Final Fantasy XV -The Dawn of the Future- ตอนจบของอาร์ดีน
ต่อจากเหตุการณ์ที่อาร์ดีนขึ้นไปนั่งบนบัลลังค์กษัตริย์ลูซิส สวมแหวนแห่งลูซิไอ เรียกเหล่าบูรพกษัตริย์มาหา และ 13 บูรพกษัตริย์ได้ทำพิธีชักอาวุธขึ้นมารุมเสียบ เพื่อเป็นการปลิดชีพอาร์ดีนในโลกนี้ แต่มอบพลัง Providence ให้แก่อาร์ดีนในโลกหน้า (対のなす世界)
อาร์ดีนรู้จักสถานที่แห่งนี้ ไม่ใช่เพราะเทพมังกรเคยแสดงนิมิตที่น็อคติสได้สังหารเขาลงในโลกนี้ แต่เพราะวิญญาณของอาร์ดีนเองได้ถูกจองจำอยู่ในที่แห่งนี้มาโดยตลอด ถึงจะไม่เคยเห็นด้วยตาเปล่า แต่เขาก็รู้สึกได้
อาร์ดีนรู้สึกว่าเขากำลังตกลงไปอย่างช้า ๆ ไม่รู้ว่าตกจริง หรือคิดไปเอง บอกไม่ถูกเหมือนกัน
แต่แล้วเทพมังกรก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขา พระเจ้าของต่างโลก
“เจ้ามาที่แห่งนี้ทำไม? นี่ไม่ใช่ที่ของเจ้า....” บาฮามุทเอ่ยถาม
“ใช่สิ ใช่ ข้าทราบดี”
อาร์ดีนกำมือข้างที่สวมแหวน แล้วชูกำปั้นออกไปเบื้องหน้าเงียบ ๆ
สายตาของเขายังเรรวน แต่แล้วเหล่าวิญญาณบูรหกษัตริย์ก็ปรากฏขึ้น รวมถึงซอมนัสด้วย
โดยไม่ต้องมีคำพูดใด ๆ ออกมา ซอมนัสก็ไปยืนหยัดอยู่เคียงข้างอาร์ดีนโดยธรรมชาติ
“แน่ใจนะว่าจะให้ยืมพลัง?” อาร์ดีนเอ่ยถามเพื่อการยืนยัน
“พี่ชาย....”
(ปกติซอมนัสจะเรียกอาร์ดีนว่าท่านพี่ 兄上 แต่ในจุดนี้ซอมนัสเรียกแบบกันเองว่า พี่ชาย 兄さん)
คำพูดนั้นทำให้อาร์ดีนนึกถึงตอนที่พวกเขายังเด็ก ในวันที่พวกเขายังโขกหมากรุกกันอย่างสนุกสนาน ซอมนัสมักจะเดินตามหลังอาร์ดีนไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ จนคนอื่น ๆ บอกว่าถ้าวันไหนเห็นสองคนนี้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน วันนั้นคงฝนตก
“เพียงเท่านี้ เรื่องทั้งหมด ก็จะจบลง”
ความทรงจำของสองพี่น้องที่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข...
ความทรงจำของความบาดหมางที่เกิดจากมุมมองที่แตกต่าง...
ความทรงจำของความเกลียดชังอาฆาตที่มีมาโดยตลอด...
ทุกอย่าง
จะหายไป
พลังจากเหล่าบูรพกษัตริย์ ไหลผ่านเข้าไปทางแหวน ส่งต่อไปในตัวของอาร์ดีน แล้วปะทุขึ้นราวกับว่ามันจะกลืนกินวิญญาณของเขา...
เขาหันมันไปทางเทพมังกรบาฮามุท พลังนั้นได้กลายเป็นหอกหันแหลมคม ศรที่แหวกว่ายไปในอากาศ กระสุนอันดุดัน ที่ฉีกให้เกราะของเทพมังกรแตกเป็นเสี่ยง ๆ แล้วทะลุร่างของมัน
เมื่อร่างของเทพมังกรสั่นเทิ่ม มันก็กำลังจะจบสิ้นลง
“โง่เขลาสิ้นดี... หากเจ้าทำลายข้า คริสตัลก็จะหายไป เทพทั้งหกก็จะสูญสลายไป! แล้วยัง...”
“ข้ารู้ดี...”
ต่อให้เทพจะหายไป คริสตัลจะหายไป หรือตัวเขาเองจะต้องหายไป
“แต่นั่น... คือหน้าที่ของข้า”
จิตสำนึกของเขา วิญญาณของเขา กำลังแผดเผา
ต่อให้เขากลายเป็นผุยผงแล้วสลายไป ก็ไม่เป็นไร
ต่อให้ทุกคนจะลืมเลือนเขาไป ก็ไม่เป็นไร
“ไม่ ต่อให้ทุกคนลืมคุณไป ฉันจะจดจำคุณไว้เสมอ”
“เอร่า!?”
ภาพมายาอีกแล้วหรือ... มโนภาพที่เขาคิดไปเองอีกแล้วหรือ...
ไม่ ไม่ว่าจะเป็นตัวจริงหรือตัวปลอม ก็ไม่สำคัญอะไรแล้ว
เอร่าก็คือเอร่า
สีทองของเส้นผมที่พลิ้วไหวไปกับสายลม สีของน้ำทะเลที่ประทับอยู่บนดวงตาคู่นั้นของเธอ
บนโลกนี้ นั่นคือสีที่งดงามที่สุดเท่าที่อาร์ดีนเคยเห็นมา
“เอร่า อยู่กับข้าตลอดไปนะ...”
ในห้วงเวลาสุดท้ายก่อนที่เขาจะสลายไป อาร์ดีนก็ได้ยินคำตอบของเธอ...
อาร์ดีนรู้จักสถานที่แห่งนี้ ไม่ใช่เพราะเทพมังกรเคยแสดงนิมิตที่น็อคติสได้สังหารเขาลงในโลกนี้ แต่เพราะวิญญาณของอาร์ดีนเองได้ถูกจองจำอยู่ในที่แห่งนี้มาโดยตลอด ถึงจะไม่เคยเห็นด้วยตาเปล่า แต่เขาก็รู้สึกได้
อาร์ดีนรู้สึกว่าเขากำลังตกลงไปอย่างช้า ๆ ไม่รู้ว่าตกจริง หรือคิดไปเอง บอกไม่ถูกเหมือนกัน
แต่แล้วเทพมังกรก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขา พระเจ้าของต่างโลก
“เจ้ามาที่แห่งนี้ทำไม? นี่ไม่ใช่ที่ของเจ้า....” บาฮามุทเอ่ยถาม
“ใช่สิ ใช่ ข้าทราบดี”
อาร์ดีนกำมือข้างที่สวมแหวน แล้วชูกำปั้นออกไปเบื้องหน้าเงียบ ๆ
สายตาของเขายังเรรวน แต่แล้วเหล่าวิญญาณบูรหกษัตริย์ก็ปรากฏขึ้น รวมถึงซอมนัสด้วย
โดยไม่ต้องมีคำพูดใด ๆ ออกมา ซอมนัสก็ไปยืนหยัดอยู่เคียงข้างอาร์ดีนโดยธรรมชาติ
“แน่ใจนะว่าจะให้ยืมพลัง?” อาร์ดีนเอ่ยถามเพื่อการยืนยัน
“พี่ชาย....”
(ปกติซอมนัสจะเรียกอาร์ดีนว่าท่านพี่ 兄上 แต่ในจุดนี้ซอมนัสเรียกแบบกันเองว่า พี่ชาย 兄さん)
คำพูดนั้นทำให้อาร์ดีนนึกถึงตอนที่พวกเขายังเด็ก ในวันที่พวกเขายังโขกหมากรุกกันอย่างสนุกสนาน ซอมนัสมักจะเดินตามหลังอาร์ดีนไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ จนคนอื่น ๆ บอกว่าถ้าวันไหนเห็นสองคนนี้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน วันนั้นคงฝนตก
“เพียงเท่านี้ เรื่องทั้งหมด ก็จะจบลง”
ความทรงจำของสองพี่น้องที่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข...
ความทรงจำของความบาดหมางที่เกิดจากมุมมองที่แตกต่าง...
ความทรงจำของความเกลียดชังอาฆาตที่มีมาโดยตลอด...
ทุกอย่าง
จะหายไป
พลังจากเหล่าบูรพกษัตริย์ ไหลผ่านเข้าไปทางแหวน ส่งต่อไปในตัวของอาร์ดีน แล้วปะทุขึ้นราวกับว่ามันจะกลืนกินวิญญาณของเขา...
เขาหันมันไปทางเทพมังกรบาฮามุท พลังนั้นได้กลายเป็นหอกหันแหลมคม ศรที่แหวกว่ายไปในอากาศ กระสุนอันดุดัน ที่ฉีกให้เกราะของเทพมังกรแตกเป็นเสี่ยง ๆ แล้วทะลุร่างของมัน
เมื่อร่างของเทพมังกรสั่นเทิ่ม มันก็กำลังจะจบสิ้นลง
“โง่เขลาสิ้นดี... หากเจ้าทำลายข้า คริสตัลก็จะหายไป เทพทั้งหกก็จะสูญสลายไป! แล้วยัง...”
“ข้ารู้ดี...”
ต่อให้เทพจะหายไป คริสตัลจะหายไป หรือตัวเขาเองจะต้องหายไป
“แต่นั่น... คือหน้าที่ของข้า”
จิตสำนึกของเขา วิญญาณของเขา กำลังแผดเผา
ต่อให้เขากลายเป็นผุยผงแล้วสลายไป ก็ไม่เป็นไร
ต่อให้ทุกคนจะลืมเลือนเขาไป ก็ไม่เป็นไร
“ไม่ ต่อให้ทุกคนลืมคุณไป ฉันจะจดจำคุณไว้เสมอ”
“เอร่า!?”
ภาพมายาอีกแล้วหรือ... มโนภาพที่เขาคิดไปเองอีกแล้วหรือ...
ไม่ ไม่ว่าจะเป็นตัวจริงหรือตัวปลอม ก็ไม่สำคัญอะไรแล้ว
เอร่าก็คือเอร่า
สีทองของเส้นผมที่พลิ้วไหวไปกับสายลม สีของน้ำทะเลที่ประทับอยู่บนดวงตาคู่นั้นของเธอ
บนโลกนี้ นั่นคือสีที่งดงามที่สุดเท่าที่อาร์ดีนเคยเห็นมา
“เอร่า อยู่กับข้าตลอดไปนะ...”
ในห้วงเวลาสุดท้ายก่อนที่เขาจะสลายไป อาร์ดีนก็ได้ยินคำตอบของเธอ...
Post a Comment