟี่ที่อิซาโยยรักมากกว่าซาซาเมะ

- ใน Episode จะให้ยุฟฟี่และพวกคลาวด์ติดกับของเซระ แต่อิซาโยยมาช่วยพาหนีออกมาได้ ยุฟฟี่ไปเผชิญหน้ากับเซระและเอาชนะได้ ทว่าเซระได้วางระเบิดเพื่อจะทำลายภูเขาสิบหน้าทิ้ง ด้วยความตั้งใจจะให้ภูเขาหินถล่มลงมาทำลายเมืองวูไถ แล้วชินระก็จะสร้างเตามาโคทับ

- ขณะที่พวกคลาวด์มุ่งไปที่ภูเขาสิบหน้าเพื่อขัดขวางการระเบิด ซาซาเมะจะถามว่าทำไมพวกคลาวด์ไม่ใช่คนเมืองนี้แท้ ๆ ถึงพยายามช่วยพวกเขา? แบร์เร็ตก็จะตอบว่าเขารู้จักหมู่บ้านที่โดนชินระทำลายไป รู้จักชายที่โดนคำพูดหวาน ๆ หว่านล้อม คนที่สูญเสียบ้านเกิด ครอบครัว อนาคตไป... โลกนี้ไม่ควรต้องมีคนที่ประสบชะตากรรมแบบนั้นอีกแล้ว

--------------------------------------------

ซิด

--------------------------------------------

- นักบิน / Dragoon

- อายุ 32 ปี

- เดิมจะได้เป็นนักบินอวกาศคนแรกของชินระ แต่มีการตัดงบซะก่อนเลยถูกปลด

- เป็นคนปากเสียยิ่งกว่ายุฟฟี่ (เวอร์ชั่นเดิม)

- เกลียดเลข 8

- อาศัยอยู่กับผู้หญิงอายุเยอะกว่าชื่อ เชร่า

- ดูผิวเผินเหมือนคู่สามีภรรยา แต่ไม่ใช่แบบนั้น ซิดพูดจาไม่ดีกับเชร่าอยู่ตลอด 

- เชร่าคอยซัพพอร์ตซิดในฐานะเมคานิกอยู่เสมอ ซิดเคยเป็นลูกทีมเมคานิกของซิด สมัยที่ยังทำโครงการสำรวจดวงจันทร์ครั้งแรก

- ตอนวันที่จะส่งจรวดไปดวงจันทร์ พอเคาต์ดาวน์แล้ว เชร่ายังคงติดอยู่ในห้องเครื่องยนต์ ซิดเลยต้องจำใจกดชัตดาว์น ทำให้จรวดบินขึ้นไปได้ 10 เมตรแล้วตกลงมา

- เชร่ารู้สึกเป็นหนี้ซิด ที่ทิ้งความฝันเพื่อเธอ เลยตัดสินใจจะเป็นคนดูแลเขา

- ตอนแรกซิดก็รู้สึกว่าเชร่าน่ารำคาญ แต่ตอนนี้ก็อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน แต่เขาไม่เคยให้อภัย และยังขุ่นเคืองจนถึงทุกวันนี้

- ตอนที่ชินระวางแผนส่งจรวดบรรทุกมาเทเรียขึ้นไปสกัดเมเทโอ ชินระจะหลอกให้ซิดคิดว่าเป็นจรวดไปดวงจันทร์ ซิดจะเข้าใจผิดว่าเชร่าจะขัดขวางความฝันของซิดอีกแล้ว

- ทว่าเพื่อน ๆ จะได้สืบทราบแผนของชินระ และปฏิเสธที่จะให้ใช้มาเทเรียเป็นอาวุธสกัดเมเทโอ

- ทว่าซิดก็ยังโดนหลอกให้ขึ้นขับจรวด จนเพื่อน ๆ ต้องตามไปช่วย ทั้งหมดขึ้นจรวดได้ทันเคาต์ดาวน์ และเร่งไปยังค็อกพิต แต่ประตูกลับล็อก

- คลาวด์พยายามตะโกนเรียกให้ซิดเปิดประตู แกกำลังโดนหลอก นี่ไม่ใช่ภารกิจไปดวงจันทร์ นี่มันพุ่งเข้าหาเมเทโอ

- แต่ซิดไม่ฟัง แล้วเตรียมปล่อยจรวด

- ทิฟาบอกคลาวด์ว่าเราต้องเผ่นออกจากจรวดแล้ว

- เข้าสู่เหตุการณ์จับเวลาถอยหลัง พวกคลาวด์โกยหนีออกจากจรวดได้ทันท่วงที แต่แล้วจรวดที่เป็นระบบ Manual กลับถูกแทนที่ด้วยระบบ Auto-pilot ซิดจึงรู้ตัวว่าโดนชินระหลอกแล้ว

- ซิดพยายามจะวิ่งไปยังยานอพยพฉุกเฉิน แต่แล้วถังอ็อกซิเจนเบอร์ 8 ดันระเบิดใส่ เศษซากถังทับซิดจนขยับไม่ได้

- ปรากฏว่าเชร่า ที่ยังคงเช็คอุปกรณ์ทุกอย่างจนถึงวินาทีสุดท้าย ก็โผล่ออกมาช่วยซิดไว้ และพาขึ้นยานอพยพฉุกเฉิน

- เหตุการณ์ส่วนใหญ่คล้ายกับตัวเกมเวอร์ชั่นจริง เว้นแต่เรื่องที่ชินระหลอกซิดว่านี่เป็นจรวดไปดวงจันทร์ กับเรื่องที่พวกคลาวด์เผ่นออกจากจรวดไปก่อน

--------------------------------------------

วินเซนต์

--------------------------------------------

- Job : Horror Teller, Horror Researcher (นักค้นคว้าและเล่าเรื่องสยองขวัญ)

- อายุ 25 ปี

- อาวุธที่ใช้ เคียว ปืนไรเฟิล

- ชายผู้เชื่อเรื่องภูติผีปิศาจ สามารถแปลงร่างเป็นมอนสเตอร์สยองขวัญได้ เช่น แวมไพร์ แฟรงเกนสไตน์ แวร์วูล์ฟ มัมมี่ ฯลฯ

- ร่างจริงเป็นชายรูปงาม นอนอยู่ในโลงศพ ในดันเจี้ยนใต้คฤหาสน์ชินระ

- เดิมบริษัทคู่แข่งของชินระ จ้างวินเซนต์มาสืบเรื่องงานวิจัยลับของทีมโฮโจ

- เดิมดันเจี้ยน กำหนดให้เรียงรายไปด้วยโลงศพมากมาย ส่วนใหญ่มีแต่ศพ แต่บางศพถือไอเทมไว้

- พอเราสำรวจถูกโลง ฝาโลงก็จะปลิวออกมา แล้ววินเซนต์ก็ลุกขึ้นมา

- วินเซนต์ลุกออกจากโรง ไม่สนใจแบร์เร็ต แต่ไปยืนหน้าทิฟาและแอริธ และพูดแนะนำตัวว่าหลับไปนาน ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้สองสาวผู้เลอโฉมตกใจ

- แบร์เร็ตจะพยายามถามว่าไปทำอะไรในโลง? หลับไปนานแค่ไหน? แต่วินเซนต์ก็ตอบกวน ๆ ว่าก็นอนอยู่ไม่เห็นรึไง? ส่วนหลับไปนานแค่ไหนจะรู้ได้ไงในเมื่อพึ่งตื่น!?

- แล้วคลาวด์ก็จะบอกให้แยกย้าย ไปตามล่าเซฟิรอธกันต่อเถอะ

- ทว่าวินเซนต์จะทริกเกอร์กับชื่อนี้ แล้วถามว่าพวกคลาวด์ไล่ตามอะไรอยู่ มาที่นี่ทำไมแต่แรก?

- คลาวด์ไม่ได้ตอบ แต่ถามกลับว่านายต่างหากมาทำอะไรที่นี่? นายเกี่ยวข้องกับโฮโจงั้นรึ?

- วินเซนต์บอกว่าโฮโจนั่นแหละ คือคนที่ทำให้เขากลายเป็นแบบนี้

- วินเซนต์เล่าย้อนอดีตถึงความเกี่ยวข้องกับชินระ เริ่มจากบอกว่าเขาหลับไป 23 ปี

- เขารู้จักกับโฮโจตั้งแต่สมัยอยู่ใน แผนกการแพทย์ของมหาวิทยาลัยมิดการ์ด้วยกัน ซึ่งภายหลังแผนกนี้กลายเป็นศูนย์วิจัยชินระ โดยทีมของโฮโจ มีโฮโจกับผู้หญิงที่ชื่อลุครเซีย

- วินเซนต์รับจ้างสืบเรื่องปรากฏการณ์ประหลาด ทั้งจานบินเอย แวมไพร์เอย แต่เคสที่ไปสืบส่วนใหญ่ก็พบว่าเป็นเรื่องลวงโลก

- จนวันหนึ่งก็ถูกบริษัทอริของชินระจ้าง ให้มาสืบว่าโฮโจทำวิจัยอะไรอยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีนักสิบคนอื่น ๆ ที่ขนหัวหลุกหลังจากได้ยินเสียงร้องโหยหวนออกมาจากห้องแลปของโฮโจ

- วินเซนต์รับงาน แล้วก็ไปสนใจในตัวลุเครเซีย

- โฮโจและวินเซนต์เผชิญหน้ากัน หลังการค้นพบร่างมัมมี่ที่ยังคงเหลือของมนุษย์ต่างดาว ซึ่งก็คือร่างเจโนว่า

โฮโจ
"จะเรียกตัวเองว่าเป็นนักวิจัยได้ไง ถ้าไม่กล้าเสี่ยงย่างเข้าไปในพรมแดนที่ไม่มีใครเคยรู้จัก"

วินเซนต์
"ผลกระทบที่มนุษย์จะได้รับจากเจโนว่านั้น ยังไม่อาจประเมินได้ นายตั้งใจจะทำอะไรกันแน่? การสร้างชีวิตนั้นควรเป็นเรื่องของสวรรค์เท่านั้น วิทยาศาสตร์มันก็มีเส้นแบ่งที่ไม่ควรข้ามไป ไม่ใช่รึไงกัน?"

โฮโจ
"โลกของวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่เรื่องที่นักข่าวหนังสือพิมพ์อย่างแกจะมายุ่ง"

วินเซนต์
"ฉันไม่ได้พูดในฐานะผู้สื่อข่าว ฉันกำลังพูดในฐานะของมนุษย์"

โฮโจ
"มนุษย์? ไม่คิดเลยว่าจะมาได้ยินเรื่องศีลธรรมจรรยาอะไรงี้จากสปายอย่างแก"

วินเซนต์
"แกรู้ได้ยังไง....?"

ลุเครเซียเข้ามาเกาะข้างวินเซนต์ แต่แล้วโฮโจกลับโปะยาสลบเธอ พร้อมเผยว่าจะใช้เธอเข้าสู่การทดลองเจโนว่า วินเซนต์พยายามจะช่วย แต่กลับติดกับดักและสลบไป หลังจากนั้นเขาไม่มีความทรงจำว่าเกิดอะไรขึ้น เขารู้สึกว่าตัวเองถูกเอาตัวไปทดลอง แล้วก็มาใส่ในโลงศพ

วินเซนต์
"ลุเครเซีย... เกิดอะไรขึ้นกับเธอหลังจากนั้นกันนะ?"

แอริธจะบอกให้คลาวด์ช่วยเขานะ ซึ่งพอวินเซนต์ได้ยินชื่อคลาวด์ ก็รู้สึกคุ้น ๆ เหมือนเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน

วินเซนต์ขอเข้าร่วมทีมด้วย เพื่อจะตามไปถามโฮโจว่าลุเครเซียอยู่ไหน เกิดอะไรขึ้นกับเธอ โดยตอนนี้วินเซนต์ก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง จึงบอกทีมว่าถ้าเห็นร่างกายเขามีท่าทีผิดปกติเมื่อไหร่ ให้รีบบอกเขาทันที

ครั้งแรกที่วินเซนต์แปลงร่าง หลังจบการต่อสู้ ทิฟาจะถามวินเซนต์ว่าเมื่อกี้มันอะไรกัน? ซึ่งวินเซนต์จะจำเหตุการณ์ตอนที่ตัวเองแปลงร่างไม่ได้

- วินเซนต์สามารถเปลี่ยนเป็นร่าง limit break ได้แม้อยู่บน field map ทำให้บทสนทนาเปลี่ยนไปตาม

https://twitter.com/TheStrifeisRife/status/1650519431942897667