รวมข้อมูลน่าสนใจจาก Crisis Core -Final Fantasy VII- หลังเกมวางจำหน่าย 2 สัปดาห์

**คัดลอกจาก entry ที่ผมเขียนลง exteen ในวันที่ 30 ก.ย. 2007
http://ffplanet.exteen.com/20070930/crisis-core-final-fantasy-vii

------------------------------------------------



เป็นการสรุปข้อมูลที่น่าสนใจจากบทสัมภาษณ์เก่าๆ หลายๆ ฉบับที่ผมยังไม่เคยได้แปลนะครับ

- จุดกำเนิดของภาคนี้คือ วันหนึ่งคุณคิตาเสะอยากจะทำ FFVII สำหรับภาค PSP ขึ้นมา เขาก็เลยไปบอกคุณทาบาตะ (ไดเรคเตอร์) ว่าอยากให้ช่วยทำเกม FFVII ลง PSP ให้หน่อย เอาเป็นไซด์สตอรี่ของภาคเก่าๆ แบบภาค BC ก็ได้ คุณทาบาตะเองก็บอกว่าขอเวลาไปคิดซักหน่อย ว่าแล้วเขาก็รีบไปปรึกษากับคุณโนมุระ วันต่อมาพวกเขาก็เลยได้ไอเดียว่าเราจะทำเกมที่ดำเนินเรื่องโดยมีแซ็คเป็นตัวเอกกัน ตอนแรกนั้นกะจะให้เกมนี้มีชื่อภาคกว่า "Before Crisis Core" แต่ก็มีคนค้านว่ามันไม่ใช่เกมพอร์ทนะ จะเอาชื่อ BC ไปเอี่ยวด้วยมันก็ดูยังไงๆ อยู่ สุดท้ายก็เลยเปลี่ยนมาเป็น Crisis Core เฉยๆ

- คุณคิตาเสะต้องไปรับลูกที่โรงเรียนอยู่บ่อยๆ ระหว่างที่เขานั่งรอลูกเลิกเรียนอยู่ในรถเขาก็มักจะหยิบ PSP ขึ้นมาเล่นเป็นประจำ สำหรับเขาแล้วที่เขาเลือก PSP ก็เพราะถ้าเขาอยู่ในเขตที่มี wireless-lan เขาก็จะสามารถเล่นเว็บได้ ส่วนตัวแล้วเขาเป็นคนไม่ชอบพกโน้ตบุ๊คไปไหนมาไหนเพราะมันลำบาก พก psp ใส่กระเป๋าเนี่ยแหละง่ายสุดแล้ว และนี่ก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมคุณคิตาเสะถึงได้เลือก PSP

- เรื่องที่ชื่อ CC BC AC มันต่อกันพอดี ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาวางแผนกันแต่แรก ทว่าหลังจากที่ได้เปลี่ยนชื่อจาก BCC มาเป็น CC พวกเขาก็คิดว่าถ้ามีเกมต่อไปก็จะให้ไล่ลำดับตัวอักษรแล้วล่ะ

- ระบบหลายๆ อย่างในเกมนี้ถูกคิดขึ้นมาแล้วก็โละทิ้งไปมากมาย แต่มีระบบ DMW เนี่ยแหละที่ยืนหยัดตั้งกะเริ่มโครงการมาจนถึงช่วงเกมออกได้ คุณคิตาเสะเองเป็นกังวลว่าระบบนี้มันจะสนุกเร้อ?ขณะที่คุณทาบาตะ มองว่าระบบนี้เป็นอะไรที่น่าสนใจ และมันก็สื่อความหมายในตัวมันเอง ส่วนคุณโนมุระบอกว่าจุดเด่นของมันอยู่ที่การทำให้ผู้เล่นได้ลุ้นระทึก ด้วยระบบ DMW เนี่ยแหละมันสามารถจะพลิกสถานการณ์ในการต่อสู้ เปลี่ยนกระแสและอารมณ์ของผู้เล่นได้อย่างง่ายดาย ขณะเดียวกันกว่าที่เราจะบรรลุสัจธรรมถึงความหมายที่แท้จริงในการมีอยู่ของ DMW ก็ต้องเล่นไปถึงการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของแซ็คกับทหารนับพันแล้วเท่านั้นแหละ

- คนคิดระบบ DMW คือคุณโนมุระ และคนที่คิดว่าในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของแซ็คต้องให้ DMW มันเกิดลูกเล่นแบบนั้นก็คือคุณโนมุระน่ะแหละ ตอนที่เอาเกมนี้ไปให้คนทดลองเล่นกัน หลายๆ คนที่ได้เล่นฉากสุดท้ายบอกว่าในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังระบบ DMW แล้ว คุณโนมุระเองเมื่อได้ยินก็ดีใจมากที่ในที่สุดความตั้งใจของเขาก็ส่งผ่านไปถึงตัวผู้เล่นได้

- ในบรรดาฉากต่างๆ ที่เคยเห็นกันแล้วในภาค VII เก่าและปรากฏซ้ำในภาคนี้อีก มีหลายๆ ฉากที่พวกทีมงานอยากจะแก้ใหม่ให้มันต่างจากของเดิม แม้ว่าคุณคิตาเสะจะอนุญาตให้ทำได้ตามความเหมาะสม แต่ดูเหมือนว่าพวกสตาฟฟ์ใหม่ๆ หรือสตาฟฟ์เด็กๆ จะไม่กล้าทำกัน พวกเขารู้สึกกดดันที่จะต้องเข้าไปแก้ไขเนื้อหาของ FFVII เดิมที่มีแฟนๆ อยู่หลายล้านคนทั่วโลก สุดท้ายคุณคิตาเสะก็เลยต้องลงไปสั่งการเอง เขาพยายามบอกกับตัวเองว่ามันเป็นของที่เขาสร้างมันขึ้นมาเองเขาไม่จำเป็นต้องกลัว ในเวลานั้นไม่มีใครกล้าออกความเห็นขัดกับคุณคิตาเสะ แต่ก็มีทีมงานคนหนึ่งคนเดียวเท่านั้นที่สามารถออกความเห็นมาเบรคคุณคิตาเสะไว้ได้ นั่นก็คือคุณโนมุระ เดิมทีแล้วคุณคิตาเสะอยากจะแก้ฉากเซฟิรอธ vs แซ็ค โดยเขาตั้งใจจะให้ร่างเจโนว่านั่นมีส่วนเอี่ยวด้วย ทว่าคุณโนมุระก็บอกว่าอย่านะเฮีย ของเก่ามันไม่มีอะไรแบบนั้น!!!

- แม้ฉากจบของภาคนี้จะหม่นหมอง แต่คุณโนมุระก็หวังว่าผู้เล่นจะสามารถรู้สึกได้ถึง "ความหวัง" ที่ถูกส่งต่อไปยังอนาคต และด้วยความเสียสละของแซ็คนั่นแหละ ตำนานบทใหม่ของ FFVII ถึงได้เริ่มต้นขึ้นมาได้

- คุณทาบาตะเป็นคนคิดฉากจบส่วนที่เป็นการวนลูปกลับไปยังฉากเปิดเกมของ FFVII และด้วยฉากๆ นี้คุณทาบาตะก็หวังว่าพวกคุณโนมุระและคิตาเสะ จะได้รับข้อความที่ว่า "รีเมค FFVII เหอะ" จากเขา ซึ่งผลปรากฏว่าพอคุณคิตาเสะได้ดูฉากจบแล้วเขาก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องที่ว่าคุณทาบาตะอยากจะให้รีเมคแต่อย่างไร แถมยังตอบกลับไปอีกว่าถ้าอยากให้รีเมคนัก ก็ทำเอาเองสิ (555+)

- ฉากที่คุณคิตาเสะชอบมากที่สุดคือฉากเซฟิรอธ vs แซ็ค แต่ต้องเป็นเวอร์ชั่นที่มีเจโนว่าเอี่ยวด้วย ซึ่งก็โดนคุณโนมุระหั่นทิ้งไปแล้ว ขณะเดียวกันฉากที่คุณโนมุระชอบมากที่สุดคือฉากที่แซ็คตัดสินใจเด็ดขาดว่าเขาเป็นโซลเยอร์ ไม่ว่าศัตรูจะเป็นใคร ไม่ว่าเขาต้องเผชิญกับอะไร เขาก็จะสู้สุดใจ ส่วนคุณทาบาตะชอบฉากเปิดตัวของเจเนซิส

- ฉากจบเกมนั่นมีการถ่ายทำกำกับกันใหม่ถึง 20 รอบ กว่าจะได้ออกมาเป็นอย่างที่เห็นนะนั่น

- คุณโนมุระบอกว่าเขาก็อยากทำ FFVII รีเมค แต่มันไม่มีสตาฟฟ์จะทำด้วยอ่ะดิ (ก็เล่นเอาไปทำเกมอื่นๆ หมด)

- สำหรับเครื่องชุดพิเศษนั้นตอนแรกว่าจะทำแค่ 10,000 ชุด แต่ด้วยแผนการตลาดอันแยบยล ไปๆ มาเลยทำกัน 77,777 ชุดดีกว่าคุณโนมุระเองได้พยายามจะจองเครื่องชุดนี้จาก SE e'STORE แต่ดันจองไม่ทันเลยต้องไปยืนต่อคิวในวันวางจำหน่ายแทน ส่วนคุณทาบาตะใช้เส้น เอ้ย! สั่งจองกับร้านสะดวกซื้อเอา

- ระหว่างที่แซ็คไปท่องเที่ยวทั่วโลก เขาจะได้รับ sms จากเพื่อนๆ มาเรื่อยๆ แต่เขาจะไม่มีวันได้ sms จากแอริธเลย สาเหตุก็เพราะแอริธไม่มีโทรศัพท์มือถือน่ะเอง

- ซิสเนย์เป็นเด็กกำพร้าที่เกิดที่วูไถจริงๆ นะ และเธอก็เป็นคนที่เข้าร่วมเทิร์คด้วยสถิติอายุน้อยที่สุดซึ่งก็คือ 16 ปี

- ทหารที่สำออยทำเป็นนอนสะดีดสะดิ้งหลังจากช่วยปกป้องทิฟาจากมอนสเตอร์ คือคลาวด์น่ะเอง

- ลายกางเกงว่ายน้ำของแซ็คที่เป็นรูปดอกทานตะวัน (หรือใครจะมองว่าดวงอาทิตย์ก็แล้วแต่) เอามาจากชื่อสกุลของแซ็คที่แปลว่า "แจ่มใส" น่ะแหละ

- สังเกตได้ว่าโซลเยอร์คลาสสองทุกคนจะใส่ชุดสีแดง แต่มีแซ็คคนเดียวที่ดันเป็นชุดสีน้ำเงินเข้ม..ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณโนมุระบอกว่าจงทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่เถิด ก็แซ็คในชุดสีแดงมันคงจะดูไม่จืดจริงๆ

- โซลเยอร์เฟิร์สคลาสสามารถใส่ชุดอะไรก็ได้ตามใจ เจเนซิสกับเซฟิรอธเองก็มีชุดของตัวเอง แองจีลที่เป็นคนซีเรียสก็ใส่ชุดมาตรฐานที่เป็นสีดำ

- คุณโนมุระเคยคิดจะออกแบบแอริธในกางเกงขายาวหรือมินิสเกิร์ตหลายทีแล้ว แต่มันไม่เวิร์คจริงๆ ให้ดิ้นตาย

- แองจีลในเรื่องอายุแค่ 25 เท่านั้น...แม้ว่าหน้าลุงแกจะดู 30+ แล้วก็เถอะ

- พอลองถามว่าซิสเนย์เป็นอะไรกับแซ็ค คุณโนมุระก็บอกว่าจำได้มั้ยแอริธเคยพูดใน FFVII ว่าแซ็คเค้ามีเกิร์ลเฟรนด์อยู่เยอะ คุณทาบาตะก็เสริมว่าซิสเนย์เนี่ยก็ถูกวางบทบาทให้สอดคล้องกับสิ่งที่แอริธพูดน่ะแหละ

(สรุปว่าเป็นกิ๊กไปละกัน -_-")

ไม่มีความคิดเห็น