FFXVI เรื่องราวของการกระทืบคริสตัลให้แหลกคึ
Artwork ของ FFXVI และคำโปรยที่ใช้ตั้งแต่เปิดตัว Trailer
คำโปรยนี้ ผมและชาวจักรวาลนักข่าว ก็มองแต่แรกแล้วว่า มันก็คือไปใช้ plot ว่า mastermind/วายร้าย/ผู้ครอบงำประวัติศาสตร์ ประจำภาคนี้ ก็คือคริสตัลนั่นเอง
หลังจากสิบกว่าภาคแรก พวกตัวเอกเป็นผู้ได้รับอุปถัมภ์พรพลังจากคริสตัลมาตลอด เปรียบตัวแทนให้ชัดก็คืออาเช่ (2006) ที่มีโอควิเลียและศิลาอาถรรพ์ พร้อมหนุนหลังเบิ้ม ๆ ให้รวมแผ่นดินเป็นหนึ่ง ครองอำนาจเป็นจอมราชันย์ (แต่อาเช่เริ่มขบถว่า กูไม่เอาพลังห่าเหวอะไรนี่... และคิดเหมือนทุกคนว่าประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ก็ต้องให้มนุษย์เขียนเองและตัดสินใจเองสิวะ ไม่ใช่มางอมืองอเท้า ยืมพลังจากเทพ ทำตามคำยุแยงของสมมติเทพ)
พอมายุคหลัง 2010 เป็นต้นมา เช่น Final Fantasy Type-0 (2011) ก็เริ่มบิดพล็อตใหม่เป็นว่า คริสตัลเป็นสิ่งที่ฟัลซิที่หวังครอบงำประวัติศาสตร์มนุษย์สร้างขึ้นมา และหวังให้มนุษย์มัวแต่พึ่งพามัน จนทำอะไรกันเองไม่เป็น ขณะที่ฝั่งตัวร้ายอย่างจอมพลซิดก็รังเกียจคริสตัลที่ทำตัวเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้มนุษย์กราบไหว้บูชา แล้วพยายามสร้างวิธี drain พลังจากมันออกมาแทน เปลี่ยนสมมติเทพ เป็นขุมน้ำมันซะงั้น
ย่างมาถึง Final Fantasy XV (2016) ที่เทพทั้ง 6 สร้างแหวน ดวงดาวสร้างคริสตัล เทพกับดวงดาวก็ซูเอี๋ยกัน อวยตระกูลลูซิส แล้วก็ครอบงำประวัติศาสตร์ไป
หรือล่าสุดเลยคือ Stranger of Paradise: Final Fantasy Origin (2022) ที่กลายเป็นว่า ชาวลูเฟนซึ่งรับบทวายร้ายของเรื่อง เป็นผู้สร้างคริสตัลขึ้นมาควบคุมสมดุลพลังของธาตุทั้ง 4 บนโลก
บทบาทของคริสตัลเริ่มไปทางเทา ๆ ดำ ๆ และกลายเป็นเพียงเครื่องมือของตัวร้ายขึ้นไปเรื่อย ๆ
พอมาถึง 16 ก็คงนั่นแหละ คงต้องมีฉากกระทืบคริสตัลให้แหลกคึ คาตีนกันไปสักที
Final Fantasy Type-0 อุตส่าห์จบที่คริสตัลหยุดทำงาน ตามฟัลซิอเรเซียที่เดินทางออกจากโลกไปแล้ว... และมนุษย์เริ่มหันมายืนหยัดอยู่ได้ด้วยตนเอง สร้างประวัติศาสตร์ของตนเองที่มนุษย์เป็นต้นมา และภาคหลังจากนั้นก็ตามรอย Type-0 กันมาแล้ว ตัว XVI เองก็คงไม่แตกแถว
จากนี้ไปคือยุคที่ไม่เอาเทพ คริสตัล สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่จะถ่ายทอดแนวคิดที่มนุษย์ผู้เท่าเทียมกันจะเติบโต และยืนหยัดกันด้วยตนเองแล้ว
Post a Comment