สรุปนิยาย Final Fantasy XV Prologue - Parting Ways

สรุปเนื้อหาจากหนังสือ Final Fantasy XV Prologue - Parting Ways ในหนังสือที่มีความยาวขนาด 49 หน้านี้ เป็นเรื่องราวในช่วงเวลาเดียวกับเหตุการณ์ในภาพยนตร์ Kingsglaive แต่จะนำเสนอเรื่องราวจากมุมของตัวละครอื่นโดยเฉพาะพวกน็อคติสให้ได้ทราบกัน

Scene 1

วันก่อนที่คณะบอยแบนด์ต้องออกเดินทางไปอัลทิสเซีย อิกนิสโทรไปปลุกน็อคติสตอนเช้า และบอกว่าให้รีบเตรียมตัวไว้ เดี๋ยวอิกนิสจะขับรถมารับพาน็อคติสไปส่งที่วัง เพื่อให้เข้าพบกษัตริย์เรจิส และเตรียมตัวไปเข้าพิธีแต่งงานที่เมืองอัลทิสเซีย

Scene 2

อิกนิสขับรถ Audi R8 ที่เป็นรถประจำตัวของน็อคติสมารับ ปกติแล้วอิกนิสจะขับรถของตัวเองรับส่งน็อคติส แต่วันนี้ที่ขับ Audi R8 มารับ เพราะดรอวโทสจะขอยืมรถคันนี้ไปใช้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองมาเข้าพิธีลงนามสงบศึก

น็อคติสไม่มีปัญหากับการให้ยืมรถไปใช้ ตอนได้ใบขับขี่ใหม่ ๆ เจ้าตัวเห่อการขับรถมาก แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าขับในเมืองมันซิ่งไม่ได้ แถมเวลาให้คนอื่นขับให้ มันสบายกว่า ที่สำคัญคือหลับในรถได้

Scene 3

อิกนิสขับรถพาน็อคติสและรถ Audi R8 มาส่งที่วัง แล้วเจอดรอวโตส

ดรอวโตสบอกว่าจนถึงตอนนี้ก็ยังกำหนดวันลงนามทำสัญญาสงบศึกไม่ได้ ส่วนวันนี้ขอให้พวกอิกนิสเตรียมพร้อมไว้ก่อน ตอนนี้กษัตริย์เรจิสยังติดประชุมอื่นอยู่ ยังไม่ถึงคิวพวกน็อคติส แต่กษัตริย์เรจิสอาจจะเรียกพวกน็อคติสให้เข้าเฝ้าเมื่อไหร่ก็ได้

Scene 4

อิริสเดินทางมาหาพ่อ (เคลรัส) ที่วัง เพื่อเอาเสื้อผ้ามาให้พ่อเปลี่ยน เห็นพ่อยุ่งจนต้องนอนค้างที่วัง อิริสมาถึงก็เจอลุงของอิกนิส ซึ่งเป็นบริวารคนหนึ่งของเรจิส ออกมาต้อนรับ จากนั้นก็เจอน็อคติสและอิกนิสด้วย

ทั้งสามคุยกันจิปาถะ สาระสำคัญคืออิริสก็ขอแสดงความยินดีกับการแต่งงานของน็อคติสด้วย

Scene 5

ภายในวัง พวกทหารวังก็ก้มหัวทักทายน็อคติสอย่างอ่อนน้อม ตรงข้ามกับพวก Kingsglaive ที่เดินชนอิกนิสบ้าง ทำเหมือนไม่รู้จักน็อคติสบ้าง

อิกนิสบอกว่าพวก Kingsglaive ไม่ใช่คนที่เกิดและโตในเมืองหลวง บางทีพวกนี้อาจไม่รู้จักน็อคติสก็ได้ ก็เลยไม่ได้ทักทายให้สมเกียรติ

แต่น็อคติสแย้งว่าถ้าทำงานในวัง เดินไปเดินมาที่นี่ ยังไงก็น่าจะรู้จักตัวเขาบ้าง

อิกนิสคิดเหตุผลได้อีกอย่างคือ พวกนั้นอาจกำลังสับสน มีความรู้สึกหลายอย่างปะปนกัน เนื่องจากข้อเสนอของทางจักรวรรดินิฟไฮม์ที่จะขอสงบศึกกับอาณาจักรลูซิส แต่ต้องแลกด้วยการสละอาณาเขตทั้งหมดนอกเมืองหลวง ซึ่งรวมถึงดินแดนบ้านเกิดของพวก Kingsglaive ไปให้กับจักรวรรดินิฟไฮม์ทั้งหมดด้วย

พวกนั้นคงช็อคกันไม่น้อย

Scene 6

น็อคติสพาอิกนิสเข้ามาที่ห้องส่วนตัวภายในวัง และใช้ให้อิกนิสช่วยจัดสัมภาระสำหรับการเดินทางครั้งนี้ให้

อิกนิสถามว่าหลังแต่งงานกับลูน่าแล้ว ลูน่าอาจจะมาใช้ชีวิตอยู่ในวังด้วย ถ้าเป็นเช่นนั้น น็อคติสจะยังใช้ห้องนี้อยู่มั้ย? แต่น็อคติสบอกว่ายังไม่ได้คิดถึงขั้นนั้นเลย

อิกนิสจัดของไป ก็ชวนคุยว่าตอนเด็ก ๆ เขาชอบบังคับให้น็อคติสอ่านหนังสือ ก็ลองเตรียมหนังสือมาให้หลาย ๆ ประเภท แต่น็อคติส ชอบดูแต่หนังสือภาพเป็นหลัก

อิกนิสพูดด้วยความเป็นห่วงว่าก่อนเหตุการณ์ที่น็อคติสจะโดนทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส น็อคติสเคยเป็นคนที่ร่าเริงกว่านี้ แต่หลังบาดเจ็บหนัก น็อคติสก็พูดน้อยลง อิกนิสงงกับความเปลี่ยนแปลงนั้นมาก เวลาน็อคติสจะไปไหน อิกนิสเลยต้องตามไปเป็นเพื่อนด้วย

เวลาที่น็อคติสชอบหนีออกจากห้อง อิกนิสก็ตามไป ทำให้อิกนิสพลอยโดนด่าตามไปด้วย แล้วก็ยอมรับผิดแทนทุกอย่าง อิกนิสบอกว่ายังไงซะมันก็คือหน้าที่ของเขา แม้จนถึงตอนนี้ เขาก็ไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป

ระหว่างจัดของ น็อคติสบอกให้เอาหุ่นไม้ Carbuncle ติดกระเป๋าไปด้วย มันจะช่วยนำโชคให้

Scene 7

เคลรัสผู้เป็นพ่อ บอกกลาดิโอว่าในวันพิธี มีการวางแผนไว้ว่าจะให้คอร์ไปทำการลาดตระเวณนอกเมือง ส่วนพวกทหารก็กระจายกันดูแลพื้นที่ต่าง ๆ ตามปกติ ส่วนวังหลวงก็ให้พวก Kingsglaive ซึ่งเป็นหน่วยที่เก่งที่สุดช่วยกันดูแลเป็นหลัก (ดังนั้น ถ้าล่อพวก Kingsglaive ไปได้ ทุกอย่างก็จบแบบในหนัง)

เคลรัสสอนลูกว่าหลังจากบ้านเมืองสงบสุข หน้าที่ของตระกูลอมิทิเซียซึ่งเป็นโล่แห่งกษัตริย์ ก็กลายมาเป็นโล่ของประชาชน ซึ่งการปกป้องประชาชน ก็ถือเป็นการสนับสนุนองค์ราชันย์ได้เหมือนกัน

เคลรัสขอให้กลาดิโอ ช่วยปกป้องน็อคติส ไม่ใช่แค่ในฐานะรัชทายาท แต่ในฐานะของสหาย และเพื่อนแท้... ขอฝากเรื่องนอกเมืองให้กลาดิโอจัดการด้วย

ถึงตรงนี้ คอร์ก็พาพรอมพ์เข้ามาในวัง โดยบอกว่าจะพาพรอมพ์มารับชุดทหารจากกัปตัน พรอมพ์ผ่านการฝึกฝนมาแล้วโดยไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ

คอร์บอกเคลรัสว่าพวก Kingsglaive น่าจะไม่พอใจกับเงื่อนไขที่นิฟไฮม์ยื่นให้ กระทั่งดรอวโตสก็ดูลำบากใจไปด้วย พอเป็นแบบนี้ คอร์ก็ยิ่งไม่อยากออกไปลาดตระเวณนอกเมืองในวันลงนามสัญญาเลย เขาว่าเหตุการณ์ทั้งหมดมันน่าสงสัย อาจจะเกิดปัญหาขึ้นมาได้ เขาจึงอยากอยู่เฝ้าวัง อยู่ปกป้องกษัตริย์เรจิสมากกว่า

แต่เคลรัสบอกว่าแผนทั้งหมดได้รับความเห็นชอบจากเรจิสแล้ว หากเกิดเหตุร้ายขึ้นมาจริง ๆ กษัตริย์เรจิสอยากให้คอร์ให้ความสำคัญกับประชาชนมาเป็นอันดับหนึ่ง เรจิสต้องการให้คนที่เก่งกาจที่สุด อยู่ช่วยควบคุมดูแลการอพยพประชาชน นี่คือหน้าที่สำคัญที่กษัตริย์เรจิส เลือกที่จะมอบให้คอร์แล้ว

Scene 8

พรอมพ์คุยกับกลาดิโอในวัง พรอมพ์บอกว่าเขาจะแวะกลับบ้านไปหาพ่อแม่ จะอวดให้พวกเขาฟังว่าเขาได้รับหน้าที่อันทรงเกียรติขนาดไหน (ในการเป็นองครักษ์ติดตามน็อคติสไป) หวังว่าพวกเขาจะอยู่บ้าน แต่ถ้าไม่อยู่ก็จะรีบกลับมาที่วังทันที

กลาดิโอบอกว่าเย็นนี้เขาจะไปกินข้าวเย็นกับครอบครัว นาน ๆ ทีถึงจะมีโอกาสได้ทานกันพร้อมหน้า (ผมคิดว่าเคลรัสน่าจะกลัวว่าจะไม่ได้เจอหน้าลูกอีก เลยนัดทานข้าวเป็นครั้งสุดท้าย)

กลาดิโอบอกพรอมพ์ว่า วันก่อนอิริสเห็นพรอมพ์ยืนถ่ายรูปอยู่ที่สวนสาธารณะ ตอนนั้นอิริสเข้าไปทักพรอมพ์แล้ว แต่พรอมพ์เอาแต่หามุมถ่ายภาพอยู่จนไม่สนใจอิริส

Scene 9

ดรอวโตสถามลิเบอร์ตัสว่านิกซ์ไปไหน เขาจะให้นิกซ์ไปส่งน็อคติสยังที่พัก ซึ่งลิเบอร์ตัสก็ตอบว่านิกซ์กำลังมาที่วัง

ลิเบอร์ตัสแสดงความไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของนิฟไฮม์ เขาเองก็ต้องการความสงบสุข แต่ไม่ใช่ด้วยเงื่อนไขแบบนี้

ดรอวโตสเห็นขาของลิเบอร์ตัสยังไม่ค่อยดี ต้องใช้ไม้ค้ำช่วยหยุงเดิน เลยให้กลับบ้านไปพักเถอะ

Scene 10

ช่วงเย็นของวัน น็อคติสอยู่ที่ห้องตัวเองในวัง กำลังนั่งเหม่อหลังจากที่แพ็คสัมภาระส่วนตัวเสร็จหมดแล้ว

จากนั้นอิกนิสก็โทรมาบอกว่าให้กลับที่พักได้เลย วันนี้เขาจะไปหาช้าหน่อย เพราะมีอะไรต้องทำเยอะกว่าที่คิด กลาดิโอก็จะไปช้า ถ้าว่าง ๆ ก็ทำความสะอาด จัดของในห้องพักรอไว้เลย

Scene 11

ภายในวัง ลิเบอร์ตัสที่ขาเดี้ยงอยู่ เดินสะดุด จนไม้ค้ำที่ใช้พยุงเดินล้มตกพื้น อิริสที่เดินผ่านมาพอดีเห็นเข้า เลยรีบไปช่วยเก็บไม้หยุงให้

อิริสเข้าใจว่านิกซ์น่าจะเป็นคนขับรถพาน็อคติสไปส่งยังห้องพัก เลยถามลิเบอร์ตัสว่านิกซ์อยู่ที่ไหน  ลิเบอร์ตัสเลยโทรไปหานิกซ์ให้เพื่อจะถามว่านิกซ์ขับรถถึงไหนแล้ว ปรากฏนิกซ์บอกทางโทรศัพท์มาว่าส่งน็อคติสเข้าที่พักไปเรียบร้อย

ลิเบอร์ตัสเลยบอกอิริสไปว่าถ้าอยากหาน็อคติส พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ก็ได้... แต่แล้วอิริสกลับตีหน้าเศร้า น้ำตาซึมขึ้นมา อิริสบอกว่า วันนี้เป็นวันพิเศษแท้ ๆ....

ลิเบอร์ตัสแนะนำว่าก็ถ้าเป็นวันพิเศษ และมีเรื่องด่วนจริง ๆ ก็โทรไปหาก็ได้นี่ เพื่อนกันก็ย่อมรับโทรศัพท์กันอยู่แล้ว

อิริสบอกว่าถึงเธอจะมีเบอร์โทรศัพท์ของน็อคติส แต่เธอไม่เคยโทรหาเขามาก่อน เพราะหากโทรไป พี่ชาย (กลาดิโอ) ต้องเล่นงานเธอแน่

ลิเบอร์ตัสเลยบอกให้โทรไปเถอะ ยังไงวันนี้ก็เป็นวันพิเศษนี่นา ถ้าพี่ชายเธอจะเอาเรื่อง เขาจะจัดการให้เอง...

อิริสรวบรวมความกล้า โทรไปหาน็อคติส และบอกให้ดูแลตัวเองดี ๆ ขอให้โชคดี

น็อคติสได้ยินแล้วก็งง ๆ ว่าอุตส่าห์โทรมา เพื่อพูดสั้น ๆ แค่นี้เนี่ยนะ? แต่ยังไงก็ขอบคุณนะ

พอวางสายไปแล้ว อิริสก็สูดลมหายใจ พยายามเก็บซ่อนน้ำตา และยิ้มออกมา ลิเบอร์ตัสบอกว่าเขาเองก็มีน้องสาวเหมือนกัน เลยอยากจะช่วย

Scene 12

ในช่วงดึกของวัน อิกนิสที่จัดสัมภาระเสร็จแล้วเดินทางมาที่อพาร์ทเมนต์ของน็อคติส พอมาถึงก็เจอพรอมพ์ที่พึ่งจะมาถึงก่อนเหมือนกัน

พรอมพ์บอกว่าเมื่อกี้แวะไปที่บ้านมา แต่ก็ไม่เจอพ่อกับแม่

แล้วพรอมพ์ก็ชวนคุยไปเรื่อง ทั้งเรื่องที่กลาดิโอแพ็คของเยอะแยะสำหรับไปตั้งแคมป์ แล้วก็บอกว่าเคยทานอาหารฝีมืออิกนิสครั้งหนึ่งแล้วอร่อยเหาะ ฉะนั้นการเดินทางครั้งนี้เขาจะได้กินอาหารฝีมืออิกนิสอีกเยอะ คงเจ๋งน่าดู

อิกนิสถามว่าพรอมพ์ชอบรสชาติแบบไหน พรอมพ์บอกว่าหวานก็ได้ เผ็ดก็ดี กินได้ทุกอย่าง ของแปลก ๆ ก็ทานได้หมด.... 

อิกนิสได้ยินก็บอกดีแล้ว พรอมพ์เป็นคนเปิดใจกินอะไรก็ได้หมด ดังนั้นเขาก็จะทดลองเอาวัตถุดิบของแต่ละท้องที่ มาทดลองทำอาหารใหม่ ๆ

Scene 13

สี่สหายบอยแบนด์ช่วยกันทำความสะอาด เก็บข้าวของภายในห้องที่อพาร์ทเมนต์ของน็อคติส

จังหวะนึงพรอมพ์เห็นลังใบนึง ใส่การ์ตูนไว้ตรึม เลยวิ่งเข้าไปดูแบบตื่นเต้นมาก แถมน็อคยังบอกว่าไอ้การ์ตูนในลังนั้น บางเล่มก็เป็นของพรอมพ์เองด้วย แล้วน็อคติสยังเดินไปหยิบเล่มที่พรอมพ์น่าจะสนใจมาให้ดู

แน่นอน อิกนิสกับกลาดิโอย่อมบอกให้สองคนหยุดเล่นแล้วมาช่วยกันทำความสะอาดต่อได้แล้ว

หลังจากทำความสะอาด เก็บของในห้องเสร็จ ห้องก็เหลือแต่เฟอร์นิเจอร์ชิ้นโต กับพวกลังใส่ของลังใหญ่ ๆ

อิกนิสบอกว่าไว้เดินทางและแต่งงานจนกลับมาแล้ว น็อคติสก็จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ก่อนอื่นก็เริ่มต้นจากการเดินทางวันพรุ่งนี้ ตอนนี้เขาก็มีหาข้อมูลของพื้นที่นอกเมืองแบบคร่าว ๆ มาแล้ว

ทั้ง 4 คุยจินตนาการกันถึงโลกภายนอกกำแพงเมืองที่พวกเขาไม่เคยไป ทั้งเรื่องของสัตว์ วัฒนธรรม ฯลฯ จนพรอมพ์บอกว่าเขาตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ น็อคติสก็เลยหยิบมือถือขึ้นมา ชวนเล่นเกมด้วยกัน

ตอนแรกอิกนิสก็อยากจะห้าม และบอกให้นอนเพราะนี่มันดึกแล้ว แต่กลาดิโอบอกว่ายังไงซะเราก็ต้องคอยรับใช้เจ้าชายไม่ใช่หรอ แล้วกลาดิโอก็ควักมือถือเข้าไปจอยด้วย

อิกนิสเห็นแบบนั้นก็ได้แต่ถอนหายใจ ส่ายหน้าเป็นพิธีเล็กน้อย ก่อนจะควักมือถือ ตามไปจอยปาร์ตี้ด้วยเหมือนกัน

Scene 14

กลางดึกของคืนก่อนที่พวกน็อคติสจะออกเดินทาง เรจิสพึ่งเลิกประชุมหลังจากที่นั่งประชุมยาวมาทั้งวัน แล้วก็กลับมาพักที่ห้องของตัวเอง โดยมีเคลรัสตามมาคุยด้วย ทั้งสองดูเหนื่อยพอกัน แถมเคลรัสยังบ่นปวดหลังด้วย

เคลรัสเสนอว่าพรุ่งนี้หลังเรจิสส่งน็อคติสขึ้นรถแล้ว น่าจะนอนพักหน่อย ส่วนแล้วเขาจะจัดการเรื่องหยุมหยิมของอาณาจักรให้เอง เรจิสได้ยินก็แซวกลับว่าขืนเขาปล่อยให้อาณาจักรอยู่ในมือของเคลรัสสักวัน เขาคงไม่ได้อาณาจักรคืนแน่ ๆ แล้วทั้งสองก็หัวเราะกัน

เคลรัสถามอีกว่ามีโทรไปหาซิดบ้างมั้ย? เรจิสบอกว่าวันนี้โทรไปแล้ว ซิดบอกว่าสบายดี ซิดจะช่วยดูแลพวกลูกชายให้ แต่แลกกับการที่เรจิสต้องหาเวลาไปเยี่ยมซิดด้วย

เคลรัสบอกว่า ....คนปกติไม่กล้าเรียกร้องให้พระราชาไปเยี่ยมแบบนี้นะเนี่ย

แต่เรจิสเองก็สารภาพว่าเขาตอบซิดไปว่าคงไปหาไม่ได้ (ซิดเองก็อ่านเกมออก และกลัวว่าเรจิสจะตายเหมือนกัน ถึงขอแบบนั้น)

ถึงตรงนี้ เรจิสรู้สึกผิดที่ไม่ได้บอกอะไรกับซิด และไม่ได้บอกอะไรกับน็อคติส... (เรื่องที่เรจิสคิดว่าสัญญาสงบศึกนี่เป็นกับดัก และวันลงนามสัญญา น่าจะกลายเป็นวันสู้ตัดสินเดิมพันความเป็นอยู่ของอินซอมเนีย รวมถึงชีวิตของเรจิสเองด้วย)

เคลรัสเองเข้าใจความรู้สึกนั้นดี และปลอบว่ายังไงซะพวกนั้นไม่ใช่เด็กแล้ว สักวันหนึ่งพวกลูก ๆ จะต้องเข้าใจเหตุผลของเรจิสแน่นอน

เขาว่ากันว่าอาจต้องมีการเสียสละเกิดขึ้นมากมายเพื่อให้อนาคตดำเนินต่อไปได้ ทว่าสำหรับเรจิสแล้ว เขาก็แค่อยากจะปกป้องคนที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน ให้คงอยู่ต่อไป (เลยส่งบอยแบนด์ออกไปนอกเมืองเลย ที่ให้คอร์อยู่นอกเมืองก็เพื่อเตรียมดูแลการอพยพผู้คน) ซึ่งเขาเองก็มีทางเลือกไม่มาก บางทีมันอาจจะมากเกินไปที่จะคาดหวังให้ประชาชนเข้าใจ หรือบางทีเขาอาจถูกเย้ยหยันภายหลังว่าเป็นไอ้หน้าโง่ด้วยซ้ำ

แล้วเรจิสก็ขอโทษเคลรัส ที่เขาอาจทำให้ชื่อเสียงของตระกูลอมิทิเซีย ต้องมัวหมองไปด้วย

แต่เคลรัสกลับสายหน้า แล้วบอกว่าไม่ต้องขอโทษหรอก สำหรับเคลรัสแล้ว เรจิสไม่ได้เป็นแค่กษัตริย์ แต่ยังเป็นเพื่อนแท้ด้วย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่คือสิ่งที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

Scene 15

ที่อพาร์ทเมนต์ของน็อคติสในยามเช้า เสียงนกร้องจิ๊บ ๆ ดังมาจากนอกหน้าต่าง แต่แล้วเสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือของน็อคติสก็ดังขึ้น

อิกนิสที่ตื่นก่อนใครเพื่อนอยู่แล้ว ก็เดินเข้าไปปลุกน็อคติส ส่วนพรอมพ์กับกลาดิโอที่ได้ยินเสียง ก็ทยอยลุกกันขึ้นมา

อิกนิสบอกให้ทุกคนรีบเตรียมพร้อม เดี๋ยวเราจะต้องออกเดินทางไปกราบลากษัตริย์เรจิสที่วัง ก่อนจะออกเดินทางครั้งใหญ่กันแล้ว

น็อคติสได้ยินก็บอกรับทราบ ก่อนจะคว้ามือถือของตัวเองขึ้นมา ปิดนาฬิกาปลุก

-สู่ Final Fantasy XV-

ไม่มีความคิดเห็น