Review - Kingdom Hearts III
รีวิว Kingdom Hearts III แบบไร้ Spoil เนื้อเรื่องครับ
ผมเล่นเกมเวอร์ชั่นญี่ปุ่น ใช้เวลา 33 ชั่วโมงจบไปตอนคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาครับ หลังจากนั้นมานั่งแปล Secret Report ทั้งหมด และได้ดูเหตุการณ์สำคัญ ๆ ในเกมทวนซ้ำเป็นภาษาอังกฤษไปบ้างแล้ว คิดว่าน่าจะพอรีวิวได้อย่างสมเหตุสมผลบ้างครับ
------------------------------------
ความเป็นมาของเรื่อง
------------------------------------
เกริ่นนำง่าย ๆ สำหรับคนที่ไม่เคยติดตามซีรีส์นี้ว่า "มาสเตอร์เซอานอร์ท" วายร้ายของเรื่อง เคยเขียนบันทึก (ฉบับที่ 9) ทิ้งไว้ในภาค Birth by Sleep บน PSP ว่าตั้งแต่เด็กแล้ว เขาวาดฝันถึงโลกที่ไม่มีใครเคยไปถึง โลกที่ไม่มีใครเคยพบเห็น เขาอยากจะครอบครอง "Kingdom Hearts" อันเป็นบ่อเกิดของชีวิตทั้งหมด และจะใช้พลังจาก Kingdom Hearts สร้างโลกอันสมบูรณ์แบบที่แสงสว่างและความมืด ดำรงอยู่อย่างทัดเทียมกัน
เซอานอร์ทก็เขียนนะครับว่าอยากให้แสงสว่างและความมืดสมดุลกัน แต่พฤติกรรมแกทั้งหมดนี่เอียงไปทางมืดสุดโต่ง แถมเท็ตสึยะ โนมุระ ผู้กำกับเกม ยังเรียกไตรภาคแรกของซีรีส์นี้ว่า ตำนานผู้แสวงหาความมืด (Dark Seeker Saga) ก่อนเกมออกเราเลยไม่รู้ว่าตกลงเซอานอร์ทมันเป็นคนมืด ๆ หรือเป็นคนเทา ๆ กันแน่
ที่แน่ใจได้คือ Kingdom Hearts เป็นสิ่งสำคัญของจักรวาล ควรปล่อยให้มันอยู่อย่างที่มันควรจะเป็น
ว่าแล้วมาสเตอร์เยนซิด (Yen Sid) ที่เป็นปรมาจารย์ของพวกตัวเอกซึ่งอยู่ข้างแสงสว่าง จึงระดมพลเหล่าลูกศิษย์ทั้งหลายให้มารายงานตัว และมุ่งหน้าไปขัดขวางเซอานอร์ทจากการครอบครอง Kingdom Hearts
------------------------------------
ระบบต่อสู้ที่หลากหลาย
------------------------------------
ระบบต่อสู้หลักของเกมภาคนี้ ยังนำระบบต่อสู้จาก Kingdom Hearts II มาต่อยอด แล้วเติมด้วยระบบยิบย่อย (Shot-Lock, Free Flow Action, Situation Command) ที่มาจากภาคเสริมต่าง ๆ
ในระหว่างการต่อสู้ ผู้เล่นมีทางเลือกหลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นใช้คีย์เบลดไล่ฟันธรรมดา จะยิงเวทย์ จะใช้คำสั่ง Link อัญเชิญตัวละครอื่นอย่างซิมบ้า, แอเรียล ราล์ฟ, สติ๊ช ฯลฯ มาช่วย
เล่น ๆ ไปแล้ว ก็จะสามารถเรียกเครื่องเล่นสวนสนุกอย่างรถไฟเหาะ ถ้วยหมุน ม้าหมุน เรือไวกิ้ง ฯลฯ ที่แสงสีเสียงสวยสดอลังการงานสร้างมาช่วยโจมตีได้
ที่เด็ดสุดเลยคือระบบใหม่สดของภาคนี้... คือการเปลี่ยนคีย์เบลดในระหว่างต่อสู้ โดยโซระสามารถเลือกเปลี่ยนคีย์เบลดสลับไปมาระหว่างต่อสู้ได้ 3 เล่ม แต่ละเล่มก็มีพลังโจมตีและอบิลิตี้ที่แตกต่างกัน ก็แล้วแต่ผู้เล่นจะเลือกพกเล่มไหนไปสู้บ้าง
นอกจากพกคีย์เบลดได้ 3 เล่มแล้ว คีย์เบลดแต่ละเล่มยังเปลี่ยนรูปร่างได้ เป็นโยโย่บ้าง เป็นธงบ้าง เป็นปืนคู่บ้าง เป็นพังงาเรือ ฯลฯ ซึ่งแต่ละอันก็มีท่าโจมตี ระยะทำการ ดีเลย์ และดาเมจที่แตกต่างกันไป ต้องเลือกใช้ให้ถูกสถานการณ์
โดยรวมคือเกมสร้างทางเลือกในการสู้มาเยอะ... แต่หลายอย่างผมก็รู้สึกเยอะเกินความจำเป็นและไม่ได้ใช้
อย่างเครื่องเล่นสวนสนุกเนี่ย เรียกมาครั้งแรก ๆ ก็น่าตื่นเต้นอยู่ แต่ใช้ ๆ ไปแล้วก็รู้สึกว่ามันทำให้การต่อสู้ยืดยาดชักช้า ของพวกนี้ทำดาเมจช้า
หรือการใช้ Link เรียกตัวละครมาช่วย เราต้องใช้ MP ทั้งหมดในการเรียกออกมา เรียกว่าความเสี่ยงสูงอยู่ หากใช้แล้วศัตรูไม่ตาย เราที่ไม่เหลือ MP จะเดือดร้อนเอา
ไป ๆ มา ๆ ผมว่ามันก็เข้าหรอบเดิมของภาคก่อน คือใช้คีย์เบลดไล่ฟัน เอาเวทย์ยิงวงกว้าง ถ้าไม่กล้าคลุกวงในก็ใช้ Shot-Lock ยิงไปก่อน แล้วก็คอยใช้ Stiuation Command ตามความจำเป็น อาจจะมีเปลี่ยนคีย์เบลดตามสถานการณ์บ้าง แต่ผมว่าถ้าใครเจอเล่มที่ชอบแล้ว ก็จะใช้เล่มนั้นวนไปครับ
------------------------------------
ระบบยิบย่อยที่ล้นปรี่และดีงาม
------------------------------------
ขอแยกวิจารณ์ระบบใหม่ ๆ หรือระบบเก่าที่มีการพัฒนาจากภาคก่อนดังนี้
- ระบบตีบวกคีย์เบลด : คือการหาชิ้นส่วน มาผสมอัปเกรดเพื่อเพิ่มสเตตัสและอบิลิตี้ให้คีย์เบลดง่าย ๆ เลย ซึ่งมีก็ดีแล้วครับ ในภาคก่อน ๆ ที่ไม่มีระบบตีบวก คีย์เบลดไหนที่กากแต่แรก ก็กากไปตลอดไม่สามารถช่วยอะไรได้ แต่ภาคนี้ถ้าเราเจอคีย์เบลดที่ชอบในระหว่างเล่น เราก็สามารถทุ่มของผสมทั้งหมดลงไปตีบวกคีย์เบลดเล่มนั้นให้ดีขึ้น เราจะได้ใช้ประโยชน์ได้นาน ๆ ได้
- การขับยานอวกาศกุมิชิพ : ภาคนี้ขับกุมิชิบได้อิสระ และได้ 360 องศาแล้ว ทำให้ได้ความรู้สึกของการออกสำรวจอวกาศอันกว้างใหญ่จริง ๆ และมันก็มีอะไรให้เก็บ ให้ทำเยอะมาก บอกตรงว่าถ้าไม่มีลูกศรนำทางและไม่มีเรดาห์ ผมคงหลงอยู่ในอวกาศนั่นแหละ มันทำให้ได้ความรู้สึกจริง ๆ เลยว่าการเดินทางในอวกาศที่เราหันหน้าไปได้ทุกทิศทางนั้น มันยากกว่าการเดินเท้า 2 มิติบนโลกอย่างคนละเรื่อง
- ระบบถ่ายรูป : โซระ สามารถหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพในเกมได้แทบตลอดเวลา กระทั่งในระหว่างต่อสู้ก็ยังหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายได้ และเกมก็มีมิชชั่นให้ไปถ่ายศัตรูด้วย โซระสามารถใช้ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง สามารถถ่ายเซลฟี่และแชร์ลง Social ได้เลย หรือจะถ่ายเก็บไว้ก่อนก็ได้ ระบบพวกนี้ทำได้กระชับ ใช้ง่ายไม่ยุ่งยาก ลูกเล่นอาจจะน้อยไปหน่อย แต่ก็ทำให้รู้สึกดี
- มินิเกมล้นปรี่ : ในเกม ทุกดาวมีมีนิเกมยิบย่อยง่าย ๆ มาให้เล่น ตามสไตล์ Kingdom Hearts ภาคหลัก ไม่ซีเรียส
- มินิเกมเรโทร : โซระสามารถหยิบมือถือขึ้นมาเล่นมินิเกม ที่เป็นเกมกดย้อนยุคง่าย ๆ สมัยปี 80s-90s ได้ มินิเกมพวกนี้ควบคุมง่าย ใช้ปุ่มไม่เยอะ ช่วงแรกของเกมจะมีเกมเดียว แต่สามารถไปปลดล็อคหามาเพิ่มได้ถึง 23 เกม ใครที่คิดถึงพวกเกมกดย้อนยุคในวัยเด็ก คงได้กดกันจนหายคิดถึง แต่สำหรับผมบอกตามตรงว่าเล่นแล้วไม่สนุก แต่ละเกม สิ่งที่ต้องทำมันซ้ำซาก วนไปวนมามากกว่าครับ
- ทำอาหาร : ระหว่างเดินทาง ผู้เล่นต้องคอยตีลัง ตีหีบ ตีกล่อง ตีมันทุกอย่างที่เดินผ่าน เผื่อจะมีพวกข้าวปลาส่วนผสมอาหารกระเด็นออกมา แล้วจะได้เอาไปวัตถุดิบพวกนั้นไปทำอาหาร เอาอาหารพวกนั้นมาเก็บไว้ แล้วกินทีเดียว เพื่อเพิ่มบัฟสเตตัสให้ตัวละครได้
- หาเครื่องหมายหัวมิคกี้ : ในเกมจะมีสัญลักษณ์หัวมิคกี้เมาส์ ซ่อนอยู่ตามจุดต่าง ๆ ในฉากมากมาย สัญลักษณ์นี้มีหลายแบบ ทั้งแบบที่เห็นเป็นสัญลักษณ์ตรง ๆ ทั้งที่เป็นพุ่มไม้และต้องขึ้นไปมองจากที่สูงลงมา ทั้งที่เป็นเชือกหรือใบไม้วางเรียงกันแปลก ๆ ฯลฯ กระตุ้นจินตนาการของผู้เล่นดี
------------------------------------
ดาวที่กว้างขวาง และมีอะไรให้สำรวจมากมาย
------------------------------------
ดาวแต่ละดวงใน Kingdom Hearts ภาคก่อน ๆ มักจะเป็นฉากเล็ก ๆ ที่สร้างมาต่อกันเยอะแยะ มีเพียงภาค 3D ที่ทำฉากกว้างแต่ไม่ค่อยมีอะไรให้ทำ
มาในภาคนี้ ฉากแต่ละฉากกว้างใหญ่ไพศาลมาก นอกจากกว้างแล้วยังสร้างอะไรมาสูง ๆ ที่ปีนขึ้นไปได้เต็มไปหมด ซึ่งโซระก็สามารถวิ่งไต่กำแพงได้ ทำให้เกมมีมิติในการวิ่งขึ้นไปสำรวจบนที่สูง
ยิ่งเล่นไป ดาวหลัง ๆ ยิ่งพบความอลังการงานสร้าง อย่างดาว Pirates of the Caribbean นะ... แค่เดินอยู่ใน Port Royal ก็วิ่งกันจนลิ้นห้อยแล้ว กว้างฉิบหาย แต่พอออกทะเลเท่านั้นแหละะะ แม่งกว้างกว่าใน Port Royal หลายเท่าา
นอกจากนั้นไม่พอ ในดาว Pirates เรายังดำน้ำได้ เป็นระบบดำน้ำที่ศิวิไล ควบคุมได้ดั่งใจดีกว่าภาคแรกเยอะ แต่การที่เกมมันสร้างให้ดำน้ำได้นี่เป็นตัวก่อปัญหาเลยครับบบ
ปัญหาคือ หีบมันถูกเอาไปซ่อนในทะเล ไอ้ฉิบหายยยยยยยยยยยยย
กลายเป็นยิ่งกว้างยิ่งหาหีบไม่เจอ
ส่วนในดาว Big Hero 6 หรือ San Fransokyo เต็มไปดวกตึกสูงเต็มไปหมด แล้วทุกตึกมันไต่ขึ้นไปได้...
บอกตรงว่ามันเป็นดาวเดียวที่ผมเล่นจบสตอรีมา แล้วเจอแค่หีบเดียว..... ทั้งที่มันมีหีบอยู่ 30-40 อัน หลังจากนั้นต้องกลับมาวนเล่นเพื่อตามหาหีบอย่างจงหนัก....
------------------------------------
Pre-rendered Cutscene เต็มไปหมด
------------------------------------
ในเกมนี้ หลาย ๆ ฉากมีเอฟเฟคท์ที่ฟรุ๊งฟริ๊งเด่นออกมา โดยเฉพาะฉากจบของดาวหลาย ๆ ดวง
ซึ่งก็นั่นแหละ มันไม่ใช่ภาพ Real-time แต่มันเป็น Pre-rendered ซึ่งในเกมมีเยอะมาก
ส่วนตัวผมไม่มีปัญหาอะไรกับการที่เกมทำ Pre-rendered เยอะ ๆ นะ คือมันก็ดูสวยดี ก็ดีแล้ว
แต่พอเป็นแบบนี้ก็เข้าใจได้เลยว่า หากเขาจะใส่เสียงภาษาที่ 2 ลงไปในเกมด้วย มันจะไม่ใช่แค่การใส่ไฟล์ Lip-sync และไฟล์เสียง แต่ต้องเป็นการใส่คลิปวีดีโอ Pre-rendered ที่ทำเป็นอีกแบบนึงสำเร็จรูปไว้เลยนั่นเอง
------------------------------------
ดาว Disney
------------------------------------
บอกก่อนว่าผมไม่ใช่แฟน Disney ถึงจะเคยดูหลาย ๆ เรื่องที่อยู่ในเกมนี้ แต่ก็ไม่ได้มีความชื่นชอบพิเศษอะไร
เหตุการณ์ส่วนใหญ่บนดาว Disney ของภาคนี้ ก็ยกมาจากเนื้อหาภาคหนังโรงเลย แต่ก็มีบางดาวที่เป็นเนื้อหาใหม่ อย่างดาว Toy Story ที่แต่งเรื่องว่าเป็นเหตุการณ์ระหว่าง Toy Story 1 และ 2 และอีกดาวที่ทีมงานตั้งใจโปรโมตมากคือ Big Hero 6 ซึ่งโปรโมตมาตั้งแต่ 2015 ว่า จะเป็นเรื่องราวชะตากรรมของเบย์แมกซ์ที่ติดอยู่ในช่องแยกมิติ และถูกพวกวายร้ายเอาไปใช้
ผมตั้งตารอดูเนื้อหาในดาว Big Hero 6 มากว่าจะเป็นอย่างไร พอได้เล่นแล้ว ก็ดีใจที่ได้เห็นพวกฮิโระ โกโก้ และอีหุ่นยางมิชลิน กลับมาเล่นตลกให้เราดู
ถึงผมจะไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับดาวอื่น รวมถึงเฉย ๆ กับซีนร้องเพลง Let it go บนดาว Frozen
แต่ผมก็รู้สึกอิ่มเอมใจ ไปกับบทสรุปบนดาว Big Hero 6 และอยากให้ทุกคนได้เห็นกัน :)
------------------------------------
บทบาทของตัวละครออริจินอล
------------------------------------
ตัวละครออริจินอลทั้งหมดในเรื่อง เรียกได้ว่ามีบทบาทกันครบถ้วนเลย เป็นมหกรรมยำใหญ่รวมตัวละครออริจินอลทุกภาค อาจจะบทบาทมากน้อยแล้วแต่คน แต่ก็มีมาครบ เอาใจแฟนภาคเก่ากันสุด ๆ
ใครที่กำลังเอาใจช่วย ว่าตัวละครโปรดของชั้นจะโผล่มั้ยนะะ!? เขาจะกลับมามั้ยนะะ!? คนนั้นคนนี้จะได้ออกมามั้ยนะะะ
บอกเลยว่าโคตรทั่วถึง...
แต่ที่บัดซบที่สุดเลยนะ!! คือ...
ตัวละครจาก Final Fantasy แม่งโดนเท~~~~
อย่างที่ทีมงานโปรโมตไว้ว่า ในดาว Toy Story จะมีฟิกเกอร์พวกอสูรมายาจาก Dissidia -Final Fantasy- ตั้งขายอยู่ในร้านของเล่น นอกนั้นแล้ว ในเกมยังมี Moogle (Mog) เป็นตัวยืนขายไอเทมให้เราตามดาวต่าง ๆ
แต่นอกจากนั้นแล้ว ยังมีตัวละครจาก Final Fantasy โผล่มาอีกจึ๋งนึง... ซึ่งมีไปก็เหมือนไม่มี อารมณ์หยั่งกับคนถูกทิ้ง ไม่ได้รับการเหลียวแล...
------------------------------------
เหตุการณ์ประทับใจ
------------------------------------
ด้วยความที่ผมไม่ได้คลั่งไคล้ตัวละครออริจินอลใด ๆ ในเรื่องเป็นพิเศษ... ผมจึงไม่มีโมเมนต์แบบกรี๊ดความหล่อสวยโมเอะ ของตัวละครใด ๆ ในเรื่องเลย
ทว่าผมก็รู้สึกได้ว่าหลาย ๆ ฉาก แฟนตัวละครคงฟินตัวแตก กับความเท่หล่อสวยของตัวละคร ไม่ว่าจะริคุ โซระ อควอ หรือกระทั่งพวกตัวะลครที่คาดไม่ถึงก็ตาม
ที่จริงแล้วเกมนี้มีฉากที่ทำให้ผมประทับใจอยู่เยอะเลยนะ ที่ช็อคตาตั้งทางช้างเผือกตะลึงที่สุด คือฉากที่เฉลยว่าตัวอวตารจากผู้เล่น Kingdom Hearts Union X ที่โชคดี 300 คน จะเข้ามามีบทบาทในเรื่องอย่างไร ฉากนั้นแม่งโคตรแกรนด์!! ทรงพลัง!! ตะลึง!! ด้วยความที่ผมเป็นผู้เล่นเกมนี้ด้วย ทำให้ลุ้นตัวเกร็งไปด้วยว่าตัวอวตารของตัวเองจะได้มีส่วนร่วมมั้ย บอกเลยว่าใครที่เล่นเกมนี้อยู่ เจอฉากนี้ไปนี่ ขนลุกตั้งชูชันกันทุกคน ต่อให้ไม่มีชื่อตัวเอง แต่ก็ต้องเห็นชื่อคนที่เราเคยเจอในเกม หรือคนที่เคยปะทะคีย์เบลดกับเราบ้างล่ะ
นอกจากนั้น ฉากที่ประทับใจจนเก็บความรู้สึกไม่อยู่อีก ก็พวกฉากใช้โคตรมหาเวทย์ ที่เรารู้ว่ามันเป็นเวทย์สุดยอดที่มีอยู่ในซีรีส์ Final Fantasy แต่เราไม่เคยเห็นใครใช้ได้มาก่อน
และฉากที่ตัวละครทำอะไรที่เราคาดไม่ถึง ซึ่งมีอยู่เยอะมาก และทุกครั้งก็ทำให้เราช็อคตาตั้งได้เสมอ อะไรที่รอคอยมายาวนาน อะไรที่ไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้น มันมาหมด!!!
รวม ๆ แล้วผมว่าเท็ตสึยะ โนมุระ สร้างเหตุการณ์ประทับใจหลายอย่างขึ้นมาในเกม เอาใจแฟนทุกหมู่เหล่า ทั้งแฟน Disney, แฟนตัวละครออริจินอล, แฟน KH ภาคเก่า ๆ ไม่ว่าจะ Birth by Sleep, 358/2 Days, Chain of Memories หรือกระทั่ง Union X
ติดอย่างเดียวววว แอริธกรูอยู่หนัยยยยยย
------------------------------------
บทสรุปของเรื่องราว
------------------------------------
ตำนานผู้แสวงหาความมืดของเซอานอร์ท ได้ปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์
ปมตัวละครออริจินอลมากมาย ถูกเฉลย และจบลงในภาคนี้ แม้ว่ามันจะดูแบบฟ้าสั่งมาให้จบ จบแบบง่าย ๆ เลยก็เถอะ
หลาย ๆ เหตุการณ์ ก็ดูกาว ๆ ไม่สมเหตุสมผล เหมือนแต่งเรื่องแบบตั้งธงไว้ก่อนว่าจะให้เป็นอย่างไร แล้วค่อยสร้างเหตุผลขึ้นรองรับทีหลัง ซึ่งมันไม่เมคเซนส์
ถึงไปอ่านรีพอร์ตทั้งหมดในเรื่องมาแล้ว ก็ไม่เมคเซนส์อยู่ดี แถมยังดูขัดกันเองกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยซ้ำ
แต่ในเหตุผลที่ไม่เมคเซนส์นั้น มันกลบไว้ด้วยการกำกับที่สวยหรู การนำเสนอ มุมกล้อง ภาพ เพลง ที่ทำออกมาให้ดูดี ให้ผู้เล่นเซอร์ไพรส์ ฟีลกู๊ด และประทับใจ (แต่อย่าไปครุ่นคิดหาตรรกะมารองรับ)
รวม ๆ แล้วมันก็คือ Kingdom Hearts ที่แท้ทรู กำกับได้ดีและหรู ตื่นเต้นเร้าใจ แต่หลาย ๆ อย่างก็รู้สึกได้ว่าแถให้เป็นแบบนั้น
อ่อ...!! จบภาคนี้แล้ว ทั้งรีพอร์ตและบทส่งท้าย เป็นการปูทางไปสู่ภาคต่อไปเหมือนเคย ซึ่งก็ตรงตามที่คุณโนมุระเคยบอกว่า ภาคถัดไป จะเป็นเรื่องราวต่อจากภาค Union X แล้ว
------------------------------------
โดยสรุป
------------------------------------
ในฐานะแฟน KH : เต็มไปด้วยเหตุการณ์น่าประทับใจ มีอะไรให้ค้นหามากมาย กำกับเหตุการณ์ได้เร้าใจสุด ๆ ปิดฉากเนื้อเรื่องครอบคลุม คุ้มค่าสมการรอคอยมายาวนาน - 10/10
ในฐานะคนเล่นเกมคนนึง : เล่นได้เพลิน ๆ เล่นง่ายดี มีอะไรให้ทำเยอะ แต่เนื้อเรื่องพันกันอีรุงตุงนัง ไม่เป็นระเบียบ ระบบเยอะ แต่ไปไม่สุดสักทาง ทว่าเพลงเพราะดีนะ - 8/10
ในฐานะแฟน FF : เกมกาก!! ไหนเคยบอกตอนสร้างภาคแรกว่า Kingdom Hearts คือ Final Fantasy x Disney, ไหนโนมุระบอกว่าตัวเองคือผู้สืบทอดจิตวิญญาณของซากากุจิ!! ไหนที่บอกว่า KH คือเกมที่รวมทุกอย่างเข้าไว้ด้วยกัน!?
แต่กลับไม่มีแอริธ... แล้วแฟน FF จะเล่นไปทำไม!? ไหนที่บอกว่าเลออนคือเพื่อน!? แล้วยัง "ทำแบบนั้น" กับคลาวด์อีก!! จิตใจแกทำด้วยอะไรห๊ะ!! โนมุระ!!
นี่มันคือการย่ำยี ทรยศต่อความคาดหวังของแฟน ๆ FF ที่ตามมาเล่น KH เพียงเพราะอยากติดตามบทบาทของตัวละครในดวงใจทั้งนั้น
ได้เขาแล้ว ก็ทอดทิ้งเข้าไป หนอยยยยย.... เกมกากกกกกกกกก!!!
- 0/10
Post a Comment