อธิบายเนื้อเรื่อง KH3D ตอนที่ 9 โลกที่ไม่เคยมีอยู่จริง (ริคุ)

(เขียนขึ้นเมื่อ 24/02/2013)

โลกที่ไม่เคยมีอยู่จริง (ความฝัน)

ริคุ (ร่างความฝัน - ดรีมอีทเตอร์:สปิริต)

- ริคุมาถึงโลกที่ไม่เคยมีอยู่จริง ในส่วนของความฝัน ท่ามกลางความงุนงงว่าทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้? ริคุคิดว่าในเมื่อเขาปลดล็อครูกุญแจแห่งการหลับใหลทั้ง 7 ได้แล้ว เขาก็น่าจะกลับไปยังโลกก่อนที่เขาจะออกเดินทางแล้วสิ?

- ริคุผจญภัยในโลกที่ไม่เคยมีอยู่จริงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาได้เจอกับร่างของโซระที่หลับอยู่ รอบๆ ตัวของโซระปรากฏภาพความฝันซ้อนฝันที่โซระผจญอยู่ ริคุเข้าใจว่าโซระกำลังผจญฝันร้ายอยู่ เขาพยายามจะปลุกโซระขึ้นมาแต่โซระก็ไม่ตื่น ทันใดนั้นฝันร้ายที่คุกคามโซระอยู่ก็ก่อตัวเป็นรูปร่าง มันโผล่เข้ามาสู้กับริคุ

- หลังจากที่ปราบฝันร้ายที่คุกคามโซระอยู่ได้ ร่างของโซระก็หายไป (โซระร่างความฝันสะดุ้งตื่นขึ้นจากฝันซ้อนฝัน และออกจากความฝันไปโผล่โลกแห่งความจริงต่อหน้าไบรก์และเซมุนัส) ภาพบรรยากาศรอบตัวริคุเริ่มบิดเบือน เผยให้เห็นภาพตึกระฟ้าจากฉาก Memory's Skyscraper ในโลกแห่งความจริง (เพื่อบอกเป็นนัยว่าโซระออกไปยังโลกแห่งความจริงแล้ว)

- ริคุไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับโซระ ทำไมโซระถึงยังไม่ลืมตาตื่นขึ้น? โซระยังติดอยู่ในฝันร้ายรึเปล่า? ทันใดนั้นอันเซมตัวปลอม หรือเซอานอร์ทร่างฮาร์ทเลสก็ส่งเสียงตอบมาว่าใช่! โซระไม่มีทางตื่นขึ้นมาอีกแล้ว ไม่ว่าริคุจะกลืนกินฝันร้ายของโซระไปสักเท่าไหร่ คนที่ตกสู่ห้วงเหวแห่งความฝัน ก็ไม่มีวันตื่นขึ้นมาได้อีกแล้ว

*อธิบายเพิ่ม : เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในย่อหน้าก่อน ตั้งแต่แรกเลยนั้นโซระตัวจริงยังไม่ได้ตื่นขึ้น แต่โซระร่างความฝันได้ถูกพวกเซอานอร์ทชักนำจนออกมาสู่โลกแห่งความจริง และพวกเซอานอร์ทก็ทำให้โซระร่างความฝันหลับไป โซระร่างความฝันกลับเข้าสู่ความฝัน (จนริคุมาพบ) โดยระหว่างนั้นโซระร่างความฝันก็ได้สร้างฝันซ้อนฝันขึ้นมา แต่ฝันๆ อยู่ก็สะดุ้งตกใจตื่นจากฝันซ้อนฝัน และออกไปสู่โลกแห่งความจริงด้วยร่างที่ยังเป็นแค่ความฝัน

- อันเซมกล่าวต่อไปว่าความทรงจำจะกลายมาเป็นความฝัน ความฝันดำรงอยู่ในการหลับใหล และการหลับใหลดำรงอยู่ในความมืดมิด บัดนี้หัวใจของโซระได้ตกสู่ความมืดมิดแล้ว

*อธิบายเพิ่ม :  หมายถึงโซระร่างความฝันได้ออกไปสู้กับเซมุนัส แล้วหัวใจที่ค่อยๆ บอบช้ำจากฝันร้ายก็อยู่ในสภาพเกือบหลับใหล จนกระทั่งโดนเซอานอร์ทหนุ่มปิดตาให้หลับ พอโซระหลับก็กลับสู่ความฝัน โซระร่างความฝันตกลงไปนอนที่ Destati ของตนเอง แต่คราวนี้ไม่ได้เกิดฝันซ้อนฝันแล้ว หลับสนิท....

- ริคุพยายามเถียงว่าโซระไม่มีทางตกสู่ความมืดมิด แต่อันเซมบอกว่าริคุเองก็น่าจะรู้สึกได้ โลกที่ริคุอยู่ในนี้ก็คือฝันร้าย ริคุยังไม่ได้กลับไปยังโลกแห่งความจริงเลย

- ในที่สุดริคุก็เข้าใจ... แล้วอันเซมก็เฉลยออกมาพอดีว่า ตลอดการเดินทางทั้งหมดที่ผ่านมาของริคุ มันคือ "ฝันซ้อนฝัน ฝันร้ายในฝันร้าย"... ริคุอยู่ในความฝันของโซระตลอดมา ว่าแล้วอันเซมก็ปล่อยความมืดมาดูดริคุให้ตกลงไป

- ภายในความมืดมิด อันเซมปรากฏตัวขึ้นมาแล้วเฉลยว่าในตอนเริ่มการทดสอบ ตอนที่ริคุออกเดินทางจากเกาะเล็กๆ (เกาะแห่งชะตากรรม) ริคุได้เห็นอันเซมในชุดคลุม ตอนนั้นริคุเริ่มรู้สึกว่ามันมีอะไรไม่ชอบมาพากลแล้ว ในตอนนั้นเองริคุที่กลัวจะเกิดอะไรขึ้นกับโซระ ก็ได้ไดฟ์ตามเข้าไปในความฝันของโซระโดยไม่รู้ตัว และริคุก็ได้กลายเป็นดรีมอีทเตอร์ให้กับโซระ กลายเป็นผู้ปกป้องโซระจากฝันร้าย

*อธิบายเพิ่ม : ตอนเริ่มการทดสอบ พอเกาะแห่งชะตากรรมตกสู่ความมืดมิดและเข้าสู่การหลับใหล โซระก็ตกสู่ความมืดมิดและเข้าสู่การหลับใหลไปพร้อมกัน เมื่อเข้าสู่การหลับใหลแล้วโซระร่างความฝันก็ตื่นขึ้นในความฝัน เขาได้มาถึง Realm of Sleep อันเป็นดินแดนที่ความฝันของดวงดาวต่างๆ เชื่อมโยงถึงกัน (โดยระหว่างนั้นริคุก็ได้ไดฟ์เข้ามาในความฝันของโซระ) เมื่อโซระมาถึงเมืองเทรเวิร์ส นั่นก็คือความฝันของเมืองเทรเวิร์สจริงๆ

แต่ในความฝันนั้น บางครั้งโซระก็จะหลับไป เกิดเป็นฝันซ้อนฝันที่อันเซมพูดถึง ริคุที่ไดฟ์เข้ามาในความฝันของโซระก็จะตื่นขึ้นในฝันซ้อนฝันของโซระ กล่าวคือริคุมาถึงเมืองเทรเวิร์สที่นึกฝันจินตนาการขึ้นโดยโซระ ดังนั้นที่โจชัวบอกว่าเมืองเทรเวิร์สทั้งสองแห่งนี้ เป็นโลกคนละโลกกัน มันแตกต่างกันทั้งกระแสเวลาและรายละเอียดปลีกย่อย ราวกับว่าเป็นโลกหนึ่งที่ถูกจินตนาการขึ้นโดยคนสองคน ก็หมายความว่าใบหนึ่งที่โซระอยู่นั้น คือความฝันของดาวแต่ละดวงจริงๆ เป็นจินตนาการของดาวแต่ละดวงจริงๆ แต่ดาวที่ริคุไปถึงนั้น คือความฝันซ้อนฝันของโซระ ดังนั้นที่โจชัวพูดว่ามันคือจินตนาการของคนสองคน คนหนึ่งก็คือดาวดวงต่างๆ และอีกคนก็คือโซระ

ด้วยเหตุนี้ เมื่อโซระในความฝันหลับไป เกิดเป็นฝันซ้อนฝัน ริคุก็จะโลดแล่นอยู่ในฝันซ้อนฝัน แต่เมื่อโซระตื่นขึ้นมาในความฝันอีกครั้ง ริคุที่เป็นเพียงความฝันของโซระก็จะหลับไป.... เพราะริคุเป็นแค่ความฝันของโซระ จึงจะได้สติเฉพาะเวลาที่โซระหลับเท่านั้น เป็นเหตุผลที่ทำให้เราเห็นทั้งสองผลัดกันหลับนั่นเอง

ทว่าหลังจากโซระร่างความฝันปลดล็อครูกุญแจแห่งการหลับใหลทั้ง 7 ได้ แทนที่เขาจะได้กลับสู่โลกแห่งความจริงที่หอคอยเยนซิดตามปกติ โซระร่างความฝันที่ถูกพวกเซอานอร์ทชักนำก็ไดฟ์มาถึงโลกที่ไม่เคยมีอยู่จริง ในส่วนของความจริง, ขณะที่ริคุซึ่งผจญภัยในฝันซ้อนฝันของโซระมาตลอดนั้น พอปลดล็อครูกุญแจแห่งการหลับใหลทั้ง 7 ได้ ก็ไดฟ์ออกจากฝันซ้อนฝัน มาสู่โลกที่ไม่เคยมีอยู่จริง ในส่วนของความฝัน (ชั้นแรก) ซึ่งก็คือยังอยู่ในความฝันของโซระนั่นเอง หากแต่เป็นความฝันชั้นแรก ไม่ใช่ความฝันซ้อนฝันแบบที่ผ่านมา

- อันเซมกล่าวต่อไปว่า ริคุเป็นดรีมอีทเตอร์ของโซระแท้ๆ แต่กลับไม่สามารถปกป้องโซระไว้ได้ เพราะริคุยับยั้งความมืดไว้ในตัว ไม่ยอมปลดปล่อยมันออกมาแท้ๆ ถ้าปลดปล่อยความมืดออกมาก็จะช่วยเพื่อนไว้ได้ แล้วอันเซมก็ยื่นมือออกมาหาริคุ (จะให้ริคุปลดปล่อยความมืด เพื่อจะได้ครอบงำริคุได้นั่นแหละ)

- ริคุบอกว่าอันเซมหรือเซอานอร์ท เคยเป็นผู้ใช้คีย์เบลด แต่ถูกความมืดแย่งชิงหัวใจและคีย์เบลดไป การใช้คีย์เบลดนั่นแหละคือเหตุผลครึ่งหนึ่งที่ทำให้เขาออกเดินทางครั้งนี้ ริคุบอกว่าเขาได้ยอมรับความมืดเข้ามาในหัวใจ จึงกังขาตนเองว่ายังสมควรใช้คีย์เบลดอยู่มั้ย? แม้จะยับยั้งความมืดไว้ได้ แต่อันเซมก็โผล่มาหลอกหลอนเค้าครั้งแล้วครั้งเล่า ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าถึงจะพยายามยับยั้งมันไว้ ก็คงไม่มีประโยชน์

- อันเซมกำลังดีใจว่าในที่สุดริคุก็ยอมเข้าใจ แต่แล้วริคุกลับบอกว่าพอเขาเห็นอันเซมแล้วเขาก็นึกถึงเรื่องราวในอดีต สัญญาลับที่เขาให้คำมั่นไว้ตั้งแต่วัยกระเตาะ นั่นคือเหตุผลหลักที่ทำให้เขายึดมั่นในฝันที่จะออกไปยังโลกภายนอก นั่นก็เพราะเขาคนนั้น

*ข้อสังเกต : ที่ริคุเห็นอันเซมแล้วนึกถึงเทอร์ร่า ก็เพราะอันเซมคนนี้ก็คือฮาร์ทเลสของเทอร์ร่านอร์ทนั่นเอง

- ริคุกล่าวว่าการเดินทางของเขา จะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง นับจากที่นี่ ตอนนี้... แล้วเขาก็เรียกคีย์เบลดขึ้นมา ริคุกล่าวต่อไปว่าเขาจะกลับไปยังโลกแห่งความจริง ไปช่วยโซระ ในเมื่อยับยั้งความมืดไว้ก็ไม่เกิดประโยชน์ งั้นเขาก็จะดูดกลืนความมืด แล้วละลายเปลี่ยนมันให้กลายเป็นแสงสว่าง เขากล่าวว่าอันเซมที่เป็นส่วนหนึ่งในหัวใจของเขา จะต้องกลายเป็นแสงสว่าง!

--------------------------------------------

อธิบายศัพท์ในเกม

จูซังคิคัง

• เมื่อหัวใจที่เข้มแข็งที่สุดกลายเป็น "โนบอดี้" พวกเขาจะยังคงร่างมนุษย์เอาไว้ แม้ว่าหัวใจจะสูญหายไปแล้ว
• ในบรรดาศิษย์ทั้ง 6 ของจอมปราชญ์อันเซม คนที่เก่งกาจที่สุดนั้นเรียกตนเองว่าเซอานอร์ท อันเซมตัวจริงล้มเลิกการศึกษาเกี่ยวกับหัวใจ แต่เซอานอร์ทไม่ยอดหยุด เขาและศิษย์คนอื่นๆ ทรยศอันเซม และได้สละหัวใจทิ้งไปเพื่อสานต่องานวิจัยของผู้ที่สั่งสอนพวกเขามา
• โนบอดี้ของเซอานอร์ทได้ตั้งชื่อใหม่ว่าเซมุนัส และก่อตั้งองค์กรร่วมกับโนบอดี้ของศิษย์คนอื่นๆ เมื่อสมาชิกเพิ่มมากขึ้น พวกเขาก็เป็นที่รู้จักในนาม "จูซังคิคัง" แม้ว่าในช่วงหนึ่งพวกเขาจะมีสมาชิกด้วยกัน 14 คนก็ตามที
• เป้าหมายของจูซังคิคังคือการทำ Kingdom Hearts ที่สร้างจากหัวใจของผู้คนให้สมบูรณ์ ด้วยการกำจัดฮาร์ทเลสและสะสมหัวใจที่ยึดมาได้ โซระขัดขวางแผนของพวกเขา โดยได้กำจัดสมาชิกขององค์กร และและปลดปล่อยหัวใจมากมากที่ถูกจับมาให้เป็นอิสระ

เจ้าหญิงทั้งเจ็ด

• อีกชื่อหนึ่งของเจ้าหญิงแห่งหัวใจ: คนเพียง 7 คนในปฐพีที่หัวใจเปี่ยมด้วยแสงสว่างบริสุทธิ์
• แม้จะไม่ได้เป็นเชื้อพระวงศ์โดยแท้ แต่พวกเธอก็ถูกเรียกว่า "เจ้าหญิง" เพราะพวกเธอเป็นผู้หญิง และผู้ที่พาพวกเธอมาอยู่ที่เดียวกันได้จะได้ครอบครองดวงดาวทั้งมวล
• พลังของเจ้าหญิงเหล่านั้นไม่เป็นที่กระจ่างนัก ทว่าครั้งหนึ่งหัวใจของพวกเธอเคยถูกแย่งชิงไปสร้างเป็นทางเข้าสู่ Kingdom Hearts และสิ่งที่เรียกว่า "คีย์เบลดแห่งหัวใจ"

สัญลักษณ์แห่งความนอกรีต

• เซมุนัส ผู้นำของจูซังคิคังได้มอบชื่อใหม่ให้แก่ผู้เข้าร่วมกลุ่มทุกคน แต่ละชื่อนั้นมาจากการนำชื่อเดิมของสมาชิกมาเติมอักษร X แล้วสลับลำดับตัวอักษรใหม่
• X นี้คือสัญลักษณ์แห่งความนอกรีต และได้ปรากฏขึ้นระหว่างการเดินทางของโซระทั้งในทางตรงและทางอ้อม

หัวใจที่เชื่อมโยงกับโซระ

• หลังจากที่โซระพึ่งเกิดมาได้ไม่นาน หัวใจของเขาก็เชื่อมโยงเข้ากับหัวใจของเด็กหนุ่มที่ชื่อเวนตุส หัวใจของเวนตุนได้แตกออกจากกัน ทว่าโซระได้ช่วยเขาไว้โดยการแบ่งปันหัวใจของเขาบางส่วนให้
• หลายปีต่อมา ผู้ใช้คีย์เบลดวัยหนุ่มสาว 3 คน - เทอร์ร่า อควอ และเวนตุสต้องพัวพันกับการต่อสู้กับมาสเตอร์เซอานอร์ท ระหว่างการเดินทางของพวกเขา มาสเตอร์อควอและเทอร์ร่าได้พบโซระ และเพื่อนสนิทของเขาริคุ โซระได้สัญญากับอควอว่าเขาจะคอยดูแลริคุให้อยู่บนเส้นทางที่ถูกต้อง ขณะที่ริคุก็ทำสัญญาลับกับเทอร์ร่า หลังจากนั้นไม่นาน เทอร์ร่าก็กลายเป็นภาชนะให้กับมาสเตอร์เซอานอร์ท ส่วนอควอก็หายไปใน Realm of Darkness ขณะที่เวนตุส เขาทำให้หัวใจของตนเองแตกเป็นเสี่ยงๆ เพื่อปกป้องพวกพ้องและกลับไปอยู่กับหัวใจของโซระ และเข้าสู่การหลับใหลมาจนกระทั่งทุกวันนี้
• หลายปีต่อมา หลังจากที่โซระเติบโตขึ้น เขาได้เก็บซ่อนหัวใจของไคริผู้เป็นเพื่อนไว้ในหัวใจของเขาเองเพื่อปกป้องหัวใจดวงนั้นโดยไม่รู้ตัว เมื่อโซระกลายเป็นฮาร์ทเลส เขายังได้ให้กำเนิดนามิเนะ โนบอดี้ของไคริขึ้นโดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้ยังได้ให้กำเนิดร็อคซัส โนบอดี้ของเขาเองอีกด้วย
• อีกหนึ่งชีวิตได้ถือกำเนิดขึ้น: ร่างจำลองที่มีชื่อว่าซิออน เกิดขึ้นจากความทรงจำเกี่ยวกับไคริของโซระ เธอมีพลังในการลอกเลียนร็อคซัส
• ท้ายที่สุด ซิออนและนามิเนะ ก็ได้รู้ฐานะของตนเอง และถูกชักนำให้กลับไปสู่ที่ๆ พวกเธอควรอยู่; นามิเนะได้กลับสู่หัวใจของไคริ ขณะที่ซิออนและร็อคซัส ได้กลับสู่หัวใจของโซระ
• หัวใจมากมายสัมผัสกับหัวใจของโซระ และสายสัมพันธ์นั้นก็ยังคงดำรงอยู่ ทว่าเรื่องราวของพวกเขากลับต้องจบลงด้วยความเศร้า ความเศร้าโศกที่ว่าพวกเขายังคงหลับใหลอยู่