แปลบทสัมภาษณ์ใน KH -Another Report-
(เขียนขึ้นเมื่อ 19/04/2007)
1. จนถึงตอนนี้ซีรียส์เกม Kingdom Hearts ได้มี "Kingdom Hearts" อยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือแบบที่หมายถึง Hearts of all World (KH1) กับแบบ Hearts of allCreature (KH2) คุณช่วยอธิบายถึงกลไกในเรื่องนี้ให้หน่อยสิ?
หลักแนวคิดเบื้องต้นของ KH ก็คือ "ทุกชีวิตล้วนมีหัวใจ" หัวใจของโลกนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่นเดียวกับต้นไม้ในป่าใหญ่ ทะเลหรือแม่น้ำ ดอกไม้และสิ่งอื่นๆ เมื่อสิ่งเหล่านี้มารวมกันก็จะเกิดเป็นโลกขึ้นมา หัวใจดวงใหญ่ก็จะก่อตัวขึ้นและดำรงอยู่ ส่วนหัวใจของสิ่งมีชีวิตนั้น คือหัวใจของมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งมวล สำหรับ KH นั้นคิดได้ว่าหัวใจเป็นส่วนประกอบที่สำคัญซึ่งหมายถึงจุดสูงสุดของ "หลักฐานแห่งการมีชีวิตอยู่" ซึ่งเราไม่สามารถมองเห็นได้
Note* จริงๆแล้วเค้าไม่ได้ใช้คำว่าหัวใจของสิ่งมีชีวิตนะ แต่เค้าใช้คำที่หมายถึงหัวใจของสิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนไหวไปมาได้อย่างอิสระซึ่งก็คือพวกคนและสัตว์นั่นแหละ พอดีผมนึกคำสั้นๆไม่ได้ ก็เลยใช้เป็นหัวใจของสิ่งมีชีวิตไปแทน
2. ว่าด้วยเรื่องโลกที่ปรากฏใน KH คุณช่วยอธิบายถึงเรื่องการไปมาระหว่างดวงดาราเหล่านั้นได้หรือไม่
เกี่ยวกับเรื่องของโครงสร้างระหว่างดวงดาว ก่อนอื่นเลยสำหรับดาวปกติหรือดาวที่ Sora และเหล่าตัวละครของ Disney อาศัยอยู่นั้น ตั้งอยู่ใน Realm of Light ให้คุณนึกภาพว่าดวงดาวเหล่านั้นตั้งอยู่บนพื้นระนาบชั้นเดียวกัน แล้วในอีกชั้นหนึ่ง หรือเรียกว่าในด้านตรงข้าม ก็มี Realm of Darkness ตั้งอยู่
สำหรับ Realm Between จนถึงตอนนี้มีดาวปรากฏขึ้นมา 4 ดวงด้วยกัน คือ A.Castle Oblivion, B.Twilight Town, C.Yensid's Tower และ D.The World that never Was คิดซะว่าดาวเหล่านั้นเรียงตัวเป็นขั้นบันไดเชื่อมระหว่าง 2 Realm นั้นก็ได้ โดยเรียงประมาณว่า สว่าง < C < B > A > D > มืด
การเดินทางระหว่างดวงดาวต่างๆจะมีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี หนึ่งคือใช้กุมิชิพซึ่ง Sora ใช้ท่องไปในทะเลจักรวาล สำหรับวิธีนี้พวกเขาจะสามารถไปมาระหว่างดวงดาวทั้งหมดในจักรวาลได้ มันจะมีบาเรียที่มองไม่เห็นปกคลุมดาวแต่ละดวงอยู่เพื่อป้องกันการรบกวนจากสิ่งที่มาจากโลกอื่น ทว่าการเปิด Door to World's Heart ของดาวแต่ละดวงนั้นจะทำให้บาเรียที่ว่าแตกสลายและกลายเป็นฝนดาวตกที่ตกลงมา ต่อมาฝนดาวตกเหล่านั้นก็จะกลายมาเป็นชิ้นส่วนของยานกุมิชิพ ทั้งนี้เนื่องจากชิ้นส่วนเหล่านี้เดิมเป็นบาเรียที่เคยปกคลุมโลกอยู่ ดังนั้นกุมิชิพจึงสามารถแทรกเข้าไปในดวงดาวต่างๆได้
ส่วนอีกวิธีหนึ่งนั้นคือการใช้ Corridor of Darkness ซึ่งเป็นทางของผู้ที่ก้าวเดินไปในทางที่ผิด คืออยู่บนเส้นทางที่พวกเขาไม่ควรอยู่ สำหรับผู้ที่ดำรงอยูบนวิถีแห่งความมืดและวิถีแห่งกลางเท่านั้นที่จะสามารถสร้างประตูสู่ทางเหล่านี้ขึ้นมาได้ ในบางครั้งนั้นคนที่มีความรู้สึกที่รุนแรงหรือความเกลียดชังอย่างมากอย่างเช่น Beast หรือ DiZ รวมทั้งคนที่เหมือนกับพวกเขาก็จะสามารถเปิดเส้นทางเหล่านี้ขึ้นมาได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามในยามที่เราติดต่อกับความมืดเราก็ต้องระวังให้ดี ถ้าเราใช้เส้นทางที่ว่านี้บ่อยเกินไปเราก็อาจจะถูกความมืดกลืนกินไปได้ Sora เองก็เคยใช้เส้นทางเหล่านี้หลายครั้งแต่เขาก็ไม่ได้ใช้มันบ่อยเกินไปจนถึงขั้นที่ความมืดจะเข้ามาทำให้หัวใจของเขาเปื้อนมลทินได้ จากเรื่องนี้ก็คิดได้ว่าอำนาจการชักจูงของความมืดนั้นขึ้นอยู่กับความเข้มแข็งของหัวใจแต่ละคน
สำหรับโนบอดี้ซึ่งไม่มีหัวใจและก็ Mickey กับ Riku พวกเขาใช้เส้นทางเหล่านี้บ่อยแต่ก็ไม่เป็นไร อยากรู้ใช่มั้ยล่ะว่าทำไมความมืดถึงไม่กลืนกินหัวใจของพวกเขา? ในบทความนี้จะมีความลับเกี่ยวกับความคล้ายกันของสิ่งที่ผมว่ามานี้อยู่นะ
3. เกี่ยวกับ Realm of Darkness นั้นคุณยังไม่เคยให้รายละเอียดเลย ช่วยพูดถึงสิ่งเหล่านี้หน่อยได้หรือไม่? อย่างเช่นว่าชายหาดที่เราเห็นตอนเริ่มและจบเกมนั้นมีความเกี่ยวข้องกับ Realm of Darkness รึเปล่า?
ตอนนี้ยังมีเรื่องหลักๆอยู่ 4 เรื่องที่ยังไม่ได้ถูกเล่าออกไป
- ช่วงเวลาที่ Mickey หายตัวไป
- ช่วงเวลาที่ Riku หายตัวไป
- ช่วงที่ Roxas อยู่กับพวกองค์กร
- อดีตของ Xehanort
สำหรับเรื่องนี้ ช่วงเวลาที่ Mickey หายตัวไปนั้นจะเกิดขึ้นใน Realm of Darkness ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะเล่าเรื่องทั้ง 4 เรื่องนี้ยังไงดี ผมคงจะสามารถหาวิธีที่จะเล่าเรื่องราวเหล่านี้ได้ในอนาคต
โนมุระ : สิ่งที่เรียกกันว่าชายหาดแห่งความมืดซึ่งเห็นอยู่ในฉากต้นเกม และฉากท้ายเกม KH II คือสุดขอบพิภพ มันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ Realm of Darkness แต่เป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่าง Realm of Darkness และ Between
โนมุระ : ในตอนจบ โซระและริคุอยู่บนหาดฝั่ง Realm Between และกำลังมองไปยังทะเลของ Realm of Darkness
โนมุระ : ประตูที่ปรากฏขึ้นในทะเลแห่งความมืด ฉากนี้สื่อสัญลักษณ์ของคำพูดที่ว่า "ภายในก้นบึ้งของความมืดมิด ยังคงมีแสงสว่างอยู่เสมอ" ซึ่งโซระได้กล่าวเอาไว้ใน KH แรก
4. ยังมีปริศนาอีกมากเกี่ยวกับ Castle Oblivion ปราสาทนี้ถูกสร้างขึ้นโดยพวกองค์กรขณะที่ Namine ก็เป็นร่างทดลองของการทดลองที่ทำกันในนั้นใช่หรือไม่? ช่วยบอกเกี่ยวกับรายละเอียดของการทดลองที่พวกองค์กรทำให้หน่อยสิ แล้วก็แคปซูลที่ Sora เข้าไปด้วย ไม่ทราบว่ามันเกี่ยวข้องกับการทดลองของพวกองค์กรรึเปล่า แล้วพวกแคปซูลที่เรียงรายใน (แมนชั่นของ) Twilight Town ก็เป็นของแบบเดียวกันใช่มั้ย?
ท้ายที่สุดแล้วเป้าหมายขององค์กรก็คือการได้มาซึ่ง KH ที่เกิดจากหัวใจของผู้คน และเพื่อทำให้ตัวเองเป็นชีวิตที่ดำรงอยู่อย่างสมบูรณ์ โนบอดี้เหล่านี้ถูกเรียกว่า "ผู้ที่ไม่มีอยู่จริง" ในการที่พวกเขาจะดำรงอยู่ได้นั้น ขั้นแรกพวกเขาต้องรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับบุคลิกส่วนตัวของพวกเขาขึ้นมาก่อน โนบอดี้นั้นไม่มีอุปนิสัยใดๆแต่พวกเขาก็ใช้ความทรงจำสร้างความเป็นตัวของตัวเองและอารมณ์ขึ้นมา สำหรับพวกเขาแล้วความทรงจำเป็นสิ่งที่ขาดเสียมิได้ สำหรับการกำเนิดของ Castle Oblivion นั้นยังคงเป็นปริศนาอยู่ แต่มันก็มีอยู่มาก่อนที่เหล่าองค์กรจะเกิดขึ้นมาเสียอีก เหล่าองค์กรได้ค้นพบปราสาทนี้ จากคัตซีนที่ถูกเพิ่มเข้าไปใหม่นี้คุณคงสามารถเดาเนื้อเรื่องตอนต่อๆไปได้อย่างรวดเร็วแล้ว
ในเวลาเดียวกันกับที่ Roxas ตื่นขึ้นมาใน Twilight Town ตัว Namine ก็ตื่นขึ้นมาที่ Castle Oblivion หลังจากนั้นพวกองค์กรก็พบกับ Namine พวกเขาคิดจะใช้พรสวรรค์ในการควบคุมความทรงจำของ Namine ในการหาข้อสรุปว่าบุคลิกภาพ ความสามารถและคุณลักษณะที่แท้จริงของพวกเขานั้นเป็นเช่นไร ผู้ที่เข้าไปในปราสาทนี้ก็จะถูกทดลองเกี่ยวกับความทรงจำ นอกเหนือจากนี้ผู้นำขององค์กรอย่าง Xemnas ก็ได้ตระหนักถึงความสำคัญของความทรงจำ ระหว่างการทดลอง เพื่อที่จะรวบรวมความทรงจำที่แตกสลายไปแล้วกลับขึ้นมา แคปซูลพวกนั้นก็ได้ถูกสร้างขึ้นโดยเหล่าองค์กร แคปซูลที่ Sora ใช้ตอนตื่นขึ้นมาใน Twilight Town กับแคปซูลใน Castle Oblivion นั้นเป็นอันเดียวกัน ในเกมนั้นจะมีฉากคัตซีนใหม่ซึ่งเกี่ยวกับ Xigbar ที่กำลังพูดถึง "เป้าหมายที่แท้จริงของ Castle Oblivion" เมื่อได้ดูฉากนี้แล้ว ผมคิดว่าปริศนาทั้งหมดของ Castle Oblivion คงจะคลี่คลายลงแล้วนะ
Note* สรุปว่าเป้าหมายที่แท้จริงที่ Xemnas ใช้ Castle Oblivion ก็เพื่อทดลองเกี่ยวกับความทรงจำ เพื่อที่ในอนาคตจะได้ใช้ Namine ให้ค้นหาความทรงจำในอดีตที่เขาสูญเสียไปได้ ส่วนไอ้เรื่องที่ว่าให้ Namine ค้นหาบุคลิกที่แท้จริงก่อนที่พวกเขาแต่ละคนจะกลายเป็นโนบอดี้นั้น อันนั้นก็แค่เหตุผลบังหน้า
5. มีความลับอีกมากมายเกี่ยวกับคีย์เบลด "ด้านสว่าง คีย์เบลดแห่งหัวใจของโลก" ของ Sora "คีย์เบลดแห่งหัวใจของผู้คนซึ่งสร้างจากหัวใจของเจ้าหญิงทั้ง 7" ของ Riku "ด้านมืด คีย์เบลดแห่งหัวใจของโลก" ที่ Mickey ได้จาก Realm of Darkness ในตอนนี้ก็มี 3 อันนี้ที่ได้รับการยืนยันแล้ว คุณช่วยอธิบายอะไรซักเล็กน้อยได้มั้ย?
คีย์เบลดนั้นมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิดใหญ่ๆก็คือด้านสว่างกับด้านมืด แบบแรกไว้ใช้ล็อคจากด้านนอกและแบบหลังไว้ใช้ล็อคจากด้านใน มันไม่มีวิธีการแบ่งแยกที่ชัดเจนว่าอันไหนดีหรือเลวหรอกนะ โดยปกติแล้วประตูของดาวแต่ละดวงจะปิดอยู่ และเราก็ไม่สามารถมองเห็นรูกุญแจของมันได้ แต่เมื่อเอาคีย์เบลดเข้าไปใกล้ รูกุญแจก็จะปรากฏขึ้น ทว่าแท้จริงแล้วการล็อคก็ไม่ได้เป็นการปิดมันลงอย่างสมบูรณ์แบบ ฮาร์ทเลสสามารถหาประตูและเปิดมันออกอย่างง่ายดายเพื่อเข้าไปช่วงชิงหัวใจ ในภาคที่แล้ว Sora ได้ปิดประตูและล็อคมันลงเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ เกี่ยวกับประตูของ Hearts of all Worlds หรือ "Kingdom Hearts" ที่เปิดค้างไว้อยู่ เพื่อป้องกันการไหลออกของความมืดที่อยู่ภายในหัวใจเราจึงจำเป็นต้องปิดประตูลง การจะปิดประตูลงได้นั้นต้องปิดจากทั้งด้านมืดและด้านสว่าง เพื่อการนี้คีย์เบลดจากโลกแห่งความมืดและคีย์เบลดจากโลกแห่งแสงจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น Mickey ต้องการคีย์เบลดอีกเล่มหนึ่งที่ตรงข้ามกับคีย์เบลดของ Realm of Light ที่ Sora ถืออยู่ ดังนั้นเขาจึงเข้าไปใน Realm of Darkness เพื่อตามหาคีย์เบลดอีกเล่ม
ส่วนคีย์เบลดที่สร้างจากหัวใจของเจ้าหญิงทั้ง 7 ที่ Riku ได้มาในภาคแรกนั้น เป็นสิ่งที่ทำให้รูกุญแจใน Hollow Bastion ปรากฏออกมา หัวใจที่พิเศษของเหล่าเจ้าหญิงได้สร้างคีย์เบลดเล่มนี้ขึ้นมาเพื่อแผนการณ์ที่จะทำให้ความมืดนั้นไหลออกมาจนท่วมท้นหัวใจ ดังนั้นคีย์เบลดเล่มนี้จึงแตกต่างจากคีย์เบลดทั่วไป จะบอกว่ามันเป็นคีย์เบลดเทียมก็ถูก
6. ช่วยอธิบายเกี่ยวกับคีย์เบลดอันใหม่ "Way to the Dawn" ที่ Riku ได้มา แล้วก็คีย์เบลดที่ Kairi ใช้ รวมทั้งเรื่องเงื่อนไขในการใช้คีย์เบลดให้หน่อยสิ?
ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีคีย์เบลดแห่งความมืดและแสงสว่างเพียงด้านละ 1 เล่ม จริงๆแล้วคีย์เบลดนั้นมีอยู่มากมายเท่ากับจำนวนการดำรงอยู่ของผู้ที่มีหัวใจที่เหมาะสมล่ะนะ สำหรับเงื่อนไขในการใช้มันน่ะเหรอ ในตอนนี้ "หัวใจที่แข็งแกร่ง" เป็นเงื่อนไขเพียงหนึ่งเดียวที่ชัดเจนแล้ว อย่างไรก็ตามสำหรับเงื่อนไขที่ไม่ชัดเจนนั้นก็มีอยู่ ผมเองก็มีแผนที่จะเปิดเผยมันออกมาทีหลัง สำหรับ "Way to the Dawn" ของ Riku และคีย์เบลดของ Kairi นั้นเป็นคีย์เบลดชนิดเดียวกันกับของ Sora อย่างไรก็ตามจะไม่มีการอธิบายถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงของ Soul Eater และการปรากฏขึ้นใหม่ของ Way to the Dawn เรื่องที่ Riku มอบคีย์เบลดให้กับ Kairi ก็เช่นกัน พวกเขาได้มันมาด้วยกระบวนการที่ไม่ปกติ ผมคิดว่ามันก็ OK แล้วที่จะให้พวกคุณคิดว่ามันยังคงมีความนัยที่ลึกซึ้งยิ่งกว่านั้นอยู่
7. ในเกม KH นั้น ถ้าช่วงเวลาที่ Sora กลายเป็นฮาร์ทเลสเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ Roxas เกิดขึ้นมาและเข้าร่วมองค์กร งั้นก็แปลว่าตอนที่ Sora อยู่ใน Castle Oblivion เขาได้ใช้คีย์เบลดในเวลาเดียวกันกับที่ Roxas ก็กำลังใช้คีย์เบลดอยู่เช่นกัน คีย์เบลดที่ Roxas ใช้นั้นเป็นของ Sora ใช่หรือไม่? แล้วตอนที่อยู่กับองค์กร ผมว่าทุกคนคงได้เห็นฉากที่ Roxas ใช้คีย์เบลด ส่วน Sora นั้นในฐานะคีย์เบลดมาสเตอร์อีกคนหนึ่ง เขาก็ถูกใช้ให้ไปรวบรวมหัวใจเช่นเดียวกันกับ Roxas ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วทำไมองค์กรถึงต้องหาทางกำจัดพวกเขาด้วย?
คีย์เบลดที่ Roxas ใช้และคีย์เบลดที่ Sora สูญเสียไปใน Castle Oblivion นั้นเป็นเล่มเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาทั้งสองคนสามารถใช้คีย์เบลดในเวลาเดียวกันได้ เรื่องนี้สามารถอธิบายได้ด้วยความสัมพันธ์ระหว่าง Roxas และ Sora ด้วยเหตุนี้เองพวกเขาจึงสามารถถือคีย์เบลดทีละ 2 เล่มได้ ที่จริงแล้วในจุดนี้มีความหมายสำคัญซึ่งเกี่ยวข้องกับความทรงจำของ Xehanort อยู่ ทว่ายังไม่สามารถบอกอะไรได้ในตอนนี้
Note* สรุปว่าเหตุผลที่ว่าทำไม Roxas และ Sora สามารถถือคีย์เบลดพร้อมกันได้ ก็เป็นเหตุผลเดียวกับที่ทำไมทั้งสองคนถึงสามารถถือคีย์เบลด 2 เล่มในเวลาเดียวกันได้นั่นแหละครับ (จริงๆทั้งหมดก็คือคีย์เบลดเล่มเดียวกันน่ะแหละ)
นอกจากนี้ จากการที่พวกเขาสามารถถือคีย์เบลดในเวลาเดียวกันได้ พวกองค์กรจึงใช้ Sora เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสุดท้ายของพวกเขา ทว่าในไม่ช้า สมาชิกขององค์กรก็เริ่มมีเป้าหมายที่แตกต่างกันออกไป พวกเขาต้องการเปลี่ยนแปลงตัว Sora และ Roxas ทว่าท้ายที่สุดพวกเขาก็ไม่สามารถใช้ Sora ตามวิธีการที่แท้จริงซึ่งวางไว้ได้ (การควบคุมความทรงจำโดย Namine) ผลสุดท้ายเลยกลายเป็นว่า Sora เป็นตัวขัดขวางแผนการณ์ของเหล่าองค์กรซะเอง เขาจึงต้องถูกกำจัด แต่แม้ว่า Sora จะเป็นคนที่ต้องถูกกำจัดทิ้งแล้ว คุณก็อาจพูดได้ว่าพวกองค์กรควรจะคิดถึงเรื่องความจำเป็นอื่นๆก่อนที่จะจัดการสังเวย Sora นี่นา
8. เมื่อฮาร์ทเลสถูกกำจัดแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นกับหัวใจที่ถูกช่วงชิงมา นอกจากนี้ในตอนที่สมาชิกขององค์กรและเหล่าโนบอดี้ถูกกำจัด พวกเขาจะกลับคืนสู่ร่างเดิมได้หรือไม่?
เมื่อฮาร์ทเลสถูกกำจัด หัวใจของเจ้าของที่ถูกช่วงชิงมาก็จะล่องลอยกลับไปรวมกับร่างที่เคยดับสูญไปแล้วอีกครั้ง ไม่ว่าร่างนั้นจะไปอยู่ในโลกไหนก็ตาม ส่วนในบางกรณีที่ร่างกลายได้เปลี่ยนเป็นโนบอดี้แล้ว เมื่อไม่มีร่างกายที่เป็นภาชนะให้หัวใจกลับเข้าไปหลอมรวม หัวใจเหล่านั้นก็จะอยู่ในสภาพที่ล่องลอยอยู่เฉยๆ แต่สำหรับใน KHII นั้น คราวนี้หัวใจเหล่านั้นจะล่องลอยไปอยู่กับพวกองค์กร เมื่อฮาร์ทเลสถูกกำจัด หัวใจที่ถูกช่วงชิงมาก็จะถูก KH ที่เป็น KH ของสิ่งมีชีวิตดูดกลืนเข้าไป
ในกรณีที่โนบอดี้ถูกกำจัดนั้นจะซับซ้อนยิ่งกว่านี้นิดหน่อย ถ้าหัวใจที่ถูกช่วงชิงไปนั้นถูกปล่อยเป็นอิสระแล้ว พวกเขาก็จะกลับคืนสู่ร่างเดิม แต่ถ้าหัวใจเหล่านั้นยังคงอยู่กับพวกฮาร์ทเลสที่ช่วงชิงไป โนบอดี้เหล่านั้นก็จะถูกความมืดกลืนกิน แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งที่โนบอดี้เหล่านั้นได้รับหัวใจของพวกเขากลับคืน บางทีพวกเขาก็อาจกลับคืนสู่ร่างเดิมได้
Note* สรุปว่าถ้าฮาร์ทเลสตาย หัวใจเหล่านั้นจะกลับไปรวมกับร่างเดิม แต่ถ้าร่างเดิมกลายเป็นโนบอดี้ หัวใจที่ว่าก็จะลอยอยู่เฉยๆ เพื่อรอวันเวลาที่โนบอดี้ของตัวเองจะตาย แล้วถ้าวันใดวันหนึ่งที่โนบอดี้ของตัวเองตาย หัวใจก็จะสามารถกลับเข้าไปหลอมรวมกับร่างกายเพื่อกลับคืนสู่ร่างต้นได้ นั่นก็คือทั้งฮาร์ทเลสและโนบอดี้ของตัวเองต้องตาย ถึงจะกลับคืนสู่ร่างต้นได้
9. ช่วยพูดถึงข้อมูลของตัวละครหลักหน่อยได้มั้ย? เหตุผลที่ Sora กลายเป็น Anti Form เอย เหตุผลที่ Riku ได้รับเลือกจากคีย์เบลดเอย ความทรงจำของ Kairi สมัยยังอยู่ใน Radiant Garden เอย ความแตกต่างระหว่าง Roxas และ Namine กับโนบอดี้ทั่วๆไปเอย ช่วงที่ Sora และคนอื่นๆหายไปเอย พ่อแม่และเพื่อนๆของเขาเป็นยังไงกันบ้าง แล้วทางโรงเรียนเขาจะว่ายังไง?
เรื่อง Anti Form ของ Sora เหตุผลของเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการที่ Sora ได้กลายเป็นฮาร์ทเลสในช่วงก่อนหน้านั้น แท้จริงแล้วเราก็อาจคิดได้ตามปกติอยู่แล้วว่านั่นคือ Sora ที่ถูกอิทธิพลของฮาร์ทเลสครอบงำ ก็เหมือนกับดาร์คโหมดของริคุนั่นแหละ การใช้พลังมากจนเกินไป ทำให้เขาเข้าประชิดกับความมืดมิดมากเกินงาม ส่วนเรื่องที่ Riku ได้ถูกเลือกโดยคีย์เบลดนั้นมีเงื่อนงำซ่อนไว้อย่างเนียนอยู่ในจุดใดจุดหนึ่งของฉากที่เพิ่มเข้ามาแล้ว ฉะนั้นก็ลองพยายามหากันเองแล้วกัน สำหรับความทรงจำของ Kairi นั้นก็ไม่มีอะไรพิเศษหรอก ถ้าให้ผมนึกถึงความทรงจำของผมในช่วงก่อน 5 ขวบ ผมก็คงจะนึกรายละเอียดอะไรไม่ได้มาก มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องมีสิ่งที่ผมจำได้และก็สิ่งที่ผมลืมไปแล้ว
ในหนังสือนี้มีรายละเอียดที่อธิบายเกี่ยวกับการเป็นโนบอดี้แบบพิเศษของ Roxas และ Namine ไว้แล้ว ก็ให้ลองอ่านรายละเอียดเบื้องลึกในนั้นเอาเอง ผมจะพูดย่อให้เข้าใจง่ายๆละกัน เมื่อผู้ที่มีหัวใจอันแข็งกล้าได้ถูกช่วงชิงหัวใจไปแล้ว พวกเขาก็จะกลายเป็นฮาร์ทเลส และในบางโอกาสร่างกายของพวกเขาก็อาจกลายเป็นโนบอดี้ ทว่าสำหรับกรณีของสองคนนั้น การที่หัวใจของ Kairi ได้เข้าไปซ่อนอยู่ในตัวของ Sora ได้ทำให้เกิดกรณีพิเศษขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อตอนที่ Sora กลายเป็นฮาร์ทเลส Kairi ก็เป็นคนชำระล้างให้เขากลับมาเป็นดังเดิม การที่ Sora กลับคืนมาเป็นปกติแทนที่จะเป็นไปตามกระบวนการทั่วไปนั้น ทำให้ Roxas และ Namine ซึ่งเป็นโนบอดี้แบบพิเศษถือกำเนิดขึ้น จนถึงบัดนี้ผมเองก็ยังรู้สึกได้จากเนื้อเรื่องเลยนะว่าบางที Xemnas ก็อาจเป็นโนบอดี้แบบพิเศษเช่นกัน
สุดท้ายเรื่องของผู้คนที่ Destiny Island ในช่วงเวลาที่ Sora และเพื่อนๆหายตัวไป ในค่ำคืนที่มีพายุโหมกระหน่ำในภาคแรก ตัว Destiny Island เองก็ได้หายไป สำหรับคนในโลกนั้นมันก็เหมือนกับว่าเวลาของพวกเขาได้หยุดลง หลังจากนั้นในช่วงที่ Sora หลับไป 1 ปี ทุกคนก็ได้ลืมความทรงจำที่มีเกี่ยวกับตัวของ Sora ไป ความทรงจำของพวกเขาเป็นเพียงว่า "Riku ได้หายตัวไปในค่ำคืนที่เกิดพายุ" แต่เมื่อ Sora ตื่นขึ้น ทุกคนก็ได้ความทรงจำเกี่ยวกับตัวของ Sora กลับคืนมา ท้ายที่สุดจึงกลายเป็นว่าความทรงจำเกี่ยวกับ Sora ที่พวกเขาจำได้คือ Sora เองก็ได้หายตัวไปในค่ำคืนที่เกิดพายุเช่นเดียวกันกับ Riku
10. KH ของ Ansem (Xehanort) เกิดจากการที่เขาได้ละทิ้งหัวใจของเขาเอง แต่ Xemnas (Xehanort) กลับสั่งให้เหล่าองค์กรออกรวบรวมหัวใจดวงใหม่ ถ้าตามที่ผมเข้าใจคือการกลายเป็นฮาร์ทเลสและโนบอดี้เนี่ย พวกเขาจะกลายเป็นคน 2 คน ถ้าเช่นนั้นแล้วจิตใจของพวกเขาก็จะแยกออกจากกันด้วยงั้นหรือ? เดิมทีแล้ว Xehanort น่าจะสูญเสียความทรงจำบางส่วนไป แต่ในฉากที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในคราวนี้ดูเหมือนว่าจะมีจุดที่น่าสงสัยอยู่ เขาได้ความทรงจำกลับมาแล้วเหรอ? หรือว่าเรื่องที่บอกว่าสูญเสียความทรงจำนั้นเป็นเรื่องโกหก
Note* เค้าหมายถึงฉาก "เพื่อน" น่ะครับ การที่ Xemnas เข้าไปคุยจ้อกับเพื่อนคนนั้นได้ ทำให้สงสัยว่าตกลงแล้วเค้าสูญเสียความทรงจำจริงๆรึเปล่า?
แท้จริงแล้วทั้งสองก็เป็นคนๆเดียวกัน ทว่าพวกเขากลับมีจิตใจที่แยกออกจากกัน Xehanort เลือกที่จะละทิ้งหัวใจของเขาเอง และในเวลาเดียวกันนั่นก็เป็นช่วงที่โนบอดี้ของเขาได้เกิดขึ้นมา ธรรมชาติที่แตกต่างกันของโนบอดี้แหละฮาร์ทเลสทำให้พวกเขามีวิธีที่แตกต่างกันในการที่จะไปถึงเป้าหมายสุดท้าย แต่ว่าผมก็คิดว่าทั้งสองคนต่างก็มีความปรารถนาที่เหมือนกันก็คือ "การได้เป็นชีวิตที่ดำรงอยู่อย่างสมบูรณ์จริง"ในเวลานี้คีย์เวิร์ดปริศนา "ความทรงจำของ Xehanort" ได้ถูกทิ้งเอาไว้ ส่วนใน "Secret Ansem Report" ที่จอมปราชญ์ Ansem เขียนขึ้นก็มีปริศนาอยู่เช่นกัน ความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นจะมีอิทธิพลอันยิ่งใหญ่ต่อ KH ทีเดียว สำหรับเนื้อหาความทรงจำในอดีตของเขาและสภาพปัจจุบันของพวกเขาทั้งสอง ผมยังไม่สามารถเปิดเผยอะไรได้ในตอนนี้
11. จากคีย์เวิร์ดที่ว่าสงครามคีย์เบลด ช่วยให้รายละเอียดเพิ่มเติมเล็กน้อยได้มั้ย? มันเกี่ยวข้องกับ "นิทานเด็กน้อยกับแสงสว่าง" ที่คุณย่าของ Kairi เคยเล่าให้ฟังรึเปล่า? (ในความทรงจำของ Kairi ที่ปรากฏใน KH ภาคแรก มีฉากที่คุณย่าของ Kairi ได้เล่าเรื่องเก่าแก่สมัยที่เธอยังเด็กให้ฟัง มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับยามที่โลกถูกความมืดกลืนกิน เด็กน้อยกลุ่มหนึ่งได้ใช้พลังแห่งเศษเสี้ยวของแสงสว่างเพื่อสร้างโลกขึ้นมาใหม่)
การจะบอกเราเรื่องราวของสงครามคีย์เบลดนั้น เราจำเป็นต้องใช้ฮาร์ดแวร์ที่มีสเปคสูง ๆ และเราก็จำเป็นที่จะต้องรวบรวมความรู้ของเราทั้งหมดเพื่อใช้กับฮาร์ดแวร์นี้ สำหรับการเล่าเรื่องนั้นเราจะแยกออกเป็นตอน ๆ ทว่าตอนนี้ก็ยังไม่ได้คิดกันอย่างละเอียดว่าเราจะเล่ามันออกมาอย่างไร
Note* แปลไทยเป็นไทยคือการเล่าเรื่องสงครามคีย์เบลดจะเล่าต่อเนื่องกันหลายๆภาค หลายๆเกม ภาคหลักจะทำลงบนเครื่องเกมยุคใหม่ ประมาณนั้น
สำหรับนิทานที่ Kairi เคยได้ฟังนั้น ผมว่าเราต้องการเวลามากกว่านี้อีกหน่อย เพื่อจะทำให้ทุกคนรู้สึกว่านิทานนั้นเป็นความจริง กล่าวคือมันคงยังเป็นไปไม่ได้ในเร็ว ๆ นี้
12. เกี่ยวกับผู้ที่ปรากฏตัวในฉากจบลับ "Birth by Sleep" ที่ถูกเพิ่มเข้าไปใน KHII FM+ ผู้คนมากหน้าหลายที่ปรากฏตัวขึ้นคงจะมีความหมายที่สำคัญมากแน่ๆ คงจะเป็นไปไม่ได้ถ้าจะให้คุณบอกรายละเอียด แต่ยังไงก็ช่วยบอกใบ้อะไรหน่อยได้มั้ย? นอกจากนี้แล้วคนในชุดเกราะทั้งสามที่ปรากฏในฉากนั้นโดยเฉพาะคนที่หน้าคุ้นๆ (คนที่หน้าเหมือน Roxas) ซึ่งเราเห็นในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย พวกเขามีความเกี่ยวข้องกับ Xemnas รึเปล่า?
สำหรับคนที่รูปร่างหน้าตาคุ้น ๆ การเข้าถึงความลับในจุดนี้เป็นเรื่องที่ยากเย็นใช่น้อย ผมคิดว่ามูวี่ในฉากนั้นทำได้น่าประทับใจและมันก็กระตุ้นจินตนาการของพวกคุณได้ดีทีเดียว คนในชุดเกราะนั้นมีความเกี่ยวข้องกับ Xemnas แน่นอน แต่ผมยังไม่สามารถให้รายละเอียดอะไรได้ในตอนนี้ ทว่ามูวี่ในคราวนี้ก็ได้ทำนายถึงการเปิดม่านครั้งใหม่ ลองใช้เหตุผลและเงื่อนงำที่เกี่ยวข้องคาดเดาถึงพวกชุดเกราะต่อไปละกัน
13. สุดท้าย การเดินทางของ Sora ได้จบสิ้นลงเรียบร้อยแล้วหรือ? ก่อนหน้านี้คุณเคยบอกเราว่า "ผมมีตอนจบของ Kingdom Hearts อยู่ในหัวแล้ว"นี่หมายความว่า Sora จะไม่ได้อยู่ในตอนจบนั้นรึเปล่า? ดูเหมือนว่าตอนนี้จะมีการพัฒนาซีรียส์ Kingdom Hearts ต่อแล้วนี่ครับ คุณช่วยบอกอะไรกับเราเท่าที่สภาพปัจจุบันจะบอกได้ให้หน่อยสิ?
ด้วยปริศนาอันมากมายและปัญหาที่ยังค้างคาอยู่ในโครงเรื่องของซีรีส์ KH จนถึงบัดนี้ ผมไม่คิดว่าการเดินทางของ Sora จะจบลงแล้วหรอกครับ ถ้าคุณได้เห็นฉากจบของ KHII ผมคิดว่าคุณก็น่าจะรู้สึกได้ถึงลางบอกเหตุครั้งใหม่ ส่วนเรื่องตอนจบของ KH ที่ผมเคยพูดไว้ แน่ละว่าผมคงยังไม่สามารถพูดอะไรได้ในตอนนี้ แต่ถ้า KH ภาคต่อไปเป็นภาค III แล้วล่ะก้อ Sora จะไม่เกี่ยวข้องเลยเหรอ? ถ้าผมจะปิดเรื่อง Kingdom Hearts แล้ว ผมคิดว่าไม่มีทางที่โซระจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรอกครับ
ตอนนี้ได้มีการพัฒนาอะไรใหม่ ๆ ขึ้นมามากมายแล้ว ผมคิดว่าข่าวใหม่คงจะทำให้แฟนๆ KH ที่มีอยู่ในทุก ๆ ที่พอใจ คงต้องรอไปก่อนหากจะให้พูดถึงสิ่งใหม่ ๆ นี้ ระหว่างนั้นก็อยากให้แฟน ๆ กล้าที่จะคาดเดาไอเดียต่าง ๆ ที่แตกต่างกันออกไป มากกว่าจะคิดอะไรไปในทางเดียวกัน ผมจะให้คำใบ้อย่างหนึ่งเกี่ยวกับเนื้อหาของหนึ่งในสิ่งมากมายที่เรากำลังพัฒนาอยู่ ในฉากจบลับที่พึ่งถูกเพิ่มเข้าไปไม่นานนั้น มีวลีหนึ่งที่ปรากฏว่า "พรหมลิขิตเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้"
ในอนาคตอันใกล้นี้เมื่อคุณได้พบกับ Kingdom Hearts ภาคใหม่ ช่วยเปิดหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา ผมคิดว่าวลีจุดนี้จะเชื่อมโยงกับมันอย่างแน่นอน สำหรับตอนนี้ คงเป็นการดีมากหากแฟนๆที่อยู่ในทุกๆที่ต่างก็มีความสุขกับมัน จนกว่าจะมีการแถลงข่าวครั้งใหม่ ก็ขอให้เกมๆนี้ได้ช่วยเติมเต็มความสุขให้กับพวกคุณ แล้วก็อย่าลืมช่วยติดตามผลงานชิ้นต่อไปด้วยนะครับ
Post a Comment