เกร็ดข้อมูลเรื่องการออกแบบ จาก KH1 Ultimania Part 1
เห็นคุณ Goldpanner สตาฟฟ์จาก KHinsider กำลังไล่แปลเก็บตกข้อมูลหนังสือ Kingdom Hearts Ultimania (ภาคแรก) อยู่ ซึ่งแม้หนังสือเล่มนี้จะวางจำหน่ายมานานถึง 17 ปีแล้ว แต่เนื้อหาก็ยังน่าสนใจมาก และมีเรื่องที่ไม่ได้ถูกเอ่ยซ้ำในภายหลังอีกตรึม
วันนี้ก่อนจะออกไปนอกบ้าน ผมเลยมาย่อยเนื้อหาบางส่วนที่น่าสนใจไว้ก่อน แล้วจะทยอยตามมาอีกทีหลังครับ
--------------------------------------
เรื่องการออกแบบ
--------------------------------------
คีย์เบลด Oathkeeper (約束のお守り)
- ตัวคีย์เบลดสร้างจากตัวอักษร 光
- ในระหว่างการพัฒนาทีมงานเรียกว่า ไคริคีย์เบลด
- ใช้พวงกุญแจรูปผล Paopu
- เป็นคีย์เบลดที่คุณโนมุระชอบเป็นการส่วนตัว
คีย์เบลด Oblivion (過ぎ去りし思い出)
- ตัวคีย์เบลดจากสร้างตัวอักษร 闇
- ในระหว่างการพัฒนาทีมงานเรียกว่า ริคุคีย์เบลด
- เคยมีแผนว่าจะให้มีฉากริคุมอบพวงกุญแจที่เป็นเสมือนเครื่องรางให้กับโซระ (ในเกมจริงโซระไปเปิดหีบเจอเอง) ด้วยเหตุนี้พวงกุญแจของ Oblivion จึงเป็นสี (ดำ) ที่แตกต่างจากสร้อยคอของโซระ
คีย์เบลด Ultimaweapon
- มีรูปแบบอ้างอิงจาก Dream Sword ที่ใช้ในฉากเปิดเกม
- มีโครงสร้างที่ซับซ้อน จนคุณโนมุระคิดว่ามันเยอะเกินไปหน่อย
ดาบ Soul Eater
- คุณโนมุระย้ำว่านี่ไม่ใช่คีย์เบลด เป็นดาบที่ริคุใช้ในครึ่งแรกของเกม
- คุณโนมุระอยากสร้างดาบที่ไม่มีใบดาบ
- ได้มาเป็นดาบที่พอริคุถือไขว้หลังแล้วดูเหมือนปีก
คีย์เบลด Metal Chocobo
- ได้จากการเอาชนะคลาวด์ สร้างให้คล้าย Buster Sword
- พวงกุญแจเป็นรูปโจโคโบะ เพราะฉายาของคลาวด์คือหัวโจโคโบะ
คีย์เบลด Lionheart
- ใช้ชื่อเดียวกับอาวุธสุดยอดของสคอลล์ใน FFVIII
- ใช้โทนสีเงินแบบที่สคอลล์ชอบ
- ตัวคีย์เบลดและพวงกุญแจ ใช้แบบจาก Griever
Ansem ตัวปลอมในชุดคลุมสีน้ำตาล
- เอาต้นแบบมาจากพวกร่างย้อนรวมที่ใส่ผ้าคลุม (รียูเนียน) ใน FFVII
- ตอนแรกออกแบบมาให้มีหน้าตาด้วย และให้คอยตามโซระไปทุกดาว และพูดคำพูดที่เป็นปริศนาออกมา
ริคุตอนโดน Ansem ยึดร่าง
- เป็นชุดที่เน้นโชว์กล้ามเนื้อและเอ็น
- ตอนแรกคิดจะทำให้ตัวสูงขึ้นกว่านี้ แต่จะมีปัญหาด้าน Animation เลยเลิกไป
- ด้านปลายของคีย์เบลดแห่งความมืดที่สร้างจากหัวใจเจ้าหญิงทั้ง 6 แหว่งเป็นรูปหัวใจออกไป เพื่อจะแสดงว่าตัวคีย์เบลดนี้ยังขาดหัวใจของไคริจึงจะสมบูรณ์
- สัญลักษณ์ฮาร์ทเลสบนกลางหน้าอกริคุ ไม่มีกากบาท ไม่มีหนาม เพราะหัวใจของริคุ ไม่ได้ตกสู่ความมืดมิดโดยสมบูรณ์
World of Chaos
- ก่อนจะมาถึงเวอร์ชั่นสุดท้าย มีออกแบบเวอร์ชั่นอื่นไว้ รายละเอียดจัดเต็ม
- แต่สุดท้ายต้องตัดเวอร์ชั่นนั้นออก คุณโนมุระหนักใจมากที่ต้องตัดเวอร์ชั่นนั้นออก แต่ก็เป็นปกติของการสร้างเกมอยู่แล้ว
Post a Comment