Director Interview - Birth by Sleep Ultimania

(เขียนขึ้นเมื่อ 26/03/2010)

หนังสือ Kingdom Hearts -Birth by Sleep- Ultimania ได้เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2010 แล้ว ในตอนนี้ก็มีผู้แปลเนื้อหาภายในเล่มออกเป็นภาษาต่างๆ มากมายทั่วโลก ตัวผมเองก็จะขอแปลเป็นภาษาไทยเพื่อช่วยไขข้อข้องใจ และตีแผ่ข้อมูลข่าวสารล่าสุดของ Kingdom Hearts ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันนะครับ โดยส่วนแรกสุดนี้ขอเริ่มต้นด้วยส่วน Director Interview หรือบทสัมภาษณ์ความรู้สึกของผู้กำกับ คุณ โนมุระ เท็ตสึยะ ก่อนนั่นเองครับ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - 

"ผมหวังว่าแฟนๆ จะอยากเห็นการกลับมาอีกครั้งของโซระในอนาคต"
~ความลับของเกมที่มีผมรู้เพียงคนเดียวเท่านั้น~

โนมุระ : ฉากมันเปลี่ยนไปมาอย่างรวดเร็วมากจนยากที่จะสังเกตเห็น แต่จะบอกให้ว่าในมูวี่เปิดเกมนั้น เราเผลอใส่แหวนของร็อคซัสเข้าไปในนิ้วมือด้านซ้ายของเวนด้วย

บทสัมภาษณ์ผู้กำกับ เท็ตสึยะ โนมุระ จาก Birth by Sleep Ultimania

- KH BBS เริ่มต้นขึ้นมาได้อย่างไรเหรอครับ?
โนมุระ : ปกติแล้วผมมักจะเริ่มต้นจากการคิดพวกระบบเกมขึ้นมาก่อน แต่สำหรับ KH BBS ผมทำในสิ่งที่แปลกออกไปด้วยการเริ่มต้นเขียนพล็อตเรื่องก่อน ฉากที่เทอร์ร่าพบริคุที่เกาะแห่งชะตากรรม และฉากที่อควอได้พูดคุยกับโซระและริคุ ล้วนถูกเขียนขึ้นในพล็อตตั้งแต่ช่วงแรกเริ่มแล้ว ผมเอาแผนพวกนี้มารวมกันและอยากทำให้มันเป็นจริง นอกจากนี้พล็อตพวกนี้ยังถูกคิดขึ้นมานานมากแล้ว ตั้งแต่ก่อนจะมี KHIIFM+ ซะอีกนะครับ ที่จริงแล้วผมเริ่มต้นเขียนมันตั้งแต่หลังทำ KHII เสร็จนั่นแหละครับ

- งั้นหมายความว่าคุณวางแผนที่จะให้ฉากจบลับของ KHIIFM+ เป็นไคลแมกซ์ของ KH BBS มาตั้งแต่แรกแล้วเหรอครับ?

โนมุระ : ถูกแล้วครับ แต่ตอนนั้นยังไม่ได้มีการกำหนดหรอกนะครับว่าจะให้ฉากนั้นปรากฏขึ้นในช่วงไหนของ KH BBS ในตอนที่เราสร้างฉากจบลับให้กับ KHIIFM+ เรายังไม่รู้กันเลยว่าเกมของ PSP จะมีขนาดใหญ่ได้ซักแค่ไหน แล้วเราก็ยังไม่ได้คิดกันว่าจะให้เนื้อเรื่องมีขนาดยาวเท่าไหร่ด้วยครับ ก่อนที่เราจะได้ลงมือทำกันจริงๆ เราไม่รู้เลยว่าจะสามารถใส่ฉากนั้นลงไปในช่วงท้ายของเกมได้รึเปล่า เพราะขนาดของเกมมันค่อนข้างเป็นปัญหามาก

- คุณใช้ฉากจบลับนั่นเป็นฉากเปิดเกมด้วยใช่มั้ยครับ?

โนมุระ : ผมเคยปรึกษากับคุณโนมัตสึ (ทาเคชิ โนมัตสึ : Cinematic Movie Director) เกี่ยวกับเรื่องของฉากเปิดเกม แล้วเราตกลงกันว่าเราจะใช้มันแสดงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเนื้อเรื่อง  เราได้สร้างฉากเปิดเกม KHII โดยอิงคอนเซปต์ที่ว่าเราจะแสดงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนให้ดู แต่สำหรับเกมภาคนี้มันดันไม่มีเนื้อเรื่องที่นำมาก่อนเนี่ยสิ ดังนั้นเราเลยตัดสินสินจะให้ฉากเปิดเกมเป็นการแสดงลางนิมิตแทนครับ

- คุณคิดชื่อภาค 'Birth by Sleep' ขึ้นมาได้อย่างไรครับ?

โนมุระ : ตอบจากใจจริงเลยนะว่าผมแค่อยากใส่คำว่า 'by' ลงไป (หัวเราะ) ผมว่าชื่อภาคของเกมปกติมันต้องมีคำว่า 'of' หรือ 'is' แต่คุณไม่ค่อยได้เห็นคำว่า 'by' ซักเท่าไหร่ ผมลองถามทีมงานต่างประเทศแล้วเขาบอกว่า 'ปกติไม่ค่อยมีคนใช้คำนี้เป็นชื่อภาคกันหรอก' แต่คุณโปรดิวเซอร์ที่คล่องภาษาอังกฤษเขาบอกว่าคงไม่เป็นปัญหาอะไรหรอก ผมเลยคิดว่าถ้าใช้คำนี้ก็คงไม่แปลกมากเกินไปหรอกมั้ง นอกจากนี้ ผมคิดว่าถ้าให้ชื่อภาคเป็นศัพท์อินเตอร์เน็ตต่อไปอย่างที่ภาค KH CoM และ KH Coded เคยเป็นมาก็คงจะดี ในตอนนั้นผมคิดถึงคำว่า 'สายสัมพันธ์ระหว่างผู้คน' (Bond Between People) ไว้ในใจ แล้วก็เลยอยากให้ชื่อภาคนี้ย่อออกมาได้คำว่า BBS (Bulletin Board System - ซอฟท์แวร์ที่ทำให้ผู้คนเชื่อมต่อเข้าด้วยกันได้) จากนั้น ผมก็อยากจะใช้คำว่า 'sleep' แล้วผลลัพธ์สุดท้ายก็ออกมาเป็น 'Birth by Sleep'

* คอนเซปต์สายสัมพันธ์ระหว่างผู้คน ทำให้คุณโนมุระนึกถึงคำว่า BBS ขึ้นมา ขณะเดียวกันเจ้า BBS มันก็ไปคล้องกับ BBP ที่ย่อมาจาก Bond Between People อีกด้วย

- ตอนแรกมีการตัดสินใจยังไง ถึงได้ให้ทีมพัฒนาฝั่งโอซาก้าเข้ามามีส่วนร่วมกับการสร้างภาคนี้ด้วยครับ?

โนมุระ : ตอนที่เรากำลังเขียนแผนงาน ก็มีการตกลงกันแล้วว่าจะให้ทีม KH ปกติไปสร้าง FF Versus XIII ดังนั้นผมเลยคิดว่าคงต้องให้ทีมอื่นพัฒนาแทนแล้วล่ะ แล้วในตอนนั้นทีมโอซาก้าก็ยื่นขอเสนอเข้ามาว่า 'พวกเราสามารถทำมันได้แจ่มกว่าทีมอื่นแน่นอน ดังนั้นได้โปรดให้โอกาสพวกเราด้วยนะครับ' หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้สร้างเดโมมาให้ผมดู เป็นโซระ โดนัลด์ กู๊ฟฟี่ วิ่งไปวิ่งมาอย่างราบรื่นบนเครื่อง PSP พอผมคิดว่าผมน่าจะวางใจพวกเขาได้ ผมก็ขอให้พวกเขาช่วยทำให้ ในตอนนั้นการพัฒนา Crisis Core FFVII พึ่งจะเริ่มต้นขึ้น และทีมพัฒนาก็กำลังศึกษากันอยู่ว่า PSP จะแสดงภาพออกมาได้แค่ไหนยังไง พอได้ยินดังนั้นผมก็เลยเอาเดโมของทีมโอซาก้าไปโชว์ให้ดู แล้วบอกพวกเขาว่า 'PSP สามารถทำได้ถึงขนาดนี้เลยน่ะ'

- ระบบของเกมที่เน้นเจาะจงไปที่คอมมานด์ เป็นไอเดียของคุณโนมุระเองเหรอครับ?

โนมุระ : ใช่แล้วครับ ระบบ Deck Command เป็นสิ่งที่ถูกคิดขึ้นมาตั้งแต่ตอนวางแผนงานขั้นแรกแล้ว มันเริ่มต้นเมื่อเราสงสัยกันว่าถ้าเอาระบบ Card-using Deck System แบบภาค KH CoM มาปรับให้เรียบง่ายขึ้นแล้วมันจะดีกว่ามั้ย จากนั้นเราจึงเอามันมาผสมกับไอเดียที่ต้องมีการรอชาร์จหลังจากที่ใช้คอมมานด์ออกไปแล้ว ซึ่งก็เอามาจาก Subarashiki Kono Sekai และก็ตั้งใจจะพัฒนาระบบนี้ให้ดีขึ้น การชาร์จแบบที่ต้องมากดเองแบบที่ KH CoM มันก็มีอิสระในระดับหนึ่ง แต่แล้วเราก็คิดขึ้นได้ว่าถ้าเป็นระบบชาร์จอัตโนมัติแล้ว ความเครียดที่เกิดขึ้นในตอนที่ผู้เล่นใกล้ตายคงเป็นเรื่องน่าสนุกพอดี ระหว่างที่คุณกำลังหนีจากศัตรูคุณก็มองไปยังคำสั่ง Curaga แล้วก็คิดว่า 'รีบๆ เต็มเข้าสิ รีบๆ เต็มเข้า...'

- ระบบ Command Board ก็มาจากคำแนะนำของคุณใช่มั้ยครับ คุณโนมุระ?

โนมุระ : ผมเป็นคนรักบอร์ดเกมมาตั้งนานแล้วครับ ตอนเด็กๆ คุณพ่อมักจะสร้างสุโงโรคุ (เป็นบอร์ดเกมของญี่ปุ่น มี 2 แบบ แบบนึงคล้ายกับ Backgammon ของฝรั่งและอีกแบบคล้ายบันไดงู) ให้ผม ผมก็มักจะลอกคุณพ่อมาแล้วสร้างมันใหม่ในแบบของผมเอง เพราะแบบนี้เองผมถึงอยากเอาบอร์ดเกมเข้ามาเป็นระบบหนึ่งในเกมให้ได้ในซักวัน ระบบ Sphere ที่ใช้พัฒนาตัวละครในซีรียส์ FF ก็คล้ายๆ บอร์ดเกมเหมือนกันใช่มั้ยล่ะครับ? ผมมักจะคิดถึงการเอาอะไรซักอย่างมาใช้ในบอร์ดเกมแล้วทำให้มันพัฒาขึ้น และสามารถเล่นคนเดียวได้แบบสุโงโรคุ และมันก็กลายมาเป็น 'Command Board' ครับ

- สำหรับระบบใหม่อย่าง Dimension Link เองก็น่าจะประทับใจเหมือนกันนะครับ

โนมุระ : ใน KHI และ KHII ของ PS2 คุณจะมีผู้ช่วยอย่างโดนัลด์และกู๊ฟฟี่คอยต่อสู้เคียงข้าง แต่ว่าเกมนี้เป็นเกมสำหรับ PSP มันจึงอยากที่จะสร้างตัวละครหลายๆ ตัวให้ปรากฏพร้อมๆ กัน โดยเราก็ต้องคำนึงถึงความสามารถของเครื่องด้วย ด้วยเหตุนี้แทนที่เราจะใส่ผู้ช่วยไปเดินข้างคุณ เราจึงคิดระบบ Dimension Link เป็นกลไกให้คุณสามารถยืมพลังของเพื่อนที่อยู่คนละที่ได้

- แล้วยิ่งได้ใช้ระบบไวร์เลส การได้ลิงค์กับผู้เล่นคนอื่นๆ ก็ยิ่งเป็นเรื่องน่าสนุกสินะครับ

โนมุระ : ไอเดียที่จะลิงค์ไปยังผู้เล่นคนอื่นด้วยระบบไวร์เลสนั้นเป็นของทีมโอซาก้าครับ และมันก็เป็นองค์ประกอบสุดท้ายที่เราต้องปรับแต่งลงในระบบ Dimension Link หนึ่งในธีมของเนื้อเรื่องนี้ก็คือ "ความผูกพัน" ดังนั้นเราเลยยิ่งรู้สึกว่าเราต้องใส่ระบบ Dimension Link ลงไปให้ได้ เพราะมันคือการสร้างสัมพันธ์กับผู้เล่นคนอื่นๆ นั่นเองครับ นอกจากนี้ การที่เวนทำ Dimension Link กับวานิทัศในตอนท้ายของเรื่องนั้นเป็นคำแนะนำของทีมโอซาก้าอีกเช่นกัน ตัวผมเองชอบไอเดียที่จะเอาระบบของเกมมาเป็นนิมิตบอกการดำเนินไปของเนื้อเรื่อง ดังนั้นผมจึงประทับใจมาก และก็คิดว่าพวกเขาใช้มันได้อย่างชาญฉลาดแล้ว

คอนเซปต์ของเนื้อเรื่องที่ว่า "ไม่มีคำว่าเรื่องบังเอิญ อยู่บนเส้นทางแห่งชะตากรรม"

- คุณคิดที่จะเนื้อเรื่องเฉพาะของทั้งสามตัวละครหลักตั้งแต่ช่วงแรกของการพัฒนาเลยรึเปล่าครับ?

โนมุระ : ใช่ครับ ตอนแรกที่ผมเขียนพล็อตขึ้นมา ผมคิดว่าเราต้องได้เล่นเป็นตัวละครทั้งสาม และต้องมีเนื้อเรื่องของแต่ละคนให้เราได้เล่นกัน ตอนที่ผมเขียนบท ผมเขียนของเทอร์ร่า จากนั้นก็เวน แล้วสุดท้ายก็อควอ ตามลำดับดังนี้แหละครับ เนื้อเรื่องจริงๆ มันก็ค่อยๆ คลี่คลายไปตามลำดับนั้น เริ่มจากเทอร์ร่าที่ออกเดินทางไปก่อน แล้วเวนก็ตามไป จากนั้นอควอก็ออกไปเป็นคนสุดท้าย เมื่อพูดถึงภาพรวมทั้งหมดแล้ว คอนเซปต์ที่ว่า 'ไม่มีคำว่าเรื่องบังเอิญ อยู่บนเส้นทางแห่งชะตากรรม' ก็กลายมาเป็นวลีสำคัญของเกมครับ เรื่องที่ว่า 'ที่ริคุใช้คีย์เบลดได้ก็เพราะเขาถูกเลือกให้เป็นผู้สืบทอด' และ 'มันมีเหตุผลที่ทำให้ไคริได้ไปพบกับโซระและริคุ' ก็ถูกเปิดเผยในภาคนี้ ก่อนหน้านี้เรื่องพวกนี้ถูกมองว่าเป็นเรื่องบังเอิญ แต่ในความเป็นจริงแล้วทุกๆ อย่างเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ต่างหากครับ

- การให้ Last Episode เป็นเนื้อเรื่องที่เล่นได้หลังจากจบเนื้อเรื่องของทั้งสามแล้ว เป็นสิ่งที่อยู่ในแผนมาตั้งแต่แรกรึเปล่าครับ?

โนมุระ : เปล่าครับ Last Episode ไม่ได้อยู่ในบทตั้งแต่แรก แต่พูดให้ชัดคือ เนื้อเรื่องจนถึงช่วงที่อควอเดินอยู่ในดินแดนแห่งความมืดดังที่เห็นใน Last Episode เดิมเคยเป็นส่วนหนึ่งของฉากจบในเนื้อเรื่องของอควอมาก่อนครับ ซึ่งตอนแรกมันก็ไม่มีฉากที่ริคุกับโซระคุยกันอยู่ที่ชายหาดด้วยซ้ำ แต่ว่าสุดท้ายเราก็ทำให้เนื้อเรื่องของทั้งสามจบลงด้วยความรู้สึกที่มืดมน แล้วเราก็ค่อยเตรียม Last Episode ขึ้นมาและเพิ่มฉากของโซระและริคุลงไปครับ

- คุณกำหนดชื่อให้กับเทอร์ร่า เวน และอควอได้ยังไงครับ?

โนมุระ : ตอนสร้าง Kingdom Hearts แรก ผมต้องการให้ชื่อของโซระ ริคุ ไคริ มีความหมายที่สื่อถึงธาตุทั้งสามของโลก คราวนี้ก็เช่นกันครับ ผมอยากให้ชื่อของตัวละครหลักทั้งสามมีลักษณะเดียวกัน ชื่อที่เกี่ยวข้องกับโลก ลม และน้ำจึงถูกเลือกออกมา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผมตั้งใจจะให้อควอมีความเกี่ยวข้องกับไครินะครับ

- แล้วคุณคิดชื่อของวานิทัศออกมาได้ยังไงครับ?

โนมุระ : ผมต้องการชื่อที่แสดงออกถึงภาพลักษณ์ะของความ "ว่างเปล่า" และในตอนที่ผมกำลังหาคำที่เหมาะสม ผมก็ไปเจอศัพท์ลาตินที่ว่า "Vanitas" ซึ่งมีความหมายตรงกับคำว่า "虚空" (Kokuu) ในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งก็หมายถึงความว่างเปล่า เสียงของคำว่าวานิทัศก็คล้ายกับเวนตุส แล้วยิ่งเวลาเขียนคำว่าว่างเปล่าเป็นคันจิ มันก็มีตัวอักษรของคำว่า "" (sora) เขียนอยู่ด้วย ผมจึงชอบมากเลยแล้วเราก็ตกลงใช้กัน แต่ในกรณีของวานิทัศ คันจิตัวนั้นไม่ได้หมายถึงตัว "sora" ที่เป็น "ท้องฟ้า" แต่หมายถึงตัว "kara" ที่หมายถึง "ความว่างเปล่า"

- ชื่อของมาสเตอร์เอราคุส ก็เป็นการสลับตัวอักษรของคำว่า "แสควร์" เวลาเขียนเป็นภาษาอังกฤษใช่มั้ยครับ?

โนมุระ : ครับ แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้ชื่อที่มีความหมายลึกซึ้งขนาดนั้นถูกนำมาใช้ได้หรอกครับ ที่จริงผมคิดชื่อของเอราคุสขึ้นมาในตอนที่ผมกำลังเขียนพล็อตแรกเริ่ม แต่พอผมได้อ่านทวนซ้ำอีกครั้ง ผมกลับลืมเองว่ามันมีความหมายแฝงอย่างไร ผมไปถามทีมงานทุกคนแต่ก็ไม่มีใครรู้ จนกระทั่งท้ายที่สุดคุณโปรดิวเซอร์ก็สังเกตเห็นว่ามันคือการสลับตัวอักษรของคำว่า "แสควร์" ในภาษาอังกฤษ ผมจึงนึกขึ้นมาได้และบอกว่า "เอ้อ ใช่ๆ" (หัวเราะ)

หน้าของวานิทัศคล้ายคลึงกับใคร? หลังจากกังวลกันมานานในที่สุดคำตอบก็ถูกเปิดเผย

- การออกแบบตัวละครหลักทั้งสามเป็นไปอย่างราบรื่นมั้ยครับ?

โนมุระ : ไม่ครับ ตอนนั้นผมค่อนข้างลำบากเลย โดยเฉพาะกับชุดเกราะทั้งสามที่ไว้ให้พวกเขาแปลงร่าง ตอนที่ผมออกแบบมันครั้งแรกผมคิดว่ามันจะต้องเป็น "ชุดเกราะที่สามารถแปลงเป็นอุปกรณ์ได้ครบวงจร" ทว่าการรวมเอาอุปกรณ์หลายๆ อย่างให้กลายมาเป็นชุดสวมใส่นั้นเป็นเรื่องยากทีเดียว แต่แล้วเมื่อคำว่า "X" ได้กลายมาเป็นคีย์เวิร์ดของเนื้อเรื่อง รูปร่างของสัญลักษณ์นั้นก็ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบชุดให้กับตัวละครหลักทั้งสามครับ

- แล้วสำหรับหน้าตาของพวกเขา มีแนวคิดในการออกแบบยังไงบ้างครับ?

โนมุระ : สำหรับเทอร์ร่า โฉมหน้าหลังจากนี้ของเขาก็ถูกกำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นผมจึงออกแบบให้เขาดูหนุ่มขึ้นมา เวนตุสเองก็คงต้องคล้ายโซระไม่ก็ร็อคซัส ซึ่งผมก็มีกังวลกับเรื่องนี้บ้าง แต่ผมว่าถ้าให้วานิทัศคล้ายโซระมันคงจะเกิด Impact มากกว่า ก็เลยให้เวนตุสเหมือนกับร็อคซัสแทน แต่ว่าการที่วานิทัศมีหน้าตาเหมือนโซระมันก็มีเหตุผลของมันอยู่นะครับ โซระได้เข้ามาเติมเต็มส่วนเสียหายในหัวใจของเวนตุส และด้วยอิทธิพลที่โซระมีต่อส่วนที่เสียหายนั้น โฉมหน้าของวานิทัศจึงเปลี่ยนมาเป็นเหมือนกับโซระ ดังนั้นถ้าริคุเป็นคนมาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปในหัวใจของเวนตุสแทน หน้าของวานิทัศก็จะเหมือนกับริคุแทนครับ

- แล้วสำหรับหญิงเดี่ยวอควอล่ะครับ?

โนมุระ : เนื่องจากเธอไม่มีต้นแบบเหมือนเทอร์ร่าและเวน ผมเลยต้องวาดตัวละครใหม่จริงขึ้นมาจริงๆ แล้วเนื่องจากชุดของเทอร์ร่านั้นก็มีความเป็นญี่ปุ่นปนอยู่บ้าง ผมจึงเอาจุดนี้มาช่วยออกแบบเธอด้วย เลยเกิดเป็นผ้าที่มาผูกรวมกันที่ด้านหลังของเธอ และก็แขนเสื้อที่บานออกในท้ายที่สุดครับ

- ดูท่าอควอจะแจ้งเกิดได้แล้วนะครับ

โนมุระ : ที่จริงผมไม่คิดเลยว่าเธอจะโด่งดังถึงขนาดนี้นะครับ ในทางตรงกันข้ามผมเริ่มกังวลตั้งแต่ตอนที่ออกแบบเธอแล้วว่า "ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับตัวละครก่อนหน้านี้ก็ไม่ค่อยมี สงสัยจะไม่ได้เกิดซะล่ะมั้ง..." ตอนที่ผมเขียนบทให้ภาค 358/2 Days ผมวาดซิออนออกมาให้เป็นผู้หญิงที่ "อ่อนโยนและกล้าหาญ" แต่ผมก็อยากให้อควอเป็นคนที่เข้มแข็งเพิ่มไปอีกด้วย  ผมไม่ได้วาดเธอให้เป็นผู้หญิงที่ "แข็งแกร่งแบบผู้ชาย" แต่ไอเดียของผมคือผู้หญิงที่ "เข้มแข็งแบบผู้หญิง" ที่จริงผมเองก็ไม่รู้ว่าเธอจะเป็นแบบนั้นได้ยังไง แต่ก็ต้องขอบคุณคุณเมงุมิ โทโยกุจิที่พากย์เสียงให้ เธอค่อนข้างมีชื่อเสียงในด้านนี้ ตอนพากย์ไพน์ใน Final Fantasy X-2 เธอใช้เสียงที่ต่ำกว่าระดับปกติของเธอ แต่ในการพากย์อควอคราวนี้เธอใช้โทนเสียงที่ใกล้เคียงกับเสียงธรรมชาติของเธอเอง ส่วนตัวแล้วผมคิดว่ามันแสดงความเข้มแข็งของอควอออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมทีเดียว

- แล้วคุณมีความคิดยังไงถึงเลือกคุณ เรียวทาโร่ โอคิอายุ มาให้เสียงเทอร์ร่าเหรอครับ?

โนมุระ : คุณ จิคาโอะ โอซึกะ ที่ให้เสียงมาสเตอร์เซอานอร์ทก็เสียงแห้งไป ขณะที่คุณ อาคิโอะ โอซึกะ ที่ให้เสียงเทอร์ร่า/เซอานอร์ทก็มีเสียงที่ลุ่มลึกและกังวาน พอมองหาเสียงที่อยู่ระหว่างกลางทั้งสองนี้ ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือคุณ โอคิอายุ นั่นเอง แน่นอนครับว่าที่คุณ จิคาโอะ โอซึกะ ได้มาให้เสียงเซอานอร์ทก็เพราะเขาเป็นคุณพ่อของคุณ อาคิโอะ โอซึกะ ในชีวิตจริงด้วยนั่นเอง

- การที่ผู้ให้เสียงวานิทัศเป็นคุณ มิยุ อิริโนะ เหมือนกับโซระ นั่นเป็นเพราะพวกเขามีหน้าตาเหมือนกันใช่มั้ยครับ?

โนมุระ : ใช่ครับ แต่เขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับโซระนะ คุณอิริโนะเค้าเคยบอกไว้ว่าเขาอยากจะให้เสียงตัวร้ายบ้าง เขาเลยใส่ซะเต็มที่เลย(หัวเราะ)

เหตุผลที่แซ็คเป็นตัวละครจาก FF เพียงตัวเดียวที่ได้ปรากฏตัว

- คุณตัดสินใจยังไงว่าจะให้โลกไหนมาปรากฏในเนื้อเรื่องของเกมบ้างครับ?

โนมุระ : ก่อนอื่นเลย มันถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าคุณจะสามารถเข้าไปเยี่ยมเยียนโลกของเจ้าหญิง 3 โลกได้ เจ้าหญิงบางคนที่ปรากฏตัวใน KHI นั้นไม่ได้มีโลกของพวกเขาอยู่ในเกมภาคแรก ดังนั้นผมเลยคิดว่าจะต้องสร้างโลกและเนื้อเรื่องของพวกเขาขึ้นมาในซักวันหนึ่ง เราจะได้สามารถเล่าได้ว่ามาเลฟิเซนท์เริ่มสนใจพวกเจ้าหญิงได้อย่างไร และมันก็พอเหมาะพอเจาะทีเดียว สำหรับโลกอื่นๆ นั้น ผมเลือกสถานที่ๆ มันน่าสนใจที่จะเอามาเขียน หรือไม่ก็ดูน่าสนุกเวลาที่ต้องสร้างฉากต่างๆ ครับ

- แล้วยังมีโลกบางโลกที่เคยปรากฏมาแล้วด้วยนี่ครับ

โนมุระ : โอลิมปัสโคลิเซียมนี่ก็ได้โผล่ตลอดแหละครับ แต่ในเมื่อนี่เป็นโอกาสที่จะได้เล่าเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นโดยเฉพาะ ผมเลยอยากจะใส่โลกนี้ลงไปด้วย ในตัวหนังดั้งเดิมนั้นก็มีฉากเฮอร์คิวลิสในวัยเด็กค่อยๆ เติบโตขึ้นอยู่แล้ว ถ้าเอาเขาในวัยนั้นมาใช้ เราก็จะสามารถสร้างโอลิมปัสโคลิเซียมให้กลับเข้าไปเยี่ยมชมได้อีกครั้งนั่นเองครับ

- แซ็คปรากฏตัวในโอลิมปัสโคลิเซียมด้วย มันมีเหตุผลอะไรรึเปล่าที่ทำให้ตัวละครจาก Final Fantasy ตัวอื่นๆ นอกจากเขาไม่ได้ปรากฏตัวในภาคนี้?

โนมุระ : ผมสามารถสร้างซิดและคนอื่นๆ ให้ปรากฏตัวในสวนประกายแสง (เรเดียนการ์เดน) ก็ได้ แต่ถ้าผมทำแบบนั้นเนื้อเรื่องมันคงจะออกทะเลไปไกลแน่นอน ลำพังเนื้อเรื่องหลักของ Birth by Sleep มันก็ซับซ้อนอยู่แล้วครับ เราเลยพยายามดำเนินตามเนื้อเรื่องหลักและไม่แตกกิ่งก้านสาขาให้มันมากนัก ผลที่ตามมาคือตัวละครจาก FF อย่างแซ็คจึงได้ปรากฏมาเพียงคนเดียว เราเลือกเขาก็เพราะเนื้อเรื่องคราวนี้เป็นอดีตของ KH ดังนั้นเราเลยอยากจะใช้อะไรที่มันคล้ายคลึงกัน แซ็คเองก็เป็นตัวละครจากอดีตของ FFVII ดังนั้นเขาจึงเหมาะสมมาก ที่จริงแล้วผมมีคิดที่จะใส่ตัวละครจาก FF ตัวอื่นลงไปด้วยนะครับ แต่ผมก็ตัดสินใจที่จะยังไม่ใส่พวกเขาลงไป ดังนั้นพวกเขาจึงจะไปปรากฏตัวในอีกภาคอื่นๆ ซึ่งเป็นภาคที่ผมยังไม่ได้เปิดตัวด้วย ดังนั้นผมจึงยังบอกไม่ได้ครับว่าเป็นใคร (หัวเราะ)

- คราวนี้มีศัตรูใหม่ที่ชื่ออันเวิร์สปรากฏตัวขึ้น คุณคิดยังไงกับพวกมันบ้างครับ?

โนมุระ : เราจำเป็นต้องเตรียมศัตรูที่ไม่เคยปรากฏใน KH มาก่อนขึ้นมา และในภายหลังพวกมันต้องหายตัวไปจนหมด ดังนั้นผมจึงสร้างให้พวกมันเกี่ยวข้องกับวานิทัศ เพื่อที่พวกมันจะได้หายไปหมดเมื่อวานิทัศจากไป คอนเซปต์ในการออกแบบพวกมันก็ใช้ธีม 'อารมณ์' แล้วเราก็สร้างมันออกมาหลายๆ แบบ เช่นหน้าหัวเราะ หน้าโกรธ หน้าร้องไห้ เครื่องหมายของอันเวิร์สก็เอาแบบอย่างมาจากหัวใจในอารมณ์ต่างๆ ครับ

- พูดถึงศัตรูแล้ว บอสลับคราวนี้ จิตวิญญาณของวานิทัศ มันแข็งแกร่งไม่ใช่เล่นเลยนะครับ?

โนมุระ : ด้วยเหตุเพราะบอสลับใน KHIIFM อย่างนักรบปริศนาได้รับเสียงตอบรับที่ดีมาก ผมจึงคิดที่จะสร้างบอสลับตัวใหม่นี้ให้มีความแข็งแกร่งทัดเทียมกันขึ้นมา แฟนๆ มักชอบร้องขอบอสลับที่ "แข็งแกร่งระดับเทพ"  เราก็เลยจัดให้ ทุกครั้งที่ทีมดีบัคเริ่มจับทางมันได้ เราก็ปรับให้มันเก่งขึ้นไปเรื่อยๆ การสู้กับมันจึงไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อเลย แล้วผลลัพธ์ที่ได้ก็คือความแข็งแกร่งระดับนั้น แล้วในช่วงที่ยังทำงานกันอยู่ ผมก็มักแวะไปที่ฝั่งโอซาก้าเพื่อลองฝึกสู้กับมันดู แต่ผมก็ไม่เคยชนะมันเลย (หัวเราะ) ผมรู้ครับว่าถ้าผมสามารถเอาชนะมันได้ แปลว่ามันคงไม่เก่งแล้วล่ะ ดังนั้นการที่ผมเอาชนะมันไม่ได้ก็เป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้วครับ

ปริศนาที่ซ่อนไว้ในฉากจบลับ เงื่อนงำสู่อนาคตของซีรียส์

- ฉากจบลับได้กลายมาเป็นธรรมเนียมของซีรียส์นี้ไปแล้วสินะครับ แล้วสำหรับภาคนี้ก็มีฉากจบลับที่ชื่อ 'Blank Points' ใส่เข้ามาด้วย ชื่อนั้นหมายถึงส่วนที่ยังว่างเปล่าอยู่ในเนื้อเรื่องใช่มั้ยครับ?

โนมุระ : ความหมายนั้นถูกแล้วครับ นอกจากนี้ชื่อของฉากจบลับทุกๆ อันยังเป็นสื่อถึงเนื้อหาในเกมภาคต่อไปด้วย ตัวอย่างเช่น ฉากจบลับของ KH ที่ชื่อว่า 'Another side, Another story' ซึ่งเป็นการสื่อถึงร็อคซัส ส่วนฉากจบลับใน KHIIFM ก็เป็น 'Birth by Sleep' ใช่มั้ยครับ? ชื่อของเกมภาคต่อไปไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็น 'Blank Points' เท่านั้นนะครับ แต่มันจะลงตัวกับความหมายนั้นพอดี

- ในฉากจบลับ ใครคือ "หัวใจอีกหนึ่งดวงที่เทอร์ร่าให้พักพิงไว้ในหัวใจ" ที่เซอานอร์ทพูดถึงครับ?

โนมุระ : ผมคงตอบไม่ได้ครับ แต่ผมตั้งใจทำให้เห็นคำตอบที่ถูกต้องได้ง่ายอยู่แล้ว ถ้าคุณตั้งใจฟังสิ่งที่เซอานอร์ทพูดดีๆ และอ่านเซอานอร์ทรีพอร์ทประกอบด้วย ผมว่าคุณจะคิดได้เองว่าคนๆ นั้นเป็นใครครับ
ตัวละครที่กำลังเรียกหาโซระ มีความเป็นไปได้ที่จะกำเนิดขึ้นจากการหลับใหล

- แล้วที่จอมปราชญ์อันเซมพูดกับอควอว่า "ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนกำเนิดขึ้นจากการหลับใหล" มันหมายความว่ายังไงครับ?

โนมุระ : เหล่าผู้ที่เรียกหา "โซระ" ในฉากนั้นล้วนเป็นผู้คนที่ได้จากโลกนี้ไปแล้ว แต่ในโลกของ KH มันไม่มีคอนเซปต์ของการตายหรอกนะครับ ดังนั้นภาพพวกนั้นจึงเป็นภาพของผู้ที่หลับใหลอยู่ในหัวใจของโซระ ถ้าพวกเขาสามารถตื่นขึ้นมาได้ พวกเขาก็อาจกลับมายังโลกนี้ได้อีกครั้ง และนั่นก็คือความหมายของ "กำเนิดขึ้นจากการหลับใหล"  จอมปราชญ์อันเซมเค้ากำลังพูดถึงความเป็นไปได้นั้น อควอในตอนนั้นก็ไม่ได้อยู่ในดินแดนแห่งแสงด้วย ดังนั้นบางทีเธอเองก็อาจจะกำเนิดจากการหลับใหลได้เช่นเดียวกัน

- หืม... งั้นก็เป็นไปได้ว่าตัวละครที่ปรากฏในฉากนั้นจะกลับมาอีกครั้งในอนาคตงั้นเหรอครบ?

โนมุระ : ใช่ ข้อมูลที่อันเซมซ่อนไว้ในตัวของโซระก็เป็นความลับที่เกี่ยวข้องกับการคืนชีพของพวกเขา ตอนที่อันเซมกลายเป็น DiZ และหลบซ่อนในเงามืด เขาได้วิจัยเกี่ยวกับหัวใจและอารมณ์ แต่เขาได้ซ่อนบทสรุปของสิ่งที่เขาค้นพบไว้ในตัวของโซระ มีคนมากมายคิดว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่เป็นเรื่องราวใน KH Coded แต่มันไม่ใช่อย่างงั้นครับ ในตอนจบของ Coded ที่นามิเนะบอกว่า DiZ ได้ทำอะไรบางอย่างกับโซระ นั่นเป็นการบอกถึงการที่อันเซมซ่อนข้อมูลไว้ในตัวโซระ เราวางแผนกันว่าจะเปิดเผยรายละเอียดของข้อมูลนั้นในภาคต่อๆ ไปครับ

- เกมสำหรับเครื่องพกพาทั้ง 3 ภาคไม่ว่า 358/2 Days, Coded และ BBS ล้วนขายดีมากเลย คุณมีความเห็นยังไงบ้างครับ?

โนมุระ : มันเป็นงานที่ยาก แต่ก็เป็นเรื่องที่สนุกเช่นกัน ผมได้พบความท้าทายในหลากหลายรูปแบบ และก็ได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างที่ผมสามารถนำไปใช้ต่อไปได้ ถ้าจะพูดให้ชัดแล้ว ฮาร์ดแวร์ของเครื่องต่างๆ ได้ให้อะไรกับผมมากทีเดียว อย่างเครื่อง PSP เราสามารถใช้วิธีการบังคับแบบเดียวกับตัวเกมดั้งเดิมได้ ทำให้เราสามารถต่อยอดออกไปได้ทันที แต่สำหรับเครื่อง Nintendo DS ที่ไม่มีแกนอนาล็อค แทนที่จะเอาของเดิมมาต่อยอด เราก็คิดว่าเราน่าจะสร้างระบบที่ทำให้สามารถปรับแต่งวิธีการเล่นได้แทนดีกว่า นอกจากนี้เรายังทำภาคที่ไม่ได้ลงบนเครื่องเกมแต่ลงบนเครื่องโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมันทำให้เกิดความท้าทายที่ว่าเราต้องสร้างเกมที่เรียบง่ายแต่ยังคงไว้ซึ่งความเป็น KH อย่างเต็มเปี่ยม ประสบการณ์เหล่านี้ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรมากมาย และผมจะสามารถนำมันไปใช้ต่อไปได้ครับ

- ตัวเกม BBS เวอร์ชั่นต่างประเทศกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาสินะครับ มีส่วนไหนบ้างที่จะเปลี่ยนไปจากตัวเกมเดิมบ้างครับ?

โนมุระ : เนื้อเรื่องคงไม่มีการเปลี่ยนอะไร แต่จะมีการปรับแต่งหลายๆ อย่าง นอกจาก Proud Mode แล้วก็จะมี Critical Mode ที่ยากกว่าเดิมขึ้นมา แล้วยังมีการเพิ่มฉากเหตุการณ์ซึ่งในตอนนั้นผมไม่สามารถทำออกมาตามใจตนเองได้ แล้วยังมีเพลงใหม่ๆ ในมินิเกมริสมิคไอซ์ จำนวนของคีย์เบลดก็จะเพิ่มขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นสมดุลของการต่อสู้และความรู้สึกในการเล่นก็ถูกปรับเปลี่ยนด้วยครับ

- KHI ก็แล้ว KHII ก็ไม่แคล้ว แบบนี้ BBS จะมีภาค Final Mix ออกมาให้แฟนๆ ชาวญี่ปุ่นได้สนุกสนานกับส่วนที่งอกเงยขึ้นมาในเวอร์ชั่นต่างประเทศด้วยมั้ยครับ?

โนมุระ : ถ้าผมตอบไปว่า "ในตอนนี้ยังไม่มีแผนครับ" ก็คงโดนเข้าใจว่า "จะไม่ทำแน่ๆ" งั้นผมขอไม่พูดอะไรดีกว่าครับ แต่ว่าเสียงพากย์ในเวอร์ชั่นต่างประเทศนั้นมันช่างอัศจรรย์มาก ดังนั้นถ้าจะทำภาค Final Mix ออกมาด้วยก็คงไม่ใช่เรื่องเลวร้ายหรอกนะครับ... ว่าไปแล้วในตอนที่เราทำ KHIIFM ขึ้นมา เราก็ได้พ่วง KH Re:CoM เข้าไปด้วย ผมเลยเชื่อว่าทุกคนคงคาดหวังถึงสิ่งที่ไม่ธรรมดาในภาค Final Mix อีกแน่ๆ ซึ่งผมก็อยากจะบอกว่า ไอ้ของพิเศษแบบนั้นมันไม่มีซ้ำสองหรอก! (หัวเราะ)

อีก 2 เกมนอกเหนือ KHIII กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา

- ในตอนนี้ภาค BBS ก็จบไปแล้ว เราชักสนใจภาคต่อในอนาคตของ KH ซีรียส์แล้วสิครับ...

โนมุระ : KHIII คงไม่สามารถเริ่มสร้างได้ครับ ตราบใดที่ Final Fantasy Versus XIII ยังไม่ได้บรรลุเป้าหมาย ทว่าการพัฒนาภาคต่อของซีรียส์ก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว มีเกมนึงที่ผมอยากจะวางจำหน่ายภายในปีนี้ หลังจากนั้น....ผมคิดว่าผมอยากจะวางจำหน่ายอีกเกมหนึ่งในปีหน้า และเกมนี้จะมีตัวเอกมากกว่าหนึ่งคนอีกครั้ง สำหรับฉาก 'Blank Points' ใน Birth by Sleep ที่โซระกำลังจะเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่นั้น เราวางแผนให้มันเชื่อมโยงไปยัง KHIII ครับ

- หมายความว่า KHIII จะเป็นการเชื่อมต่อเนื้อเรื่องที่พวกเราเห็นกันมาจนถึงตอนนี้ใช่มั้ยครับ?

โนมุระ : ใช่ครับ ผมได้ยินแฟนๆ บางส่วนคาดเดากันว่าซีรียส์นี้อาจจะจบลงที่ KHIII การพัฒนา KH ซีรียส์ก็ถูกสร้างขึ้นด้วยความตั้งใจที่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะไปจบลงที่ KHIII ที่จะมาถึงในอนาคต แต่ว่านั่นก็คือเนื้อหาส่วนแรกของซีรียส์ที่ยังสามารถขยายไปได้มากกว่านี้ โซระคือตัวเอกของ KH แต่เนื้อหาส่วนแรกของซีรียส์ที่เปิดเผยมาจนถึงตอนนี้เป็นเพียงเรื่องราวของเซอานอร์ทเท่านั้น เซอานอร์ทเค้าเป็นศัตรูมาตั้งแต่ภาคแรกแล้วใช่มั้ยล่ะ?

- เข้าใจแล้ว งั้น KHIII ก็คือการปิดตำนานเรื่องราวของเซอานอร์ทใช่มั้ยครับ?

โนมุระ : ถ้าจำเป็นต้องพูด ผมคงต้องบอกว่าจะมองแบบนั้นก็ได้ครับ นั่นคือเหตุผลที่ว่าแม้เรื่องราวของเซอานอร์ทจะจบลงแล้ว ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่โซระจะได้เริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่อีกอยู่ดีครับ

- งั้นที่ว่า "เมื่อเรื่องราวของโซระจบลง ก็จะมีเรื่องราวของตัวเอกคนใหม่เริ่มต้นขึ้น" ก็ไม่จริงสินะครับ สรุปแล้วซีรียส์นี้จะมีโซระเป็นตัวเอกไปตลอดใช่มั้ยครับ?

โนมุระ : ครับ คอนเซปต์หนึ่งของซีรียส์นี้ก็คือการที่โซระไม่ใช่ผู้วิเศษแต่อย่างใด เขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มธรรมดา จริงอยู่ว่าหัวใจของเขาอาจจะเชื่อมโยงอยู่กับเวนตุนและคนอื่นๆ แต่นอกจากนั้นเขาก็เป็นแค่เด็กธรรมดาที่พบเห็นได้ทุกที่ เขาไม่ได้รับสืบทอดอะไรจากใคร ผมอยากจะสร้างโซระให้เป็นตัวละครที่สามารถมอบความรู้สึกให้กับผู้เล่นว่า "แม้ว่าฉันจะไม่ใช่ผู้วิเศษ แต่ในสายสายสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกับผู้อื่นอีกมากมายนั้น ก็มีความเป็นไปได้ที่ฉันจะประสบความสำเร็จเก็บซ่อนไว้" สำหรับภาค BBS ผมหวังว่าแฟนๆ จะอยากเห็นการกลับมาอีกครั้งของโซระ ฉากจบลับนั่นสื่อความหมายไว้แบบนั้น ฉะนั้นโปรดติดตามเรื่องราวการผจญภัยของโซระต่อไปในอนาคตด้วยนะครับ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -  

ความเห็นผู้แปล (บอนๆ)

- ที่มาของชื่อภาค... อ่านแล้วเอิ่ม... จะว่าสร้างสรรค์หรือทุเรศดี

- ชื่อของวานิทัศ ความหมายแฝงเยอะมากๆ ไม่น่าเชื่อว่าทุกอย่้างจะลงตัวขนาดนั้น

- ในที่สุดก็เข้าใจซะทีว่าทำไมหน้าของวานิทัศถึงเหมือนโซระ

- คุณอิริโนะท่าทางจะอาการหนักไม่น้อยนะครับ ถึงใส่เสียงฮ่าๆๆๆ ซะเต็มที่เลย

- คุณโนมุระเค้าก็ถ่อมตัวนะ บอกว่าตัวเองชนะบอสลับไม่ได้ก็ดีอยู่แล้ว ถ้าชนะได้แปลว่าบอสกาก

- พออ่านถึงท่อนที่คุณโนมุระตอบว่า "ทุกคนมีโอกาสคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง" รู้สึกปรี๊ดแตก... ปล่อยร็อคซัส ซิออน นามิเนะ เค้าไปแล้วไปลับเถิดครับ... ยังไงพวกเขาก็ไม่มีตัวตนมาตั้งแต่แรกแล้ว

- ตั้งแต่ปีก่อน คุณโนมุระก็บอกว่ากำลังพัฒนาเกมที่ยังไม่เปิดเผยชื่ออยู่ 2 เกม ในตอนนี้ก็ทราบกันแล้วว่ามันเกี่ยวข้องกับ KH ทั้งสองเกม ก่อนหน้านี้คุณโนมุระก็เคยบอกว่ากำลังพัฒนาอีกซีรียส์นึงที่เกี่ยวข้องกับ KH และมีตัวละครอื่นเป็นตัวเอก เรื่องทั้งหมดก็สอดคล้องกันพอดี

- ภาค 3 ปิดตำนานเซอานอร์ท ภาค 4 ออกทะเลไปสู้กับมนุษย์ยาง ภาค 5 คงได้ไปลุยกับฟรีสเซอร์บนดาวนาเม็ก
ที่มา : Heartstation

อ้างอิง : Lissar (แปลไม่เหมือนกับ Heartstation ในบางจุด ของ Heartstation จะแปลตรงๆ ทื่อๆ กว่า)

ไม่มีความคิดเห็น