เก็บตกประวัติศาสตร์โลก Eos ใน Final Fantasy XV จาก Episode Ardyn
-----------------------------------
Ancient Era
-----------------------------------
- นักวิจัยประมาณการว่าดาว Eos ถือกำเนิดขึ้นเมื่อ 4,500 ล้านปีก่อน
- ฟอซซิลของสายพันธุ์มนุษย์ที่เก่าแก่ที่สุด ถูกค้นพบที่ดินแดนพิซทาล่า (Piztala) แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเผาพันธุ์มนุษย์อยู่มานานเท่าไร
- ตำนานโบราณกล่าวว่ามีเทพผู้พิทักษ์ 6 องค์ ลงมายังโลก Eos ในสมัยยุคโซลไฮม์ (เกินกว่า 2,000 ปีมาแล้ว)
- ก่อนที่อารยธรรมโซลไฮม์จะรุ่งเรืองขึ้นมา อัคคีเทพ "อิฟรีท" ได้ลงมามอบเพลิงแห่งปัญญาให้แก่มนุษย์คนหนึ่ง ภายหลังมนุษย์คนนั้นได้ขึ้นครองบัลลังค์โซลไฮม์ และมนุษย์ได้เริ่มต้นเรียนรู้การใช้ไฟจากในดินแดนซัคค้าเป (Succarpe) นับแต่นั้นมา
- นักวิจัยสันนิษฐานว่าอารยธรรมโซลไฮม์มีถิ่นฐานตั้งต้นอยู่ในดินแดน Duscae และ Cleigne และแม้โซลไฮม์จะล่มสลายไปแล้ว แต่ยังเหลือซากโบราณสถานไว้ให้ตรวจสอบอีกมาก
- ชาวโซลไฮม์พอมีอารยธรรมขึ้น ก็เริ่มโอหัง เลิกเคารพบูชาเทพ และไปดับเพลิงแห่งปัญญาที่อิฟรีทเคยให้ไว้ อิฟรีทเลยฟิวส์ขาด นำพาทูตสวรรค์ส่วนตัวลงมาเผาผลาญล้างมนุษย์ เทพอีก 5 องค์และทูตสวรรค์ที่เหลือเลยโผล่มาขัดขวางเพื่อปกป้องมนุษย์ เกิดเป็นสงครามระหว่างเทพ
- การต่อสู้ระหว่างเทพทำให้แผ่นดิน Duscae กับ Cleigne แยกออกจากกัน เกิดเป็นหุบเขา Taelpar Crag และการต่อสู้นั้นก็ทำให้โซลไฮม์พังยับจนล่มสลาย
- บาฮามุทฟาดอิฟรีท K.O. ร่างร่วงลงบนยอดเขา Ravatogh
- หลังจบสงคราม ศิวะหลับใหลที่หุบเขาโกโวลัส (Ghovoras Rift) แห่ง Vogliupe, บาฮามุทหายตัวไปลึกลับ ไม่มีใครรู้ว่าอยู่ไหน, ไตตันค้ำยันอุกกาบาตอยู่ที่ใจกลางของ Disc of Cauthess ใน Duscae, รามูผนึกตัวเองไว้ใน Fociaugh Hollow และลิเวียธาน หลับใหลใต้เมืองอัลทิสเซีย
- ราว 2,000 ปีก่อน เทพได้มอบพรให้ซอมนัส 2 อย่าง คือหินศักดิ์สิทธิ์ (ในอัลติมาเนียบอกว่าดวงดาวเป็นผู้สร้างคริสตัลขึ้นมา) และแหวน หลังจากนั้นซอมนัสจึงได้ก่อตั้งราชอาณาจักรลูซิสขึ้นมา หลายศตวรรษต่อมา ลูซิสก็ขยายอาณาเขตและพยายามปราบปรามโรคระบาด จนกระทั่ง M.E. 722 มอร์ส (Mors) ครองบัลลังค์ในฐานะรัชกาลที่ 112 โดยมีเรจิสเป็นบุตรคนแรกและเป็นรัชทายาทอันดับ 1
- Angelgard เกาะร้างศักดิ์สิทธิ์ของชาวลูซิส อยู่ห่างจากชายฝั่งกัลดีนคีย์ (Galdin Quay) ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ตำราโบราณของชาวลูซิสกล่าวว่ามีมอนสเตอร์ที่เรียกว่า อดาเจียม (Adagium) ถูกผนึกไว้ข้างใน ซึ่งที่จริงแล้วก็คืออาร์ดีน
-----------------------------------
Modern Era
-----------------------------------
- หลังการก่อตั้งอาณาจักรลูซิส ตระกูลเฟลอเน็ตก็ก่อตั้งประเทศเทเนแบร และใน M.E. 359 จักรวรรดินิฟไฮม์ก็เข้ายึดครองเทเบรแบร ตอนแรกก็สร้างความหวาดหวั่นไปทั่ว แต่เพื่อลดแรงเสียดทาน จักรวรรดิจึงสงวนคฤหาสน์เฟเทสเทลาของโหรไว้เพื่อประโยชน์ทางการเมือง เนื่องจากตระกูลเฟลอเร็ตมีความสนิทสนมกับราชวงศ์ลูซิส
- รัฐในอารักขา แอ็คคอร์โด ได้กลายมาเป็นเมืองที่ครึกครื้น เป็นศูนย์กลางการค้าขายทางทะเล ใน M.E. 606 จักรวรรดิชนะสงครามต่อกองกำลังพันธมิตรระหว่างลูซิสและแอ็คคอร์โด ทำให้แอ็คคอร์โดถูกยึดครอง แต่ประเทศนี้มีความโดดเด่นทั้งทางด้านวัฒนธรรมและประเพณี ซึ่งไม่อาจนำกฎระเบียบของจักรวรรดิมาปรับใช้ได้ ทางจักรวรรดิจึงยอมอนุญาตให้แอ็คคอร์โดใช้มาตรการปกครองตนเอง
- หลายศตวรรษต่อมาหลังการก่อตั้งอาณาจักรลูซิส ก็มีการเคลื่อนไหวเพื่อคืนชีพอารยธรรมโซลไฮม์ที่สาบสูญไป โดยเริ่มต้นที่ดินแดนอูเอลธาม (Ueltham) ตระกูลอัลเดอร์แคปต์เป็นผู้นำขบวนการ และนำมาซึ่งความรุ่งโรจน์ของจักรวรรดินิฟไฮม์ จักรวรรดิสร้างขึ้นจากเทคโนโลยีมาจิเทคของโซลไฮม์ และเอาเทคโนโลยีนั้นมาใช้ทางการทหาร อาวุธใหม่นี้ทำให้จักรวรรดิโค่นล้มอริชาติ ยึดเทเนแบรได้ในปี M.E. 359 และแอ็คคอร์โดในปี M.E. 606 แล้วใน M.E. 722 ภายใต้การชี้นำของจักรพรรดิอีโดลาส จักรวรรดิก็ได้พัฒนาอาวุธใหม่โดยการหลอมรวมมาจิเทคเข้ากับเดม่อน
- ร่องรอยอารยธรรมโบราณของโซลไฮม์ ยังสามารถพบเห็นได้จากซากโบราณสถาน Pitioss และ Steyliff Grove นอกนั้นยังมีสิ่งปลูกสร้างโบราณมากมาย อยู่ในป่าที่ล้อมรอบ Costlemark Tower ปัจจุบันก็ยังมีการสำรวจซากโบราณสถานเหล่านี้อยู่
- ในปี M.E. 501 ระหว่างการเดินทางในดินแดนอุลวาท (Ulwaat) กองกำลังจักรวรรดิได้ค้นพบสิ่งมีชีวิตสายพันธุ่ใหม่ที่เรียกว่าเดม่อน เดม่อนถูกกำหนดให้เป็นสปีชีส์ใหม่ ทว่าพอศึกษาเอกสารโบราณไปมากลับพบว่า มนุษย์นั้นทุกข์ทรมานจากกาฬโรคที่มาจากเดม่อน ตั้งแต่ก่อน 2,000 ปีที่แล้ว การกลายเป็นเดม่อนนั้นเกิดจากพลาสโมเดียที่กลายพันธุ์ ฝังรากเข้าไปในสิ่งมีชีวิต แล้วเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเซลล์ สิ่งมีชีวิตที่ติดเชื้อ ก็จะเริ่มแพร่กระจาย Miasma การแพร่กระจายนั้นก็คือโรคแห่งดวงดาว (Starscourge)
- ปี M.E. 722 อาร์ดีนที่พักฟื้นดีแล้ว ได้เปลี่ยนอิฟรีทที่ถูกพวกเวอร์สไตล์จับมาให้กลายเป็นเดม่อนไปด้วย หลังจากนั้นอาร์ดีนเห็นภาพหลอนต่าง ๆ นานาของเอร่าและซอมนัส จึงตัดสินใจว่าต่อให้เขาทำลายซอมนัสไม่ได้ ก็จะทำลายทุกอย่างที่ซอมนัสสร้างขึ้นมาให้จงได้
- ในปีเดียวกัน การทดลองเดม่อนของจักรวรรดิก็ผลิดอกออกผลด้วยดี และตามด้วยเร่งรัดการผลิตทหารกล และเพื่อตอบแทนอาร์ดีนที่มีส่วนร่วมทำให้การวิจัยสำเร็จลุล่วง เขาจึงได้รับแต่งตั้งเขาเป็นตำแหน่งเสนาบดีของจักรวรรดิ และเพราะอาวุธใหม่นี้ นิฟไฮม์จึงสามารถทะลวงหน้าด่านที่ยันกันมาหลายร้อยปีออกไปได้ บีบให้ลูซิส ต้องถอยร่นกำแพงเวทมนต์ลงไป
- ปี M.E. 734 ในวันฉลองการก่อตั้งอาณาจักร อาร์ดีนจำแลงกายเป็นทหารลูซิสที่ชื่อ Mars Sapentia เข้ามาก่อกวนอาละวาด ทำลายเสาแอมป์กระจายพลังเวทย์ที่ค้ำจุนบาร์เรียร์ป้องกันเมือง เพื่อให้กองทัพจักรวรรดิเตรียมบุกโจมตีเข้ามาได้สะดวก อาร์ดีนเอาชนะกษัตริย์เรจิส และวิญญาณซอมนัสที่สิงอยู่ในรูปปั้นยักษ์ไปได้ แต่ดันโดนบาฮามุทหิ้วตัวไปสั่งสอนในมิติลี้ลับ
- บาฮามุทบอกว่าอาร์ดีน "ถูกเลือก" ให้ทำเป้าหมายอื่น (ที่ไม่ใช่การแก้แค้น) หน้าที่แท้จริงของอาร์ดีนคือการแพร่กระจายความมืดไปทั่วโลก หลังจากนั้นราชาที่แท้จริง (น็อคติส) จะเกิดขึ้นในลูซิส เป็นแสงแห่งความหวังนำทางผู้คน ขจัดสิ้นความมืด ส่วนอาร์ดีนก็เป็นเครื่องสังเวย เป็นความมืดไร้ขีดจำกัด ที่นำมาซึ่งแสงสว่าง เมื่อราชาแท้จริงตื่นขึ้นมา และอัญเชิญพลังจากเหล่าบรรพบุรุษ (พลัง Providence) เขาก็จะปลดปล่อยอาร์ดีนจากความทุกข์ทรมานให้ในท้ายที่สุด แล้วสายเลือดของลูซิสจะสิ้นสุดลง การแก้แค้นที่อาร์ดีนแสวงหา ก็จะสำเร็จ นี่เป็นชะตากรรมที่ควรเป็น
- พออาร์ดีนพยายามต่อต้านชะตากรรมที่บาฮามุทลิขิตไว้ บาฮามุทจะสมเพช แล้วเรียกดาบมากมายมาตรึงอาร์ดีนไว้ แล้วสร้างภาพมายาของเอร่าเอาตรีศูลออกมาแทง อาร์ดีนบอกว่าอยากจะแทงหัวใจก็แทงมาเลย แต่ไม่มีวันทำลายความตั้งใจของเขาได้
- เอร่าปลอมจะบอกว่าเทพที่ปกครองอยู่บนฟ้า และมวลมนุษย์ที่ถูกปกครองอยู่เบื้องล่าง จะร่วมกันมอบพลังให้แก่ราชาแห่งราชา มีแต่คนโง่เง่าเท่านั้นที่กล้าต่อต้านกับศัตรูแบบนี้ มนุษย์นั้นไม่รู้ตัวเลยว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ล้วนถูกลิขิตไว้แล้ว มนุษย์นั้นอยู่ได้เพราะเทพเจ้า และไม่สามารถขาดเทพเจ้าไปได้ อยากต่อต้านก็ลองดู แต่รู้ไว้ว่ามันมีเพียงความสูญเปล่าเท่านั้น...
- แล้วบาฮามุทก็เอาอาร์ดีนไปปล่อยที่ Angelgard
- หน้าโหลดเกมหลังจบเกมบอกว่า อาร์ดีน "หวังว่า" หากสามารถฆ่าราชาแห่งแสงและทำให้ราชวงศ์ลูซิสถึงจุดจบได้ เขาก็จะได้รับการปลดปล่อยจากความทุกข์ทรมานเช่นกัน (ก็คืออยากเอาชนะเจตนารมณ์ของบาฮามุทนั่นแล)
ควรอ่านประกอบกับ Timeline ของหนังสือ Scenario Ultimania และ Piggyback
Scenario Ultimania : http://re-ffplanet.blogspot.com/2017/01/timeline-final-fantasy-xv-scenario.html
Piggyback : http://re-ffplanet.blogspot.com/2016/12/timeline-final-fantasy-xv.html
Post a Comment