บทสัมภาษณ์เฉลยเนื้อเรื่อง Birth by Sleep จากแฟมิซือ [1]
(เขียนขึ้นเมื่อ 19/02/2010)
แฟมิซือฉบับประจำสัปดาห์นี้ได้ลงบทสัมภาษณ์คุณ เท็ตสึยะ โนมุระ ผู้เป็นไดเรคเตอร์ของเกม Kingdom Hearts -Birth by Sleep-และ Final Fantasy Versus XIII เอาไว้ ซึึ่งตัวบทสัมภาษณ์นั้นก็มีเนื้อหาหลายหน้าและหลายส่วนด้วยกัน โดยผมก็ได้แปลบทสัมภาษณ์ในส่วนของความคืบหน้าของเกม Final Fantasy Versus XIII และเกมภาคต่อของซีรียส์ Kingdom Hearts ลงไปในข่าวก่อนๆ แล้ว
สำหรับข่าวนี้เราจะมาเน้นกันที่บทสัมภาษณ์ในส่วนของการเฉลยเนื้อเรื่อง Birth by Sleep กันอย่างเดียว ซึ่งขึ้นชื่อว่าเฉลยเนื้อเรื่องแล้ว ทั้งคุณโนมุระและทั้งตัวผมเองก็จะแฉกันหมดเปลือก ไม่มีเม้มไว้แม้แต่นิด ดังนั้นใครที่ยังไม่ได้เล่นเกมนี้ และไม่อยากเสียอรรถรสด้วยการถูกสปอยล์เนื้อเรื่อง ก็ขอให้ข้ามข่าวนี้ไปเลยนะครับ
------------------------------------------------------------------
-: Spoiler Alert :-
-- ผมได้ยินมาว่าจุดเริ่มต้นของโปรเจคท์นี้คือแผนงานที่ทีมงาน Square Enix ฝั่งโอซาก้าส่งมา
โนมุระ : อืม มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เราไม่รู้ว่าจะให้ทีมงานไหนพัฒนา Birth by Sleep ดี แต่ในตอนนั้นเองทีมงานฝั่งโอซาก้าที่พึ่งช่วยทำ Musashiden II: Blade Master เสร็จก็มาบอกว่า “พวกเราอยากทำ!” ดังนั้นพวกผมจึงขอร้องให้เขาช่วยลองทำเกมบน PSP มาส่ง ซึ่งพวกเขาก็ได้สร้างเกมโปรโตไทป์ขึ้นมา ซึ่งเจ้าโปรโตไทป์ก็ออกมาค่อนข้างดี เราจึงตัดสินใจให้พวกเขาทำเกมนี้ แล้วในช่วงแรกของการพัฒนา Birth by Sleep เราก็ได้ทีมพัฒนาเกม Crisis Core มาช่วยในงานบางส่วน แต่เนื่องจากซีรียส์ Kingdom Hearts เป็นหนึ่งในซีรียส์ของ Disney ดังนั้นมันจึงมีอุปสรรคบางประการที่เราต้องก้าวผ่านไปให้ได้ และเราจำเป็นต้องมีการสื่อสารกันอย่างต่อเนื่องระหว่างทีมงานฝั่งโตเกียวและฝั่งโอซาก้า แล้วยังมีอีกหลายๆ อย่างที่เราอยากให้พวกเขาทำความคุ้นเคยเสียก่อน ดังนั้นเราจึงให้พวกเขาเริ่มต้นด้วยการทำภาค Re: Chain of Memories ครับ
-- มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นในระหว่างการพัฒนาบ้างครับ?
โนมุระ : ไม่มีเลยจริงๆ ครับ จะว่าไปแล้วก็มีปัญหาในช่วงสุดท้ายของการพัฒนาอยู่บ้าง แต่มันไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นแต่กับเกม Birth by Sleep หรอกครับ ปัญหากวนใจนั่นก็คือการตั้งชื่อให้กับคอมมานด์ต่างๆ ครับ ปกติแล้วผมจะเป็นคนคิดชื่อให้กับสิ่งต่างๆ ใน Kingdom Hearts ด้วยตัวผมเอง ระหว่างการพัฒนานั้นก็ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างไปเรื่อยๆ ผมจึงมักเป็นคนกำหนดชื่อในตอนท้ายที่สุด แต่เนื่องจากสัญลักษณ์ต่างๆ ที่เอามาใช้เป็นชื่อได้นั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละเกม ดังนั้นบางครั้งคอมมานด์ที่เคยใช้ในเกมที่ผ่านๆ มา ก็ต้องมีการเปลี่ยนชื่อบ้างครับ
-- คราวนี้ก็มีคอมมานด์อยู่ไม่น้อยเลยด้วยสิครับ
โนมุระ : อย่างนรกเลยครับ (หัวเราะ)
-- แล้วส่วนไหนในระบบต่อสู้ที่คุณใส่ใจในการสร้างมากที่สุดล่ะครับ?
โนมุระ : ก็เดคคอมมานด์ครับ การต่อสู้จะเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้คอมมานด์แบบไหน ดังนั้นจึงเกิดการลองผิดลองถูกกัน ซึ่งมันทำให้ผู้เล่นรู้จักสร้างสไตล์การเล่นในแบบที่ตัวเองสนใจขึ้นมา จึงเป็นเรื่องน่าสนใจที่จะได้เห็นว่าทุกคนจัดเดคแตกต่างกันอย่างไรในท้ายที่สุด เกมภาค Chain of Memories และ Subarashiki Kono Sekai นั้นมีระบบที่คล้ายคลึงกันซี่งคุณสามารถเปลี่ยนคอมมานด์ได้ เกมนี้ก็เป็นรูปแบบทำนองเดียวกัน เพราะเรามีระบบเดคคอมมานด์เนี่ยแหละ เราจึงสามารถใช้บอร์ดเกมเป็นตัวเสริมพลังให้กับคอมมานด์ของคุณได้
-- แล้วคุณชอบใช้คอมมานด์แบบไหนล่ะครับ?
โนมุระ : ผมใช้คอมมานด์โจมตีโหดๆ กับคอมมานด์สายระเบิด ติดท้ายด้วยเวทสายเคอัล 1 อัน แต่เวลาไปเล่นในมิราจอารีน่า ผมจะใช้เมก้าแฟลร์และคอมมานด์สายแม่เหล็กครับ
-- เกมนี้มีระบบเกมเพลย์ที่หลากหลายมากเลย แต่ PSP ก็สามารถทำให้เราควบคุมมันได้เป็นอย่างดี
โนมุระ : การควบคุมในภาค 358/1 Days มันออกยุ่งยากไปหน่อยครับ เราเลยต้องมีการตัดนู่นตัดนี่กันบ้าง ตัวอย่างเช่นการที่ภาค 358/2 Days คุณสามารถมองขึ้นมองลงในระหว่างเคลื่อนไหวได้ แต่คุณไม่สามารถทำแบบนั้นได้ในภาค Birth by Sleep ครับ เราพยายามทำให้มันเรียบง่ายขึ้นนั่นเอง
-- ตอนแรกระบบ Shoot Lock ทำผมมึนมากเลย แต่ก็สามารถใช้มันได้อย่างรวดเร็วครับ
โนมุระ : มีการเพิ่ม Shoot Lock ลงไปหลายท่าตามที่วางแผนไว้ในทีแรกครับ ทว่าในส่วนของการปลดปล่อยการโจมตีนั้นก็มีการแก้ไขกันหลายรอบ เดิมทีแล้วเราลองสร้างให้การโจมตีถูกปลดปล่อยออกไปเมื่อคุณล็อคเป้าแล้วปล่อยปุ่มออก แต่สุดท้ายมันก็เป็นแบบที่เป็นอยู่ในตอนนี้ครับ ตัวเกมนี้มันมีอะไรหลายๆ อย่างรวมกันอยู่มากมาย ซึ่งทีมฝั่งโอซาก้าเค้าก็ได้พยายามอย่างเต็มที่ให้กับพวกเราแล้ว
-- ดูเหมือนจะมีผู้เล่นบางส่วนเรียกร้องให้มีฉากที่แผนที่ซับซ้อนเยอะๆ กว่านี้นะครับ
โนมุระ : ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าการต่อสู้คือส่วนที่สนุกที่สุดในซีรียส์ Kingdom Hearts นะครับ และนั่นก็คือสิ่งที่เราคำนึงถึงใน KHII มากยิ่งขึ้นไปกว่าในภาคแรก แต่ก็มีผู้เล่นบางส่วนต้องการให้มีฉากให้สำรวจกันเยอะกว่าเดิม ดังนั้นเราจึงเพิ่มไอ้สิ่งที่ว่านั่นเข้าไป โดยมั่นใจแล้วว่ามันจะไม่ไปกระทบต่อการต่อสู้ครับ
-- แล้วก็มีเพลงใหม่ๆ อยู่เยอะเลยนี่ครับ มันทำให้การต่อสู้และฉากเหตุการณ์ตื่นเต้นยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีก
โนมุระ : คราวนี้เราเรียกร้องให้มีเพลงใหม่ๆ เยอะขึ้นครับ เราไม่เพียงมีคุณชิโมมุระ (โยโกะ) แต่งซาวด์แทรคให้เท่านั้น แต่ยังมีคุณอิชิโมโตะ (ทาเคฮารุ) และคุณคาวาโมริ (เคย์อิจิ) ช่วยด้วยเช่นกัน ซึ่งแต่ละคนก็ช่วยแต่งมา 5 เพลง โดยคุณอิชิโมโตะก็เป็นคนดูแลเพลงที่เกี่ยวกับเจ้าวานิทัศครับ
-- ใน Last Episode คุณใช้อควอดำเนินเรื่อง ที่ผ่านมาผมให้ความสนใจกับเทอร์ร่าและเวนมากเป็นพิเศษ ผมจึงไม่คิดเลยว่าเธอจะกลายมาเป็นตัวละครสำคัญมากขนาดนี้
โนมุระ : ทั้งหมดก็เป็นไปตามแผนแหละครับ (หัวเราะ) พูดได้เลยว่าเธอคือตัวเอกที่แท้จริงครับ
-- มีหลายๆ สิ่งในเรื่องที่ช่วยตอบคำถามเก่าๆ ไปแล้ว แต่ยังมีอีกหลายสิ่งที่ทำให้มึนหนักกว่าเดิมอีกครับ..
โนมุระ : แน่นอนครับ (หัวเราะ)
-- ก่อนอื่นเลย ไอ้หนุ่มผมเงินที่ยืนบนชายหาดพูดว่า “โลกนี้ช่างเล็กเกินไป” คือมาสเตอร์เซอานอร์ทตอนหนุ่มๆ ใช่มั้ยครับ?
โนมุระ : ถูกต้องครับ
หมายเหตุ * ในเกมจะมีช่วงที่เทอร์ร่ามองริคุแล้วเห็นเป็นภาพหนุ่มผมเงินซ้อนทับขึ้นมา นั่นคือการสื่อเป็นนัยว่าริคุมีความสัมพันธ์กับมาสเตอร์เซอานอร์ทในทางใดทางหนึ่ง
-- ถัดมา ในตอนที่หัวใจของเวนแตกออกจากกัน ใครบางคนได้ช่วยเติมเต็มหัวใจของเวนด้วยหัวใจของตัวเขาเอง นั่นคือหัวใจของโซระใช่มั้ยครับ?
โนมุระ : ใช่ครับ นั่นคือช่วงที่โซระพึ่งเกิดขึ้นมาบนโลก
-- แล้วยังมีคีย์เบลดแบบใหม่ที่ปรากฏในเกม โดยเปลี่ยนจากคำว่า “คีย์” ในคีย์เบลด เป็น “χ” ก็เป็นชื่อที่ดีนะครับ
(เป็นอักษรกรีกตัวที่ 22 อ่านว่าไค แต่ในเกมดันออกเสียงว่าคี)
(เป็นอักษรกรีกตัวที่ 22 อ่านว่าไค แต่ในเกมดันออกเสียงว่าคี)
โนมุระ : ชื่อ χ เบลดนั้นเป็นความคิดของคุณวาตานาเบะ (ไดซึเกะ) ที่เป็นคนเขียนบทครับ การไขว้กันของสัญลักษณะ χ ก็คือสัญลักษณ์การไขว้กันของความมืดและแสงสว่าง สมาชิกกลุ่มจูซังคิคังที่ได้ชื่อมาจากการเติม X เข้าไปในชื่อตอนยังเป็นมนุษย์ก็มีที่มาแบบเดียวกัน นอกจากนี้สัญลักษณ์ของโนบอดี้ก็ยังคล้ายกับสัญลักษณ์ของเอราคุสอีกด้วย แต่คุณคงจะเข้าใจถึงเหตุผลที่มันต้องเป็นแบบนั้นได้เอง นั่นก็เพราะมันมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเซมุนัสอยู่ครับ
หมายเหตุ * คุณโนมุระต้องการจะบอกว่า หลังจากที่มาสเตอร์เอราคุสตายไป หัวใจของเอราคุสก็ไปอยู่ในร่างของเทอร์ร่า แล้วเมื่อร่างนั้นได้ให้กำเนิดโนบอดี้เซมุนัสขึ้นมา เซมุนัสจึงมีทั้งรูปร่างของเทอร์ร่า และมีความเป็นเอราคุสอยู่ในตัว ซึ่งเอราคุสที่อยู่ในตัวเซมุนัสนั่นแหละเป็นคนคิดสัญลักษณ์โนบอดี้ขึ้นมาจากการดัดแปลงสัญลักษณ์เก่าของตัวเอง
-- ช่วยให้รายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องหมายของอันเวิร์ส และคอนเซปต์ในการออกแบบหน่อยสิครับ
โนมุระ : เครื่องหมายนั่นเป็นไอเดียที่คิดขึ้นโดยทีมพัฒนาคนหนึ่งครับ มันดูเหมือนหัวใจที่ชั่วร้ายรึเปล่าล่ะครับ? (หัวเราะ) คอนเซปต์ของมันก็คือ “ความรู้สึก” เราต้องการจะสื่อถึงถึง “ความโกรธ” และ “ความสุข” นั่นเอง
-- เหตุผลในการปรากฏตัวของอันเวิร์สนั้นมีกล่าวในเนื้อเรื่องแล้ว แต่เราก็ได้เห็นมาสเตอร์เซอานอร์ทควบคุมฮาร์ทเลสให้ดูด้วย ในเวลานั้นมีฮาร์ทเลสเกิดขึ้นแล้วเหรอครับ?
โนมุระ : ฮาร์ทเลสดำรงอยู่เสมอตราบเท่าที่ยังมีหัวใจอยู่ในโลกนี้ พวกมันดำรงอยู่มานานแล้ว คนที่ตกสู่ความมืดมิดจะสามารถควบคุมมันได้ครับ
-- อควอมีร่ายมนต์เอาไว้ในสร้อยคอของไคริด้วย เพื่อป้องกันเธอจากพลังความมืดใช่มั้ยครับ?
โนมุระ : เพราะสร้อยนั้นเอง ไคริก็เลยถูกส่งไปยังเกาะแห่งชะตากรรมครับ
-- งั้นการที่ไคริไปยังเกาะแห่งชะตากรรมก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญสินะครับ
โนมุระ : สิ่งที่เราต้องการจะแสดงในเนื้อเรื่องคราวนี้ก็คือ “พรหมลิขิตสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้” ซักวันหนึ่งไคริก็จะไปยังที่ๆ เธอจะได้รับการปกป้องโดยฮีโร่แห่งแสงครับ
และแล้วความผูกพันและห้วงคำนึงคิดก็ได้เชื่อมโยงไปถึงโซระ
ปริศนาของฉากจบลับ
-- ที่มาของปราสาทหลงลืม รวมทั้งเรื่องของห้องแห่งการตื่นขึ้นก็เป็นที่ชัดเจนแล้ว ฉะนั้นตอนที่โซระและเพื่อนเข้าไปเยี่ยมในช่วงภาค Chain of Memories เวนก็กำลังหลับใหลอยู่ในห้องแห่งการตื่นขึ้นใช่มั้ยครับ?
โนมุระ : ถูกแล้วครับ
-- แล้วสมาชิกกลุ่มจูซังคิคังบางคนก็พยายามค้นหาห้องนั้นด้วยนี่ครับ
โนมุระ : ใช่ครับ แต่มีเพียงอควอคนเดียวเท่านั้นที่สามารถแก้ปริศนาของปราสาทนั้นได้ครับ
-- ดังนั้นถ้าไม่มีอควอ...
โนมุระ : ก็จะไม่มีใครเข้าไปหาเวนได้ไงครับ
-- แล้วทำไมเซมุนัสของกลุ่มจูซังคิคัง ถึงตามหาเวนด้วยล่ะครับ?
โนมุระ : อืม... มันยังมีเหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างฉากจบของ Birth by Sleep กับ KHI ด้วยน่ะครับ ซึ่ง...
-- ซึ่งคุณกำลังจะบอกว่าคุณบอกไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ (หัวเราะ) ไบรก์เองก็มีบทเยอะในเกมนี้นะครับ แล้วยังดูร้ายๆ ยังไงอยู่ด้วย..?
โนมุระ : ในฉากสุดท้ายที่ไบรก์ปรากฏตัว ตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีทองไปแล้วด้วยครับ
หมายเหตุ * ในโลกของ KH คนที่ตาเปลี่ยนเป็นสีทองได้ก็คือคนที่ใช้พลังความมืดได้แล้ว
-- ระหว่างเขากับมาสเตอร์เซอานอร์ท มันเคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเหรอครับ?
โนมุระ : ผมว่ามันมีประโยคที่มาสเตอร์เซอานอร์ทบอกว่าเขาได้ “หว่านเมล็ดพันธุ์ออกไปแล้ว” และนั่นก็รวมถึงไบรก์ด้วยน่ะครับ
-- "รวมถึง" ไบรก์ด้วย!? (แปลว่ายังมีคนอื่นๆ อีก) คุณกำลังปิดบังอะไรอยู่สินะครับ... เอ แล้วก็มีฉากที่มาสเตอร์เซอานอร์ทพูดกับเทอร์ร่าว่า “เจ้าได้ให้หัวใจอีกดวงหนึ่งอาศัยอยู่ในตัวด้วยงั้นรึ เอราคุส....”
โนมุระ : เราก็ใส่อะไรที่มันเป็นลางไว้หลายๆ แบบน่ะครับ (หัวเราะ)
-- อย่าบอกนะครับว่าคุณกำลังจะทำเนื้อเรื่องระหว่าง Birth by Sleep กับ KHI อีกในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
โนมุระ : ผมว่าตอนนี้คุณน่าจะคาดเดาเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่าง Birth by Sleep กับ KHI ได้แล้วนะครับ ยังไงซะคุณก็น่าจะจินตนาการได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเทอร์ร่าในท้ายที่สุด แต่ผมเชื่อว่าเมื่อคุณได้สัมผัสเหตุการณ์นั้นในเกมจริงๆ แล้ว มันก็ยังสามารถทำให้คุณรู้สึกได้ถึงบางสิ่ง ถึงแม้คุณจะรู้อยู่แล้วว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น แต่ผมว่าสิ่งสำคัญก็คือการพรรณนาให้เห็นภาพ ดังนั้นคงจะมีการทำฉากนั้นให้มันชัดเจนในภายหลังครับ
หมายเหตุ * เค้ากำลังพูดถึงตอนที่เทอร์ร่าที่โดนเซอานอร์ทครอบงำร่างกาย สูญเสียความทรงจำ แล้วก็โดนความมืดเข้าครอบงำจิตใจ จากนั้นเตะโด่งอันเซมไปยังโลกแห่งความว่างเปล่า และเริ่มทดลองฮาร์ทเลสอย่างจริงๆ จังๆ จนเมื่อหัวใจถลำลึกเข้าสู่ความมืดมากๆ ก็สามารถแยกร่างฮาร์ทเลสและโนบอดี้ออกมาได้เอง
จอมปราชญ์อันเซมและอควอ
-- จากจุดหนึ่งใน KHII จอมปราชญ์อันเซมได้ออกจากโลกแห่งความมืดมาแล้ว แต่คราวนี้เขากลับตกสู่โลกแห่งความมืดอีกครั้งหนึ่ง เรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงไหนน่ะครับ?
โนมุระ : หลังจาก KHII ครับ ตอนที่เขาพยายามหยุดยั้งแผนของพวกจูซังคิคังใน KHII เขาโดนระเบิดแล้วหลุดเข้าไปในโลกแห่งความมืด เขาพูดว่า “นับแต่ที่ฉันได้พบเด็กคนนั้น ผ่านมา 1 ปีแล้วสินะ” มันกล่าวถึงช่วงก่อนที่เขาคนนั้นจะหลับไป ซึ่งก็คือเวลาในช่วง Chain of Memories ไม่ได้หมายความว่า 1 ปีหลัง KHII ครับ
หมายเหตุ * สรุปว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นหลังจบภาค 2 ไปหมาดๆ หรือหลัง Birth by Sleep ไป 11 ปี
-- ฉากนั้นดูเหมือนอควอจะหลงทางมาเป็นเวลานานแสนนานเลยนะครับ
โนมุระ : ใช่ครับ ตั้งแต่ที่เธอเข้ามายังโลกแห่งความมืดไปจนถึงตอนที่เธอพบกับจอมปราชญ์อันเซม เวลาของโลกภายนอกก็ผ่านไปเกิน 10 ปีแล้ว แต่กระแสเวลาในโลกแห่งความมืดกับโลกภายนอกนั้นต่างกันนะครับ ดังนั้นเธอจึงไม่รู้สึกว่าผ่านไป 10 ปีแล้วหรอกครับ แต่เรื่องที่เธอหลงอยู่ในโลกแห่งความมืดเป็นเวลานานเนี่ยยังไงก็ไม่ผิดแน่ครับ
หมายเหตุ * แปลว่าอควอแก่ลงไม่ถึง 10 ปี...
-- ระหว่างที่อควอคุยกับจอมปราชญ์อันเซม เห็นมีพูดว่าข้อมูลบางอย่างถูกซ่อนในตัวโซระด้วยเหรอครับ?
โนมุระ : ความจริงคือผมตั้งใจให้คำพูดนั้นเชื่อมโยงไปยังภาค Coded ครับ ผมคิดว่าคนที่ได้เล่นเนื้อเรื่องตอนสุดท้ายของ Coded จะเข้าใจคำพูดนั้น แต่นี่ไม่ใช่ลางบอกถึงสิ่งที่เกิดใน Coded แต่เป็นลางบอกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้นครับ
หมายเหตุ * ข้อมูลที่อันเซมซ่อนไว้คือความลับเกี่ยวกับการคืนชีพของเหล่าผู้ที่หลับใหล่อยู่้ในหัวใจของโซระที่นามิเนะค้นพบ นามิเนะค้นพบเรื่องของพวกเขา แต่เธอไม่สามารถช่วยอะไรพวกเขาได้ นามิเนะจึงแอบเขียนลงไปในสมุดบันทึกของจิมินี่ว่า “เราต้องกลับไปปลดปล่อยพวกเขาจากความทนทุกข์” เพื่อให้โซระตามไปช่วย 3 คนนั้นในภายหลัง ส่วนอันเซมก็ใส่ข้อมูลข้อมูลเกี่ยวกับความลับในการคืนชีพลงไป เพื่อที่ในอนาคตโซระจะได้ใช้มันได้
-- ผมเห็นนะว่าในฉาก Blank Point คุณได้ใช้เพลงธีม Hikari ซึ่งเป็นเพลงเดียวกันกับฉากเปิดเกมอีกครั้งหนึ่ง
โนมุระ : ใน Birth by Sleep เนี่ย ฉาก Blank Points เป็นฉากที่ใช้เพลง Hikari เป็นครั้งที่สองเองครับ และนี่ก็คือฉากจบเกมที่แท้จริง การควบคุมเวลาให้กับฉากเครดิตเนี่ยเป็นอะไรที่ผมต้องพิถีพิถันมากเป็นพิเศษ แล้วยิ่งประโยคที่อควอพูดก่อนหน้านั้น ผมต้องให้คุณโทโยกุจิ (เมกุมิ) พูดถึง 50 รอบ ผมอยากให้เธอพูดโดยแสดงออกถึงความหวังอันแรงกล้าครับ
เกิดอะไรขึ้นหลังภาค Coded?
-- ตอนสุดท้ายของ Coded เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ผมแทบไม่เชื่อเลยว่าคนๆ นั้นจะปรากฏตัวขึ้น...
โนมุระ : เรามีแก้กลับไปกลับมาเรื่อยแหละครับ เดิมทีแล้วเรากะจะให้ตัวละครอื่นปรากฏตัวแทนด้วย แต่ท้ายที่สุดมันก็ออกมาเป็นแบบนี้ นอกจากนี้เรายังใส่การต่อสู้กับตัวละครนั้นลงไปในวินาทีสุดท้ายด้วยนะครับ การพัฒนาจึงเป็นไปอย่างวุ่นวายพอดู
หมายเหตุ * เค้าพูดถึงร็อคซัสกันน่ะ...
-- จะว่าไปแล้ว ในภาค Coded เนี่ยมีอะไรที่มันคล้ายๆ กับรีพอร์ทลับมั้ยครับ?
โนมุระ : ก็ไม่มีนะครับ แต่ในตอนที่ริคุปรากฏตัวในห้องที่จำลองเป็นเกาะแห่งชะตากรรม จะมีเหตุการณ์ลับให้ดูด้วย คุณต้องทำลายบล็อคเสียก่อนครับ ริคุถึงจะปรากฏตัวออกมา ดังนั้นลองไปหาเขาให้เจอนะครับ
-- ฉากจบของ Coded นั้นเชื่อมโยงกับฉากจบของ Birth by Sleep และมันยิ่งทำให้เราอยากรู้ว่าโซระจะเป็นยังไงบ้างมากขึ้นไปอีกครับ
โนมุระ : ถ้าคุณรู้สึกแบบนั้น ผมก็ปลื้มใจครับ ฉากจบของ Coded เองก็อิงเนื้อหามาจากจดหมายของราชาครับ เราสร้างฉากนี้ขึ้นมาด้วยความคิดเช่นนั้นแหละ
หมายเหตุ * แต่ผมอยากรู้ว่าตัวเอกของภาค Birth by Sleep คนนี้จะเป็นยังไงต่อไปมากกว่านะ~
ฟุตโน้ตของบทสัมภาษณ์
- ตอนหาคนมาพากย์เสียงให้โซระกับริคุในวัยเด็กต้องทำออดิชั่นกันหลายครั้ง แล้วนี่ก็เป็นการทำงานครั้งแรกของผู้ให้เสียงริคุด้วย ดังนั้นน้องเขาเลยเครียดเป็นพิเศษ แต่คุณโนมุระก็ว่าน้องเค้าทำได้ดีแล้ว
- เรื่องที่เซมนัสไม่สามารถใช้คีย์เบลดได้ คุณโนมุระบอกว่าตอนนี้ยังบอกไม่ได้ แต่มันมีเหตุผลอยู่
- สำหรับเนื้อหาตอนสุดท้ายของ Coded คุณวาตานาเบะที่พึ่งเสร็จงานจาก FFXIII ก็มาร่วมทำด้วย ก็ปั่นงานกันจนถึงวันสุดท้ายก่อนที่จะเปิดให้ดาวน์โหลด และก็มีการปรับแก้งานกันจนถึงวินาทีสุดท้ายเลยด้วย
------------------------------------------------------------------
ที่มา : ReBirth Wings, Lissar & Krexia, Famitsu
Post a Comment