ซากากุจิสร้างทฤษฎีวัฏจักรชีวิตจากการสูญเสียมารดา
ต้นปี ค.ศ. 1990 ในช่วงสุดท้ายของการพัฒนา Final Fantasy III ได้เกิดเหตุการณ์อันเศร้าโศกที่พลิกชีวิตของฮิโรโนบุ ซากากุจิ
แม่ของเขาจากไปอย่างกะทันหัน....
ด้วยความบอบช้ำจากเหตุการณ์นี้ ทำให้คุณซากากุจิเริ่มหันมาไตร่ตรองความหมายของการมีชีวิตและความตาย แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
นับจากวันนั้นมา แกเริ่มใช้ผลงานมากมายถ่ายทอดแนวคิดเรื่องวงจรธรรมชาติตามทัศนคติของแก
คุณซากากุจิเชื่อว่าความตายนั้นเป็นแค่ทางผ่าน และวิญญาณของผู้ล่วงลับ ก็จะกลับไปยังจุดกำเนิดของมัน กลับคืนสู่ดวงดาว...
ด้วยความตายนี้ บุคคลผู้เป็นที่รักของเรา ก็จะกลับเป็นส่วนหนึ่งของระบบดวงดาว อย่างเป็นสุข
คุณซากากุจิบอกว่าเขาอยากจะอธิบายถึงความตายของแม่ด้วยเหตุและผล เขาเชื่อว่าทุกสรรพสิ่งล้วนมีชีวิต และเพื่อจะก้าวข้ามความเศร้านั้น เขาจึงวิเคราะห์การดำรงอยู่ของมนุษย์ด้วย Cartesian Logic และเป็นแบบคิดเองด้วยใจ มากกว่าจะอิงแนวคิดทางศาสนา
แล้วแกก็ตัดสินใจจะใส่แนวคิดเหล่านั้นลงไปในเกมของแก ครั้งแรกใน Final Fantasy VII, ต่อมาใน Final Fantasy IX และต่อมาในภาพยนตร์ Final Fantasy : The Spirits Within
(ใน FFVII ที่บูเกนฮาเกน อธิบายแทนคุณซากากุจิไว้ให้เลย : https://www.youtube.com/watch?v=vE1LxkTH1IU)
คอนเซปต์ของคุณซากากุจินั้นตั้งอยู่บนแนวคิดที่ว่า วัฏจักรชีวิตไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งก็คล้ายกับแนวคิดเรื่องการกลับชาติมาเกิดใหม่ ที่ว่าวิญญาณ ดวงจิต สติปัญญาของใครคนหนึ่ง สามารถกลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในรูปแบบอื่น ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ พืช หลังจากร่างชีวภาพตายไปแล้ว
อันที่จริงแนวคิดเหล่านี้ก็เป็นความเชื่อที่มีร่วมกันระหว่างบุคคลต่างวัฒนธรรม ต่างผืนทวีป ต่างกาลเวลาในหลายหน้าของประวัติศาสตร์
ทุกวันนี้ มีผู้คนบนโลกกว่าพันล้านคน ที่เชื่อเรื่องการกลับชาติมาเกิดใหม่ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ไม่ว่าชาวพุทธ ชาวฮินดู หรือกระทั่งในยุคกรีกโบราณก็มีคอนเซปต์แบบนี้ซึ่งเรียกว่า Metempsychosis
ทั้งนี้ความเชื่อที่คุณซากากุจิพยายามถ่ายทอดมา ก็ยังสอดคล้องกับหลักการอีกอย่างหนึ่งที่เรียกว่า Gaia Hypothesis (https://en.wikipedia.org/wiki/Gaia_hypothesis)
(ตัดตอนจากหนังสือ The Legend of Final Fantasy VII โดย Nicolas Courcier และ Mehdi El Kanafi หน้า 183
---------------------------------
ผมพึ่งซื้อหนังสือเล่มนี้มาก่อนพร้อมกับ Ultimania Archive ...ตอนแรกว่าจะเอาไปรองหนุนนอนแล้ว เพราะมันเป็นหนังสือที่ไม่มีเชิงอรรถ!!
ถึงมีบรรณานุกรมท้ายเล่ม แต่การที่หนังสือมันไม่มีเชิงอรรถอ้างอิงรายจุดเพื่อแสดงแหล่งที่มาของข้อมูลและเป็นการเปิดให้ผู้อ่านสามารถตรวจสอบอย่างโปร่งใสได้ มันก็ขัดหลักระเบียบวิธีวิจัย ทำให้ข้อมูลไม่มีน้ำหนักและเอามาใช้อ้างอิงไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าคนเขียนนั่งเทียนขึ้นมารึเปล่า?
แต่ท่อนที่ตัดแปลมาให้อ่านกันนี้ ถึงหนังสือไม่ได้ลงเชิงอรรถไว้ แต่ผมเคยอ่านเจอเมื่อหลายสิบปีก่อน และโชคดีที่เว็บไซต์ที่ลงบทสัมภาษณ์ที่มาของข้อมูลนั้น ก็ยังอยู่ จึงสามารถรับฟังได้ : http://www.ff7citadel.com/press/int_sakaguchi.shtml
ทั้งนี้แนวคิดที่ว่า "ชีวิต" เกิดขึ้นมาจากอะไรสักอย่าง เช่น ไลฟ์สตรีม, คริสตัล, Far Plane, Chaos, Kingdom Hearts, Great Spirit ฯลฯ เมื่อเกิดมาแล้วก็เป็น Spirit Energy พอตายแล้ว Spirit Energy ก็กลับไปรวมกับจุดกำเนิดอีกครั้ง ถูกหลอมรวม คละร่วม และรอวันที่จะถูกดึงขึ้นมา เป็นชีวิตใหม่อีกครั้ง (มีขยายความกระบวนการเหล่านี้อยู่ในนิยาย หญิงสาวผู้ท่องไปในดวงดาว หรือ Case of Aerith ใน FFVII Ultimania ด้วยนะ) ก็เป็นความเชื่อสากลของผู้คนต่างยุคสมัยต่างวัฒนธรรม ที่แม้จะพิสูจน์ไม่ได้ แต่ก็คงอยู่คู่กับวรรณกรรมต่าง ๆ ปรากฏให้พวกเราเห็นไปตราบนานเท่านนานครับ
Genius!
Post a Comment