สรุปเนื้อเรื่อง Final Fantasy XV : Comrades หลังอัพเดท 1.23


======================
Ver. ย่อสั้น
======================

- เรากลับมาจากเกาะ Angelgard แล้วหันมาใช้โจโคโบะช่วยอำนวยความสะดวกในการวางสายไฟฟ้าพาดผ่านภูเขาสูง ช่วยส่งไฟฟ้าเข้าไปยังพื้นที่ใหม่ ๆ

- หลังรวบรวมตราสัญลักษณ์กษัตริย์ครบ 12 อัน และส่งไฟฟ้าเข้าไปถึงเมืองอินซอมเนียได้สำเร็จ ในเมืองมีเดม่อนกระจายอยู่มาก หน่วยเกลฟอย่างเราจึงตามไปเก็บกวาดให้

- เราเข้าไปในเมืองอินซอมเนีย ตรงหน้าวังกลับเจออาร์ดีนและอิฟรีท ถึงพวกเราจะชนะอิฟรีทได้ แต่ก็โดนอาร์ดีนเตะโด่งออกมา... แถมเดม่อนนี่ฆ่าเท่าไหร่ก็ไม่หมด เลยได้เพียงวางกองกำลังกันภายในเมือง แต่ยึดเมืองกลับมาไม่ได้

- เกลฟบางส่วนก็เฝ้าเมืองกันไป เกลฟบางส่วนก็กลับไปช่วยคุ้มครองเกาะ Angelgard จนถึงวันที่น็อคติสจะตื่นขึ้นมา

- จบแบบ... ไม่มีสาระเท่าไหร่ มันแค่เชื่อมเนื้อเรื่องว่าพวกเกลฟมาอยู่ในเมืองอินซอมเนียได้ยังไง

======================
Ver. ย่อยาว
======================

หลายวันต่อมา หลังจากจบเหตุการณที่เกาะ Angelgard... ตามความเข้าใจปกติ เราน่าจะต่อสู้อยู่ที่เกาะจนถึงวันที่น็อคติสตื่นขึ้นมานี่หว่า เพราะเจนเทียน่าบอกว่าให้เราคอยปัดเป่าความมืดที่คุกคามเกาะนี้ เพราะถ้าความมืดปกคลุมก็จะทำให้ไม่สามารถทำพิธีปลุกพลังได้ (ใน EP13 อธิบายว่าคือการที่คริสตัลบรรจุแสงทั้งหมดจากคริสตัลลงไปในแหวน)

แต่เราก็กลับมาอยู่ที่เลสทัลลัมอย่างงง ๆ แถมยังได้ยินเสียงบาฮามุทพูดขึ้นมาว่า  "จงตื่นขึ้น บุตรแห่งลูซิส ราชาที่แท้จริง ผู้ถูกเลือกจากคริสตัล รอคอยอยู่"

หลังจากนั้น เราก็ได้ยินเสียงประกาศในเมืองว่าทางบริษัท  EXINERIS กำลังประกาศรับสมัครคนงานทำงานโรงงาน และวิศวกรเพิ่ม

เอาเป็นว่าหลังจากนั้นเราก็เดินไปทางข้างโรงไฟฟ้าในเมือง และพบโจโคโบะดำนอนหมอบอยู่ โดยมีจดหมายทิ้งไว้อยู่ข้าง ๆ คาดว่าคงมีใครติดจดหมายนั้นให้โจโคโบะมา

จดหมายนั้นเขียนโดยวิซ เจ้าของฟาร์มโจโคโบะในเขตดัสก้า วิซเขียนไว้ว่าเขากำลังเดินทางรอบโลกเพื่อช่วยโจโคโบะไม่ให้สูญพันธุ์ โดยเมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ ฮันเตอร์ฝีมือดีได้ช่วยชีวิตลูกโจโคโบะดำไว้ แต่มันไม่มีแม่คอยเลี้ยงดู วิซก็ดูแลมันให้ ตอนนี้โจโคโบะดำตัวนั้นมันโตแล้วก็ต้องให้มันทำงาน ถ้าใครไปพบมันเข้าให้ ก็ช่วยใช้มันในทางที่ถูกด้วย

หลังจากนั้นเราก็ไปตามโฮลลี จีน และซาเนีย มาดูเจ้าโจโคโบะดำตัวนี้ พวกเธอบอกว่าโจโคโบะดำน่าจะช่วยพวกเราวางสายเคเบิลไฟฟ้า พาดผ่านภูเขาสูงได้ ทำให้สามารถส่งไฟฟ้าเข้าไปยังพื้นที่ใหม่ ๆ ที่เดิมไปไม่ถึงได้

---------------------------------

ต่อมาเรานั่งรถไปยังไคแอม (Caem) และเจอกับเวสคัมอยู่บนยอดประภาคาร ตอนนี้เวสคัมทำหน้าที่ดูแลผู้อพยพที่นั่งเรือลี้ภัยมาจากอัลทิสเซีย เวสคัมบอกว่าการล่องเรือมาถึงที่นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างน้อยก็ต้องใช้พลังงานมาก และแสงของประภาคารก็ส่องสว่างไม่พอจะนำทางมาได้ ก็อยากรบกวนให้เราช่วยหาทางทำให้ประภาคารสว่างขึ้น

เมื่อได้รับคำขอร้องจากเวสคัมแล้ว เราก็ไปทำเรื่องต่อเสาไฟฟ้า ส่งไฟพาดผ่านมาจนถึงประภาคาร เมื่อทีนี่กลับมาใช้ไฟฟ้าได้ ก็จะสามารถเปิดฟาร์มเลี้ยงโจโคโบะได้ และจะมีผู้คนอพยพมาอาศัยอยู่ที่นี่มากขึ้น

ในบางครั้งเราจะได้ยินเวสคัมบอกกับซิดว่าสิ่งที่ผู้คนต้องการ คือสถานที่ปลอดภัยให้ซุกอาศัย ไม่ใช่เครื่องจักรที่กินพื้นที่กินพลังงานไฟฟ้า

หลังจากนั้น เราก็ออกเดินทางตามหาตราสัญลักษณ์กษัตริย์ทั่วลูซิส จนกระทั่งได้พลังกษัตริย์มาครบ 12 แบบ และก็ช่วยรวบรวม Meteorshards อำนวยความสะดวกในการติดตั้งและเดินไฟฟ้าไปจนถึงเมืองอินซอมเนีย

---------------------------------

พอได้ตราสัญลักษณ์กษัตริย์ 12 อันและดำเนินการส่งไฟฟ้าเข้าไปถึงเมืองอินซอมเนียเรียบร้อบแล้ว เมื่อเรากลับมายังเมืองเลสทัลลัม ก็จะได้ยินเสียงประกาศในเมืองเลสทัลลัมจากคนชื่อมายา (Maya) บอกว่าขอแสดงความยินดีที่ผ่านงานประจำวันที่ยากลำบากมาได้ วันนี้และพรุ่งนี้ก็สบายใจได้แล้ว จากนั้นโฮลลีก็เดินสวนมาบอกว่าได้เวลาตื่นแล้วอินซอมเนีย มายาประกาศต่อว่าพระอาทิตย์กำลังจะผลัดขึ้นวันใหม่ ถึงเวลาหญิงชายกลับบ้านแล้ว พ่อรออยู่ที่บ้าน อย่าให้พวกเขาต้องเป็นห่วง นี่คือข้อความจาก EXINERIS

จากนั้นตัวเราเองก็จะเดินทางไปที่เมืองอินซอมเนียด้ว โดยฉากโหลดเกม 2 ครั้งได้อธิบายว่าก่อนที่โลกจะเข้าสู่ช่วงความมืดปกคลุม จักรวรรดิได้ตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลขึ้นเพื่อดูแลความเรียบร้อยภายในอินซอมเนีย แต่เมื่อเดม่อนปรากฏตัวขึ้นมา กองทัพจักรวรรดิก็ไม่อาจต่อกรได้ ความมืดจึงเข้าปกคลุมเมืองหลวงที่เคยรุ่งโรจน์นี้ และตอนนี้ทางบริษัท EXINERIS ได้พยายามส่งไฟฟ้าเข้าไปในเมือง แต่ในเมืองก็มีภยันตรายอยู่มาก ทางเกลฟจึงกลับเข้าไปยังเมืองหลวงแห่งลูซิสเพื่อให้การส่งไฟฟ้ากระจายไปในตัวเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

พวกเราเหล่าเกลฟได้กลับเข้ามาถึงเมืองอินซอมเนีย และเมื่อไปถึงงบริเวณที่หน้าวัง เราจะเจออาร์ดีนยืนขวางอยู่ อาร์ดีนจะบอกว่าอิฟรีทไม่ได้รักมนุษย์เหมือนศิวะ แต่ก็สามารถต้อนรับอย่างอบอุ่นได้ ขอให้สนุกและคราวนี้อย่าตายล่ะ

เราจะสู้กับอิฟรีทจนชนะอิฟรีทได้ อาร์ดีนบอกว่าพลังของราชานี้มหัศจรรย์ยิ่ง ขนาดอันธพาลอย่างเรายังใช้พลังได้ขนาดนี้ ทำให้เทพถึงกับทรุดได้ ถ้าพลังกษัตริย์ไปอยู่ในมือผู้ที่เหมาะสม ไม่อยากคิดเลยว่าจะขนาดไหน แล้วอาร์ดีนก็ขอลาไปเตรียมการต้อนรับราชวงศ์ (น็อคติส) แล้วก็ไล่ให้คิงเกลฟอย่างเราไปทำธุระของตัวเอง... หลังจากนั้นเราก็กระเด็นกันออกมาด้วยพลังของอาร์ดีน

หลังจากนั้นฉากโหลดเกมก็อธิบายว่าขณะที่โลกรอคอยการตื่นของราชาที่แท้จริง เกลฟที่เหลือใช้ตราสัญลักษณ์กษัตริย์ต่อสู้กับโรคแห่งดวงดาว ใช้ชีวิตที่พวกเขายืมมาจากบาฮามุท โดยสาบานว่าจะสู้ต่อไปจนกว่าจะตัวตาย

---------------------------------
ข้อมูลเบ็ดเตล็ด
---------------------------------

- Chocomostro เป็นโปรแกรมฝึกโจโคโบะแบบ Totomostro ของอัลทิสเซีย เกิดขึ้นเพราะเมื่อโลกถูกความมืดปกคลุม การใช้โจโคโบะเพื่อขนส่งอย่างเดียวคงไม่พอ จากเดิมที่เน้นฝึกฝนสปีดให้โจโคโบะ ก็เปลี่ยนเป็นเน้นเรื่องความแข็งแกร่ง ให้มันป้องกันตนเองและช่วยเจ้าของได้ ก็เลยต้องมีการฝึกฝนกัน

- พบเอกสารของซาเนีย แก้ไขความเข้าใจผิดของผู้คน ในเอกสารอธิบายว่าการกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นกับสิ่งมีชีวิตทั่วลูซิสไม่ใช่เรื่องใหม่ที่พึ่งเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ แต่มีมาก่อนที่โลกจะเข้าสู่ช่วงความมืดปกคลุม โดยเฉพาะในน้ำ ปลาปิศาจ (daemonfish) ก็ถูกพบมาก่อนที่พิษปรสิตจะปกคลุมท้องฟ้า

- ประวัติเวสคัม : หลังจากเข้าสู่ช่วงความมืดปกคลุม เวสคัมได้กลับขึ้นมายังแผ่นดินลูซิสครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ และตั้งร้านค้าขึ้นบนท่าเรือลับที่แหลมไคแอม คอยช่วยเหลือผู้อพยพที่ลี้ภัยมายังทวีปนี้ และดูแลพวกนักสู้ที่รับผิดชอบดินแดนรอบชายฝั่ง

- ประวัติอิฟรีท : เทพแห่งไฟ หนึ่งในหกเทพที่ปกครองอีออส ถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ทรยศ ไม่ค่อยได้รับความเคารพ เป็นผู้ผิดแปลกไปจากเทพองค์อื่น ตาม Cosmogony แล้ว การทรยศของอิฟรีทเป็นชนวนไปสู่สงครามระหว่างเทพ และนำไปสู่จุดจบของอิฟรีทซึ่งเกิดขึ้นด้วยฝีมือของบาฮามุท แต่เหตุผลที่อิฟรีทฟื้นขึ้นมาจากความตายได้นั้นยังคงเป็นปริศนา แต่สิ่งที่ชัดคือความรัที่เขาเคยมีต่อมวลมนุษย์นั้นได้หายไปหมดสิ้นแล้ว จิตใจที่การุณนั้นเต็มไปด้วยไฟสุม ทำให้เขาแผดเผาผู้ที่ย่างกรายเข้ามาในอินซอมเนีย

- ประวัติอาร์ดีน : อดีตเสนาบดีแห่งนิฟไฮม์ การที่เขาได้นำเสนอวิทยาการมาจิเทคให้กับกองทัพจักรวรรดิ ผลักดันให้เขาไปสู่ตำแหน่งที่ทรงอำนาจ และเขาก็รีบใช้อิทธิพลของเขาต่อจักรพรรดิอีโดลาส แม้จะเป็นศัตรูกันชัดเจน แต่อาร์ดีนกลับช่วยเหลือน็อคติสและบริวารหลายครั้งตลอดการเดินทาง ความอารีนี้ไม่เพียงทำให้พวกน็อคติสงง แต่ยังทำให้พวกจักรวรรดิสับสนด้วยเช่นกัน ผู้อพยพมายังเลสทัลลัมบางส่วนรู้ว่าอาร์ดีนคือผู้อยู่เบื้องพลังการค้นคว้าเรื่องเดม่อนของจักรวรรดิ และอยู่หลังความพยายามในการลอบสังหารลูน่า ช่วงที่อาร์ดีนหายตัวไปนั้น ก็ตรงกับช่วงที่น็อคติสหายตัวไป ทำให้ผู้คนบางส่วนเชื่อว่าสองเหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกัน แต่แล้วความพยายามในการตามหาอดีตเสนาบดีคนนี้ ก็ล้มเหลวมาจนกระทั่งปัจจุบัน

ไม่มีความคิดเห็น