ว่าด้วยเรื่อง Buster Sword Proficiency
- บอกก่อนว่าถ้าตั้งใจจะเก็บให้ถึง 100% ตั้งแต่ที่ได้ Buster Sword มา ก็ควรเลิกโจมตีปกติ แต่ให้ตั้ง Battle Stance ก่อนโจมตีทุกครั้ง ทำให้เป็นนิสัย ก็จะได้สะสมแต้มไปได้เรื่อย ๆ
- พอเล่นไปจนท้ายเกม เล่นปกติไปจนมิชชั่นครบ ก็จะมี % อยู่ประมาณ 70%
- การสะสมค่า Proficiency ทำได้โดย ตั้ง Battle Stance ก่อนแล้ว 1) ถูกโจมตี, 2) ฆ่าศัตรูด้วยการฟัน 3) ใช้มาเทเรียเหลือง
- เกมมันมีกำหนดไว้ว่าในแต่ละ Battle เราจะฟาร์มค่า Proficiency ให้สูงขึ้นได้ไม่เกินประมาณ 0.57% โดยมันจะแยกเป็นค่าที่เพิ่มจากเงื่อนไข 1) 2) 3) ตามที่กล่าวไว้ หาก % ที่เพิ่มจากเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่งเต็มแล้ว ก็ต้องไปฟาร์มด้วยเงื่อนไขอื่น
- แล้วจากค่า 100% มันก็แยก % ของแต่ละเงื่อนไขมาแล้ว ผมไม่ทราบตัวเลขที่แน่นอน แต่สมมติว่า มันอาจจะเป็นต้องฝึกจากเงื่อนไขการใช้มาเทเรียเหลือ 30%, ฆ่าด้วยการฟัน 30%, ถูกโจมตี 40% อะไรแบบนั้น ที่ผมเดาตัวเลขแบบนี้เพราะ พอผมเล่นไปเรื่อย ๆ ปรากฏว่าค่า Proficiency ผมไม่เพิ่มจากการใช้มาเทเรียเหลืองแล้ว ในระยะต่อมาก็ไม่เพิ่มจากการฆ่าศัตรูด้วยการฟัน สุดท้ายผมต้องไปปั๊มค่าจากการถูกโจมตี
- เมื่อใช้ Buster Sword ปราบศัตรู ทำเงื่อนไข ไปถึงปริมาณที่กำหนดแล้ว จะได้ ability พิเศษมา
Damage Limit Break - ผมได้มาตอนฝึกไปประมาณ 15% อบิลิตี้นี้ทำให้เวลาตั้ง Battle Stance จะฟันหรือใช้มาเทเรียเหลือง โจมตีเกิน 9,999 ได้
Barrier Piercing - ผมได้มาตอนฝึกไปประมาณ 50% อบิลิตี้นี้ทำให้เวลาตั้ง Battle Stance จะโจมตีแล้วทะลุผลของบาร์เรียร์ศัตรูได้
Barrier Break - ผมได้มาตอนฝึกไปประมาณ 85% อบิลิตี้นี้ทำให้เวลาตั้ง Battle Stance จะโจมตีแล้วลบล้างผลของบาร์เรียร์ศัตรูได้
- ทั้งนี้เขาเล่าลือกันมาว่า Barrier Piercing และ Barrier Break นั้น จะปลดล็อคเมื่อตั้ง Battle Stance แล้วฆ่าศัตรูที่ติดบัฟบาร์เรียร์ไปเยอะ ๆ จนถึงปริมาณที่กำหนด ซึ่งมิชชั่นที่มีศัตรูติดบาร์เรียร์อยู่เยอะที่สุดคือ 9-6-5
- ผมสรุปละกันว่าคุณควรเล่นแบบตั้ง Battle Stance ไปเรื่อย ๆ เมื่อถึงช่วง endgame การฝึกสะสมค่า Proficiency ควรไปฝึกที่มิชชั่น 9-6-5 มิชชั่นนี้ศัตรูเยอะ เจอถี่มาก โจมตีรัว แถมติดบาร์เรียร์มากันหมด มิชชั่นนี้จึงเหมาะกับการฝึกเก็บแต้มที่ได้จากการใช้มาเทเรียเหลือง + ถูกโจมตี + ฆ่าศัตรูที่มีบาร์เรียร์ โดยเวลาเริ่มสู้ คุณอาจจะตั้ง Battle Stance แล้วรอให้ศัตรูโจมตีมาสักชุด แล้วค่อยใช้ Darkness โจมตีหมู่ แล้วค่อยฟันให้ร่วงเรียงตัวก็ได้ จะได้ฝึกทุกเงื่อนไขไปพร้อมกัน
- ทั้งนี้ระหว่างการฝึกช่วง endgame คุณควรติดมาเทเรีย Apocalypes ที่เพิ่มอัตราการออก DMW ของเจเนซิส 2 ลูก ไปตลอดด้วย ติดไปจนกว่า DMW ของเจเนซิสมันจะออกมาทั้งหมด
- ถ้าเบื่อ 9-6-5 มันมีมิชชั่น 1-2-1 จะมีห้องเล็ก ๆ ที่อยู่ติดกัน 2 ห้อง มีทหาร 2-3 คนพลังชีวิตต่ำ ๆ เกิดตลอด เอาไว้ให้เราฟาร์มเงื่อนไข การฆ่าศัตรูด้วยการฟันได้
---------------------------------------------------------
สุดท้าย Minerva Hard
- ใน Normal ท่าที่น่ากลัวของมันมีแค่ท่าไม้ตาย ที่ลบล้างผลของ Re-Raise แล้วโจมตีใส่เราแบบ Fix Damage โดยความรุนแรง จะขึ้นอยู่กับว่าเราลดชาร์จเกจมันไปได้กี่ %
- ใน Hard มันมี HP 77,777,777 และมีท่าที่น่ากลัว 2 ท่า คือ
1) ท่าไม้ตาย Judgement Arrow ซึ่งจะใช้เมื่อ HP ลดผ่านหลัก 70 ล้าน, 60 ล้าน, 50 ล้าน... เป็นอนุกรมลงไป โดยท่านี้ลบล้างผลของ Re-Raise แล้วโจมตีแบบ Fix Damage ถ้าเราลดชาร์จเกจมันเหลือ 75% มันก็ยังโจมตีรุนแรงถึง 75,000 อยู่ดี (ถ้าลดชาร์จเกจมันเหลือ 50% ก็โจมตี 50,000) ดังนั้น ทางที่ดีคือตั้งสมาธิไว้ พอมันเลือดลดผ่านหลัก X0 ล้านแล้ว ให้ใช้ Aerial Drain เพื่อฟื้นเลือดเรา ต่อด้วย Costly Punch ทันที ก็จะพอเอาตัวรอดจากท่าไม้ตายละดับ 75% ของมันได้ แต่ถ้ามี DMW อยู่ ก็ใช้โจมตีซ้ำไปเลย เพื่อลดชาร์จเกจมันลงไปอีก (เราไม่มีเวลาพอที่จะใช้ Costly Punch ซ้ำอีกครั้ง)
2) ท่า Flash Steel ซึ่งมันไม่ค่อยใช้ แต่เวลาใช้ มันจะลบล้างผล Re-Raise ของเราอีกเช่นกัน แล้วถ้าโดนเต็มชุด เราจะเจ็บ 50,000-60,000 ดาเมจ (ในสภาพ VIT255 และติดบาร์เรียร์แล้ว) ทำให้เราสามารถตายได้ทันที การสู้กับมันจึงต้องมีสมาธิอยู่เสมอ อย่าต่อยเพลินจนหลบไม่ทัน แล้วต้องระวังไม่ให้ HP ต่ำกว่า 60,000 และต้องคอยใช้ Phoenix Down เติม Re-Raise ไว้ตลอด
รวม ๆ แล้ว Minerva Hard ไม่ใช่ศัตรูที่ร้ายกาจ แต่เป็นศัตรูที่เลือดเยอะจนน่ารำคาญ ทำให้การต่อสู้ยืดเยื้อ แล้วเราพลาดไม่ได้ สมาธิหลุดเมื่อไหร่เราจะตาย และถึงชนะแล้วก็ไม่ได้อะไรเพิ่ม
Post a Comment