บทแปลบันทึกของม็อคและมาเทอุส
เรื่องของตัวผม
จิตแห่งความกลมเกลียว (Will of Harmony) ที่ดำรงอยู่ในตัวผม - จิตที่เธอทิ้งไว้ จิตที่โหยหาอนาคตอันคงมั่น หากเป็นเช่นนั้น ผมจะรับรับใช้จิตนั้นแทนที่สองเทพที่ลาจากไปแล้ว ทั้งหมดนี้ ผมเกิดมาจากจิตนั้น
One Spirit's Missive II
บทบาทของผม
โลกทั้งหลายแปรเปลี่ยนไปเรื่อย โลกใบเก่าให้กำเนิดโลกใบใหม่ ขณะที่โลกใบหนึ่งเติบโต โลกของผมก็เสื่อมถอย กลายเป็นเพียงเงาของอดีตของตัวมันเอง ตัวผมนั้นยังมีอนาคต - ทว่าก่อนอื่นผมต้องมั่นใจก่อนว่ามันจะเกิดการส่งต่อ นั่นคือบทบาทของผม-ประสงค์ของเธอ-ด้วยเหตุนี้ ผมจะฟูมฟักความมืดมิดอันสิ้นหวัง และแสงแห่งความหวังในมิติแห่งนี้ และนำพาพวกเขาไปเป็นสองเทพในโลกของผม
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงต้องกำจัดผู้ที่แทรกแซงมิตินี้ และมอบพลังอันจำเป็นให้แก่เขา
One Spirit's Missive III
นำพาไปสู่บัลลังค์แห่งเทพ
ความมืดและแสงสว่างในโลกนี้ทรงพลังยิ่ง แต่มันยังไม่เพียงพอ หากจะปกครองเหนือบ้านของผม พวกเขาจะต้องได้รับการรับรองว่าเป็นเสมือนดั่งเทพเจ้า และมีอำนาจดั่งทวยเทพ
วิญญาณที่ทัดเทียมเทพเจ้าในโลกที่ไร้ซึ่งพระเจ้าแห่งนี้; ผมจะไปเตี๊ยมกับราชันย์มังกร ว่าเขาจะต้องมอบพรพลังให้กับพวกเขา เขารู้จักความดุร้ายของมนุษย์ที่กำลังเผชิญหน้ากับความสิ้นหวังดี และน่าจะช่วยพวกเขาฟันฝ่าอุปสรรค ด้วยความช่วยเหลือของราชันย์มังกร ทั้งแสงสว่างและความมืดต่างก็น่าจะไปถึงบัลลังค์แห่งเทพ
One Spirit's Missive IV
ชาวลูเฟน
เหมือนที่ ____ ในโลกของผมประดิษฐ์ศิลาที่ใช้หลอมสร้างชีวิตเทียมขึ้นมาได้ ชาวลูเฟนของโลกนี้ก็ประดิษฐ์พลังที่เทียบเคียงพระเจ้า ซึ่งสร้างความว่างเปล่าและชีวิตขึ้นมาได้เช่นกัน
นี่คงเป็นเวรกรรม และทำให้ผมยินดียิ่ง พอคิดว่าผู้ที่ปฏิเสธพระเจ้ากลับเป็นผู้ที่หว่านเมล็ดแห่งการก่อกำเนิดขึ้นมา ทุกสิ่งทุกอย่างที่จำเป็นต่ออนาคตที่ผมปรารถนา ได้มารวมกันแล้ว ที่เหลือก็แค่ให้เขารับพลังของชาวลูเฟนไป
*หมายถึงชาวลูเฟน สร้างคริสตัลที่ใช้สร้าง Manikin ได้เหมือนกัน และม็อคก็อยากให้แจ็คได้รับพลังนั้นไป เพื่อให้ขึ้นเป็น God of Discord องค์ใหม่
**ในโลก Dissidia ยังไม่มีการเฉลยว่าใครสร้างศิลาที่มีชีวิต และเป็นต้นกำเนิดของ Manikin ขึ้นมา
One Spirit's Missive V
สุดขอบมิติ-กาลเวลา
นี่คือมหานครชาวลูเฟนเคยอาศัย เฝ้าจับตาดูแสงสว่างและความมืดของโลก แม้จะขึ้นชื่อว่ามีอารยธรรมชั้นสูง รุ่งเรือง และเป็นสถานที่ซึ่งเชื่อมต่อกับกาลเวลาหลากยุคสมัย แต่ในชั่วข้ามคืนมันกลับล่มสลายลงด้วยฝีมือของชาวลูเฟนเพียงคนเดียว
ชาวลูเฟนคนนี้สวมหัวโขนเล่นเป็นพระเจ้า ประณามพวกพ้อง ด้วยเทคโนโลยีขั้นเทพ เขาปกครองด้วยหัตถ์แห่งพระเจ้า ผมจะต้องทำให้เรื่องน่าขันนี้มันจบสิ้นลง
____ 's Missive I
การ์แลนด์
ในโลกซึ่งปราศจากเทพเจ้าแล้วนั้น ข้าพยายามที่จะหยุดแผนของจิตที่เกิดขึ้นมาใหม่ (ม็อค) แต่เมื่อข้าติดตามจนมาถึงโลกใบใหม่-โลกที่น่าหลงใหล ที่ซึ่งการ์แลนด์และสหายของเขาครองพลังแห่งเคออส ส่วนนิล มีพลังของคริสตัล... คริสตัลอันพริ้มพราย... ที่มีพลังทัดเทียมกับศิลาในดินแดนแห่งการต่อสู้ (โลก Dissidia) หากทั้งหมดนี้ตกเป็นของข้า ก็จะไม่มีพลังใด ๆ ในโลกนี้และโลกอื่น ขัดขวางข้าได้ การเสกกองทัพผู้ตายแล้วย่างกรายไปทั่ว คงเป็นแค่เรื่องขี้ประติ๋ว
แต่ก่อนอื่น แผนของข้านั้น จะต้องให้ข้ารู้ซึ้งถึงพลังที่แท้จริงของการ์แลนด์เสียก่อน
____ 's Missive II
พลังแห่งเคออส
นี่ไม่ใช่การ์แลนด์จากดินแดนแห่งการต่อสู้ แต่พลังของเขานั้นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่า เขาเป็นนักรบที่ดูป่วย ข้าคงสามารถทำลายเขาได้เหมือนตีแมลงวัน
พลังแห่งเคออสนั้นน่าทึ่งอย่างที่ข้าสงสัย ด้วยพลังนี้ ใครก็สามารถสร้างความพินาศสิ้นและการนองเลือดไปทั่วโลกได้ ทำให้พวกมันจมอยู่ในโคลนตมแห่งความสิ้นหวัง
ทว่าการ์แลนด์คนนี้ขาดจินตนาการ เขาใช้พรสวรรค์ไปเพียงการต่อสู้อย่างป่าเถื่อนเท่านั้น แม้เวลาและสถานที่จะเปลี่ยนไป แต่บางที ทั้งสอง (การ์แลนด์) ก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก
วีดีโอ - https://youtu.be/N2t4_gPEAFw
Post a Comment