โนะเผยเนื้อเรื่องใน FFVII Rebirth มีการเปลี่ยนลำดับสถานที่เดินทาง
Crisis Core -Final Fantasy VII- Reunion
- ด้วยความที่แซ็คมีบทบาทมากขึ้นใน FFVII Remake ทีมงานจึงวางแผนเรื่อง Crisis Core Reunion ขึ้นมาในระหว่างการพัฒนา FFVII Remake เพื่อทำให้ผู้เล่นรู้จักตัวละครแซ็คมากขึ้น ดังนั้นโปรเจคท์นี้จึงไม่ใช่สิ่งที่วางไว้แต่แรก
- กราฟิกทั้งหมดใน Reunion ถูกทำขึ้นมาใหม่ มุมกล้องและโมชั่นต่าง ๆ มีการปรับปรุง คัตซีนฉากเรียกอสูรก็ทำใหม่ทั้งหมด
- โมเดลตัวละครหลัก แซ็ค คลาวด์ แอริธ เซฟิรอธ ถูกทำขึ้นใหม่อย่างพิถีพิถัน
- มีการปรับปรุงระบบการต้อสู้ แก้จังหวะเกม การโจมตีของแซ็คในภาคนี้สามารถฟาดเป็นคอมโบได้แล้ว และยังสามารถใช้เวทมนต์และอบิลิตี้ต่าง ๆ แบบกด short cut ได้
- มีการตัดคัตซีน DMW บางอันไป ทำให้การต่อสู้ไหลลื่นขึ้น
- เดิมเมื่อ DMW หมุนออกมาเป็น Limit Break หรือมนต์เรียกอสูร ก็จะเป็นการใช้ท่านั้นออกมาโดยอัตโนมัติ แต่คราวนี้ ผู้เล่นสามารถกดใช้เมื่ออยากใช้ได้แล้ว
- มีอนาล็อกขวาแล้ว!! ก็หมุนกล้องด้วยอนาล็อกขวาได้
- มีใส่องค์ประกอบอย่างอย่างในระบบต่อสู้ของ FFVII Remake ลงไป เช่น ระบบการเปลี่ยนโหมดการต่อสู้ของตัวละคร
- ซีนทั้งหมดที่ตัวละครปรากฏตัว กล่องข้อความทั้งหมด มีการพากย์เสียง Full Voice แล้ว, NPC ก็ได้รับการพากยืเสียง
- บางตัวละครหลัก มีเสียงพากย์เพิ่ม ทว่าสำหรับ Gackt ไม่มีการพากย์เพิ่ม จะใช้เสียงต้นฉบับเวอร์ชั่น PSP เท่านั้น
- มีการปรับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นตำแหน่งหีบ
- ไม่มีมิชชั่นใหม่ เพราะยังไงก็เป็นแค่เกมรีมาสเตอร์
- Hard Mode ที่ทีมงานเคยทำเพิ่มลงไปใน Crisis Core PSP เวอร์ชั่นตะวันตก สามารถเลือกเล่นได้ตั้งแต่ตอนเริ่มภาค Reunion (ซึ่งผมไม่แนะนำให้เล่น Hard Mode ในการเล่นรอบแรก เพราะศัตรูจะมี HP มากกว่าเดิมหลายสิบเท่า ถึงแม้เราจะหลบการโจมตีพวกมันทั้งหมดได้ แต่ก็จะใช้เวลาในการต่อสู้นานเกินไปจนน่าเบื่อ จึงเหมาะกับการเล่น New Game+ เท่านั้น) ทว่าคราวนี้ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนความยากได้ตลอดเวลา
- (4Gamer ถามว่าจะเปลี่ยนเนื้อเรื่องให้สอดคล้องกับ FFVII Remake หรือไม่?) คุณซาโตะตอกบว่าเนื้อเรื่องเป็นการสร้างมาเคารพต้นฉบับออริจินอล ไม่มีการเพิ่มเนื้อเรื่องใหม่ลงไปให้สอดรับกับ FFVII Remake แต่โนะก็เสริมว่ากรณี Buster Sword และอสูรมายา มีการปรับดีไซน์ให้ตรงกับ FFVII Remake
- โนะบอกว่าโปรเจคท์ FFVIIR นั้น ออกแบบมาให้คลี่คลายปริศนาได้เมื่อผู้เล่นติดตามไปจนจบ แล้วก็ไม่ได้สร้างมาด้วยความตั้งใจว่าเป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงอดีต ดังนั้น ประวัติศาสตร์ในเรื่องราวของ Crisis Core Reunion ไม่ได้ถูกเปลี่ยนแปลงไป
そこは変わっていないことに意味があるというか,変えてしまうとFFVII リメイクプロジェクトで原作と違う表現をしていることに意味がなくなってしまうんですよね。FFVII リメイクプロジェクトは,最後までやってもらうと,どういうことなのかという謎が解ける作りになっているんです。過去を変えるつもりで,そういう作りにしたわけではないですから,歴史は変わっていないという意味でCC FFVIIRのストーリーには手を加えていません。
Final Fantasy VII Rebirth
- ทีมงานไม่อยากใช้ชื่อว่า Remake 2 ไม่งั้นมันจะให้ความรู้สึกว่าจะมี 3 4 5 ตามมา อีกทั้งการใช้ชื่อ 2 มันจะทำให้คิดว่าต้องเล่น 1 มาก่อน ซึ่งไม่อยากจะสื่อแบบนั้น เลยใช้ชื่อภาคว่า Rebirth ที่มีความหมายถึงการกำเนิดใหม่ อันเป็นความหมายทำนองเดียวกับ Remake ก็เพื่อจะบอกว่าภาค Rebirth นั้นสามารถเล่นสนุกได้ด้วยในตัวมันเอง
- โนะบอกว่าเดิมทีตั้งแต่สร้างภาคแรก เขาวางแผนไว้แต่แรกว่าจะทำเป็นไตรภาค คิตาเสะก็ให้มาทบทวนว่าจะสามารถทำเป็น 2 ภาคจบได้หรือไม่? แต่สุดท้ายก็กลับไปใช้แผน 3 ภาคตามเดิม โนะบอกว่าสาเหตุที่ก่อนหน้านี้ตอบไม่ได้สักทีว่าจะทำกี่ Part ก็เพราะลังเล 2 กับ 3 เนี่ยแหละ (แฟมิซือ)
- คิตาเสะบอกว่าตอนเริ่มทำโปรเจคท์รีเมค มันยากที่จะประเมินว่าจะใช้ man-hour และระยะเวลาในการพัฒนาขนาดไหน? แต่หลังจากเราทำ FFVII Remake จนเสร็จ ก็สามารถประเมิน man-hour และกำหนดการต่าง ๆ ได้ เขาเลยมองว่ามันก็อาจจะทำจบในภาคถัดไป (2) ได้เหมือนกัน (แฟมิซือ)
- โนะบอกขณะนี้ไม่ได้มีแผนจะทำเกิน 3 ภาค (แฟมิซือ) แต่ภาคแรกยังได้แค่มิดการ์ มันก็เป็นเรื่องยากที่จะใส่เนื้อหาทั้งหมดลงไปในอีกแค่ 2 ภาค แต่ไม่ต้องห่วง เขาไม่ได้จะย่อตัดอะไร (แฟมิซือ)
- โดยปกติในการพัฒนาซีรีส์ FF เมื่อสร้างจบไปเกมแล้ว ทีมงานส่วนใหญ่ก็จะย้ายไปเข้าร่วมทีมอื่น แต่สำหรับกรณีโปรเจคท์รีเมคนี้ ทีมงานตัดสินใจว่าจะทำเป็นหลายภาคตั้งแต่แรก ทีมงานชุดเดิมก็ได้ทำภาคต่อกัน โดยยังคงรักษาความเป็นทีมเวิร์ก, know-how, โมเมนตัมของการพัฒนาเอาไว้ได้ ทำให้การพัฒนาจึงรุดหน้าไปเร็ว (ต่างจากการสลายคนไปร่วมกับทีมงานชุดใหม่ เกมใหม่ ที่ต้องสตาร์ตกันใหม่) แต่ด้วยความที่ต้องสร้าง resource ขึ้นมามหาศาล เลยไม่มีเวลาพักกัน
- ตอนนี้ทำโครงสร้างพื้นฐานเกมแล้ว กำลังอยู่ในช่วง Mass Production ซึ่งการพัฒนาคืบหน้าไปดี (แฟมิซือ)
- สำหรับ Part 3 นั้น ตอนนี้เริ่มการเขียนพล็อต และลงเนื้อเรื่องแล้ว
- ปริมาณเนื้อหาเกมจะมหาศาลมาก ก็อย่างที่ทีมงานสร้างมิดการ์โดยถนอมภาพจำของแฟน ๆ ทีมงานเองก็จะสร้างภาค Rebirth โดยไม่ทำลายภาพจำต่าง ๆ ของแฟน ๆ เช่นกัน
- มีแฟน ๆ สงสัยว่ามันจะเล่าจบในเพียง 3 ภาคได้จริงเหรอ? เนื้อเรื่องจะเป็นฉบับ Digest ย่อส่วนมารึเปล่า? โนะตอบว่าไม่ไดเจสต์
- ส่วนตัวเกม จะเป็น Open World หรือไม่นั้น โนะบอกว่าจะประกาศในการเปิดเผยข้อมูลครั้งถัดไป
- ระบบทั่วไปของ FFVII Remake จะยกมาใช้ต่อในเกมนี้
- ซีนที่คลาวด์และเซฟิรอธเดินด้วยกันในเทรลเลอร์ เป็นฉากย้อนอดีตของคลาวด์
- ไม่มีการเปลี่ยนโมเดลตัวละครหลัก แต่ก็มีปรับแก้บางส่วน เช่นโมเดลของยุฟฟี่
- แกนหลักเรื่องไม่ได้เปลี่ยน ส่วนปริศนาใหม่ ๆ ที่แตกต่างไปจากภาคออริจินอล ผู้เล่นออริจินอลก็จะได้สนุกกับเกมในหนทางใหม่ ๆ ความท้าทางของโปรเจคท์นี้ ก็อยู่ที่การสร้างปริศนาใหม่ ๆ โดยไม่ให้เบี่ยงเบนทิศทางไปจากออริจินอล
- ส่วนการดำเนินเรื่อง จะมีการเปลี่ยนแปลงบางส่วน ผู้เล่นอาจจะงงว่าส่วนนั้นถูกตัดออกรึเปล่า? เนื่องจากเพราะโครงสร้างเนื้อเรื่องเปลี่ยนไป แต่แม้ว่าลำดับสถานที่ในการเดินทางจะเปลี่ยนไป ทว่าจะไม่มีการตัดอะไรออกทั้งสิ้น ストーリーの軸は変わっていません。原作と違う新しい謎に関しては,原作をプレイした皆さんでも新鮮に楽しんでいただけるようになっていると思います。その一方で,ゲーム進行に関しては,一部変更している部分があります。プレイして「あの場所,削られた?」と思う方もいるかもしれませんが,それは三部作として少し構成に変更があるからです。それに伴って行く順番が変わっている場所はありますが,基本的に削除は行わない方針です。
- ด้านคิตาเสะก็พูดทำนองเดียวกัน 北瀬:具体的な範囲は明かせませんが、全体を通してオリジナル版における大きな出来事が欠けるといったことはないです。
- เกมเป็น PS5 Exclusive (จริง ๆ สื่อแค่ว่าลง PS4 ไม่ได้) เพราะคุณภาพกราฟิก และจำเป็นต้องใช้สปีดของ SSD ในการเดินทางไปในโลกอันกว้างใหญ่อย่างราบรื่น
- โนะบอกว่าทีมงานเองก็อยากจะรีมาสเตอร์ Dirge of Cerberus และคำนวณต้นทุนในการสร้าง Before Crisis ขึ้นใหม่ แต่ตอนนี้ยังไม่มีแผนจะทำ, ส่วนการที่ไวส์และเนโร่ ปรากฏตัวใน FFVII Remake Intergrade เป็นการสื่อว่านี่คือโลกที่ทุกเกมของ FFVII เชื่อมโยงกัน (แฟมิซือ)
Final Fantasy VII Ever Crisis
- โนะบอกว่ายังพิจารณาระยะเวลา Closed Beta อยู่ ในเบต้ายังเล่นได้แค่บางเหตุการณ์ ไม่ใช่เล่นได้ทุกซีนที่เห็นในเทรลเลอร์ (เดนเกคิ)
- การเปลี่ยนชุดตัวละครที่เห็นคือสกิน ที่เชื่อมโยงกับระบบกาชาอาวุธ อาวุธหายากบางชิ้น จะมาพร้อมคอสตูมพิเศษ (เดนเกคิ)
- คนที่ปรากฏท้ายเทรลเลอร์คือเซฟิรอธ ก่อนจะได้พบดาบมาซามุเนะ เซฟิรอธผมสั้นวัยหนุ่ม ใช้ดาบเล่มอื่นมาก่อน (เดนเกคิ)
- เซฟิรอธวัยหนุ่ม ก็จะอยู่ใน Episode นึงของ The First SOLDIER ด้วย (แฟมิซือ)
- โนะบอกว่าเกมมันรวมคอนเทนต์ทั้งภาคออริจินอล และ AC-DC แหละ รวมถึง The First SOLDIER ด้วย เกมมันก็จะใหญ่มาก โดยตอนนี้กำลังทำคอนเทนต์ส่วนภาค FFVII และ Crisis Core ตามที่เห็นในเทรลเลอร์อยู่ (Gamer.ne)
- สื่อถามว่า แล้วคอนเทนต์ภาค AC ที่เป็นหนัง มันจะกลายเป็นเกมได้ยังไง? โนะบอกตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มทำคอนเทนต์พวกภาคหลัง FFVII ออริจินอลเลย (หมายถึง AC, DC นั่นแหละ) เลยยังตอบไม่ได้ในตอนนี้ (Gamer.ne)
- ตอนนี้โนะเองก็ยุ่งกับงานคุมพากย์เสียงมาก ไม่มีเวลาไปคุมพากย์เสียงโปรเจคท์อื่นเลย ก็ยังอยู่ระหว่างพิจารณาเหมือนกันว่า Ever Crisis จะให้มีเสียงพากย์แค่ไหน (Gamer.ne)
- สื่อเดาว่าโนะคงอยากแบ่งเกม เป็นแบบเกมที่มี Full Voice ไปเลย กับเกมที่มีแต่ text เพียว ๆ แน่เลย โนะบอกว่าเขาก็ทำ FFVII Remake ให้มีเสียงพากย์ไปแล้ว ก็คิดนะว่า Ever Crisis จำเป็นต้องมีเสียงพากย์ขนาดไหน? เข้าใจว่าคนรุ่นใหม่ต้องการเสียงพากย์ แต่คอนเซปต์ของ Ever Crisis คือการรีเมคในรูปแบบที่แตกต่างจาก FFVII Remake ถึงกระนั้น ก็คงไม่ได้ให้เป็น text เพียว ๆ ทั้งเกมหรอก ยังไงฉาก Battle, Movie Scene ก็ต้องมีเสียงพากย์ เซฟิรอธวัยหนุ่มก็จะได้พูดด้วย (Gamer.ne)
https://www.4gamer.net/games/638/G063881/20220628070/
https://dengekionline.com/articles/138850/
Post a Comment