SQEX ปิดดีลขาย Crystal Dynamics และ Eidos ให้ Embracer Group
Embracer Group นิติบุคคลสัญชาติสวีเด่น เซ็นซื้อหุ้นรวมมูลค่าประมาณ 300 ล้านดอลล่าร์ หรือ 40,000 ล้านเยน จาก Square Enix ไป ในส่วนของกรรมสิทธิเหนือสตูดิโอ Crystal Dynamics, Eidos Montréal และ Square Enix Montréal ซึ่งจะทำให้ถือสิทธิเหรือทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมดในเครือสตูดิโอดังกล่าว อย่าง Tomb Raider ที่มียอดขายทั้งซีรีส์ 88 ล้านชุด, Deus Ex, Thief, Legacy of Kain และอีกกว่า 50 เกม บินตามไปด้วย โดยในการประชุมบอร์ด Square Enix เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2022 ที่ผ่านมา บอร์ดตัดสินใจมอบหมายให้โยสึเกะ มัตสึดะ ประธานบริษัท เป็นคนตัดสินใจขั้นสุดท้าย ซึ่งข้อตกลงโอนย้ายหุ้นทั้งหมด ก็ตกลงกันได้เรียบร้อยในวันที่ 2 พ.ค. 2022 นี้
โดยในประชาสัมพันธ์ ก็แจงว่าธุรกรรมนี้จะช่วย Square Enix ในแง่เร่งการเติบโตของ Core Business (ก็คือส่วนหนึ่งเอาไปลงกับการพัฒนาเกม) และอีกส่วนหนึ่ง จะเอาไปตั้งธุรกิจใหม่ โดยนำไปลงทุนใน Blockchain, AI และ Cloud ตามนโยบายที่เซ็ตไว้เมื่อปีที่แล้ว
หลังจากนี้บริษัทก็ยังคงประกอบด้วยสตูดิโอในญี่ปุ่น ส่วนสตูดิโอนอกญี่ปุ่น ก็ยังถือสิทธิในแฟรสไชส์ Just Casue, Outriders และ Life is Strange อยู่
ตอนนี้ทางบริษัทก็กำลังประเมินว่าธุรกรรมดังกล่าว จะส่งผลต่อ forecast ของผลประกอบการประจำปีงบประมาณ 2022 มากขนาดไหน เมื่อประเมินได้เมื่อไหร่ก็จะประชาสัมพันธ์อีกที
https://www.hd.square-enix.com/eng/news/pdf/20220502%20A_Press%20Release_fin.pdf
https://automaton-media.com/articles/newsjp/20220502-201177/
https://automaton-media.com/en/news/20220502-12264/
ด้าน Embracer Group ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าดีลนี้ทำให้ได้พนักงาน 1,100 คน และสตูดิโอ 3 แห่ง ซึ่งทาง Embracer ก็ยินดีที่ได้ถือกรรมสิทธิเหนือสารพัดเกมชั้นนำ ทีมงานระดับโลกผู้เปี่ยมด้วยพรสวรรค์ ประวัติศาสตร์อันใหญ่ยิ่งของสตูดิโอต่าง ๆ ที่พิสูจน์ผลงานมาหลายทศวรรษ
หลังปิดดีลนี้ อเมริกาจะเป็นฐานที่มั่นอันดับ 1 ของ Embracer (นับจากที่มีผู้พัฒนาเกมทำงานในนั้นมากที่สุด) และอันดับ 2 คือแคนาดา โดย Embracer มีพนักงานทั่วไป 14,000 คน ผู้พัฒนาเกม 10,000 คน และสตูดิโอย่อยอีก 124 แห่ง ถือกรรมสิทธิเหนือเกมกว่า 230 เกม โดยจำนวนนั้นเป็นเกมระดับ AAA 30 เกมด้วยกัน
ทั้งนี้การซื้อขายโอนย้ายหุ้น ต้องได้รับการอนุมัติรับรองโดยบุคคลและหน่วยงานต่าง ๆ คาดว่าจะเสร็จสิ้นระหว่างเดือนกรกฎาคม - กันยายน 2022 นี้
ด้านมุมมองของนักข่าวที่มีต่อดีลนี้เช่น
Maku - งงว่าทำไม Square Enix ถึงขายเกม top 3 ของค่าย (แกหมายถึง Tomb Raider) ไปเพื่อเอาไปลงทุนใน Crypto และ Cloud ได้ เหมือนกับตอนที่รู้ทั้งรู้ว่าเกมเมอร์อยากเล่นเกมให้สนุก ไม่ชอบให้เอาเกมไปผูกกับ NFT แต่ก็ยังดึงดันที่จะทำ ขอให้มันล้มเหลว - https://twitter.com/TropicalMaku/status/1521097815442681858
Audrey - งงว่าไหงขายไปด้วยมูลค่าแค่ $300M และเมื่อขายแล้วจะทำให้โฟกัสในเกมไตเติลหลักได้จริง ๆ ใช่มั้ย? ยังไงก็อย่าเอาไปลง NFT เลย - https://twitter.com/aitaikimochi/status/1521026279683764224
Arielle - มีแต่ Square Enix เท่านั้น ที่บริหารอาวุธฝั่งตะวันตกผิดพลาดมาเป็นทศวรรษ สุดท้ายก็ตัดสินใจขายในราคาแค่ธุลี เพราะความวินาศของตนเอง ขอให้ค่อย ๆ หมุนควงสว่านลงท่อน้ำทิ้งไปซะ https://twitter.com/khiethy/status/1521114203049787393
ด้านมุมมองของโยอิจิ วาดะ ประธานคนก่อนโยสึเกะ มัตสึดะ ซึ่งคุณวาดะแกเป็นคนซื้อ Eidos มาเพื่อลุยตลาดตะวันตกในปี 2009 เอง แล้วแกลาออกจากตำแหน่งในปี 2013 เนื่องจากสถานการณ์ตอนนั้นของ Square Enix ก็เอิ่ม… เจ๊งยับเหมือนกัน ปัจจุบันแกเป็นกรรมการบริษัท GENDA อยู่ (https://genda.jp) ก็แสดงความเห็นกับเรื่องนี้
วาดะซัง - แกก็งงด้วยว่า ดีลนี้มีวัตถุประสงค์จริงเพื่ออะไรกันแน่? ในแง่ธุรกิจ มันไม่ใช่เรื่องของผลกำไรแน่นอน ทว่าในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ และการพัฒนาคอนเทนต์ต่าง ๆ มันพุ่งปรอทแตกมาก แกเลยเดา ๆ ว่าจุดประสงค์จริงของดีลนี้ ก็เพื่อลดหนี้ที่มองไม่เห็นตรงนั้นรึเปล่า? ถ้าเป็นแบบนั้น ไฮไลต์คือต้องมารอดูกันว่าหลังจากโอนย้ายขายกันเรียบร้อยแล้ว หนี้ตรงนั้นจะร่วงตุ๊บลงขนาดไหน - https://www.facebook.com/yoichiwada528/posts/5347040225350687
Post a Comment