สรุป Xehanort Reports เวอร์ชั่นภาษาไทย
(เขียนขึ้นเมื่อ 17 ม.ค. 2010)
สรุปเซอานอร์ทรีพอร์ท
1-12 โดย Kouli
แปลเป็นภาษาไทยโดย : BoN
(ไม่มีจดหมายจากเซอานอร์ท เพราะเฮีย Kouli ไม่ได้แปลจดหมายของเซอานอร์ทมาให้)
เซอานอร์ทรีพอร์ท 1
เซอานอร์ทได้ออกจากบ้านเกิดและเดินทางมาอย่างยาวนาน เขาไปยังดวงดาวต่างๆ มากมาย แต่แล้วชะตากรรมของเขาก็เปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับอาจารย์ท่านหนึ่งพร้อมกับลูกศิษย์ที่มีชื่อว่าเอราคุส
ดินแดนแห่งการออกเดินทางนี้ได้กลายมาเป็นบ้านหลังที่สองของเขา เขาได้ฝึกฝนตนเองอยู่ที่นี่ ซึ่งระหว่างนี้เซอานอร์ทก็เริ่มสงสัยในตัวของคีย์เบลด เขาอยากรู้ถึงจุดหมายที่แท้จริงของมัน มันต้องมีข้อเท็จจริงที่ซ่อนอยู่หลังคำกล่าวที่ว่าคีย์เบลดได้เคยถูกใช้ปกป้องโลกจากความมืดมิดแน่
นอกจากความอยากรู้อยากเห็นนี้แล้ว เซอานอร์ทยังชอบแอบออกไปยังดาวอื่นเพื่อหาความรู้เพิ่มเติม
เซอานอร์ทรีพอร์ท 2
ว่ากันว่าการจะท่องไปมาระหว่างดวงดาว เราจะต้องสวมใส่ชุดเกราะเพื่อป้องกันตนเองจากพลังความมืด แต่เซอานอร์ทคิดว่าไม่จำเป็น ถ้าเขาควบคุมความมืดได้ซักอย่าง มันก็ไม่ใช่ปัญหาแล้ว
เซอานอร์ทรีพอร์ท 3
ในอดีตกาล โลกต่างๆ ไม่ได้ถูกแยกจากกันด้วยกำแพงแห่งแสงสว่างเหมือนตอนนี้ สมัยนั้นโลกยังเปี่ยมไปด้วยแสงสว่าง มีผู้ใช้คีย์เบลดมากมายเกลื่อนกลาด แต่แล้วคนเหล่านั้นก็เริ่มฆ่าฟันกันโดยอ้างว่าทำไปเพื่อแสงสว่าง
เดิมทีแล้วคีย์เบลดมีไว้เพื่อเรียก Kingdom Hearts ออกมา เมื่อผู้ใช้คีย์เบลดทุกคนต่างต้องการครอบครอง "หัวใจแห่งแสงสว่าง" สงครามแย่งชิงสิ่งนั้นก็เลยอุบัติขึ้น
ที่จริงแล้ว Kingdom Hearts ก็คือการรวมตัวของหัวใจ ดวงดาวทุกดวงต่างก็มีหัวใจเหมือนกับที่มนุษย์มี
ในดาวแต่ละดวง จะมีประตูที่ใช้เข้าไปยังหัวใจของดวงดาว หากสามารถรวบรวมหัวใจของดาวทุกดวงได้ ก็จะเกิด Kingdom Hearts ที่สมบูรณ์ขึ้น
เซอานอร์ทรีพอร์ท 4
การเปิด Kingdom Hearts ในครั้งนั้นเปรียบเสมือนการสร้างโลกขึ้นมาใหม่ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่อยู่เหนือมนุษย์ขึ้นไป ใครก็ตามที่เปิด Kingdom Hearts ออกมา มันผู้นั้นจะไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป
ผู้คนทั้งหลายต่างต่อสู้เพื่อแย่งชิง Kingdom Hearts แต่แล้วดาวที่ไม่เกี่ยวข้องก็ต้องเดือดร้อนไปด้วย ดาวมากมายจึงถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด แต่แล้วแสงสว่างจากหัวใจของดวงดาวที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ก็ได้สร้างโลกในแบบปัจจุบันขึ้นมา และมันยังได้สร้างกำแพงแห่งแสงขึ้นครอบคลุมดวงดาวต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสงครามขึ้นอีก
เซอานอร์ทรีพอร์ท 5
หน้าที่ของผู้ใช้คีย์เบลดอย่างพวกเราก็คือการดูแลและปกป้องโลก แต่ทุกวันนี้ผู้ใช้คีย์เบลดได้เหลืออยู่ไม่มากนัก
นอกจากโลกแห่งแสงแล้ว ยังมีสิ่งที่เรียกว่าโลกแห่งความมืด รวมทั้งชั้นที่คั่นกลางอยู่ระหว่างทั้งสองโลก
โลกแห่งความมืดนั้นเป็นสิ่งต้องห้าม ว่ากันว่าใครที่เข้าไปแล้วจะไม่มีทางกลับออกมาได้อีก
เซอานอร์ทรีพอร์ท 6
คีย์เบลดนั้นมีอยู่ 3 แบบด้วยกัน คือคีย์เบลดจากโลกแห่งแสงสว่าง คีย์เบลดจากโลกแห่งความมืด และคีย์เบลดจากหัวใจ
คีย์เบลดจากหัวใจนั้นเป็นผลผลิตจากสงคราม หากขาดมันไปก็จะไม่สามารถเรียก Kingdom Hearts ออกมาได้
หากรวบรวมหัวใจที่บริสุทธิ์จำนวน 7 ดวงมาได้ ก็จะเกิดเป็นคีย์เบลดแห่งหัวใจ ที่ใช้ไขเปิด Kingdom Hearts
หากใครซักคนสามารถเปิด Kingdom Hearts ได้แล้ว นั่นหมายความว่าเขาจะได้ครอบครองโลกและผู้คนทั้งมวล
เซอานอร์ทรีพอร์ท 7
คีย์เบลดที่มีปริศนาลึกล้ำที่สุดก็คือคีย์เบลดที่อยู่นอกเหนือ 3 จำพวกดังกล่าว ซึ่งก็คือ "เอกซ์เบลด"
ขณะที่คีย์เบลดที่เชื่อมโยงกับ Kingdom Hearts นั้นเป็นผลผลิตจากฝีมือของมนุษย์ แต่เอกซ์เบลดนั้นเป็นสิ่งที่ดำรงอยู่เคียงคู่ Kingdom Hearts อยู่ก่อนแล้ว มันเกิดจากการประสานกันของหัวใจที่เปี่ยมด้วยแสงบริสุทธิ์ และหัวใจที่เปี่ยมด้วยความมืดมิด เมื่อเอกซ์เบลดกำเนิดขึ้นมาแล้ว Kingdom Hearts จะปรากฏออกมา ซึ่งนี่ไม่ใช่ Kingdom Hearts ที่เกิดจากการรวบรวมของมนุษย์ แต่เป็น Kingdom Hearts ที่มีหัวใจทั้งมวลรวมอยู่ด้วยกัน และนี่ก็คือต้นเหตุแห่งสงคราม
แม้ว่าดาวต่างๆ ได้ถูกแยกจากกันแล้ว แต่หากมีใครได้ครอบครองเอกซ์เบลด คนผู้นั้นจะสามารถรวบรวมหัวใจของหมู่ดาวเพื่อสร้าง Kingdom Hearts และนำพาสงครามให้มาถึงอีกครั้ง
เซอานอร์ทรีพอร์ท 8
เอราคุสคิดว่าแสงสว่างคือความสมบูรณ์แบบ แต่เซอานอร์ทคิดว่าแสงสว่างและความมืดควรอยู่ด้วยกันอย่างเท่าเทียม ถึงจะสามารถรักษาสมดุลของดวงดาวเอาไว้ได้ โลกในตอนนี้กำลังสูญเสียสมดุลเพราะการปฏิเสธความมืดมิด
เมื่อใดที่แสงสว่างแหลกสลาย ความมืดมิดจะเข้าแทนที่ แล้วโลกก็จะถูกสร้างขึ้นใหม่
ความคิดที่ไม่ลงรอยกัน ทำให้เซอานอร์ทและเอราคุสมีปากเสียง แล้วเซอานอร์ทก็ออกเดินทางไปยังดาวดวงอื่น
นี่คืออิสระครั้งใหม่นับจากที่เขาได้เดินทางออกจากดาวบ้านเกิดตั้งแต่ครั้งยังหนุ่ม
ในฐานะของคนที่เป็นคีย์เบลดมาสเตอร์เต็มตัวแล้ว เซอานอร์ทได้ครุ่นคิดถึงหน้าที่ๆ เขาต้องทำในฐานะของผู้สืบทอด อย่างไรก็ตามเขารู้ตัวดีว่าร่างกายของเขาได้ชราลงมากแล้ว แต่เขายังไม่อยากจบชีวิตลงทั้งแบบนี้ ยังมีสิ่งที่เขาอยากเห็นอีก
เซอานอร์ทรีพอร์ท 9
คีย์เบลดมาสเตอร์นั้นมีความสามารถพิเศษในการดึงหัวใจตัวเองหรือหัวใจของผู้อื่นออกมาจากร่าง หากใช้กระบวนการนี้ดีๆ ก็จะสามารถมีชีวิตเป็นอมตะได้
เมื่อครั้งยังเด็ก เซอานอร์ทได้วาดฝันถึงดวงดาวที่ไม่เคยมีคนเคยเห็น ไม่เคยมีคนไปถึง หากเขาสามารถเปิด Kingdom Hearts และสร้างโลกใบใหม่ได้ เขาจะสร้างโลกที่แสงสว่างและความมืดอยู่ด้วยกันอย่างเท่าเทียม
หลังจากรวบรวมความรู้ได้มากพอ เซอานอร์ทก็มีเป้าหมายใหม่ที่ต้องทำ แต่ก่อนอื่นเขาต้องหาร่างกายใหม่เสียก่อน
ในช่วงนี้เอง เซอานอร์ทได้พบเวนและรับเขามาเป็นลูกศิษย์ มันคงเป็นชะตากรรมล่ะมั้งที่ขีดเขียนให้เวนเป็นคนมีพรสวรรค์ แต่ขณะเดียวกันเขากลับอ่อนโยนเกินไป ดังนั้นเวนจึงไม่อาจเป็นร่างใหม่ให้เขาได้ ดังนั้นเซอานอร์ทจึงใช้เวนเพื่ออีกเป้าหมายหนึ่ง ซึ่งก็คือการสร้างเอกซ์เบลด เขาได้แบ่งหัวใจของเวนออกเป็นสองส่วน และแล้วหัวใจแห่งแสงบริสุทธ์ และหัวใจของความมืดมิดก็ได้เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์
เซอานอร์ทรีพอร์ท 10
เวนไม่อาจรับสภาพที่หัวใจถูกแบ่งแยกได้ตามที่คาดไว้ วานิทัศได้เกิดขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ แต่เวนกลับหลับใหลลง
หัวใจแห่งแสงบริสุทธิ์ เวนตุส และหัวใจแห่งความมืดมิด วานิทัศ หากผสมผสานหัวใจทั้งสองเข้าด้วยกัน เอกซ์เบลดก็จะเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์
แม้ว่าหัวใจของวานิทัศจะแข็งแกร่ง แต่หัวใจของเวนที่ถูกแบ่งเป็นสองส่วนนั้นแทบไม่เหลือแสงสว่างอีกต่อไปแล้ว
เซอานอร์ทได้พาตัวเวนไปยังบ้านเกิดของเขา เกาะแห่งชะตากรรม เพื่อจะให้เวนได้หลับใหลลงในที่ซึ่งสงบสุข แต่แล้วขณะที่เซอานอร์ทอยู่บนชายฝั่ง ชายฝั่งเดียวกับที่เขาเคยตัดสินใจออกเดินทางไปจากดาวดวงนี้ เวนตุสที่น่าจะได้พักอย่างสงบแล้วกลับเรียกคีย์เบลออกมา ดูเหมือนว่าหัวใจแห่งแสงนั้นจะยังไม่ดับสิ้นลง
เซอานอร์ทรีพอร์ท 11
เวนตุสและวานิทัศ เป็นแสงสว่างและความมืดที่สมดุลกัน แต่เซอานอร์ทไม่สามารถฝึกฝนพวกเขาทั้งสองในสถานที่เดียวกันได้ ไม่เช่นนั้นความมืดของวานิทัศจะเข้ากลืนกินเวน แล้วจะเอาเวนไปฝึกพลังแห่งแสงที่ไหนดี? ถ้าไม่ใช่ฝึกกับเอราคุส... ชายผู้เชื่อว่าแสงสว่างคือความสมบูรณ์แบบ
เอราคุสไม่ติดใจกับเรื่องที่เคยโต้เถียงกัน และยังยินดีต้อนรับการกลับมาของเซอานอร์ท เขาเต็มใจรับเวนเป็นลูกศิษย์ด้วยความยินดี สิ่งที่เหลืออยู่ก็มีเพียงการรอให้แสงสว่างในตัวเวนแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้
ขณะเดียวกัน เอราคุสเองก็มีลูกศิษย์สองคนอยู่ก่อนแล้ว หนึ่งในนั้นคือเทอร์ร่า ชายผู้มีความสามารถและจิตใจที่อ่อนโยน แต่ขณะเดียวกันเขาก็ปรารถนาซึ่งพลังอันยิ่งใหญ่ ความดื้อดึงที่จะให้ได้มาซึ่งพลังนี้จะทำให้ความมืดในใจของเขาเติบโตขึ้น เซอานอร์ทจีงตัดสินใจที่จะใช้เทอร์ร่าเป็นร่างใหม่
เซอานอร์ทรีพอร์ท 12
เวลาได้มาถึงแล้ว เอราคุสได้ทำการทดสอบเทอร์ร่าและอควอเพื่อดูว่าพวกเขามีคุณสมบัติพอที่จะได้เป็นมาสเตอร์แล้วหรือไม่ ในการนี้เซอานอร์ทได้วางแผนที่จะล่อทั้งสองออกไปยังดาวดวงอื่น ซึ่งก็คงไม่ใช่เรื่องยาก สำหรับเวน... เซอานอร์ทก็ได้ค้นพบวิธีล่อลวงเวน ซึ่งก็คือเทอร์ร่า
เวนนั้นมองเทอร์ร่าเหมือนเป็นพี่ชายของตน ดังนั้นเทอร์ร่าเป็นคนๆ เดียวที่จะขับเคลื่อนหัวใจดวงนี้ได้ ดังนั้นเซอานอร์ทจึงตัดสินใจที่จะแยกเทอร์ร่าออกจากทุกคน เขาประสงค์จะให้แสงสว่างดวงน้อยอย่างเวนไล่ตามเทอร์ร่าที่ความมืดมิดกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
เพราะยิ่งความมืดแข็งแกร่งขึ้นเท่าไหร่ แสงสว่างก็จะยิ่งเติบโตขึ้นเท่านั้น และยิ่งแสงสว่างเติบโตขึ้น ความมืดก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น
เพียงเท่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะผสมผสานเข้าด้วยกัน แล้วในไม่ช้า สงครามในตำนานก็จะอุบัติขึ้นอีกครั้ง...
ที่มา : GameFaqs (Kouli)
Post a Comment