อธิบายเนื้อเรื่อง KH3D ตอนที่ 1 เกาะแห่งชะตากรรม - เมืองเทรเวิร์ส
(เขียนขึ้นเมื่อ 16/02/2012)
บทความนี้จะเป็นการรวมเนื้อหาส่วนสำคัญแบบย่อๆ ของ KH3D เพื่อเก็บไว้ใช้อ้างอิงในอนาคตครับ
บทความนี้จะเป็นการรวมเนื้อหาส่วนสำคัญแบบย่อๆ ของ KH3D เพื่อเก็บไว้ใช้อ้างอิงในอนาคตครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------
เกาะแห่งชะตากรรม
- ตอนเริ่มเกม โซระและริคุจะโผล่มาที่เกาะแห่งชะตากรรม หลังจากแพแตกแล้วจมน้ำไปครั้งแรก อันเซมก็ปรากฏตัวขึ้นมาบอกว่าโลกนี้ถูกเชื่อมต่อแล้ว (ตอนแรกที่ดูอาจจะสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เยนซิดจะเฉลยให้ฟังในเหตุการณ์หลังจบเมืองเทรเวิร์ส ว่าเขาได้ส่งพวกโซระกลับไปยังเกาะแห่งชะตากรรม ช่วงก่อนที่จะโดนความมืดกลืนกินหน่อยเดียว)
ระลึกอดีต
- เยนซิดบอกว่าในฐานะคีย์เบลดมาสเตอร์ เซอานอร์ทเป็นส่วนน้อยที่มีพรสวรรค์ แต่จิตใจของเขานั้นมักถูกรบกวนด้วยคำถามหนึ่ง "อะไรคือแก่นแท้ของหัวใจที่ทำให้มนุษย์เราอ่อนแอและเข้มแข็ง?" สำหรับคำตอบนั้น เซอานอร์ทเชื่อว่าจะได้พบในสงครามคีย์เบลด เซอานอร์ทอยากรู้ จึงสละหน้าที่ในฐานะมาสเตอร์ แล้วเลือกชีวิตในฐานะผู้แสวงหาความรู้แทน หลังจากนั้นเซอานอร์ทในหลากรูปแบบก็ได้ปะทะกับเหล่าผู้พิทักษ์แห่งแสง (ผู้ใช้คีย์เบลดแบบพวกโซระ) และเขาจะสร้างปัญหาให้พวกเราอีกครั้ง เราต้องเตรียมพร้อมไว้ ดังนั้นพวกโซระจึงต้องเข้ารับการทดสอบเป็นมาสเตอร์ที่แท้จริง
- เยนซิดเชื่อว่าพวกโซระคงนึกว่าตัวเองเก่งกล้าเป็นดุจดั่งมาสเตอร์ไปแล้ว ทว่ามีเพียงมาสเตอร์ที่แท้จริงเท่านั้นที่จะสามารถสอนหนทางที่ถูกต้องให้ได้ โซระและริคุต่างก็เป็นผู้ใช้คีย์เบลดที่เรียนรู้ด้วยตนเอง จนใช้ได้ชำนาญน่าประทับใจ แต่ก็ถึงเวลาแล้วที่ต้องละทิ้งสิ่งที่นึกคิดไปเอง ลืมสิ่งที่รู้เกี่ยวกับคีย์เบลดไปซะ แล้วเริ่มต้นฝึกฝนใหม่จากศูนย์
- โซระได้ยินก็เถียงว่านั่นมันก็แค่แบบพิธีไม่ใช่เหรอ เขาน่ะพิสูจน์ตัวเองเรียบร้อยแล้ว เขา ริคุ และมิคกี้สามารถรับมือกับทุกอย่างได้อยู่แล้ว ไม่เห็นต้องไปทดสอบอะไรอีก ทว่าริคุกลับบอกว่าเขาไม่รู้เหมือนกัน เขาคิดว่าในหัวใจของเขายังคงมีความมืดอยู่ เพราะงั้นเขาจึงไม่รู้ว่าเขาคู่ควรจะใช้คีย์เบลดรึเปล่า เขาจึงควรทดสอบ เมื่อริคุพูดแบบนี้จึงต้องกลับคำ โซระบอกงั้นเขาเอาด้วย แล้วดูให้ดี เขากับริคุจะผ่านแบบนอนมาให้ดู
เมืองเทรเวิร์ส
- ตอนเข้ามาในเมืองเทรเวิร์ส เห็นเนกุโดดไปมาบนหลังคา (Flowmotion) ตามหาโซระ เนกุรู้จักโซระมาก่อน แต่กลับไม่รู้ว่าโซระไม่ใช่เพลเยอร์ (เนกุเหลือเวลานับถอยหลังบนฝ่ามือ 43 นาทีกว่าๆ) เนกุบอกว่าโซระเชื่อใจคนง่ายเกินไป จะมาเชื่อใจคนแปลกหน้าได้ไง
- Realtiy Shift เป็นการ bend บิดงอความเป็นจริงรอบตัว
- พอโซระถามชื่อเนกุ ก็มีดรีมอีทเตอร์ปรากฏตัวขึ้นมา เนกุเลยบอกว่าดรีมอีทเตอร์ โซระเลยบอกว่าชื่ออะไรแปลกจัง? แต่เนกุบอกว่าไม่ใช่ชื่อฉัน ชื่อพวกมันต่างหาก จากนั้นเนกุก็เรียกดรีมอีทเตอร์ออกมา แล้วบอกว่าให้แยกกัน อย่าให้พวกมันล้อมเราได้ แต่ก่อนจะวิ่งแยกตัวออกไป เนกุก็บอกชื่อตนเองออกมา (ดูไม่หยิ่ง เหมือนเป็นนิสัยเนกุตอนจบเกม Subaseka แล้ว)
ระลึกอดีต
- เยนซิดบอกว่าในการจะโค่นเซอานอร์ทได้ เราต้องการพวกคนที่มิคกี้บอกไว้ในจดหมาย เราต้องนำพวกเขาออกมาจากความเศร้าและการหลับใหล กลับสู่โลกของพวกเรา เพื่อการนั้นก็ต้องพบและปลดรูกุญแจแห่งการหลับใหลทั้ง 7 แล้วพลังที่ยิ่งใหญ่ก็จะกลับมา โลกทั้งหลายมีกำแพงกั้นระหว่างกัน สมัยก่อนสามารถเดินทางไปมาได้เพราะกำแพงนั้นพังทลาย หรืออาจใช้คีย์เบลดเปิดเลนพิเศษเข้าไปได้ (แบบที่เคยเห็นเวนทำในภาค BBS บนเกาะชะตากรรม ใช้คีย์เบลดสร้างช่องว่างมิติในอากาศ) แต่เป้าหมายตอนนี้ รูกุญแจแห่งการหลับใหล มันเข้าถึงยากไำปกว่านั้น
- เยนซิดบอกว่าโซระน่าจะจำได้ว่าในการเดินทางครั้งแรก โซระได้ทำให้ดวงดาวต่างๆ กลับมาจากความมืด แต่ดาวบางดวงก็ไม่ได้กลับมาอย่างสมบูรณ์ มันยังคงหลับใหล ตัดขาดจากช่องทางทั้งหมด ฮาร์ทเลสก็เข้าไม่ถึง
แต่มันก็มีร่างแห่งความมืดของมันที่เรียกว่าดรีมอีทเตอร์ ซึ่งมีด้วยกันสองชนิด คือไนท์แมร์ที่กินฝันดี และสปิริตที่กลืนฝันร้าย ดรีมอีทเตอร์จะนำทางเจ้าไปสู่รูกุญแจของหัวใจแต่ละโลก อย่างที่ฮาร์ทเลสเคยนำทางเจ้า
แต่มันก็มีร่างแห่งความมืดของมันที่เรียกว่าดรีมอีทเตอร์ ซึ่งมีด้วยกันสองชนิด คือไนท์แมร์ที่กินฝันดี และสปิริตที่กลืนฝันร้าย ดรีมอีทเตอร์จะนำทางเจ้าไปสู่รูกุญแจของหัวใจแต่ละโลก อย่างที่ฮาร์ทเลสเคยนำทางเจ้า
เมืองเทรเวิร์ส
- ได้ recipe ผสมวันเดอร์เนียนมาจากเนกุ ก่อนหน้านี้เนกุถามว่าคิดว่าควบคุมดรีมอีทเตอร์ได้มั้ย? แล้วก็เอาให้โซระ
- ตามเนกุมาถึงเขต 3 เนกุตะโกนบอกคนชุดดำว่าพาโซระมาให้ตามที่ตกลงกันแล้ว โซระได้ยินก็ยังงงๆ คนชุดดำทำท่าจะเข้ามาโจมตีโซระ เนกุบอกว่าไม่ได้ตกลงกันไว้แบบนั้นนี่! ไหนว่าจะไม่ทำร้ายเขาไงเล่า! แล้วเนกุก็เข้าไปสกัดไว้ ส่วนโซระก็หลับไป
- สลับมาทางฝั่งริคุ ริคุจำได้ว่าหลังปราบเออร์ซูล่า พวกเขาตกน้ำ แล้วก็ได้เปิดรูกุญแจแห่งการหลับใหลอันแรก นี่คงเป็นหนึ่งในโลกที่หลับใหล
- โจชัวถามริคุว่า Portal ของริคุอยู่ไหนเนี่ย? การจะข้ามไปมาระหว่าง Ground ถ้าไม่มี Portral ก็ต้องมีอะไรพิเศษแน่ๆ จากนั้นโจชัวก็แนะนำตัวก่อน ริคุเลยจะถามเรื่อง Portal แต่โจชัวแซวริคุว่านายข้ามขั้นตอนการแนะนำตัวไปรึ้ปล่า?
- โจชัวบอกว่า Portal ก็เหมือนประตูที่เชื่อมระหว่างโลกของเรา โลกที่ฉันกับนายอยู่ตอนนี้ มันก็มี 2 โลกที่เหมือนกัน ประมาณว่าถูกแบ่งครึ่งนั่นแหละ Portal คือสิ่งที่ทำให้คนอย่างเราๆ ข้ามไปมาระหว่างมันได้ ริคุงงว่าโลกมี 2 ใบงั้นเหรอ? โจชัวบอกว่าโลกมันก็มีมากมายตามที่ผู้คนต้องการให้เป็น ความคิดที่ว่าทุกคนอาศัยอยู่ในโลกใบเดียวกัน มันก็เป็นความคิดที่อยู่ในหัวของพวกเราเท่านั้นแหละ (หมายถึงเป็นสิ่งที่แต่ละคนเชื่อมั่นจนฝังในหัว ทั้งที่มันไม่ได้เป็นแบบนั้น) แล้วโจชัวก็บอกว่ามีธุระจะให้ช่วยทำ แต่ริคุปฏิเสธแล้วบอกว่าเขาไม่เชื่อใจโจชัว โจชัวบอกว่าเขากำลังตามหาไรม์ เธอเป็นกุญแจไปสู่ Portal แล้วอีกด้านหนึ่งนั้น เราอาจได้เจอโซระก็ได้ ริคุตกใจที่โจชัวรู้จักโซระ โจชัวบอกว่าเขาไม่รู้หรอกว่าโซระอยู่ที่ไหน แต่ถ้าไม่ได้อยู่ในโลกฟากนี้ ก็น่าจะอยู่อีกฟากหนึ่ง ตรรกะง่ายๆ
- ริคุถามโจชัวว่าทำไมดรีมอีทเตอร์ไม่โจมตีโจชัวเลย? โจชัวบอกว่าตัวกินฝัน มันก็จะไม่ไล่ตามใครนอกจากคนช่างฝัน ซึ่งก็น่าขำเนอะ ทั้งที่ฉันมีความฝันอยู่เยอะแยะเต็มไปหมดแท้ๆ (จริงๆ โจชัวมันยึดถือความเป็นจริงมากกว่าใครๆ มองเห็นความจริงมากกว่าใครๆ จนไม่เชื่อในอนาคตของผู้อื่น)
- ริคุบอกว่าแต่พวกมันโจมตีเขา แปลว่าเขาเป็นคนช่างฝันงั้นเหรอ? โจชัวบอกว่ามนุษย์ทุกคน ก็เป็นคนช่างฝันด้วยกันทั้งนั้น (บอกกลายๆ ว่าตัวเขาไม่ใช่มนุษย์) ครั้งหนึ่งเขามีเพื่อนที่พูดว่าไม่เคยมีความฝันใดๆ แต่กลับกลายเป็นว่าความฝันของเขานั่นแหละ คือความฝันที่ทรงพลังที่สุด ริคุทำให้โจชัวนึกถึงเพื่อนคนนั้น โจชัวบอกว่าทำให้ความฝันของริคุเป็นรูปร่างสิ ในโลกใบนี้ ความฝันนั้นจะก่อรูปร่างเป็นดรีมอีทเตอร์ได้ ซึ่งจะกลายเป็นพวกที่ดีเลย
- บีทบอกว่าเจอโจชัวจนได้ ถ้ากำจัดนายได้ ฉันกับไรม์ก็จะได้กลับไปยังที่ๆ เคยอยู่ แต่โจชัวแย้งว่าจะให้พูดกี่ครั้งว่านายโดนพวกชุดดำหลอก จะบอกให้นะว่านายไปเป็นเพื่อนกับศัตรูของพวกเราซะแล้ว บีทบอกว่าแผนจิตวิทยาย้อนกลับของโจชัว ใช้ไม่ได้ผลกับเขาหรอก แล้วก็เรียกคุมะแพนด้าให้อัดโจชัว แต่คุมะแพนด้นดันเข้าไปหาริคุแทน
ระลึกอดีต
- นานมาแล้วในยุคของนิทานปรัมปราม โลก (พิภพ) นั้นเต็มไปด้วยแสงสว่าง ผู้คนเชื่อว่านั่นเป็นของขวัญจากพลังที่มองไม่เห็นซึ่งเรียกว่า Kingdom Hearts
- KH นั้นได้รับการปกป้องโดย X-blade ที่เป็นของคู่กัน ทำให้ไม่มีใครเคยเข้าถึงปริศนาของมัน แต่แล้วโลก (พิภพ) ก็ถูกรุกล้ำโดยหมู่คนที่ต้องการยึดครองแสงสว่างไว้เอง ความมืดแรกจึงได้กำเนิดขึ้นบนผืนปฐพี นักรบเหล่านั้นได้สร้างคีย์เบลดขึ้นเลียนแบบรูปร่างของ X-blade เดิม และต่อสู้กันเพื่อ KH เราเรียกมันว่าสงครามคีย์เบลด
- แม้ว่าสงครามนั้นได้ดับสิ้นซึ่งแสงสว่างไปจากโลก (พิภพ) ทั้งหมด แต่ความมืดก็ไม่อาจเข้าถึงแสงสว่างที่อยู่ในหัวใจของเด็กๆ ทุกคน ด้วยแสงนั้น โลก (พิภพ) จึงถูกสร้างขึ้นมาใหม่อย่างที่เรารู้กันในวันนี้ โดยมีดวงดาวเล็กๆ น้อยๆ เปล่งประกายดุจดาวอยู่บนฟากฟ้า
- ส่วน X-blade ของจริงนั้นก็ไม่รอดจากการต่อสู้ องค์ประกอบสองอย่างที่สร้างมันขึ้นมาคือความมืดและแสงสว่าง แตกกระจายเป็น 20 ชิ้น 7 แสงสว่างและ 13 ความมืด และสำหรับแหล่งกำเนิดแสงทั้งหมด KH ที่แท้จริง ก็ถูกความมืดกลืนกิน ไม่เคยถูกพบเห็นอีก ตราบใดที่มันยังอยู่ในที่แห่งนั้น กระทั่งโลกที่สว่างที่สุด ก็ยังมีมุมมืดเสมอ (แสดงว่าสมัยก่อนตอนที่มี KH อยู่ โลกก็สว่างจ้าหมด ไม่มีมุมมืดเลย) แล้วแสงสว่างก็ให้กำเนิดความมืด ความมืดก็ดึงดูดซึ่งแสงสว่าง ด้วยเหตุนี้ บางคนจึงตัดสินใจใช้คีย์เบลดอาวุธที่ถูกออกแบบมาเพื่อพิชิตแสงสว่าง ในการที่จะปกป้องแสงสว่างแทน นั่นคือเรื่องราวของผู้ใช้คีย์เบลดกลุ่มแรก
เมืองเทรเวิร์ส
- โซระสงสัยว่าเนกุกับชายชุดดำตกลงอะไรกัน ทั้งสองไม่น่าจะเป็นพวกเดียวกัน ตอนนี้ยังหาคู่หูของเนกุไม่เจอเลย ไปหาหน่อยดีกว่า
- โซระเจอไรม์ โซระถามว่าไรม์เป็นคู่หูของเนกุใช่มั้ย แต่ไรม์ไม่รู้เหมือนกัน เธอสูญเสียความทรงจำ ไรม์คิดว่าถ้ามีอะไรมากระตุ้นเดี๋ยวก็คงจำได้เอง เลยไม่กังวลอะไร โซระคิดว่าเนกุคงช่วยกระตุ้นความทรงจำให้ไรม์ได้
- ด้านริคุเจอก็ชิกิโดนดรีมอีทเตอร์ไล่ตาม ก็เลยเข้าไปช่วย พอช่วยเสร็จแล้วชิกิก็ขอบคุณ พร้อมถามชื่อ
ริคุก็บอกชื่อแล้วก็เดินจากไปแบบไม่สนใจ ชิกิเลยแซวว่าคุยกับผู้หญิงแบบนี้ได้ยังไง ริคุบอกว่าเขาก็วางตัวไม่ถูกเหมือนกัน ขอโทษที ชิกิรีบกลับบ้านดีกว่านะ ที่นี่อันตราย ชิกิบอกว่าก็ถ้ามันอันตรายแล้วริคุจะทิ้งเธอไว้ที่นี่ได้ยังไง ริคุต้องเป็นอัศวินปกป้องเธอสิ ริคุเลยยิ่งตาเหลือ ทำตัวไม่ถูก ชิกิเลยทำหน้าเบื่อๆ แล้วบอกว่าเธอล้อเล่น ริคุท่าจะเป็นเอามากนะเนี่ยถึงจริงจังขนาดนี้ ทำให้ชิกินึกถึงใครบางคน (เนกุตอนที่เดินหนีชิกิไปแบบไม่สนใจ)
ริคุก็บอกชื่อแล้วก็เดินจากไปแบบไม่สนใจ ชิกิเลยแซวว่าคุยกับผู้หญิงแบบนี้ได้ยังไง ริคุบอกว่าเขาก็วางตัวไม่ถูกเหมือนกัน ขอโทษที ชิกิรีบกลับบ้านดีกว่านะ ที่นี่อันตราย ชิกิบอกว่าก็ถ้ามันอันตรายแล้วริคุจะทิ้งเธอไว้ที่นี่ได้ยังไง ริคุต้องเป็นอัศวินปกป้องเธอสิ ริคุเลยยิ่งตาเหลือ ทำตัวไม่ถูก ชิกิเลยทำหน้าเบื่อๆ แล้วบอกว่าเธอล้อเล่น ริคุท่าจะเป็นเอามากนะเนี่ยถึงจริงจังขนาดนี้ ทำให้ชิกินึกถึงใครบางคน (เนกุตอนที่เดินหนีชิกิไปแบบไม่สนใจ)
- พอไปถึงด้านในสุด ชิกิก็บอกให้ตามมาทางนี้ แล้วก็วิ่งนำไป แต่พอริคุไล่ตามไปกลับได้ยินเสียงชิกิร้อง
แล้วก็เจอชายชุดดำที่เหยียบตุ๊กตาเหมียวอยู่ ไม่เจอชิกิ ชายชุดดำถามริคุว่านายมาที่นี่ได้ยังไง ตั้งใจหรือบังเอิญมา? นายไม่สามารถควบคุมสิ่งที่นายไม่รู้ได้หรอกนะ ความฝันที่ไม่มีวันตื่นขึ้นได้นี้จะเป็นคุกให้แก่ร่อนเร่ไปชั่วนิรันดร์
แล้วก็เจอชายชุดดำที่เหยียบตุ๊กตาเหมียวอยู่ ไม่เจอชิกิ ชายชุดดำถามริคุว่านายมาที่นี่ได้ยังไง ตั้งใจหรือบังเอิญมา? นายไม่สามารถควบคุมสิ่งที่นายไม่รู้ได้หรอกนะ ความฝันที่ไม่มีวันตื่นขึ้นได้นี้จะเป็นคุกให้แก่ร่อนเร่ไปชั่วนิรันดร์
- บีทบอกว่าอย่าไปฟังมัน ชิกิปลอดภัยดี ชิกิเล่าให้ฟังแล้วว่าคนชุดดำสัญญาว่าจะส่งชิกิกลับโลก แต่ต้องพาริคุมาที่นี่ก่อน บีทบอกว่านี่มันไม่เหมือนเป็นภารกิจเลย มันคงไม่ใช่ยมทูตแน่ แล้วคนชุดดำก็เรียกดรีมอีทเตอร์ออกมา ริคุเลยตามไปกำจัด แต่ก่อนนั้นก็ฝากให้บีทดูแลชิกิด้วย
- พอกำจัดได้แล้ว มันก็แตกเป็นเสี่ยงๆ กระจายเป็นชิ้นส่วนความฝัน เผยให้เห็นเนกุ ไรม์ โจชัว ที่จับต้องไม่ได้
- ด้านโซระก็เจอเนกุอีกครั้ง เนกุถามว่าโซระยังเชื่อใจเขาอีกหรอ ทั้งที่เขาหลอกโซระ ชายชุดดำได้บอกเนกุไว้ว่าถ้าพาโซระมาให้ เขาจะส่งเนกุกับคู่หูกลับบ้านให้ได้
- เนกุขอโทษโซระ แต่โซระบอกว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก พอถึงเวลาคับขันเนกุก็ยังช่วยโซระเอาไว้เลย แล้วอีกอย่างคือพวกเราเป็นเพื่อนกันนะ เนกุได้ยินก็อึ้งแต่ก็ยิ้มดีใจออกมา
- โซระถามว่าไรม์เป็นคู่หูของเนกุรึเปล่า แต่เนกุบอกว่าไม่ใช่ แล้วไรม์ก็แว้บหายไปทันที ชายชุดดำโผล่มา เนกุจะเข้าไปโจมตีมัน แต่เจอมันซัดกระเด็น ชายชุดดำเรียกดรีมอีทเตอร์ตัวใหญ่ออกมา
- พอกำจัดได้แล้ว มันก็แตกเป็นเสี่ยงๆ กระจายเป็นชิ้นส่วนความฝัน เผยให้เห็นชิกิกับริคุ แล้วช่องวาร์ปก็โผล่มาพร้อมโจชัว โซระถามเนกุว่ารู้จักคนๆ นี้มั้ย เนกุก็ตอบว่ารู้จัก โจชัวเป็น...... เพื่อน (อึกอักที่จะพูด)
- โซระถามว่าโจชัวเป็นคนพาไรม์ไปหลบเหรอ แล้วรู้จักโซระได้ยังไง? โจชัวตอบว่าความฝันของไรม์เป็น Portral สำหรับเขา พูดอีกนัยหนึ่งคือความฝันของไรม์เป็นประตูเชื่อมระหว่างโลก แล้วเมืองนี้ก็มีความลับอยู่ว่ามันจะปรากฏขึ้นเมื่อมีคนต้องการที่พักพิงเท่านั้น เขาคงไม่พูดถึงรายละเอียด ทว่าตอนนี้เมืองนี้มันสร้างขึ้นจากความฝันของเขา เขาย่อมรู้จักโซระ เพราะเขาเป็นคนนึกฝันโซระขึ้นมา (dream you up) แล้วก็รู้จักริคุด้วย
- โจชัวบอกว่าริคุอยู่ในตำแหน่งภาพที่เห็น ในอีกหนึ่งมโนภาพของโลกใบนี้ โซระถามว่าเขาใช้ Portral ของโจชัวไปยังโลกอีกฟากได้มั้ย? โจชัวบอกว่าไม่ได้ เพราะ Portral ของเขาเปิดให้แก่คนที่มีความฝันร่วมกับไรม์เท่านั้น ส่วนที่ว่าทำไมโลกถึงแบ่งเป็น 2 ฟากได้นั้น โซระต้องไปถามคนชุดดำเอาเอง
- โจชัวบอกว่า ในโลกของพวกเนกุนั้น เกิดอะไรบางอย่างขึ้นทำให้พวกเนกุหายไป เพื่อไม่ให้พวกเนกุหายไปอย่างถาวร โจชัวจึงรวบรวมเศษเสี้ยวความฝันสุดท้ายของพวกเนกุ แล้วหาที่ลี้ภัยให้ แล้วโลกนี้ก็ปรากฏขึ้นตอบรับคำขอของเขา จากนั้นความฝันของไรม์ก็พาพวกเขามาถึงโลกนี้
- ณ โลกแห่งนี้ โจชัวคิดว่าคงมีโอกาสที่ความฝันเหล่านั้นจะทำให้พวกเขากลับมาเต็มสมบูรณ์อีกครั้ง แต่เขาก็ต้องแปลกใจที่ความฝันเหล่านั้นก่อตัวเป็นรูปร่างได้ในโลกใบนี้ ด้วยการเชื่อมโยงชิ้นส่วนความฝันเข้าด้วยกัน บางทีเขาคงทำให้พวกเนกุคืนชีพได้อีกครั้ง บางทีเขาคงให้ชีวิตใหม่กับพวกเขาได้ ริคุบอกว่ามันไม่ง่ายแบบนั้นหรอก แต่โจชัวบอกว่าทำไมจะไม่ได้ล่ะ สำหรับตัวเราเพียงคนเดียวแล้ว เราอาจจะไม่มีตัวตน แต่เมื่อคนอื่นมองเห็นเรา นั่นต่างหากที่เป็นวินาทีที่เราเริ่มมีตัวตนขึ้นมา สิ่งที่พวกเขาต้องการ จึงเป็นใครสักคนที่จะมองเห็นพวกเขา เชื่อมโยงกับพวกเขา แล้วโซระกับริคุก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมาได้
- โซระกับริคุถามขึ้นพร้อมกันว่า โจชัว นายเป็นใครกันแน่ โจชัวหัวเราะ แล้วบอกว่า... ก็เป็นเพื่อนไง ก่อนจะสยายปีกออกแล้วบินหายลับฟ้าไป
ระลึกอดีต
- เยนซิดบอกว่าความฝันแต่ละอันนั้นเชื่อมโยงถึงกัน นั่นแปลว่าเราต้องเลือกว่าเราจะเริ่มเข้าไปในโลกที่หลับใหลใบไหน
- เยนซิดบอกว่าจะส่งพวกโซระกลับไปยังเกาะแห่งชะตากรรมช่วงก่อนที่จะถูกความมืดกลืนกินและตกสู่การหลับใหล (ส่งแบบย้อนเวลา? time travel?) เมื่อเข้าสู่ความฝันแล้ว ก็ปล่อยให้มันพาไปสู่โลกแห่งการหลับใหล ในเมื่อมีแสงสว่างบริสุทธิ์ทั้ง 7 แล้ว ก็มีรูกุญแจแห่งการหลับใหลทั้ง 7 อยู่เช่นกัน เมื่อปลดล็อคมันได้ พวกเจ้าก็จะได้รับพลังใหม่ พร้อมทั้งปลดปล่อยโลกจากการหลับใหล ทำหน้าที่นี้ให้สำเร็จแล้วกลับมาอย่างปลอดภัย แล้วเยนซิดจะแต่งตั้งให้พวกเจ้าเป็นมาสเตอร์ที่แท้จริง
(ต่อตอนหน้า)
-----------------------------------------------------------------------------------------
อธิบายศัพท์ในเกม
คีย์เบลด
คีย์เบลด
- อาวุธทรงกุญแจที่เล่าขานกันว่าสร้างโดนมนุษย์มาตั้งแต่ยุคแห่งนิทานปรัมปรา ไม่มีทฤษฎีที่กล่าวถึงต้นกำเนิดของมันในแบบอื่นๆ
- คีย์เบลดทั้งหมดมีด้วยกัน 3 ประเภท คือแสงสว่าง ความมืด และหัวใจ สองประเภทหลังนั้นเป็นแบบพิเศษ คีย์เบลดส่วนใหญ่รวมทั้งของโซระและริคุเป็นคีย์เบลดแห่งแสง
- หัวใจนั้นต้องผ่านการพิสูจน์ทดสอบคุณสมบัติมาก่อน คีย์เบลดถึงจะปรากฏขึ้นในกำมือ
- ไม่มีกลอนใดๆ ที่คีย์เบลดปลดไม่ได้ พวกที่ไม่ได้อยู่ฝ่ายแสงสว่างก็ต่อกรไม่ได้เช่นกัน
- พวงกุญแจแบบพิเศษ จะทำให้รูปร่างของคีย์เบลดและประสิทธิภาพของมันเปลี่ยนไป
คีย์เบลดมาสเตอร์
- ผู้พิทักษ์สมดุลระหว่างแสงสว่างและความมืด
- พวกเขาจะทำพิธีสืบทอดเลือกผู้สืบทอดคีย์เบลดรุ่นต่อไป แต่ก่อนหน้านั้นก้จะฝึกฝนร่างกายและหล่อหลวมหัวใจของผู้ที่มีคุณสมบัติให้พร้อมเพื่อที่สักวันพวกเขาจะกลายเป็นคีย์เบลดมาสเตอร์
- เฉพาะคีย์เบลดมาสเตอร์เท่านั้นที่จะสามารถให้แต่งตั้งความเป็นมาสเตอร์และพลังให้แก่คนรุ่นต่อไปได้ พวกเขามักจะเลือกด้วยการทดสอบความเป็นมาสเตอร์
- ในหมู่คีย์เบลดมาสเตอร์อันมากมายนั้น จะมีผู้สืบทอดที่แท้จริงเพียงคนเดียวที่ได้รับมอบหมายให้พิทักษ์ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่เรียกว่า Land of Departure
มาสเตอร์เซอานอร์ท
- ว่ากันว่าเป็นคีย์เบลดมาสเตอร์ที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ และสนับสนุนให้มีโลกที่แสงสว่างและความมืดดำรงอยู่อย่างเท่าเทียมกัน
- ด้วยความกระหายรู้ เขายอมให้หัวใจของเขาจำนนต่อความมืด (ตั้งแต่ยังไม่ย้ายหัวใจ)
- ขณะที่เขาพยายามก่อสงครามคีย์เบลดขึ้นอีกครั้ง ก็ถูกขัดขวางไว้โดยผู้ใช้คีย์เบลดรุ่นเยาว์ 3 คน หลังจากนั้นดูเหมือนว่าร่างกายของเขาจะพินาศไป
- ทว่าคีย์เบลดมาสเตอร์นั้น มีพลังในการถอดหัวใจแล้วย้ายมันไปสู่ภาชนะอื่น มาสเตอร์เซอานอร์ทได้ใช้พลังนี้สร้างตัวตนขึ้นมามากมายปะทะกับโซระ
สงครามคีย์เบลด
- สงครามโบราณที่อยู่ในนิทานปรัมปรา เกิดขึ้น ณ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เรียกว่า KH ต้นกำเนิดแสงทั้งมวล
- ผู้ใช้คีย์เบลดทั้งฝั่งแสงสว่างและความมืด ต่างแข่งขันกันเพื่อแย่งชิง KH ส่งผลให้แสงของโลกทั้งหมดหายไป
- ว่ากันว่าโลกที่กระจัดกระจายที่พวกเรารู้จักกันทุกวันนี้ เหลือรอดมาจากสงครามนั้นได้ก็เพราะประกายแสงวาบสุดท้ายในหัวใจของเด็กๆ
ฮาร์ทเลส
- ร่างชีวิตของความมืดในหัวใจและความมืดของโลกที่มีอยู่มาตั้งแต่แรก ถึงแม้มันจะมีจุดกำเนิดมาจากหัวใจ แต่มันไม่มีหัวใจของมันเอง
- มันจะตามล่าหัวใจโดยสัญชาตญาณ แล้วแย่งชิงมันมา
- พวกแบบ Pureblood จะไม่มีผู้นำ และไม่มีการปกครองกัน
- ส่วนพวกแบบ Emeblem นั้นถูกสร้างขึ้นโดยเซอานอร์ท (อันเซม) และมีพฤติกรรมแบบเดียวกับ Pureblood
Kingdom Hearts
- ตามตำนาน ว่ากันว่าแหล่งกำเนิดแสงสว่างทั้งหมดที่แท้จริงคือ KH
- เซอานอร์ทได้รวบรวมหัวใจจำนานมากสร้าง KH ขึ้นมา 2 อัน หนึ่งนั้นสร้างมาจากหัวใจของโลกต่างๆ และอีกหนึ่งนั้นสร้างจากหัวใจของผู้คน
- KH ที่สร้างจากหัวใจของโลกต่างๆ นั้นมีประตูที่เชื่อมไปสู่ Realm of Darkness ซึ่งไม่อาจหยั่งลึกถึงก้นบึ้งแห่งความมืดได้
- KH ที่สร้างจากหัวใจของผู้คน เชื่อกันว่ามีพลังในการเติมเต็มคนที่สูญเสียหัวใจไป
X-blade
- หาก KH คือกลอน ดาบเล่มนี้ก็คือกุญแจปลดล็อค
- ว่ากันว่าถ้าไม่มี X-blade สงครามคีย์เบลดก็อาจไม่เกิดขึ้น เพราะคนเราไม่สามารถครอบครอบสิ่งที่หาไม่เจอหรือปลดล็อคไม่ได้
- ดาบเล่มนี้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างคีย์เบลดของมนุษย์
- ตัว X นั้นสามารถอ่านว่า "คี" และ "ไค" เป็นสัญลักษณ์แทนการขัดกันระหว่างแสงสว่างและความมืด
- X-blade สามารถสร้างได้จากการปะทะกันระหว่างพลังที่ยิ่งใหญ่สองขั้ว (แบบเทียมที่เซอานอร์ทสร้างในภาค BBS)
- เชื่อกันว่าตราสัญลักษณ์แห่งความขัดขืน ไม่ยอมรับ ก็มาจาก X
Post a Comment