สรุปบทสัมภาษณ์หลักจากหนังสือ KH -358/2 Days- Ultimania
(เขียนขึ้นเมื่อ 23/07/2009)
ขอสรุปให้ฟังละกันครับ
- ทั้งภาค 358 BBS และ Coded นั้นเป็นภาคที่เปิดเผยสู่สาธารณะในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วที่มาของทั้ง 3 ภาคนั้นแตกต่างกัน อย่าง BBS ก็เป็นโปรเจคท์ที่ทาง SQEX คิดขึ้นมาเอง ส่วน 358 นี่ได้รับการเรียกร้องมาจากทาง Nintendo ขณะที่ภาค Coded ก็ได้รับการชี้นำมาจากทาง Disney
- ภาค 358 เป็นโปรเจคท์ที่เริ่มเดินหน้าก่อนอีกสองภาค โดยก่อนที่เครื่อง NDS จะวางจำหน่ายนั้นก็มีเสียงเรียกร้องให้ทำ KH ลงบน NDS ซึ่งทีมงานพอได้ฟังสเปคฮาร์ดแวร์ของเครื่องแล้วก็มึน เพราะไม่เคยมีเครื่องเกมไหนมาก่อนที่มี 2 หน้าจอ แล้วไม่รู้ว่าจะเอาจุดนี้มาประยุกต์ใช้ให้ดีได้อย่างไร ก็เลยไม่ได้เริ่มทำภาค 358 ขึ้นมาในทันที ระหว่างนั้นพวกเขาก็อยากทดลองสร้างเกมใหม่ขึ้นมา เกมที่จะเอาฟังค์ชั่นการทำงานของ NDS ออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งนั่นก็เป็นที่มาของเกม WEWY นั่นเอง
- คอนเซปต์แรกที่อยากจะทำให้สำเร็จใน 358 ก็คือระบบ multiplayer ตอนแรกพอดูสเปคของเครื่องแล้วก็กะจะสร้างเกมนี้ให้เป็น 2D แบบภาค CoM หรือแบบเกม WEWY แต่ไปๆ มาๆ พอเห็นว่ากระแสของตลาดมันเปลี่ยนไปแล้ว ผู้เล่นต้องการเกมที่เป็นเกมที่สมจริงสมจังมากขึ้น ก็เลยลองให้ทาง h.a.n.d. ทำเกมออกมาเป็น 3D เพื่อดูว่ามันจะเป็นไงบ้าง พอเห็นว่ามันก็โอเค ก็เลยทำเป็น KH แบบที่เป็น KH จริงๆ อย่างที่เห็น
- หลังจากสร้าง Dissidia ที่เป็นการรวมเอาตัวละครจาก FF มาฟาดฟันกันขึ้นมา ก็คิดว่าระบบ Multiplayer ของภาค 358 ก็ควรมีตัวละครให้ใช้หลายๆ ตัวแบบนั้นบ้าง แต่ครั้นจะเอาตัวละครของ Disney มาสู้กันเอง มันก็คงไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่ จะให้เอาตัวละครจาก FF มาใช้ก็คงไม่ใช่เรื่อง สุดท้ายก็เลยกำหนดให้เป็นการเอาตัวละครประเภท Original Character อย่างพวกจูซังคิคัง มาให้เพื่อนๆ ได้ใช้สู้กันนั่นเอง
- ตอนแรกที่ไปบอก Disney ว่าจะขอเอาโดนัลด์กับกู๊ฟฟี่ไปแจมใน Multiplayer ด้วย ก็ไม่คิดว่าทาง Disney จะยินยอมหรอก แต่สุดท้ายพวกเขาก็ตกลงโอเค โนมุระคิดว่าถ้าไม่ได้จับตัวละครพวกนี้ไปสู้ตัวต่อตัว ทาง Disney ก็น่าจะยอมให้เอาไปใช้ได้
- ตอนคิดเนื้อเรื่องภาค 358 คุณท่านคิดว่าการที่ Roxas ออกมาจากองค์กรนั้นต้องเกิดจากอิทธิพลที่ใครซักคนมีต่อเขา ใครซักคนที่ว่าต้องเป็นคนที่มีความใกล้ชิดกับ Roxas มากๆ และคิดว่าน่าจะออกแบบให้ใครคนนั้นเป็นผู้หญิงในวัยเดียวกัน ก็เลยคิดตัวละคร Xion ขึ้นมา
- คนคิดชื่อของ Xion ก็คือคุณโทโมโกะ คาเนมากิ คนเขียนบท ซึ่งคุณโนมุระก็ชื่นชมในความหมายที่แฝงอยู่ในชื่อนั้น เฮียบอกว่าการหาใครซักคนมาช่วยเขียนบทให้ KH นั้นเป็นเรื่องยาก ยิ่งเป็นภาคต่อแล้วความยากก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ก็ต้องหาคนที่มีความเข้าใจในเนื้อเรื่องอย่างลึกซึ่งมาเท่านั้นถึงจะมาเขียนได้ ซึ่งคุณคาเนมากินั้นเคยเขียนนิยายให้กับ KH มาก่อน คุณโนมุระก็เลยลองขอให้เขามาช่วยทำตัวเกมกันจริงๆ ดู
- เฮียก็รู้ว่าองค์กร 13 (จูซังคิคัง) แต่ดันมีสมาชิก 14 คนมันเป็นเรื่องแปลก ตอนประกาศก็คิดอยู่แล้วว่ามันต้องเป็นการกวนคนดู และทำให้ผู้เล่นตื่นเต้นกันพอควร ซึ่งมันก็ได้ผลจริงๆ ในเกม Saix ก็มีบอกแล้วว่าองค์กร 13 ที่มีสมาชิก 14 คนนั้นเป็นเรื่องที่แปลกจริงๆ
- ตอนออกแบบ Xion นั้นกะว่าจะให้เธอมีความแตกต่างจากไคริแค่เรื่องสีผมเท่านั้น แต่พอวาดออกมาจริงๆ ก็จงใจให้ทรงผมต่างกันเล็กน้อย ตอนทำโมเดล 3D นั้นทั้งนามิเนะและ Xion ก็เอาโมเดลของไคริมา copy & paste แล้วแก้ทรงผมน่ะแล
- จริงๆ แล้ว Xion ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับไคริ แต่เฮียแกจงใจที่จะทำให้ผู้ชมเข้าใจผิด คิดว่า Xion เป็นโนบอดี้ของไคริ กะจะหลอกให้หัวหมุนกันไปเลยว่างั้นเถอะ แต่ก็รู้อยู่แล้วว่าคนที่ไม่ได้เล่นภาค 2 มาก่อนจะไม่เก็ต ส่วนชาติกำเนิดของเธอนั้นก็คิดตั้งแต่แรกแล้วว่าจะให้เกิดจากอะไร ซึ่งตรงนี้พระเจ้าคิดว่าคนที่เล่น KH มาก่อนคงคิดว่าสมาชิกองค์กรทั้งหมดต้องเป็นโนบอดี้ ก็เลยคิดว่าขืนให้เธอเป็นโนบอดี้อีกก็คงน่าเบื่อแย่ เลยเขียนบทให้เธอไม่ใช่โนบอดี้ซะงั้น <<< โรคจิตนี่หว่า..
- เรื่องการถอดๆ ใสๆ ฮูดของ Xion นั้นก็ตั้งใจจะทำมาตั้งแต่แรกแล้ว ซึ่งพอลองทำแล้วเอาไปโชว์ให้คนอื่นดู คนอื่นก็คิดเหมือนกันหมดว่าโปรแกรมทำงานผิดพลาด นอกจากนี้เวลาหน้าจอด้านล่างขึ้นเป็นภาพเหตุการณ์ในอดีตของโซระ แล้วมีนอยส์รบกวน พวกทีมทดสอบก็ชอบถามกันว่าบั๊คอ๊ะเปล่า?
- เกมนี้โนมุระเป็นคนเขียนบทในส่วนๆ หลักๆ ของเกมเอง โดยเขาก็เอาพล็อตที่คิดไว้มารวมกับพล็อตที่คุณคาเนมากิส่งมาให้ แล้วเขาก็เริ่มเขียนบทตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเรื่องด้วยตัวคนเดียว เบ็ดเสร็จใช้เวลาทั้งสิ้น 2 สัปดาห์ โดยระหว่างนั้นเขาไม่ได้ออกไปพบหน้าใครที่ไหนเลย มีชีวิตอยู่ด้วยการบริโภคอาหารกระป๋องเท่านั้น แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาเขียนๆๆๆ ตลอดเวลา หลังจากเขียนงานเสร็จแล้วก็เอาไปให้คุณคาเนมากิคิดบทสนทนาต่อ แล้วก็ให้คุณอิชิดะไปแก้ไขรายละเอียด ก่อนที่เฮียแกจะมาตรวจทานเองเป็นคนสุดท้าย
- เกมนี้เป็นเกมแรกที่เฮียแกได้ลงมือเขียนสคริปต์สนทนาเอง ที่ผ่านมาเฮียแกเป็นคนคิดพล็อตเรื่อง คอนเซปต์ของเรื่อง ซึ่งบางครั้งเฮียแกก็มีความคิดว่าอยากให้ตัวละครพูดแบบนู้นแบบนี้นะ แต่เนื่องจากเฮียแกไม่ใช่คนเขียนสคริปต์ ก็เลยใส่เนื้อหาตามใจแกทั้งหมดลงไปไม่ได้ แต่คราวนี้เฮียแกคิดว่าเขาน่าจะลองเขียนสคริปต์เองบ้างแล้ว ก็เลยไปทำดู ซึ่งกว่าจะทำเสร็จเลือดตาก็กระเด็นไปหมดแล้ว ว่าแล้วก็สบถกับตัวเองว่า "ไม่ทำอีกแล้วโว้ยย"
- ประโยคที่สำคัญที่สุดในเรื่องก็๋คือประโยคสุดท้ายของ Roxas บทสนทนาทั้งหมดที่ผ่านมาเป็นเพียงทางผ่านที่ช่วยกันเรียงร้อยให้คำพูดสุดท้ายนั้นมีความหมายลึกซึ้งยิ่งขึ้น เฮียคิดมาแต่แรกแล้วว่าจะให้ฉากสุดท้ายเป็น Roxas วิ่งไปยังที่เล่นประจำ ซึ่งฉากเปิดเกมของ KH2 นั้นก็จะเป็นฉากก่อนหน้าฉากสุดท้ายของภาค 358 เล็กน้อย ที่ทำแบบนี้ก็เพราะอยากจะให้มันเชื่อมต่อกันนั่นเอง
- เกมนี้มีการนำประโยคมากมายจากภาคก่อนมาใช้ซ้ำ เช่นเรื่องสัญญาที่ว่าจะไปทะเลกัน ตอนสร้างเกมก็รู้อยู่ว่าควรสร้างให้คนที่เค้าไม่เคยเล่นภาคก่อนๆ สนุกไปกับตัวเกมได้ด้วย แต่กระนั้นเฮียแกก็อยากจะใส่องค์ประกอบหลายๆ อย่างที่จะช่วยเติมเต็มจินตนาการให้กับคนที่เคยเล่นภาคก่อนๆ มาแล้ว ได้อิ่มเอมกันนั่นเอง
- พอถามว่าทำไมถึงต้องให้ไอศกรีมเกลือทะเลมีบทบาทกับเกมมากขนาดนี้ เฮียบอกว่าเกมนี้เป็นเรื่องราวของชีวิตประจำวันที่ผ่านไปแต่ละวันๆ ซึ่งจะไม่มีเหตุการณ์ดราม่าเกิดขึ้นถี่ยิบแบบภาคหลัก ก็อยากให้เป็นวันสบายๆ ที่พอแต่ละคนทำงานเสร็จแล้วก็ไปนั่งคุยกันบนยอดหอนาฬิกา แต่ถ้าวันไหนไม่มีเรื่องจะคุยแล้วจะให้ทำยังไงล่ะ จะให้ไปนั่งดูพระอาทิตย์ตกดินกันเงียบๆ ก็ไม่ใช่เรื่อง ก็เลยคิดว่าต้องให้พวกเขาไปที่นั่นเพื่อไปทานไอศกรีมด้วยกันไง
- ฉากเริ่มที่ Roxas คุยกับ Axel เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 255 คุณโนมุระต้องการเริ่มต้นเกมด้วยบทสนทนาดีๆ แต่ในช่วงแรกของเกมนั้น Roxas เค้าจะเงียบๆ ไม่พูดอะไรมาก ก็เลยต้องหยิบเอาฉากของวันที่ 255 ขึ้นมาเป็นฉากเปิดเกม ขณะเดียวกันอีกเหตุผลหนึ่งก็คือการหยิบเนื้อหาของวันหลังๆ ขึ้นมาโชว์แบบนี้จะทำให้คนที่พึ่งเคยเล่นเกิดคำถามขึ้นมาว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนู้นแบบนี้ ซึ่งเฮียแกก็อยากให้ผู้เล่นเริ่มเล่นเกมด้วยความสงสัยต่อคำถามนั่นแหละ
- พูดถึงเคล็ดลับการคิดเรื่องให้ซับซ้อนแล้ว เฮียบอกว่าตอนที่เขาเขียนพล็อต หากเขานึกภาพออกแล้วว่าฉากต่อไปมันต้องเป็นยังไง เขาก็จะพยายามเขียนพล็อตให้ฉากต่อไปมันแตกต่างจากที่คนทั่วไปจะคาดการณ์เอาได้อย่างสิ้นเชิง อย่างเรื่องของ Xion ตอนแรกก็คิดว่าถ้าแต่งเรื่องให้แท้จริงแล้วตัวเธอเป็นโนบอดี้ก็คงจะดี แต่แบบนั้นคนก็จะเดากันได้และก็คงจะน่าเบื่อแย่ ว่าแล้วเฮียก็เลยมานั่งคิดว่าถ้าเธอเป็นโนบอดี้ไม่ได้แล้วจะให้เป็นอะไรได้อีก ก็อยากให้คนเล่นได้เซอร์ไพรซ์กันมากๆ <<< จิตสุดๆ แล้ว =___="...
- ทั้งภาค 358 BBS และ Coded นั้นเป็นภาคที่เปิดเผยสู่สาธารณะในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วที่มาของทั้ง 3 ภาคนั้นแตกต่างกัน อย่าง BBS ก็เป็นโปรเจคท์ที่ทาง SQEX คิดขึ้นมาเอง ส่วน 358 นี่ได้รับการเรียกร้องมาจากทาง Nintendo ขณะที่ภาค Coded ก็ได้รับการชี้นำมาจากทาง Disney
- ภาค 358 เป็นโปรเจคท์ที่เริ่มเดินหน้าก่อนอีกสองภาค โดยก่อนที่เครื่อง NDS จะวางจำหน่ายนั้นก็มีเสียงเรียกร้องให้ทำ KH ลงบน NDS ซึ่งทีมงานพอได้ฟังสเปคฮาร์ดแวร์ของเครื่องแล้วก็มึน เพราะไม่เคยมีเครื่องเกมไหนมาก่อนที่มี 2 หน้าจอ แล้วไม่รู้ว่าจะเอาจุดนี้มาประยุกต์ใช้ให้ดีได้อย่างไร ก็เลยไม่ได้เริ่มทำภาค 358 ขึ้นมาในทันที ระหว่างนั้นพวกเขาก็อยากทดลองสร้างเกมใหม่ขึ้นมา เกมที่จะเอาฟังค์ชั่นการทำงานของ NDS ออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งนั่นก็เป็นที่มาของเกม WEWY นั่นเอง
- คอนเซปต์แรกที่อยากจะทำให้สำเร็จใน 358 ก็คือระบบ multiplayer ตอนแรกพอดูสเปคของเครื่องแล้วก็กะจะสร้างเกมนี้ให้เป็น 2D แบบภาค CoM หรือแบบเกม WEWY แต่ไปๆ มาๆ พอเห็นว่ากระแสของตลาดมันเปลี่ยนไปแล้ว ผู้เล่นต้องการเกมที่เป็นเกมที่สมจริงสมจังมากขึ้น ก็เลยลองให้ทาง h.a.n.d. ทำเกมออกมาเป็น 3D เพื่อดูว่ามันจะเป็นไงบ้าง พอเห็นว่ามันก็โอเค ก็เลยทำเป็น KH แบบที่เป็น KH จริงๆ อย่างที่เห็น
- หลังจากสร้าง Dissidia ที่เป็นการรวมเอาตัวละครจาก FF มาฟาดฟันกันขึ้นมา ก็คิดว่าระบบ Multiplayer ของภาค 358 ก็ควรมีตัวละครให้ใช้หลายๆ ตัวแบบนั้นบ้าง แต่ครั้นจะเอาตัวละครของ Disney มาสู้กันเอง มันก็คงไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่ จะให้เอาตัวละครจาก FF มาใช้ก็คงไม่ใช่เรื่อง สุดท้ายก็เลยกำหนดให้เป็นการเอาตัวละครประเภท Original Character อย่างพวกจูซังคิคัง มาให้เพื่อนๆ ได้ใช้สู้กันนั่นเอง
- ตอนแรกที่ไปบอก Disney ว่าจะขอเอาโดนัลด์กับกู๊ฟฟี่ไปแจมใน Multiplayer ด้วย ก็ไม่คิดว่าทาง Disney จะยินยอมหรอก แต่สุดท้ายพวกเขาก็ตกลงโอเค โนมุระคิดว่าถ้าไม่ได้จับตัวละครพวกนี้ไปสู้ตัวต่อตัว ทาง Disney ก็น่าจะยอมให้เอาไปใช้ได้
- ตอนคิดเนื้อเรื่องภาค 358 คุณท่านคิดว่าการที่ Roxas ออกมาจากองค์กรนั้นต้องเกิดจากอิทธิพลที่ใครซักคนมีต่อเขา ใครซักคนที่ว่าต้องเป็นคนที่มีความใกล้ชิดกับ Roxas มากๆ และคิดว่าน่าจะออกแบบให้ใครคนนั้นเป็นผู้หญิงในวัยเดียวกัน ก็เลยคิดตัวละคร Xion ขึ้นมา
- คนคิดชื่อของ Xion ก็คือคุณโทโมโกะ คาเนมากิ คนเขียนบท ซึ่งคุณโนมุระก็ชื่นชมในความหมายที่แฝงอยู่ในชื่อนั้น เฮียบอกว่าการหาใครซักคนมาช่วยเขียนบทให้ KH นั้นเป็นเรื่องยาก ยิ่งเป็นภาคต่อแล้วความยากก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ก็ต้องหาคนที่มีความเข้าใจในเนื้อเรื่องอย่างลึกซึ่งมาเท่านั้นถึงจะมาเขียนได้ ซึ่งคุณคาเนมากินั้นเคยเขียนนิยายให้กับ KH มาก่อน คุณโนมุระก็เลยลองขอให้เขามาช่วยทำตัวเกมกันจริงๆ ดู
- เฮียก็รู้ว่าองค์กร 13 (จูซังคิคัง) แต่ดันมีสมาชิก 14 คนมันเป็นเรื่องแปลก ตอนประกาศก็คิดอยู่แล้วว่ามันต้องเป็นการกวนคนดู และทำให้ผู้เล่นตื่นเต้นกันพอควร ซึ่งมันก็ได้ผลจริงๆ ในเกม Saix ก็มีบอกแล้วว่าองค์กร 13 ที่มีสมาชิก 14 คนนั้นเป็นเรื่องที่แปลกจริงๆ
- ตอนออกแบบ Xion นั้นกะว่าจะให้เธอมีความแตกต่างจากไคริแค่เรื่องสีผมเท่านั้น แต่พอวาดออกมาจริงๆ ก็จงใจให้ทรงผมต่างกันเล็กน้อย ตอนทำโมเดล 3D นั้นทั้งนามิเนะและ Xion ก็เอาโมเดลของไคริมา copy & paste แล้วแก้ทรงผมน่ะแล
- จริงๆ แล้ว Xion ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับไคริ แต่เฮียแกจงใจที่จะทำให้ผู้ชมเข้าใจผิด คิดว่า Xion เป็นโนบอดี้ของไคริ กะจะหลอกให้หัวหมุนกันไปเลยว่างั้นเถอะ แต่ก็รู้อยู่แล้วว่าคนที่ไม่ได้เล่นภาค 2 มาก่อนจะไม่เก็ต ส่วนชาติกำเนิดของเธอนั้นก็คิดตั้งแต่แรกแล้วว่าจะให้เกิดจากอะไร ซึ่งตรงนี้พระเจ้าคิดว่าคนที่เล่น KH มาก่อนคงคิดว่าสมาชิกองค์กรทั้งหมดต้องเป็นโนบอดี้ ก็เลยคิดว่าขืนให้เธอเป็นโนบอดี้อีกก็คงน่าเบื่อแย่ เลยเขียนบทให้เธอไม่ใช่โนบอดี้ซะงั้น <<< โรคจิตนี่หว่า..
- เรื่องการถอดๆ ใสๆ ฮูดของ Xion นั้นก็ตั้งใจจะทำมาตั้งแต่แรกแล้ว ซึ่งพอลองทำแล้วเอาไปโชว์ให้คนอื่นดู คนอื่นก็คิดเหมือนกันหมดว่าโปรแกรมทำงานผิดพลาด นอกจากนี้เวลาหน้าจอด้านล่างขึ้นเป็นภาพเหตุการณ์ในอดีตของโซระ แล้วมีนอยส์รบกวน พวกทีมทดสอบก็ชอบถามกันว่าบั๊คอ๊ะเปล่า?
- เกมนี้โนมุระเป็นคนเขียนบทในส่วนๆ หลักๆ ของเกมเอง โดยเขาก็เอาพล็อตที่คิดไว้มารวมกับพล็อตที่คุณคาเนมากิส่งมาให้ แล้วเขาก็เริ่มเขียนบทตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเรื่องด้วยตัวคนเดียว เบ็ดเสร็จใช้เวลาทั้งสิ้น 2 สัปดาห์ โดยระหว่างนั้นเขาไม่ได้ออกไปพบหน้าใครที่ไหนเลย มีชีวิตอยู่ด้วยการบริโภคอาหารกระป๋องเท่านั้น แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาเขียนๆๆๆ ตลอดเวลา หลังจากเขียนงานเสร็จแล้วก็เอาไปให้คุณคาเนมากิคิดบทสนทนาต่อ แล้วก็ให้คุณอิชิดะไปแก้ไขรายละเอียด ก่อนที่เฮียแกจะมาตรวจทานเองเป็นคนสุดท้าย
- เกมนี้เป็นเกมแรกที่เฮียแกได้ลงมือเขียนสคริปต์สนทนาเอง ที่ผ่านมาเฮียแกเป็นคนคิดพล็อตเรื่อง คอนเซปต์ของเรื่อง ซึ่งบางครั้งเฮียแกก็มีความคิดว่าอยากให้ตัวละครพูดแบบนู้นแบบนี้นะ แต่เนื่องจากเฮียแกไม่ใช่คนเขียนสคริปต์ ก็เลยใส่เนื้อหาตามใจแกทั้งหมดลงไปไม่ได้ แต่คราวนี้เฮียแกคิดว่าเขาน่าจะลองเขียนสคริปต์เองบ้างแล้ว ก็เลยไปทำดู ซึ่งกว่าจะทำเสร็จเลือดตาก็กระเด็นไปหมดแล้ว ว่าแล้วก็สบถกับตัวเองว่า "ไม่ทำอีกแล้วโว้ยย"
- ประโยคที่สำคัญที่สุดในเรื่องก็๋คือประโยคสุดท้ายของ Roxas บทสนทนาทั้งหมดที่ผ่านมาเป็นเพียงทางผ่านที่ช่วยกันเรียงร้อยให้คำพูดสุดท้ายนั้นมีความหมายลึกซึ้งยิ่งขึ้น เฮียคิดมาแต่แรกแล้วว่าจะให้ฉากสุดท้ายเป็น Roxas วิ่งไปยังที่เล่นประจำ ซึ่งฉากเปิดเกมของ KH2 นั้นก็จะเป็นฉากก่อนหน้าฉากสุดท้ายของภาค 358 เล็กน้อย ที่ทำแบบนี้ก็เพราะอยากจะให้มันเชื่อมต่อกันนั่นเอง
- เกมนี้มีการนำประโยคมากมายจากภาคก่อนมาใช้ซ้ำ เช่นเรื่องสัญญาที่ว่าจะไปทะเลกัน ตอนสร้างเกมก็รู้อยู่ว่าควรสร้างให้คนที่เค้าไม่เคยเล่นภาคก่อนๆ สนุกไปกับตัวเกมได้ด้วย แต่กระนั้นเฮียแกก็อยากจะใส่องค์ประกอบหลายๆ อย่างที่จะช่วยเติมเต็มจินตนาการให้กับคนที่เคยเล่นภาคก่อนๆ มาแล้ว ได้อิ่มเอมกันนั่นเอง
- พอถามว่าทำไมถึงต้องให้ไอศกรีมเกลือทะเลมีบทบาทกับเกมมากขนาดนี้ เฮียบอกว่าเกมนี้เป็นเรื่องราวของชีวิตประจำวันที่ผ่านไปแต่ละวันๆ ซึ่งจะไม่มีเหตุการณ์ดราม่าเกิดขึ้นถี่ยิบแบบภาคหลัก ก็อยากให้เป็นวันสบายๆ ที่พอแต่ละคนทำงานเสร็จแล้วก็ไปนั่งคุยกันบนยอดหอนาฬิกา แต่ถ้าวันไหนไม่มีเรื่องจะคุยแล้วจะให้ทำยังไงล่ะ จะให้ไปนั่งดูพระอาทิตย์ตกดินกันเงียบๆ ก็ไม่ใช่เรื่อง ก็เลยคิดว่าต้องให้พวกเขาไปที่นั่นเพื่อไปทานไอศกรีมด้วยกันไง
- ฉากเริ่มที่ Roxas คุยกับ Axel เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 255 คุณโนมุระต้องการเริ่มต้นเกมด้วยบทสนทนาดีๆ แต่ในช่วงแรกของเกมนั้น Roxas เค้าจะเงียบๆ ไม่พูดอะไรมาก ก็เลยต้องหยิบเอาฉากของวันที่ 255 ขึ้นมาเป็นฉากเปิดเกม ขณะเดียวกันอีกเหตุผลหนึ่งก็คือการหยิบเนื้อหาของวันหลังๆ ขึ้นมาโชว์แบบนี้จะทำให้คนที่พึ่งเคยเล่นเกิดคำถามขึ้นมาว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนู้นแบบนี้ ซึ่งเฮียแกก็อยากให้ผู้เล่นเริ่มเล่นเกมด้วยความสงสัยต่อคำถามนั่นแหละ
- พูดถึงเคล็ดลับการคิดเรื่องให้ซับซ้อนแล้ว เฮียบอกว่าตอนที่เขาเขียนพล็อต หากเขานึกภาพออกแล้วว่าฉากต่อไปมันต้องเป็นยังไง เขาก็จะพยายามเขียนพล็อตให้ฉากต่อไปมันแตกต่างจากที่คนทั่วไปจะคาดการณ์เอาได้อย่างสิ้นเชิง อย่างเรื่องของ Xion ตอนแรกก็คิดว่าถ้าแต่งเรื่องให้แท้จริงแล้วตัวเธอเป็นโนบอดี้ก็คงจะดี แต่แบบนั้นคนก็จะเดากันได้และก็คงจะน่าเบื่อแย่ ว่าแล้วเฮียก็เลยมานั่งคิดว่าถ้าเธอเป็นโนบอดี้ไม่ได้แล้วจะให้เป็นอะไรได้อีก ก็อยากให้คนเล่นได้เซอร์ไพรซ์กันมากๆ <<< จิตสุดๆ แล้ว =___="...
- การสร้างปริศนาให้ต้องไปติดตามกันในภาคต่อไป ถือเป็นเรื่องที่เป็นดาบสองคม เพราะนั่นจะทำให้คนที่เค้าไม่เคยเล่นภาคอื่นๆ มาก่อนเกิดอาการไม่เก็ตเอาได้ ตอนนี้คุถณโนมุระก็พยายามไม่ให้เกมมันเป็นแบบนั้น อย่างในภาค 358 ตอนเริ่มต้นเกมก็ให้ Roxas ไม่มีความทรงจำอยู่ เพื่อที่จะให้ผู้เล่นหน้าใหม่ได้เรียนรู้เรื่องราวของ Kingdom Hearts ไปพร้อมๆ กับ Roxas การทำภาคต่อที่ดีมันจำเป็นต้องรีเซตทุกอย่างขึ้นมาใหม่หมด ตัวอย่างเช่นว่าคุณเล่นโซระจนมีเลเวล 100 ในภาคแรกแล้ว แต่พอมาในภาค 2 ก็ต้องทำให้มันกลับมาเป็นเลเวล 1 ใหม่เพราะอะไร? เพราะมันก็คือเกมไงล่ะ? ดังนั้นในภาค CoM เค้าถึงแต่งเรื่องให้พวกโซระสูญเสียความสามารถทั้งหมดและต้องเริ่มสร้างมันขึ้นมาใหม่
- ตอนเขียนเรื่องเฮียแกได้บอกคุณคาเนมากิ และคุณอิชิดะว่าอย่าให้ Roxas เดินทางไปดาวต่างๆ ทำงาน พอเสร็จแล้วก็กลับบ้านไปแบบนั้น เราควรจะทำให้เขาได้เรียนรู้อะไรขึ้นมา หรือมีอะไรที่ต้องกลับไปคิดต่อบ้าง ซึ่งทีมงานอีกสองคนก็จะเขียนๆ บทมาแล้วคุณโนมุระก็อ่านดูแล้วให้คำแนะนำว่าควรแก้ไขอย่างไร ไอเดียหลักคือพวกองค์กรต้องไม่ทำตัวเป็นจุดสนใจ อย่าพึ่งให้ใครรู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของพวกเขา จึงต้องพยายามเขียนให้พวกจูซังคิคังช่วยกันหลบซ่อนเวลาตัวละครอื่นคุยกัน และอาจจะให้คุยกับตัวละครอื่นได้บ้างเล็กน้อย
- พอถามว่าตัวเกมไม่ค่อยมีส่วนที่เชื่อมไปยังภาค 2 อย่างเช่นเรื่องของ Xaldin กับบีสท์เลย คุณโนมุระบอกว่าไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็นแบบนั้น ตอนแรกก็อยากให้มีอะไรหลายอย่างที่สัมพันธ์กับภาค 2 การมีตัวละครอย่างพีทอยู่ก็ช่วยเสริมในส่วนนี้ได้พอควร แต่การขาดโดนัลด์กับกู๊ฟฟี่ไปมันก็ทำให้การสร้างความสัมพันธ์กับพวก Disney ยากขึ้น นอกจากนี้ตัวเกมยังมีตัวละครจาก Disney ออกมาน้อยอยู่แล้วด้วย
- สาเหตุที่ต้องสร้างเกมให้ 1 วันทำ 1 มิสชั่นก็เพราะการคำนึงถึงว่านี่มันเป็นเกมพกพา จึงต้องสร้างเนื้อหาที่สามารถเล่นจบเป็นส่วนๆ ได้อย่างรวดเร็ว ขืนให้เนื้อหาวันนึงยาวเกินไป ตาและมือของผู้เล่นมันจะล้าได้ไง
- ตอนแรกก็ว่าจะสร้างมิสชั่นให้กับวันทั้ง 358 วันอยู่ แต่คิดว่ามันคงมากเกินไปเลยกะจะลดให้เหลือแค่ 150 มิสชั่นแทน แต่พอลงมือเขียนบทดู ก็พบว่า 150 มิสชั่นมันก็ยังมากเกินไปอยู่ดี ก็เลยพยายามลดลงเท่าที่เป็นไปได้ กระทั่งตอนทำเกมเสร็จแล้วและมานั่งเล่นดู พวกเขาก็ยังรู้สึกว่ามิสชั่นมันมากเกินไปอยู่ดี เฮียแกก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าเฮียสร้างให้เกมมี 358 มิสชั่นอย่างที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก มันจะออกมาเป็นยังไงนะเนี่ย
- ระบบ Panel เป็นไอเดียที่คุณโนมุระคิดขึ้นมาเอง รวมทั้งการที่ให้ตัวละครทั้งหมดแชร์ความสามารถร่วมกันด้วย ทั้งนี้เพราะเฮียไม่อยากให้ผู้เล่นต้องมาฝึกตัวละครทุกตัวใหม่หมด ยิ่งในระบบ multiplayer ได้ออกแบบมาให้ผู้เล่นแต่ละคนไม่สามารถใช้ตัวละครซ้ำกันได้ ดังนั้นแล้วการเขียนระบบให้ตัวละครแต่ละตัวไม่ใช้ฐานความสามารถร่วมกันก็จะทำให้เกิดปัญหายุ่งยากขึ้น เพราะขืนเป็นแบบนั้นแล้วหากผู้เล่นสองรายดันฝึกตัวละครตัวเดียวกันมา ก็จะช่วยกันเล่นไม่ได้น่ะสิ
- สตาฟฟ์ฝ่ายวางแผนได้ส่งชื่ออาวุธมาประกวดกันหลายชื่อ และสำหรับชื่ออาวุธของ Luxord ก็มีส่งมาว่า "Kyuukyoku Mouson" กับ "XIII Mousou" ซึ่งคุณโนมุระก็เอาชื่อทั้ง 2 แบบมารวมกันเป็น "Kyuukyoku Mousou XIII" จึงเกิดเป็นชื่ออาวุธของ Luxord ซึ่งก็มีทีมงานที่ดูแลการสร้างเกมเวอร์ชั่นต่างประกาศบอกว่าชื่อนั้นมันแปลได้ว่า Final Fantasy XIII นะ แบบนั้นมันจะโอเคเหรอ? ซึ่งเฮียแกจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าจะบอกไปว่าไม่ดีแฮะ แต่ก็เอามาใช้แล้ว
- คำถามที่ว่า 358/2 days หมายถึงอะไร เป็นคำถามที่คุณโนมุระได้ยินมาจนเบื่อ ได้ยินทุกครั้งที่มีการสัมภาษณ์ ซึ่งคำตอบนั้นมันก็มีอยู่ แต่เขาคิดว่าถ้าไม่ตอบมันจะดีกว่า ก็เลยขอใบ้ว่า /2 หรือในภาษาอังกฤษที่อ่านว่า over two นั้นมันไม่ได้แปลว่าเกิน 2 ส่วน 358 วันนั้นหมายถึงช่วงเวลาร่วมกันของคนสองคน ดังนั้น /2 จึงหมายถึงคนสองคนนั้นนั่นเอง หลังจากที่คุณเล่นเกมจนจบแล้ว คุณคงเปลี่ยนความคิดได้เองว่าแท้จริงแล้ว /2 ดังกล่าวหมายความว่าอะไรกันแน่
- ตอนเขียนเรื่องเฮียแกได้บอกคุณคาเนมากิ และคุณอิชิดะว่าอย่าให้ Roxas เดินทางไปดาวต่างๆ ทำงาน พอเสร็จแล้วก็กลับบ้านไปแบบนั้น เราควรจะทำให้เขาได้เรียนรู้อะไรขึ้นมา หรือมีอะไรที่ต้องกลับไปคิดต่อบ้าง ซึ่งทีมงานอีกสองคนก็จะเขียนๆ บทมาแล้วคุณโนมุระก็อ่านดูแล้วให้คำแนะนำว่าควรแก้ไขอย่างไร ไอเดียหลักคือพวกองค์กรต้องไม่ทำตัวเป็นจุดสนใจ อย่าพึ่งให้ใครรู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของพวกเขา จึงต้องพยายามเขียนให้พวกจูซังคิคังช่วยกันหลบซ่อนเวลาตัวละครอื่นคุยกัน และอาจจะให้คุยกับตัวละครอื่นได้บ้างเล็กน้อย
- พอถามว่าตัวเกมไม่ค่อยมีส่วนที่เชื่อมไปยังภาค 2 อย่างเช่นเรื่องของ Xaldin กับบีสท์เลย คุณโนมุระบอกว่าไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็นแบบนั้น ตอนแรกก็อยากให้มีอะไรหลายอย่างที่สัมพันธ์กับภาค 2 การมีตัวละครอย่างพีทอยู่ก็ช่วยเสริมในส่วนนี้ได้พอควร แต่การขาดโดนัลด์กับกู๊ฟฟี่ไปมันก็ทำให้การสร้างความสัมพันธ์กับพวก Disney ยากขึ้น นอกจากนี้ตัวเกมยังมีตัวละครจาก Disney ออกมาน้อยอยู่แล้วด้วย
- สาเหตุที่ต้องสร้างเกมให้ 1 วันทำ 1 มิสชั่นก็เพราะการคำนึงถึงว่านี่มันเป็นเกมพกพา จึงต้องสร้างเนื้อหาที่สามารถเล่นจบเป็นส่วนๆ ได้อย่างรวดเร็ว ขืนให้เนื้อหาวันนึงยาวเกินไป ตาและมือของผู้เล่นมันจะล้าได้ไง
- ตอนแรกก็ว่าจะสร้างมิสชั่นให้กับวันทั้ง 358 วันอยู่ แต่คิดว่ามันคงมากเกินไปเลยกะจะลดให้เหลือแค่ 150 มิสชั่นแทน แต่พอลงมือเขียนบทดู ก็พบว่า 150 มิสชั่นมันก็ยังมากเกินไปอยู่ดี ก็เลยพยายามลดลงเท่าที่เป็นไปได้ กระทั่งตอนทำเกมเสร็จแล้วและมานั่งเล่นดู พวกเขาก็ยังรู้สึกว่ามิสชั่นมันมากเกินไปอยู่ดี เฮียแกก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าเฮียสร้างให้เกมมี 358 มิสชั่นอย่างที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก มันจะออกมาเป็นยังไงนะเนี่ย
- ระบบ Panel เป็นไอเดียที่คุณโนมุระคิดขึ้นมาเอง รวมทั้งการที่ให้ตัวละครทั้งหมดแชร์ความสามารถร่วมกันด้วย ทั้งนี้เพราะเฮียไม่อยากให้ผู้เล่นต้องมาฝึกตัวละครทุกตัวใหม่หมด ยิ่งในระบบ multiplayer ได้ออกแบบมาให้ผู้เล่นแต่ละคนไม่สามารถใช้ตัวละครซ้ำกันได้ ดังนั้นแล้วการเขียนระบบให้ตัวละครแต่ละตัวไม่ใช้ฐานความสามารถร่วมกันก็จะทำให้เกิดปัญหายุ่งยากขึ้น เพราะขืนเป็นแบบนั้นแล้วหากผู้เล่นสองรายดันฝึกตัวละครตัวเดียวกันมา ก็จะช่วยกันเล่นไม่ได้น่ะสิ
- สตาฟฟ์ฝ่ายวางแผนได้ส่งชื่ออาวุธมาประกวดกันหลายชื่อ และสำหรับชื่ออาวุธของ Luxord ก็มีส่งมาว่า "Kyuukyoku Mouson" กับ "XIII Mousou" ซึ่งคุณโนมุระก็เอาชื่อทั้ง 2 แบบมารวมกันเป็น "Kyuukyoku Mousou XIII" จึงเกิดเป็นชื่ออาวุธของ Luxord ซึ่งก็มีทีมงานที่ดูแลการสร้างเกมเวอร์ชั่นต่างประกาศบอกว่าชื่อนั้นมันแปลได้ว่า Final Fantasy XIII นะ แบบนั้นมันจะโอเคเหรอ? ซึ่งเฮียแกจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าจะบอกไปว่าไม่ดีแฮะ แต่ก็เอามาใช้แล้ว
- คำถามที่ว่า 358/2 days หมายถึงอะไร เป็นคำถามที่คุณโนมุระได้ยินมาจนเบื่อ ได้ยินทุกครั้งที่มีการสัมภาษณ์ ซึ่งคำตอบนั้นมันก็มีอยู่ แต่เขาคิดว่าถ้าไม่ตอบมันจะดีกว่า ก็เลยขอใบ้ว่า /2 หรือในภาษาอังกฤษที่อ่านว่า over two นั้นมันไม่ได้แปลว่าเกิน 2 ส่วน 358 วันนั้นหมายถึงช่วงเวลาร่วมกันของคนสองคน ดังนั้น /2 จึงหมายถึงคนสองคนนั้นนั่นเอง หลังจากที่คุณเล่นเกมจนจบแล้ว คุณคงเปลี่ยนความคิดได้เองว่าแท้จริงแล้ว /2 ดังกล่าวหมายความว่าอะไรกันแน่
(ตรงนี้ผมคิดว่าพระเจ้าต้องการบอกว่าตอนแรกคนส่วนใหญ่คิดว่า /2 นั้นหมายถึง Roxas กับ Axel แต่คนที่ไม่ใช่แม่ยกที่เชียร์คู่ใดคู่หนึ่งจนออกนอกหน้า พอเล่นจนจบก็คงรู้ได้แหละว่ามันหมายถึง Roxas กับ Xion)
(ขอแทรกเสริมว่า... ในตอนท้ายเกม Roxas บอกว่าไว้เรา 3 คนไปทานไอศกรีมด้วยกันอีกนะ ด้าน Xion ตอนแรกจะพูดว่าเธอดีใจที่ได้พบกับ Roxas แต่ก็ยั้งปากไว้แล้วพูดใหม่ว่าเธอดีใจที่ได้พบกับ Roxas และ Axel ... มีแต่เจ้า Axel คนเดียวที่ตอนแรกจะเขียนลงในบันทึกว่าพวกเรา 3 คนจะได้ไปทานไอศกรีมด้วยกันอีกมั้ย? แต่ก็ดันเขียนแก้เป็น เราสองคน ไว้ไปทานไอศกรีมด้วยกันอีกนะ แปลกแยกอยู่คนเดียว...)
- คนที่เล่นภาค 2 มาก่อนคงเดาจากชื่อเกมได้ว่าเกมนี้จะมีการนับถอยหลังไปเรื่อยๆ จนถึงวันสุดท้ายของปี และคงเข้าใจได้เองว่าทำไมมันถึงต้องขาดไป 7 วันก่อนจะครบ 1 ปี และคงเข้าใจได้ว่าชื่อเกมมันหมายถึง "ปีที่ขาดไป 1 สัปดาห์" และ "เรื่องราวของคนสองคน" แต่นั่นใช่คำตอบที่แท้จริงแล้วหรือยัง? อาเฮียตั้งชื่อเกมไว้แบบนี้ และไม่ยอมเฉลยคำตอบที่แท้จริงออกมา ก็เพราะอยากให้ผู้เล่นที่เล่นเกมจบแล้ว ได้คิดต่อไปว่าความหมายที่แท้จริงของชื่อเกมคืออะไรกันแน่
- สำหรับ Coded นั้นจะมีโครงสร้างที่แปลกอยู่ มิคกี้และคนอื่นๆ กำลังจับจ้องไปที่โลกของข้อมูลผ่านทางหน้าจอคอมพิวเจอร์ และผู้เล่นก็ต้องบังคับโซระที่อยู่ในโลกข้อมูลนั้น เนื้อเรื่องของเกมจะดำเนินควบคู่กันไประหว่างโลกแห่งความจริงกับโลกของข้อมูล แต่ละตอนจะเริ่มต้นด้วยเรื่องของมิคกี้ ปริศนาจะคลี่คลายในโลกข้อมูล และจะกลับมาจบลงที่เรื่องของมิคกี้ อารมณ์เหมือนประมาณคนดูทีวีซีรียส์อยู่
- เนื้อเรื่องตอนแรกจะเป็นเหมือนติวโตเรียล ในตอนที่สองถึงจะเข้าเนื้อเรื่องจริงๆ ทีมงานก็หวังว่าจะเริ่มเปิดบริการเกมนี้ในเดือนมิถุนายน และจะเพิ่มเนื้อเรื่องของโลกใหม่เข้าไปทุกๆ เดือนจนกระทั่งถึงสิ้นปี 2009 นี้
- สำหรับภาค BBS จะเป็นภาคที่สำคัญที่รวบรวมเอาสิ่งสำคัญทุกอย่างไว้ในภาคนี้ จะมีตัวละครหลัก 3 คน เนื้อเรื่องจะยิ่งใหญ่ดุจดั่ง Final Fantasy ภาคนึงเลยทีเดียว และจะมีความเกี่ยวข้องกับภาค 358 ด้วย ปริศนาและสิ่งลี้ลับมากมายในภาคก่อนๆ จะได้รับคำตอบในภาค BBS นี้ ขณะเดียวกันพวก Original Character ตัวเก่าๆ จากภาคก่อนๆ จะโผล่ออกมาค่อนข้างน้อย
- ถึงบอกว่าปริศนาของภาคก่อนๆ จะคลี่คลายแต่ตัวเกมก็จะทิ้งปริศนาให้คิดต่อว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ภาคนี้เป็นภาคที่เกิดก่อนภาคอื่นๆ ดังนั้นเนื้อเรื่องจะเชื่อมโยงกับ KH ภาคแรกอย่างแน่นอน สำหรับตัวละครหลักทั้งสามตัวนั้น เมื่อเนื้อเรื่องของเกมจบลงก็จะแสดงให้เห็นเองว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา ทำไมพวกเขาถึงไม่ได้ไปปรากฏตัวในภาคอื่นๆ และนั่นก็จะทำให้คุณยิ่งฉงนหนักกว่าเดิม
- พอถามว่าจะมีเกมใหม่ที่เกี่ยวข้องกับภาค BBS และภาค 1 มั้ย? จะใช่ภาค 3 รึเปล่า? คุณโนมุระตอบว่าใครจะไปรู้? แต่เขาก็มีไอเดียสำหรับภาคต่อไว้แล้ว แต่ตอนนี้ยังทำ BBS ไม่เสร็จเลย ตอนนี้เลยยังไม่จำเป็นต้องคิด หมู่นี้ทุกคนมักถามว่าเฮียแกวางแผนจะคลอดภาค 3 แล้วหรือยัง แล้วถึงเฮียแกจะกำลังวุ่นกับการทำ Final Fantasy versus XIII อยู่แต่เฮียแกก็คิดว่าใกล้จะถึงเวลาที่เขาต้องคิดถึงภาคต่อของ KH อย่างจริงๆ จังๆ แล้ว แม้ว่าบางทีภาคต่อที่ว่าอาจจะไม่ใช่ KH3 น่ะนะ
- พอถามต่อว่าแล้วมันจะเป็นยังไงล่ะ เฮียแกก็บอกว่าตอนนี้ยังบอกอะไรไม่ได้ แต่มันจะไม่ใช่แค่ภาคเสริมแน่นอน เขาเองก็บอกเรื่องภาคต่อนี้กับโปรดิวเซอร์ไปแล้ว ซึ่งโปรดิวเซอร์ก็ได้แต่ตอบกลับมาว่า "...อะไรนะ?" ว่าแล้วเฮียแกก็บอกกับโปรดิวเซอร์ไปว่ามันเป็นความลับของ KH ไง (หัวเราะ) ว่าแล้วเฮียแกก็ยอมรับว่าเขาเองก็มีคิดเรื่อง KH3 ไว้ด้วยเช่นกัน
- สุดท้ายพระเจ้าอยากฝากถึงทุกคนว่าเขาต้องจะโชว์ KH ในรูปแบบใหม่ให้ทุกคนได้เห็น ตัวอย่างหนึ่งที่ได้แสดงให้เห็นกันแล้วก็คือภาค 358 ที่ให้อารมณ์ความรู้สึกแตกต่างจากภาคก่อนๆ ทีมงานเองก็กังวลอยู่ไม่รู้ว่าแฟนๆ จะรู้สึกยังไง ยิ่งนี่เป็นครั้งแรกที่มีการใส่โหมด multiplayer ลงไป ก็หวังว่าทุกคนจะได้ลองและได้ตอบกลับมาว่าคิดยังไงกันบ้าง พระเจ้าเชื่อว่าคงมีหลายคนที่จับ KH ภาคนี้ขึ้นมาเล่นเป็นภาคแรก ไม่ว่าจะเพราะเพื่อนชวนให้มาเล่น multiplayer ด้วยกัน หรือไม่ว่าจะเล่นเพราะมันเป็นเกมของเครื่อง NDS แต่พระเจ้าก็อยากจะฝากไปถึงคนเหล่านั้นว่าช่วยลองเล่นภาคอื่นๆ ดูบ้างละกัน แล้วสำหรับคนที่ติดตามมาตั้งแต่ภาคก่อนๆ ก็หวังว่าพวกคุณจะให้การสนับสนุนพวกเราต่อไป การที่พวกเราพา KH ซีรียส์มาถึงจุดที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ได้นั่นก็เพราะพวกคุณนั่นเอง ก็หวังว่าพวกเราจะไม่ทำให้พวกคุณต้องผิดหวังกันอย่างแน่นอน
- สำหรับ Coded นั้นจะมีโครงสร้างที่แปลกอยู่ มิคกี้และคนอื่นๆ กำลังจับจ้องไปที่โลกของข้อมูลผ่านทางหน้าจอคอมพิวเจอร์ และผู้เล่นก็ต้องบังคับโซระที่อยู่ในโลกข้อมูลนั้น เนื้อเรื่องของเกมจะดำเนินควบคู่กันไประหว่างโลกแห่งความจริงกับโลกของข้อมูล แต่ละตอนจะเริ่มต้นด้วยเรื่องของมิคกี้ ปริศนาจะคลี่คลายในโลกข้อมูล และจะกลับมาจบลงที่เรื่องของมิคกี้ อารมณ์เหมือนประมาณคนดูทีวีซีรียส์อยู่
- เนื้อเรื่องตอนแรกจะเป็นเหมือนติวโตเรียล ในตอนที่สองถึงจะเข้าเนื้อเรื่องจริงๆ ทีมงานก็หวังว่าจะเริ่มเปิดบริการเกมนี้ในเดือนมิถุนายน และจะเพิ่มเนื้อเรื่องของโลกใหม่เข้าไปทุกๆ เดือนจนกระทั่งถึงสิ้นปี 2009 นี้
- สำหรับภาค BBS จะเป็นภาคที่สำคัญที่รวบรวมเอาสิ่งสำคัญทุกอย่างไว้ในภาคนี้ จะมีตัวละครหลัก 3 คน เนื้อเรื่องจะยิ่งใหญ่ดุจดั่ง Final Fantasy ภาคนึงเลยทีเดียว และจะมีความเกี่ยวข้องกับภาค 358 ด้วย ปริศนาและสิ่งลี้ลับมากมายในภาคก่อนๆ จะได้รับคำตอบในภาค BBS นี้ ขณะเดียวกันพวก Original Character ตัวเก่าๆ จากภาคก่อนๆ จะโผล่ออกมาค่อนข้างน้อย
- ถึงบอกว่าปริศนาของภาคก่อนๆ จะคลี่คลายแต่ตัวเกมก็จะทิ้งปริศนาให้คิดต่อว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ภาคนี้เป็นภาคที่เกิดก่อนภาคอื่นๆ ดังนั้นเนื้อเรื่องจะเชื่อมโยงกับ KH ภาคแรกอย่างแน่นอน สำหรับตัวละครหลักทั้งสามตัวนั้น เมื่อเนื้อเรื่องของเกมจบลงก็จะแสดงให้เห็นเองว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา ทำไมพวกเขาถึงไม่ได้ไปปรากฏตัวในภาคอื่นๆ และนั่นก็จะทำให้คุณยิ่งฉงนหนักกว่าเดิม
- พอถามว่าจะมีเกมใหม่ที่เกี่ยวข้องกับภาค BBS และภาค 1 มั้ย? จะใช่ภาค 3 รึเปล่า? คุณโนมุระตอบว่าใครจะไปรู้? แต่เขาก็มีไอเดียสำหรับภาคต่อไว้แล้ว แต่ตอนนี้ยังทำ BBS ไม่เสร็จเลย ตอนนี้เลยยังไม่จำเป็นต้องคิด หมู่นี้ทุกคนมักถามว่าเฮียแกวางแผนจะคลอดภาค 3 แล้วหรือยัง แล้วถึงเฮียแกจะกำลังวุ่นกับการทำ Final Fantasy versus XIII อยู่แต่เฮียแกก็คิดว่าใกล้จะถึงเวลาที่เขาต้องคิดถึงภาคต่อของ KH อย่างจริงๆ จังๆ แล้ว แม้ว่าบางทีภาคต่อที่ว่าอาจจะไม่ใช่ KH3 น่ะนะ
- พอถามต่อว่าแล้วมันจะเป็นยังไงล่ะ เฮียแกก็บอกว่าตอนนี้ยังบอกอะไรไม่ได้ แต่มันจะไม่ใช่แค่ภาคเสริมแน่นอน เขาเองก็บอกเรื่องภาคต่อนี้กับโปรดิวเซอร์ไปแล้ว ซึ่งโปรดิวเซอร์ก็ได้แต่ตอบกลับมาว่า "...อะไรนะ?" ว่าแล้วเฮียแกก็บอกกับโปรดิวเซอร์ไปว่ามันเป็นความลับของ KH ไง (หัวเราะ) ว่าแล้วเฮียแกก็ยอมรับว่าเขาเองก็มีคิดเรื่อง KH3 ไว้ด้วยเช่นกัน
- สุดท้ายพระเจ้าอยากฝากถึงทุกคนว่าเขาต้องจะโชว์ KH ในรูปแบบใหม่ให้ทุกคนได้เห็น ตัวอย่างหนึ่งที่ได้แสดงให้เห็นกันแล้วก็คือภาค 358 ที่ให้อารมณ์ความรู้สึกแตกต่างจากภาคก่อนๆ ทีมงานเองก็กังวลอยู่ไม่รู้ว่าแฟนๆ จะรู้สึกยังไง ยิ่งนี่เป็นครั้งแรกที่มีการใส่โหมด multiplayer ลงไป ก็หวังว่าทุกคนจะได้ลองและได้ตอบกลับมาว่าคิดยังไงกันบ้าง พระเจ้าเชื่อว่าคงมีหลายคนที่จับ KH ภาคนี้ขึ้นมาเล่นเป็นภาคแรก ไม่ว่าจะเพราะเพื่อนชวนให้มาเล่น multiplayer ด้วยกัน หรือไม่ว่าจะเล่นเพราะมันเป็นเกมของเครื่อง NDS แต่พระเจ้าก็อยากจะฝากไปถึงคนเหล่านั้นว่าช่วยลองเล่นภาคอื่นๆ ดูบ้างละกัน แล้วสำหรับคนที่ติดตามมาตั้งแต่ภาคก่อนๆ ก็หวังว่าพวกคุณจะให้การสนับสนุนพวกเราต่อไป การที่พวกเราพา KH ซีรียส์มาถึงจุดที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ได้นั่นก็เพราะพวกคุณนั่นเอง ก็หวังว่าพวกเราจะไม่ทำให้พวกคุณต้องผิดหวังกันอย่างแน่นอน
สุดท้ายนี้ตัวผมเอง BoN ขอยกนิ้วให้กับคุณโนมุระคนเก่ง ที่รับจ็อบมาแล้วทั้งการตรวจบั๊ค ทำกราฟฟิคมอนสเตอร์ ออกแบบตัวละคร กำกับเกม กำกับหนัง แต่งเพลง และล่าสุดยังมีสกิลเขียนสคริปต์เพิ่มขึ้นมาแล้วอีกต่างหาก นี่ยังไม่นับสกิลแยกร่างที่เฮียแกซุกซ่อนเอาไว้อีกนะเนี่ย...
ที่มาภาษาอังกฤษ : KHinsider
Post a Comment