Crystal Dynamics เผย 2 นิทานที่ใช้เป็นเรื่องราวของ Rise of The Tomb Raider
ทีม Crystal Dynamics ได้เปิดเผยความเป็นมาของเรื่องราวใน Rise of the Tomb Raider เกมที่จะวางจำหน่ายให้กับ Xbox 360 และ Xbox One ก่อนในช่วงปลายปีนี้ (ตามไปเครื่องอื่นทีหลัง) ว่าเนื้อหาของเกมนั้นเป็นการผสมผสาน "ความจริงในโลกของเรา" เข้ากับนิทานพื้นบ้าน 2 เรื่องของชาวสลาฟ
หากยังจำกันได้ ใน Tomb Raider ฉบับรีบู๊ทภาคแรกนั้น ทีมงานก็ผสมผสานโลกแห่งความเป็นจริงของเรา เข้ากับปริศนาเรื่องพื้นที่ 3 เหลี่ยมมังกร (เบอร์มิวดาแห่งแปซิฟิก) ซึ่งตั้งอยู่ในซีกโลกตำแหน่งตรงข้ามกับ 3 เหลี่ยมเบอร์มิวดาพอดี และตำนานราชินีสุริยะฮิมิโกะ ดูเหมือนว่าต่อไปทีมงาน Crystal Dynamics ก็จะสร้างภาคต่อของ Tomb Raider ด้วยการผสมผสานโลกแห่งความจริงเข้ากับตำนาน 2 เรื่องแบบนี้
สำหรับนิทานพื้นบ้าน 2 เรื่องของชาวสลาฟ ที่จะเอามาทำเป็นเนื้อหาของ Rise of the Tomb Raider ให้ลาร่าต้องผจญวิบากกรรมนั้น คราวนี้ก็คือเรื่องของ "กะฌี ผู้ไม่มีวันตาย" (Koschei the Deathless : Коще́й) และ เมืองคิเตชที่สาบสูญ (The Lost City of Kitezh : Ки́теж)
สังเกตมั้ยครับว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับสถานที่ 1 เรื่อง และเรื่องของตัวบุคคล 1 เรื่อง เหมือนกับการสร้างเนื้อเรื่องในภาคแรกเลย? วันนี้เราลองมาทำความเข้าใจคร่าว ๆ กับนิทานทั้ง 2 เรื่องดังกล่าวกันดู
====================
กะฌี ผู้ไม่มีวันตาย
====================
กะฌี ถูกพรรณนาไว้ในภาพวาดของชาวรัสเซียว่าเป็นชายแก่อัปลักษณ์หนังหุ้มกระดูก ชอบใช้อาคมระรานสาว ๆ โดยตาแก่หนังเหนียวนี่อยู่ในสภาพกึ่งอมตะ เอาไม้หน้าสามทุบให้น่วมก็ไม่ตาย เหตุผลเพราะแกได้ถอดวิญญาณออกจากร่างไปแล้ว (เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นว้อย!?)
กะฌีนั้น เคยถอดวิญญาณตัวเองไปใส่ไว้ในเข็ม เอาเข็มนั้นไปซ่อนในไข่ภายในครรภ์ของเป็ด เอาเป็ดไปซ่อนในตัวกระจ่าย เอากระจ่ายไปใส่ในหีบ และเอาหีบไปฝังไว้ใต้ต้นโอ๊ค
ต้นโอ๊คดังกล่าว ปักอยู่บนเกาะกลางมหาสมุทรที่ชื่อว่าบูยาน (Buyan : Буян) เป็นเกาะลี้ลับที่ปรากฏในนิทานพื้นบ้านอีกหลายเรื่อง
กะฌีเชื่อว่า ใครที่คิดฆ่าเขา ต่อให้ไปถึงเกาะบูยาน ขุดจนเจอหีบ พอเปิดหีบมา กระต่ายก็จะวิ่งหนีไป ต่อให้ฆ่ากระต่ายได้ เป็ดในตัวกระต่ายก็จะวิ่งหนีไปอีก.... ต้องฆ่าเป็ดให้ได้ ถึงจะสามารถกระซวกเข็มที่อยู่ในไข่เป็ดนั้นมาได้ พอหักเข็มนั้นทิ้งได้ กะฌีก็เป็นอันซี้ม่องเซ็ก
สำหรับ Rise of TR (ย่อละ) ภาคนี้ ก็จะเอาเรื่องที่กะฌีถอดวิญญาณตัวเองออกไปซ่อนมาใช้ แล้วแต่งเรื่องว่าพ่อของลาร่าเคยไล่ตามปริศนาเรื่องนี้มาก่อน และลาร่าก็จะไปสานต่อส่วนที่เหลือ
====================
เมืองคิเตชที่สาบสูญ
====================
คิเตชนั้น ตามตำนานแล้วเป็นเมืองที่จมอยู่ใต้ทะเลสาบ คนแถวนั้นเรียกกันว่าเป็นแอตแลนติสแห่งรัสเซีย
คิเตซ เคยเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ แต่แล้วในช่วงที่โดนกองทัพมองโกลบุก ชาวบ้านก็ช่วยกันภาวนา ขอให้พระเจ้าคุณพร้อมพวกเขา และแล้วตอนนั้นเองน้ำก็พรั่งพรูจากทะเลสาบขึ้นมาท่วมรอบเมือง เมืองก็จมลงทะเลสาบไป
ว่ากันว่าเฉพาะผู้ที่มีหัวใจและวิญญาณบริสุทธิ์เท่านั้น ถึงจะไปถึงเมืองคิเตชได้ (ผมว่าไม่ใช่ลาร่าแน่นอน 555+)
จากที่ผมเดา... ผมว่าทีมแต่งเรื่อง คงแต่งให้เกาะบูยานกับเมืองคิเตช กลายเป็นสถานที่แห่งเดียวกัน แล้วเอาเข็มที่ผนึกวิญญาณของกะฌี ไปซ่อนในเมืองนั้น
สรุปแล้วสิ่งที่คุณจะได้เจอในภาคนี้ คือการพาลาร่าไปเที่ยวซีเรียและไซบีเรีย เพื่อตามหาเงื่อนงำของกะฌี ดีไม่ดีคงได้สู้กับกะฌีที่ฆ่าไม่ตาย จนต้องพาลาร่าหนีไปยังเมืองคิเตช ทำให้ระดับน้ำลดลง... ตามหาหีบที่ฝังใต้ต้นโอ๊ค ไล่จับกระต่ายและเป็ด ก่อนจะกระชากเข็มที่อยู่ในไข่เป็ดออกมาหักทิ้ง
ผมจะดีใจมากถ้ามีกะฌีที่สู้ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ ไม่โกงหรือกากเกินไป มาเป็นบอสใหญ่ของเกม เพื่อเป็นเหยื่อให้กับธนูนาปาล์มของนางเอกควงนมถล่มป่าช้า 2
อ้างอิง : http://www.gamespot.com/articles/rise-of-the-tomb-raiders-myths-explained/1100-6429376/
Post a Comment