สนทนาประสาไฟนอลฯ 7 [34]

 

กลับมาตามหาฮิวจ์มาเทเรียต่อ ตอนนี้เรามีฮิวจ์มาเทเรีย 2 ลูกซึ่งได้จากคอเรลและป้อมนกแร้ง แต่ลูกที่นีเบิลไฮม์ถูกเจ้าหน้าที่จากสำนักงานใหญ่หอบไปที่จูน่อนแล้ว และเจ้าหน้าที่ก็กำลังมาเอาฮิวจ์มาเทเรียจากเตาปฏิกรณ์ใต้น้ำของจูน่อนด้วยเช่นกัน ได้ยินว่าหลังเก็บฮิวจ์มาเทเรียจากที่นี่ได้แล้ว ชินระจะเอาฮิวจ์มาเทเรียทั้งหมดมาบรรทุกลงเครื่องบินเกลนิก้า แล้วมุ่งหน้าสู่หมู่บ้านร็อคเก็ต

ระหว่างเดินอยู่ คลาวด์จะรู้สึกว่าอะไรบางอย่างมันหายไป (ปืนใหญ่น่ะเอง)

ลงไปด้านใน จะเห็นเรือดำน้ำสีขาวกับสีแดง แล้วเห็นเครนหยิบฮิวจ์มาเทเรียจากข้างในเตาปฏิกรณ์ ไปบรรทุกลงเรือดำน้ำสีแดง

 

พวกคลาวด์ไล่ตามไป แต่เจอเรโน่ขัดขวางไว้ เขาส่งหุ่นยนต์แครีอาเมอร์มาสู้กับเราแล้วตัวเองก็หนีไปดูแลฮิวจ์มาเทเรีย

หลังชนะได้ เรือดำน้ำสีแดงจะขับหนีไปแล้ว แต่เราก็รีบวิ่งไปยึดเรือดำน้ำสีขาวเพื่อจะใช้ไล่ตาม

พอเข้าไปในเรือดำน้ำแล้ว คลาวด์ที่เคยเป็นพวกเมาเรือเมารถง่ายมาก่อนจะเริ่มวิตกจริต (ตอนมโนว่าตัวเองเป็นโซลเยอร์ดันไม่เคยเป็น)

เขาชะงัก หันหลังให้แท่นบังคับ แล้วย่อตัวลงกอดเข่า



"ใครก็ได้ช่วยที... ฉันไม่ไหวแล้ว"

"ที่ก็แคบ ยานก็สั่นไหว เสียงเครื่องก็ระห่ำกังวานขนาดนั้น"

อาการแม่มออกทันที!!

หันไปมองยุฟฟี่ เจ๊เองก็ออกอาการเมาเรือด้วยอีกคน !@#$%^&

แต่เพื่อน ๆ ในตอนนั้น ทั้งวินเซนต์และซิดจะช่วยเปิดสวิตซ์ควบคุมเรือ และเชียร์ให้คลาวด์ทำได้ มันไม่ได้ยากอะไรเลย คลาวด์จึงเริ่มได้สติ และรู้สึกว่ามันไม่ได้เมามึนเหมือนแต่ก่อนแล้วนี่หว่า (เซลล์เจโนว่า ช่วยให้หายเมารถเมาเรือได้ด้วยเว้ย!?) เขาจึงหันกลับไปควบคุมยานได้อีกครั้ง

......................................................

***หมายความว่าหลังจากคลาวด์ถูกจับไปทดลอง พอได้สติกลับมา ก็ไม่มีอาการ Motion Sickness อีกแล้ว ตอนก่อนที่คลาวด์บอกว่าช่วงที่เขามโนว่าตัวเองเป็นโซลเยอร์ เขาไม่มีอาการเมาเลย ผมเลยคิดว่าการมโนว่าตัวเองเก่งช่วยข่มอาการเมาของคลาวด์ไว้ตลอด ทว่าตอนนี้คลาวด์เลิกมโนแล้วแต่ก็ไม่ได้กลับไปเมาเรือเหมือนตอนแรก แปลว่าเขาน่าจะหายขาดจาก Motion Sickness แล้ว

ไม่รู้ว่าเพราะเซลล์เจโน่ว่าที่ผสมผสานเข้าไปในร่างกายจนแข็งแกร่งขึ้น หรือเพราะประสบการณ์ตอนที่มโนว่าตัวเองเป็นโซลเยอร์และคุ้นเคยกับการนั่งยานพาหนะโดยไม่เมา ทว่าท้ายที่สุดคลาวด์ก็เอาชนะ Motion Sickness ได้เด็ดขาด

......................................................

พวกคลาวด์ใช้เรือดำน้ำสีขาว ยิงจนเรือดำน้ำสีแดงจมสู่ก้นทะเล ทั้งกลุ่มตั้งใจว่าเดี๋ยวจะออกค้นหาฮิวจ์มาเทเรียจากเรือดำน้ำนั้นกัน

ยังไม่ทันไร สัญญาณวิทยุในยานก็ดังขึ้น เจ้าหน้าที่ชินระติดต่อเข้ามา คลาวด์จึงแอ๊บเนียนสวมบทเป็นทหารชินระตอบกลับไป เจ้าหน้าที่ที่ติดต่อมาบอกว่าให้รีบเอายานหมายเลข 2 (ลำนี้แหละ) กลับเข้าฝั่ง หลังจากนั้นให้คนที่มีไม่มีหน้าที่ ช่วยกันคุ้มกันการขนฮิวจ์มาเทเรีย (ลูกที่เอามาจากนีเบิลไฮม์) จากสนามบินไปที่อื่นต่อ



พวกคลาวด์รีบกลับไปยังสนามบินในจูน่อน แต่ไม่ทันแล้ว พวกเขาเห็นเครื่องบินเกลนิก้าบินออกไปต่อหน้าต่อตา โดยมีหมู่บ้านร็อคเก็ตเป็นจุดหมาย



เก็บกู้ฮิวจ์มาเทเรียจากเรือดำน้ำสีแดง

สำรวจเครื่องบินเกลนิก้าที่อัปปาง (คนละลำกับที่ไปหมู่บ้านร็อคเก็ต) ด้านในจะเจอเรโน่กับรู๊ด ซึ่งเรโน่บอกว่าที่นี่เก็บอาวุธและมาเทเรียที่พัฒนามาเพื่อกำจัดเซฟิรอธโดยเฉพาะ แต่มันถูกเวพ่อนโจมตี (อ้ลเทม่าเวพ่อนแหงม) ทำให้จมสู่ก้นทะเล พวกเขาเลยมาเก็บของจากที่นี่เพื่อไปกำจัดเซฟิรอธ



พวกเรโน่ไม่อยากให้ของเหล่านี้ตกอยู่ในมือพวกเรา จึงสู้ขัดขวาง แต่สู้ไม่ไหวเลยต้องหนีไป ในการต่อสู้นี้เราสามารถขโมย Ziedrich มาจากรู๊ดได้

หลังจากนั้นเมื่อเราใช้เรือดำน้ำเดินทางไปเจอถ้ำที่ลุเครเซียอาศัยอยู่ตัวคนเดียว แล้วจะเห็นเหตุการณ์ในหลายสิบปีก่อนที่พวกโฮโจ กัสต์ ลุเครเซีย มาทำการทดลองที่คฤหาสน์ชินระจนนำไปสู่การกำเนิดของเซฟิรอธ

 

เธออยากจะตาย แต่เจโนว่าในตัวเธอ ไม่ยอมให้เธอตาย ช่วงหลังมานี้เธอก็ฝันถึงเซฟิรอธประจำ (น่าจะเป็นผลจากการรียูเนียน อีกทั้งเซฟิรอธยังสื่อสารไปยังผู้มีเซลล์เจโนว่าทั้งหมด ลุเครเซียจึงรู้สึกถึงเขา)



ลุเครเซียบอกว่าตั้งแต่เซฟิรอธเกิดมา เธอยังไม่เคยได้อุ้มเขาเลย สักครั้งเดียวก็ไม่เคย นี่เป็นบาปของเธอ

วินเซนต์จะเดินเข้าไปหา จะช่วยปลอบลุเครเซีย แต่เธอกลับบอกให้วินเซนต์ถอยไป

ลุเครเซียจะขอให้วินเซนต์บอกเธอว่าเซฟิรอธ ยังมีชีวิตอยู่ใช่มั้ย ถึงข่าวจะออกมาว่าเขาตายไปเมื่อ 5 ปีก่อน แต่ลุเครเซียกลับรู้สึกถึงเซฟิรอธ และรู้ว่าเขาไม่มีทางตายง่าย ๆ แน่ ก็เหมือนกับตัวเธอที่ถึงอยากตาย เซลล์เจโนว่าก็ไม่ยอมให้ตาย

คลาวด์ก้าวขาออกมา ยกมือขึ้น พยายามจะบอกความจริง แต่วินเซนต์ยกมือขึ้นห้ามไว้ และโกหกไปว่าเซฟิรอธตายไปแล้ว

อาจจะเพราะเขาอยากให้ลุเครเซียสบายใจ เลิกคิด เลิกกังวลกับเซฟิรอธ หากเธอรู้ว่าเซฟิรอธยังอยู่ ลุเครเซียคงจะทำทุกวิถีทางให้ได้ลูกชายเพียงคนเดียวของตนอีกครั้ง และเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น อาจะทำให้เธอทุกข์ใจยิ่งกว่าเดิม

ไม่มีความคิดเห็น