อธิบายเนื้อเรื่อง KH3D ตอนที่ 6 ประเทศแห่งสามทหารเสือ - ซิมโฟนีของผู้วิเศษ
(เขียนขึ้นเมื่อ 10/02/2013)
ประเทศแห่งสามทหารเสือ
โซระ
- ก่อนหน้าที่โซระจะมาถึง
มิคกี้ โดนัลด์
และกู๊ฟฟี่พึ่งได้รับการแต่งตั้งจากกัปตันพีทให้เป็นทหารเสือแห่งราชวงศ์อย่างเป็นทางการ
โดยพีทมอบหมายภารกิจแรกให้พวกเขาคุ้มครองจากคนชั่วที่ตามล่าตัวเจ้าหญิงมินนี่อยู่
- เมื่อโซระมาถึง
เขาก็เห็นมิคกี้กำลังสู้กับไนท์แมร์อยู่ โซระจึงเข้าไปช่วยทันที
แต่ปรากฏว่ามิคกี้คนนี้กลับไม่เคยรู้จักโซระมาก่อน
โซระคิดว่าบางทีนี่อาจเป็นอาการแบบเดียวกันกับที่ทรอนและจิมินี่ไม่รู้จักเขา
ส่วนมิคกี้เองเห็นโซระก็รู้ว่าโซระมาจากต่างโลก จึงเปิดเผยว่าเขาเองก็มาจากต่างโลกเช่นกัน
โดยเขามีปัญหาบางอย่างทำให้ต้องมาเป็นทหารเสือในโลกนี้
โซระถึงพอจะเก็ตว่านี่คือโลกในอดีตที่มิคกี้เคยไปเยี่ยมมาก่อน
- หลังกำจัดพวกไนท์แมร์อีกชุดนึงได้
โดนัลด์กับกู๊ฟฟี่ที่หนีไปก่อนก็ตามมาสมทบ ทั้งสองจึงแนะนำตัวต่อโซระ
แล้วบอกโซระว่าพวกเขาต้องตามไปคุ้มครองเจ้าหญิงแล้ว
แต่โซระก็ขออาสาไปช่วยคุ้มครองเจ้าหญิงด้วย
- ทั้งสี่ขึ้นรถม้าคันเดียวกับเจ้าหญิงมินนี่เพื่อตามไปคุ้มครองด้วย
แต่ระหว่างทางก็เจอไนท์แมร์กับพวกศัตรูไล่ล่า ทำให้พลัดตกจากรถม้ากันหมด
จึงเติมเดินเท้าตามไป
- เมื่อตามไปจนระยะหนึ่งก็เจอรถม้าที่ว่างเปล่า
ทำให้ทราบว่าเจ้าหญิงโดนจับตัวไปแล้ว
- พวกโซระไล่ตามไปจนเจอหอคอยแห่งหนึ่ง
พอขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุดก็สามารถไล่พวกศัตรูที่เป็นลูกน้องของพีทตกหอคอย
แล้วช่วยมินนี่กลับมาได้สำเร็จ
- ในคืนนั้นโดนัลด์ได้นำข่าวมาบอกมิคกี้ว่ากัปตีนพีทพยายามลักพาตัวมินนี่ไป
มิคกี้ตัดสินใจจะตามไปด้วยมินนี่ แต่โดนัลด์อยากจะหนีไปหางานใหม่มากกว่า
แล้วโดนัลด์ก็หนีไป มิคกี้เสียใจแต่โซระบอกว่าเขาจะช่วยมิคกี้พาตัวมินนี่กลับมาเอง
ทว่าระหว่างนั้นกัปตันพีทก็ปรากฏตัวขึ้นมาและสั่งพวกไนท์แมร์ให้ล้อมมิคกี้กับโซระไว้
มิคกี้หนีออกมาจากวงล้อมได้แล้วมาสู้กับพีท แต่เขาก็พ่ายแพ้ให้พีท
ส่วนโซระก็โดนไนท์แมร์ลอบทำร้ายตอนเผลอทำให้หมดสติไป
- โซระฟื้นขึ้นมาโดยมีโดนัลด์และกู๊ฟฟี่อยู่ล้อมรอบ
กู๊ฟฟี่บอกโซระว่ามิคกี้ถูกจับตัวไปที่วิหารเซนต์มิเชลซึ่งกำลังจะโดนน้ำท่วมเล่นงาน
โซระจึงพูดกล่อมให้โดนัลด์และกู๊ฟฟี่ไปช่วยกันพามิคกี้กลับมาให้ได้
- พวกโซระไปช่วยชีวิตมิคกี้ที่จมน้ำท่วมไปแล้วไว้ได้ทัน
แล้วทุกคนก็ตัดสินใจตามไปช่วยเจ้าหญิงมินนี่ที่โรงโอเปร่า
ตามที่พีทได้บอกมิคกี้ไว้ก่อนจะเอามาถ่วงน้ำ
- ที่หน้าทางเข้าโรงโอเปร่า
พวกโซระเห็นลูกน้องของพีทกำลังขนหีบที่มีเสียงของมินนี่ร้องขอความช่วยเหลืออยู่ด้านใน
(จุดนี้ขัดกับเนื้อเรื่องของริคุ
เพราะเราเห็นในเนื้อเรื่องของริคุว่ามินนี่พึ่งถูกยัดลงหีบก็ตอนเข้ามาด้านหลังเวทีของโรงโอเปร่าแล้ว
ไม่ใช่โดนยัดใส่หีบมาตั้งแต่แรก)
- พอโซระไล่ตามไปถึงหน้าเวที
ก็เห็นมิคกี้ โดนัลด์ กู๊ฟฟี่ ช่วยมินนี่ออกมาได้แล้ว
(จุดนี้ขัดกับเนื้อเรื่องริคุ เพราะในเนื้อเรื่องริคุ
ตอนที่พีทเผชิญหน้ากับพวกมิคกี้และใช้กับดักบนเวที
ตอนนั้นมินนี่ยังอยู่กับริคุที่หลังเวทีอยู่เลย
ดังนั้นเธอจะมาอยู่ข้างพวกมิคกี้ที่หน้าเวทีได้ไง)
ทันใดนั้นพีทก็ใช้กลไกกับดักของเวที ทำให้มีหีบร่วงลงมาเหนือหัวพวกมิคกี้
แต่แล้วหีบกลับหายไปกลางอากาศ พีทตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่โซระเข้าใจว่าริคุต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยพวกเขาแน่
โซระบอกให้พวกมิคกี้พามินนี่ไปหลบในที่ปลอดภัย ส่วนเขาจะจัดการพีทเอง
ด้านพีทก็เรียกลูกน้องทั้งสามคน ออกมาช่วยกันรุมโซระ
(ส่วนนี้ก็ขัดกับเนื้อเรื่องของริคุ เพราะจริงๆ ตามเนื้อเรื่องริคุ
ลูกน้องทั้งสามมันต้องโดนริคุอัดร่วงไปก่อนที่โซระจะมาถึงหน้าเวทีแล้ว)
- หลังปราบพีทได้แล้ว
พวกเราก็กลับมายังหน้าลานฝึก เพื่อเป็นการขอบคุณ องค์หญิงมินนี่จึงแต่งตั้งทั้ง 4
ให้เป็นทหารเสือประจำราชวงศ์
ริคุ
- ริคุเข้ามาถึงหน้าโรงโอเปร่า
เขาเห็นพีททำลับๆ ล่อๆ เหมือนกลัวใครเห็นอยู่ที่บริเวณปากทางเข้า จึงตามพีทเข้าไป
- ระหว่างที่ริคุกำลังวุ่นกับการหาหีบสมบัติ
กัปตันพีทที่ให้ลูกน้องจับตัวมินนี่มาก็เผยเป้าหมายว่าเขาต้องการจะชิงบัลลังค์และปกครองประเทศนี้เอง
โดยให้มินนี่ตัวปลอมเป็นคนแต่งตั้งเขา ส่วนตัวจริงก็อยู่หลังฉากไป
ว่าแล้วพวกลูกน้องของพีทก็จับมินนี่ขังไว้ในหีบ
- บริเวณหน้าเวทีแสดงในโรงโอเปร่า
ริคุเห็นลูกน้องของพีทเอาแผ่นไม้กระดานที่เป็นรูปมิคกี้ โดนัลด์
และกู๊ฟฟี่ออกมาตั้ง จากนั้นพีทก็ปล่อยลังลงมาทับแผ่นไม้เหล่านั้นทิ้ง
ริคุเห็นแล้วสังหรณ์ใจไม่ดีก็ตามพวกลูกน้องของพีทไป
- มิคกี้เจอหีบใบหนึ่งที่กำลังสั่นๆ
เขาเกรงว่าจะมีใครอยู่ข้างในจึงใช้คีย์เบลดเปิดออกมา
ปรากฏว่าข้างในมีเจ้าหญิงมินนี่อยู่
พอปล่อยมินนี่ออกมาแล้วเจ้าเธอก็จะรีบออกไปหาพวกสามทหารเสือ
มินนี่บอกว่าเวทีโอเปร่าถูกติดตั้งกลไกกับดักที่จะใช้จัดการพวกมิคกี้ไว้
ถ้ามีคันโยกอยู่ก็จะสามารถแก้กลไกได้
ปรากฏว่าบริเวณนั้นลูกน้องของพีทกลับมาเอาคันโยกที่เขาลืมไว้พอดี
ริคุจึงรีบไล่ตามพวกลูกน้องที่ถือคันโยกอยู่ไป
- ริคุไล่ตื้บลูกน้องของพีททั้งสามคนจนแย่งคันโยกมาได้สำเร็จ
แล้วใช้คันโยกนั้นไขกลไกหลังเวทีจนช่วยพวกมิคกี้ไม่ให้โดนกลไกลังตกลงมาทับได้ทันเวลา
แล้วมินนี่ก็ชมเชยริคุว่ามีความกล้าหาญดุจดั่งทหารเสือประจำราชวงศ์
หอคอยปริศนา
- แอ็คเซลพูดอะไรบางอย่างกับเยนซิด
ทำให้พวกมิคกี้ตกใจ โดนัลด์บอกว่าไม่มีทางเด็ดขาด
เยนซิดว่าเขารู้สึกถึงความผิดปกติในตอนที่โซระและริคุออกเดินทางไป
เซอานอร์ทคงรู้ว่าพวกเราพยายามจะทำอะไรก่อนที่พวกเราจะเริ่มทำกันด้วยซ้ำ
การทดสอบนี้ไม่เหมือนการทดสอบความเป็นมาสเตอร์ตามปกติ
หากโซระและริคุผ่านการทดสอบโดยการค้นพบประตูทั้ง 7 ที่เชื่อมโยงกับแสงสว่างบริสุทธิ์ทั้ง
7 พวกเขาจะกลับมาพร้อมกับพลังใหม่
ถึงตอนนั้นทั้งสองจะกลายเป็นมาสเตอร์ที่แท้จริง
ทว่าอันตรายได้ทำให้การทดสอบนี้เป็นมากกว่าการทดสอบ
ตอนนี้เยนซิดก็หวังว่าทั้งสองจะปลอดภัย แต่เขาก็ไม่สามารถหาตำแหน่งของทั้งสองได้
เซอานอร์ทเป็นจอมเทคนิคผู้เคี้ยวคด ไม่มีการกระทำใดๆ
ของเราที่จะอยู่เหนือขอบเขตความคาดเดาของเขาได้
การที่สมาชิกจูซังคิคังกลับเป็นคนสมบูรณ์อีกครั้ง เซอานอร์ทเองก็ไม่ต่างกัน
เราไม่อาจลังเลได้อีกแล้ว เราต้องพิจารณาหากลยุทธที่จะเอาชนะเซอานอร์ทให้ได้
ทำให้เขาพลาด ข้าขอเตือนอีกครั้ง เส้นทางนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
ทว่าแอ็คเซลกลับตอบว่าเออ ก็โดดมันเข้าไปเลย
ซิมโฟนีของผู้วิเศษ
โซระ
- โซระมาถึงโลกนี้แล้วก็พบมิคกี้กำลังฝึกร่ายมนต์ควบคุมสายน้ำอยู่
ทันใดนั้นไนท์แมร์ตัวที่หนีมาจากเมืองเทรเวิร์สก็ปรากฏตัวขึ้นมา
มันพุ่งเข้าชนโซระจนสลบไป
- โซระฟื้นขึ้นมาในหอคอยปริศนา
เขางุนงงว่าเขากลับมายังหอคอยปริศนาแล้วรึ? แต่พอหันหลังไปกลับพบมิคกี้ในชุดจอมเวทย์นั่งอยู่ตรงกลาง
กำลังหลับตาร่ายมนต์บางอย่าง
และมีหนังสือโน๊ตเพลงที่ถูกความมืดปกคลุมวางอยู่ด้านหลังเขา
โซระเข้าใจว่าโน๊ตเพลงนี้เป็นตัวทำให้มิคกี้ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้
เลยควักคีย์เบลดขึ้นมาฟาดเข้าให้ แต่กลายเป็นโซระกระเด็นออกไปซะเอง
มิคกี้แปลกใจที่โซระมีคีย์เบลดในครอบครองด้วย แล้วจึงถามโซระว่าเป็นลูกศิษย์ของใคร
จากนั้นมิคกี้ก็แนะนำตนเอง
โซระจึงเข้าใจว่านี่เป็นโลกในสมัยที่มิคกี้ยังฝึกฝนตนเองอยู่ และโลกนี้ก็กำลังหลับใหลอยู่
มิคกี้บอกว่ามีมอนสเตอร์ (ไนท์แมร์ตัวนั้นแหละ)
ครอบงำหนังสือโน๊ตเพลงเล่มนั้นและปลดปล่อยความมืดออกมา
ทำให้ไม่มีใครเข้าไปสู้กับมันข้างในได้ การจะขับไล่ความมืดไปได้ต้องใช้ Sound
Idea โซระอาสาที่จะช่วยมิคกี้ด้วยการไปเอา Sound Idea มาให้ มิคกี้จึงเรียกหนังสือโน๊ตเพลงอีกเล่มขึ้นมา
และบอกว่าข้างในนั้นมีพลังที่จะขับไล่ความมืดใดๆ ได้
- โซระเข้าไปในโลกของหนังสือโน๊ตเพลงจนถึงด้านในสุดแล้วก็พบกับ
Sound Idea แต่แล้วเขาก็พบกับเซอานอร์ทหนุ่มที่ตามเขามา
โซระชักคีย์เบลดขึ้นมาเตรียมสู้ แต่เซอานอร์ทกับชูมือขึ้นขวางไว้แล้วบอกว่าโลกนี้งดงามราวกับความฝัน
โซระถามเซอานอร์ทว่าตามเขามาทำไม เซอานอร์ทก็ถามกลับว่ายังไม่เข้าใจอีกรึ? ยังคิดว่านี่เป็นแค่การทดสอบอยู่รึไง? ฉันไม่ใช่ความฝัน
และหากนายคิดว่าฉันเป็นแค่ความฝัน นายก็อ่อนหัดยิ่งกว่าที่พวกนั้นพูดกันแล้ว
แต่เดี๋ยวมันก็จบแล้วล่ะ จากนั้นเซอานอร์ทก็บอกว่านอนต่อไปเถอะ
เดี๋ยวเราก็จะได้เจอกันอีกครั้ง แล้วเขาก็จากไป
- โซระออกจากโลกหนังสือโน๊ตเพลงพร้อมกับ
Sound Idea จากนั้นเขาก็ปลดปล่อยพลังของ Sound Idea มาเพื่อขับไล่ความมืด แต่ดูเหมือนลำพัง Sound Idea เพียงชิ้นเดียวจะไม่เพียงพอ
ทว่าริคุที่อยู่อีกฟากหนึ่งก็ช่วยใช้ Sound Idea ขับไล่ความมืดด้วยเช่นกัน
เมื่อความมืดที่ปกคลุมหนังสือหายไปแล้ว โซระก็เข้าไปในหนังสือเล่มนั้น
- ด้านในหนังสือ
โซระได้เจอเจ้าไนท์แมร์ Spellican อีกครั้ง
คราวนี้เขาสามารถไล่ตามจนกำจัดมันได้สำเร็จ
- กลับมาที่โลกนอกหนังสือ
มิคกี้ถูกปลดปล่อยให้สามารถลุกขึ้นมาขยับเขยื้อนได้อีกครั้ง เขาขอบคุณโซระ
จากนั้นมิคกี้ก็นึกขึ้นได้ว่าเขาต้องรีบไปไปตักน้ำต่อแล้ว
ริคุ
ริคุ
- ก่อนหน้าที่ริคุจะมาถึง
มิคกี้กำลังฝึกใช้เวทย์ควบคุมไม้กวาดให้ช่วยหิ้วถังน้ำไปตักน้ำมาให้แทนตัวเขา
แต่มิคกี้เผลอหลับไป
เมื่อตื่นขึ้นมาไม้กวาดมันก็หิ้วน้ำมาเทใส่ห้องจนเจิ่งนองไปด้วยน้ำ
ที่ด้านนอกนั้นเอง ไนท์แมร์ตัวที่หนีมาจากเมืองเทรเวิร์สก็มาถึงหอคอยปริศนาพอดี
- ริคุมาโผล่ที่ชั้นล่างของหอคอยปริศนาท่ามกลางความงุนงง
เขาต้องแปลกใจที่พบว่ามีสายน้ำสะลักลงมาจากชั้นบนของหอคอยจนทำให้ที่แห่งนั้นนองไปด้วยน้ำ
ริคุวิ่งขึ้นบันไดไปแล้วก็พบห้องที่เต็มไปด้วยน้ำ
มีมิคกี้ในชุดจอมเวทย์นั่งอยู่ตรงกลาง กำลังหลับตาร่ายมนต์บางอย่าง
และมีหนังสือโน๊ตเพลงที่ถูกความมืดปกคลุมวางอยู่ด้านหลังเขา
ริคุเข้าใจว่าโน๊ตเพลงนี้เป็นตัวทำให้มิคกี้ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้
แต่มิคกี้บอกว่าเราไม่สามารถทำลายความมืดนั้นได้ด้วยพละกำลัง
จากนั้นมิคกี้ก็แนะนำตนเองว่าเขาเป็นผู้ฝึกฝนตนเป็นจอมเวทย์
ริคุอาสาที่จะช่วยมิคกี้ให้ได้
มิคกี้บอกว่าะเขารู้สึกว่าเขากับริคุจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้
และเราจะได้พึ่งพากันอย่างมากในสักวันหนึ่ง
มิคกี้บอกว่าข้างในโลกของหนังสือโน๊ตเพลงอีกเล่มหนึ่งที่ไม่ได้ถูกความมืดปกคลุมมี Sound
Idea อยู่ ซึ่งมันมีพลังมากที่จะขับไล่ความมืดได้
จึงอยากให้ริคุช่วยเข้าไปตามหาให้
- ริคุไปถึงด้านในสุดของโลกในหนังสือโน๊ตเพลง
เขาได้พบกับ Sound Idea และเก็บมันมา จากนั้นจู่ๆ
ความมืดก็เข้าปกคลุมรอบตัวเขา เซอานอร์ทหนุ่มปรากฏตัวขึ้นมา
เซอานอร์ทกล่าวยินดีต้อนรับริคุ เด็กหนุ่มผู้ถูกคีย์เบลดเลือกตั้งแต่แรก
แต่เนื่องจากริคุจำนนต่อความมืด ไม่อาจควบคุมมันได้ คีย์เบลดจึงส่งต่อไปสู่โซระแทน
ความผิดพลาดของริคุมักจะกลายเป็นปัญหาของคนอื่นอยู่ประจำ
ริคุบอกว่ามันอาจเป็นเช่นนั้น แต่เขาจะแปรเปลี่ยนมันเอง
เซอานอร์ทบอกว่าการกระทำของริคุดำเนินไปอย่างที่เขาคิด
แม้ว่ามันจะยิ่งกว่ากว่าที่เขาคิดเอาไว้ ริคุที่รำคาญแล้วก็บอกว่าถ้าอยากคุยนัก
ก็พูดมาเลยดีกว่าว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่ เซอานอร์ทจึงบอกว่าเขาไม่รู้ว่าริคุพบวิธีระงับความมืดไว้ในจิตใจได้อย่างไร
เด็กหนุ่มที่ต้านทานความมืดได้แล้วก็ไม่มีประโยชน์กับพวกเขา ความตายได้ร่ำร้องรอคอยริคุอยู่แล้ว
จากนั้นเซอานอร์ทก็ปล่อยปิศาจยักษ์ออกมาสู้กับริคุ
- เมื่อกำจัดมันได้ริคุก็ออกมาจากโลกในหนังสือ
เขาใช้พลังจาก Sound Idea แต่ดูเหมือนลำพัง Sound
Idea อันเดียวจะไม่เพียงพอที่จะขับไล่ความมืดได้ ทันใดนั้น Sound
Idea อีกอันที่โซระร่ายเอาไว้ก็ปรากฏขึ้นมาช่วยกันขับไล่ความมืดในหนังสืออกไป
ทำให้น้ำที่ท่วมห้องอยู่หายไป ทุกอย่างกลับเป็นปกติ
และมิคกี้ก็ลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง
- มิคกี้สงสัยว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น
ริคุก็บอกว่าเป็นเพราะโซระช่วยเอาไว้ มิคกี้คนนี้ไม่เคยได้ยินชื่อโซระมาก่อน
แต่เขาบอกว่าพอได้ยินชื่อนี้แล้วมันทำให้เขายิ้มได้ Sound Idea ที่โซระและริคุช่วยกันปลดปล่อยออกมาทำให้เกิดพลังอันยิ่งใหญ่
ริคุบอกว่าโซระสามารถค้นหาส่วนที่เปล่งประกายที่สุดของสิ่งต่างๆ ได้
และสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้เหมือนเป็นเรื่องธรรมดา เมื่ออยู่ใกล้ๆ เขาแล้ว
หากจะฝืนไม่ยิ้มก็คงจะยาก
มิคกี้บอกว่าฟังแล้วเหมือนว่าทั้งสองต่างก็ช่วยกันค้ำจุนบางส่วนของกันและกันไว้
ทำให้หัวใจอยู่ในท่วงทำนองที่เหมาะสม สามารถขับร้องเพลงออกมาได้เสมอ
เขาหวังว่าสักวันหนึ่งเขาจะได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของพวกริคุด้วย
ริคุจึงก้มไปจับมือมิคกี้แล้วบอกว่าสักวันมิคกี้ต้องได้เป็นแน่ เชื่อเขาสิ
ข้อสังเกต
โลกแห่งความฝันที่โซระกับริคุไปนั้น
มันมีอะไรที่ขัดกันเองอยู่
อย่างเช่นลำดับเหตุการณ์ในดาวสามทหารเสือ
ตำแหน่งของมินนี่ตอนที่พีทใช้กลไกบนเวที
ในโลกซิมโฟนีก็เช่นการที่มิคกี้ในเนื้อเรื่องฟากริคุไม่รู้จักโซระทั้งที่โซระแนะนำตัวในเนื้อเรื่องฟากเขาไปแล้ว
ทว่าการกระทำบางอย่างของโซระและริคุกลับส่งผลต่อกัน
เช่นการหาคันโยกมาหยุดกลไกเวที หรือการใช้ Sound Idea สิ่งเหล่านี้ฟังดูประหลาด
แต่ก็สอดคล้องกับที่โจชัวพูดไว้ว่า โลกทั้งสองฟากนั้น ไม่ใช่โลกคู่ขนาน
(เพราะเวลามันไม่ได้ดำเนินไปพร้อมกัน) และไม่ใช่อดีตและอนาคตของกันและกัน
(เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกทั้งสองฟากมันไม่เหมือนกันซะทีเดียว)
แต่มันคือโลกใบเดียวกัน
ที่ถูกจินตนาการ/ฝัน ขึ้นโดยคนสองคน ทำให้มันมีเนื้อหาสาระโดยหลักเหมือนกัน
แต่มีเนื้อหาปลีกย่อยแตกต่างกัน เพราะคนเราแต่ละคนก็มองสิ่งๆ
เดียวกันจากคนละมุมมอง ทำให้เห็นสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน แตกต่างกัน
โซระกับริคุเองก็เช่นกัน ไปหลงอยู่ในโลกในจินตนาการของใครก็ไม่รู้ 2 คน 2 โลก
ถึงได้มีรายละเอียดปลีกย่อยต่างกัน
หอคอยปริศนา
- กลับมาที่หอคอยปริศนาของจริง
แอ็คเซลไม่อยู่แล้ว ส่วนคนอื่นๆ กำลังทำหน้าหมอง
มิคกี้ถามเยนซิดว่าแอ็คเซลจะทำได้มั้ย? เยนซิดก็ตอบว่าเราคงสอนแมวให้เห่าไม่ได้
แต่พ่อมดเมอร์ลินกับนางฟ้าทั้งสามต่างก็ช่วยกันอยู่ในที่ซึ่งกาลเวลาแตกต่างออกไป
อย่างน้อยก็หวังว่าเขาจะสามารถใช้เวทมนต์ได้ อย่างน้อยเขาก็มีไฟ
ก็ต้องคอยดูว่ามันจะลุกโชนได้แค่ไหน
- ส่วนเรื่องโซระกับริคุ เยนซิดสันนิษฐานว่าเซอานอร์ทรู้ว่าพวกเขาวางแผนอะไรกันไว้
แต่หากเขาคิดจะขัดขวาง เขาก็ยังจำเป็นต้องไปยังที่แห่งนั้น
คือกลับไปยังช่วงเวลาและสถานที่ตอนที่เกาะแห่งชะตากรรมตกสู่ความมืด
ไม่เช่นนั้นแล้วเขาก็จะไปขัดขวางโซระและริคุไม่ได้
- มิคกี้ได้ยินก็ถามว่าเป็นไปได้มั้ยที่เซอานอร์ทจะอ่านเกมทะลุไกลถึงจุดนี้ตั้งแต่แรกแล้ว?
เยนซิดบอกว่าตามความเป็นจริงแล้วคงไม่ได้
กู๊ฟฟี่เลยถามว่าถ้าเซอานอร์ททำแบบเดียวกับที่โซระและริคุทำคือย้อนเวลากลับไปล่ะ? เยนซิดบอกว่าการข้ามกาลเวลาได้
ร่างของเซอานอร์ทต้องเคยอยู่ที่นั่นในเวลานั้นมาก่อนแล้ว หากไม่ผ่านเงื่อนไขนั้น
กระทั่งเซอานอร์ทก็คงไม่สามารถส่งร่างทั้งร่างของเขาข้ามไปยังห้วงเวลาที่อยู่ห่างไกลกันขนาดนั้นดังใจนึกได้
*ภาคญี่ปุ่นใช้คำว่าต้องเคยอยู่ทั้งในสถานที่แห่งนั้นและในเวลานั้น
(ลิงค์อ้างอิง) แต่ในภาคอังกฤษกลับพูดต่างออกไปนิดหน่อย
โดยพูดว่าการจะท่องกาลเวลาได้ เซอานอร์ทต้องอยู่ทั้งที่ตั้ง (ปัจจุบัน) และจุดหมายปลายทาง (ยุคอันเป็นจุดหมาย)
- แล้วมิคกี้ก็ตกใจขึ้นมา มิคกี้บอกว่าเขาจำได้ว่าเซอานอร์ทได้สละร่างของเขาเอง
กลายเป็นร่างของเขาเวอร์ชั่นที่ครอบงำริคุ
ถึงตรงนี้เยนซิดต้องตกใจตาเหลือกว่าเป็นไปไม่ได้!
นี่เขาจะปราดเปรื่องถึงขั้นทำนายอนาคตได้ล่วงหน้าขนาดนี้เลยรึ? มิคกี้บอกว่างั้นเขาจะช่วยไปโซระและริคุเอง
แต่เยนซิดถามว่าจะช่วยยังไงล่ะ ในเมื่อมิคกี้ไม่สามารถเข้าไปในโลกแห่งการหลับใหลได้ (เพราะมิคกี้ไม่เคยไปอยู่ในดวงดาวช่วงก่อนที่จะตกสู่การหลับใหล) แล้วจะไปที่ไหนกัน? มิคกี้บอกว่าเซอานอร์ทคงไม่อยู่ในโลกแห่งความฝันไปตลอด
ท้ายที่สุดพวกเขาก็ต้องไปปรากฏตัวในที่ๆ พวกเราสามารถเข้าถึงได้
และเราก็สามารถเดาที่แห่งนั้นได้ มาสเตอร์อควอบอกไว้ว่าให้ทำตามเสียงเรียกของหัวใจ
แล้วเราจะพบหนทาง
- โดนัลด์กับกู๊ฟฟี่จะขอไปกับมิคกี้ด้วย
แต่มิคกี้บอกว่าคราวนี้มันอันตรายเกินกว่าที่แล้วๆ มา หากเกิดอะไรขึ้นกับเขา ริคุ
และโซระ จะเหลือเพียงโดนัลด์และกู๊ฟฟี่เท่านั้นที่จะช่วยคุ้มครองโลกนี้ได้
- เยนซิดบอกว่าเขาไม่สามารถระบุที่อยู่ของโซระได้
แต่เขารู้สึกถึงตัวตนของริคุได้ใน Realm Between ขอให้มิคกี้เชื่อใจตนเอง
แล้วมิคกี้จะพบพวกเขาแน่ มิคกี้ก็สัญญาว่าจะพาทั้งสองกลับมาอย่างสวัสดิภาพให้ได้
อธิบาย
- การจะย้อนเวลากลับไปยังช่วงเวลาและสถานที่ใดนั้น ตัวเราต้องเคยดำรงอยู่ที่นั่นในช่วงเวลานั้น (ก็คือเดินทางไปในสถานที่และช่วงเวลาที่เคยไปมาแล้ว
เราจึงไปยังอนาคตที่เราไม่เคยไป ไม่ได้) ริคุกับโซระเคยอยู่ในเกาะแห่งชะตากรรมช่วงก่อนที่จะตกสู่ความมืดมิดมาก่อน
เยนซิดจึงสามารถส่งพวกเขากลับไปยังช่วงเวลานั้นในที่แห่งนั้นได้
- แต่คำถามต่อมาคือ
เยนซิดไปเอาพลังในการส่งคนข้ามกาลเวลานั้นมาจากไหน? มันไม่ใช่ความสามารถที่มาสเตอร์ทั่วไปจะทำได้
อควอก็ยังทำไม่ได้เลย...
- ตอนแรกเยนซิดคิดว่าเซอานอร์ทไม่น่าตามไปขัดขวางโซระและริคุได้
เพราะการจะตามไปขัดขวางพวกเขา แปลว่าเซอานอร์ทร่างใดร่างหนึ่งต้องเคยไปอยู่ที่เกาะแห่งชะตากรรมช่วงก่อนที่จะตกสู่ความมืดมิดแบบที่ริคุกับโซระเคยอยู่มาก่อน....
ซึ่งมิคกี้ก็ฉุกใจคิดได้พอดีว่าเซอานอร์ทเคยครอบงำร่างของริคุมาก่อน
และน่าจะเข้าครอบงำตั้งแต่ตอนอยู่ที่เกาะแห่งชะตากรรมแล้ว
ดังนั้นการที่ริคุอยู่ที่เกาะแห่งชะตากรรมช่วงก่อนตกสู่ความมืดมิด
แปลว่าเซอานอร์ทเวอร์ชั่นหนึ่งก็เคยอยู่ที่นั่นเช่นเดียวกัน
จึงหมายความว่าหากเซอานอร์ทในปัจจุบันจะย้อนอดีตกลับไปยังเกาะแห่งชะตากรรมในช่วงเวลานั้น
เพื่อตามไปขัดขวางริคุและโซระ เขาก็สามารถทำได้
- คาดว่าการที่ฮาร์ทเลสของเซอานอร์ทไปอยู่ที่เกาะแห่งชะตากรรมในคืนก่อนที่เกาะแห่งนั้นจะตกสู่ความมืดมิด
เป็นเพราะเจ้าตัวตามมายึดร่างริคุเป็นเหตุผลหลัก คงไม่ได้คิดถึงขั้นว่าในอนาคตตัวเองจะต้องการย้อนเวลากลับมาในช่วงเวลานั้นเพื่อไล่ตามโซระและริคุเข้าไปยังโลกแห่งความฝัน
หากคิดแบบนี้ก็จะสอดคล้องกับที่เซอานอร์ทหนุ่มจะพูดตอบคำถามโซระที่ถามว่าเซอานอร์ทร่างฮาร์ทเลสมองการไกลมาถึงขนาดนี้เลยรึ? แล้วเซอานอร์ทหนุ่มบอกว่าร่างฮาร์ทเลสรู้ถึงแค่ตอนที่เข้าครอบงำร่างริคุ
หลังจากนั้นก็สัมผัสประสบการณ์สดด้วยตนเองมาเรื่อยๆ โดยการยึดร่างนี้ก็คือหนึ่งในการหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความชั่วร้ายของมาสเตอร์เซอานอร์ท
อันจะนำไปสู่้การสร้างจูซังคิคังขึ้นมาใหม่ แต่ก็มีเหตุผลรองตามที่ไบรก์บอกไว้
(ตอนพึ่งมาถึง TWTNW ในเนื้อเรื่องโซระ)
คือเผื่อในอนาคตที่พวกโซระและริคุจะท่องเวลากลับมายังช่วงเวลานั้นเพื่อเข้าไปปลดปล่อยโลกที่ตกสู่ความฝัน
ตัวเขาจะได้ท่องเวลาตามมาชักนำโซระริคุให้ออกนอกเส้นทาง และยึดร่างของทั้งสองได้
การที่ตัวเองได้ไปอยู่ข้างพวกว่าที่ผู้ใช้คีย์เบลดอย่างริคุในวันแห่งชะตากรรมวันนั้น
หากอนาคตเกิดความผิดพลาดอันใดขึ้นมา อย่างน้อยเขาก็ยังสามารถท่องเวลากลับมาแก้ไขเหตุการณ์ในวันนั้นได้
และผลที่ตามมาคือพอริคุย้อนเวลากลับไปในวันนั้นเพื่อจะเข้าสู่โลกแห่งความฝัน
ฮาร์ทเลสของเซอานอร์ทก็จะสามารถตามมาได้....
Post a Comment