พูดถึงคริสต์มาสแล้ว ก็นึกถึงเกมนึงที่ลืมไปแสนนาน นั่นคือ The 3rd Birthday (2010)
พูดถึงคริสต์มาสแล้ว ก็นึกถึงเกมนึงที่ลืมไปแสนนาน นั่นคือ The 3rd Birthday (2010)
[Spoiler Alert แบบหนักหน่วง]
- โอเคว่าเกมเพลย์ระยำตำบอน หาบาลานซ์ไม่เจอ ตามประสาเกมของคุณทาบาตะ ที่ผมรู้สึกว่าเกมเพลย์ โดยเฉพาะระบบสู้มันไร้สมดุลทุกเกม ยิ่งเล่นไปถึงความยากระดับสูงเท่าไหร่ หากไม่ได้ "แยกเซฟ" ไว้ คุณจะเจอปัญหา ฝ่าไปต่อก็ไม่ได้ จะกลับตัวกลับใจก็ไม่มีโอกาส แล้วเกมนี้มันมีความยาก 5 ระดับ ซึ่งผมจำได้ลาง ๆ ว่าตัวเองเลเวล 80 เล่นไปจนถึงความยากระดับ 4 หรือ 5 เนี่ย ก็จะร้องไห้แล้ว บางฉากรีเพลย์ซ้ำจนแบตหมดไปหลายรอบ เล่นจนถึงเช้ากว่านะกระดึ๊บผ่านไปได้ แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถจบความยากระดับสุดท้ายได้
- แต่สิ่งที่ตราตรึงในความทรงจำผมที่สุดคือ การได้เล่นเกมนี้แบบ Day0 โดยที่ยังหลงเชื่อมาตลอดจนท้ายเรื่องว่าคนที่เรากำลังเล่นอยู่คืออายะ
- พอท้ายเกมมาหักมุม โดยที่เราได้รับรู้ ประมวล คิดตามด้วยตนเองว่าไอ้ที่เราเล่นมาทั้งหมดไม่ใช่อายะ.... หากแต่เป็นอีฟ, แล้วอายะก็ออกมาช่วยใน Time 0, อายะสละร่างให้อีฟไดฟ์เข้ามามีชีวิตใหม่, เผยความหมายที่แท้จริงของ The 3rd Birthday
- ตอนที่เพลงจบบรรเลงขึ้นมา บนโลกที่อีฟต้องเดินหน้าด้วยตนเองเพียงลำพังต่อไป โดยไคล์ก็บอกให้อีฟใช้ชีวิตของตนเอง ไม่ต้องเล่นเป็นคนอื่น ถึงจะเสียใจ แต่ไคล์ก็จะเฝ้าดูแลอีฟอยู่ห่าง ๆ และหวังว่าจะได้เห็นรอยยิ้มของอายะอีกครั้ง เป็นซีนจากเกมที่ทำผมน้ำตาท่วมที่สุด จวบจนทุกวันนี้
- ตอนนั้นแท็บบี้ พึ่งเล่นมุกตัวเอกตายตอนจบเป็นครั้งที่ 2 (ครั้งแรกคือกำกับฉากที่แซ็คตายใน Crisis Core) ทำให้เรายังเดาทางไม่ถูกว่าจะจบแบบนี้ แล้วพอคนนึงตายเพื่อส่งต่อโอกาสให้อีกคนนึงได้มีชีวิตอยู่ สานต่อจิตวิญญาณของตัวเอง มันแบบ เอ่อล้นไปหมด
- ชีวิตเราไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่านี้ ก็แค่ส่งไม้ต่อให้กับอีกคนนึง
- ถึงแม้เกมจะอิหยังวะเต็มไปหมด ตั้งกะมีหลายไทม์ไลน์ (ในเกมคุ้น ๆ ว่างอกมา 6-7 เส้น) แล้วโดดข้าม Timeline ไปมา โดยไม่รู้ว่าไอ้ Timeline ที่เราหนีมานั้นมันเกิดอะไรขึ้น แต่น่าจะมีรีพอร์ทที่อีฟรู้สึกได้ว่า Timeline พวกนั้นมันฉิบหายวายวอดเพราะ Twisted ไปหมดแล้ว, ไหนจะเรื่องที่ไปเปลี่ยนแปลงอดีต แต่ตัวละครเหมือนจะลบแต่ไม่ได้ช่วยให้ลืมมมม เหมือนจะจำได้แต่จำไม่ได้ ประสาเกมญี่ปุ่น
- สำหรับผม ข้อเสียทุกอย่างที่มองเห็นชัดเจน มันถูกกลบไปด้วยความทรงจำของการได้รับรู้บทสรุปของเรื่องครั้งแรกด้วยตนเอง แล้วก็น้ำตาท่วมออกมาเอง ก็เลยแบบ โคตรดีใจที่ในช่วงชีวิตที่มีเวลาว่าง โชคดีที่ได้สัมผัสประสบการณ์แบบนี้ โชคดีจริง ๆ
Post a Comment