สรุปบทสัมภาษณ์เท็ตสึยะ โนมุระ จากหนังสือ Kingdom Hearts Ultimania

บทสัมภาษณ์ท้ายเล่มในส่วนของเท็ตสึยะ โนมุระ จากหนังสือ Kingdom Hearts Ultimania ตัดตอนมาเฉพาะประเด็นที่ผมสนใจนะครับ


==========================
จุดเริ่มต้นของโปรเจคท์ ชายผู้วางแผนตัวคนเดียวอยู่ร่วมปี
==========================

คุณโนมุระเริ่มเล่าให้ฟังว่าในวันหนึ่งขณะที่คุณฮาชิโมโตะกำลังคุยอยู่กับคนของ Disney ในที่แห่งเดียวกันนั้นตัวเขาเองก็คุยกับคุณซากากุจิเรื่องจะสร้างเกมแบบไหนต่อไปดี ซึ่งตอนนั้นคุณโนมุระกำลังอยากสร้างเกมแอ็คชั่นที่มีตัวละครเก๋ ๆ เขาจึงอาสาเป็นคนทำเกมต่อไป ตอนนั้นคนจาก Disney ที่ฟังอยู่ด้วยก็หันขวับมาพูดว่าถ้าต้องการตัวละครเก๋ ๆ ก็ต้องเป็นตัวละครจาก Disney ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั้งโลก เรื่องมันก็เป็นมาแบบนั้น

คุณโนมุระกล่าวต่อไปว่าในตอนแรกเขาก็ไม่อยากรับหน้าที่เป็นผู้กำกับ เพราะว่ามันยาก (หัวเราะ) ตอนนั้นเขาได้รับมอบหมายให้ทำเกมร่วมกับ Disney ...โดยในส่วนของการวางแผน และการเจรจากับ Disney เขาไม่มีทีม ต้องทำตัวคนเดียว หรือเรียกว่าทั้งทีมมีเขาอยู่คนเดียว (หัวเราะ) โดยตอนที่เริ่มวางแผนคนเดียวนั้นคือหลังเสร็จจาก FFVIII แล้วสภาวะเช่นนี้ดำเนินอยู่ร่วมปีกว่าที่จะจัดตั้งทีมขึ้นมา

เมื่อถูกถามว่าการควบทั้งตำแหน่งผู้กำกับและคนออกแบบตัวละครพร้อม ๆ กันเป็นเรื่องยากหรือไม่? คุณโนมุระตอบว่าเขาคิดไว้แต่แรกแล้วว่ามันมีบางจุดบางประเด็นที่เขาไม่ควรไปแตะต้อง ดังนั้นเขาจึงรวบรวมคนมีฝีมือในด้านต่าง ๆ เข้ามา และไว้เนื้อเชื่อใจฝากให้พวกเขาทำ แบบนั้นเขาจะได้ไม่ต้องเสียวลาไปกับการกำหนดรายละเอียดปลีกย่อยเล็ก ๆ น้อย ๆ ของสิ่งต่าง ๆ

==========================
ความยุ่งยากในการเจรจา
==========================

คนสัมภาษณ์ถามต่อไปว่า จากประวัติเกมของ Disney ที่ออกมาก่อนหน้านั้น การขออนุญาตใช้สิทธิต่าง ๆ มันยุ่งยากมาก แต่คุณโนมุระกลับวางแผนที่จะสร้างดาวต่าง ๆ สร้างตัวละคร 3D ต่าง ๆ ของ Disney ขึ้นมาเต็มไปหมด การเจรจามันยากแค่ไหน?

คุณโนมุระบอกว่าเขาไม่ค่อยคิดว่า "เป็นไปไม่ได้หรอก เลิกดีกว่า" แต่เขามักคิดว่า "ก็รอดูว่าจะเป็นยังไง ถ้าไม่ดี ก็ค่อยยอมแพ้" แม้ช่วงแรกขออะไรไปก็จะโดนปฏิเสธรัว ๆ แต่เขาก็พยายามคิดตลอดว่า "เดี๋ยวก็กล่อมได้น่า"

ช่วงแรก คุณโนมุระมีคิดไว้ว่าเขาอยากสร้างฉากที่เจ้าหญิงทั้งหมดถูกจับตัวไว้ที่ Hollow Bastion แต่แล้วเจ้าชายทุกคนก็ปรากฏตัวขึ้นมาช่วย เสียดายที่ไอเดียนี้ถูกปฏิเสธ แต่อย่างน้อยในส่วนที่เจ้าหญิงถูกจับตัวไว้ที่เดียวกันก็ยังอยู่

ในส่วนของการเลือกดาว คุณโนมุระเล่าว่าตอนที่เขาต้องวางแผนตัวคนเดียว เขาก็มีเลือกดาวจาก Disney ไว้จำนวนหนึ่ง เมื่อผสมกับดาวออริจินอลด้วยก็จะมีเกินกว่า 20 ดวง แต่คุยไปคุยมาก็โดนตัดฉับ ๆ จนเหลือประมาณ 10 ดวงอย่างที่เห็นในภาคแรก โดยหลักในการเลือกก็พิจารณาจากความโด่งดังของดาวนั้น ๆ ก่อน ตามด้วยพิจารณาว่ามีตัวละครที่น่าสนใจรึเปล่า และถัดมาก็คือมีฉากสถานที่ ๆ น่าสนใจมั้ย

กับปัญหาคาใจว่าทำไมทั้งเกมถึงมีมิคกี้โผล่มาแค่ฉากเดียว คุณโนมุระบอกว่าตามสัญญากับ Disney แล้ว เขาจะสามารถเอามิคกี้ออกมาใช้ได้แค่คัตซีนเดียว แถม Disney ยังจำกัดด้วยว่าให้ใช้น้อย ๆ ในลักษณะเช่น เอามิคกี้ไปยืนโบกมืออยู่ด้านหลังฝูงชนที่หนาแน่น ....คุณโนมุระจึงคิดว่าถ้าจะเอามาใช้แล้วก็ต้องเป็นฉากที่เกิดอิมแพคท์มากที่สุด จนมาได้ข้อสรุปว่าตรงนี้แหละ ฉากจบเกม

==========================
ตัวละครจาก Final Fantasy
==========================

คุณโนมุระเผยว่าตอนแรกเขาคิดที่จะใส่ตัวละครจาก FF ลงไปในเกมให้น้อยกว่าที่เห็น แต่ระหว่างที่แต่งเนื้อเรื่อง เขาก็พยายามคิดว่าต้องเอาตัวละครจาก Disney ตัวใดมารับบทบาทนั้นนู้นนี้แล้วมันจะเหมาะสม แล้วเขาก็พบว่าบทบาทหลาย ๆ ส่วนมันใช้ตัวละครจาก Disney ไม่ได้ ตัวอย่างเช่น บทเด็กที่อาศัยที่เกาะแห่งชะตากรรม บทตัวละครที่ชี้นำโซระในเมืองเทรเวิร์ส.... หากสร้างตัวละครใหม่ขึ้นมามันก็คงไม่มีสเน่ห์เท่าตัวละครของ Disney ก็เลยคิดว่าใช้ตัวละครจาก FF มั่งดีกว่า พอนึกถึงบทบาทของนักดาบผู้ชี้นำโซระ หน้าของสคอลล์ก็ผุดขึ้นมา และเขาคิดว่าสคอลล์เหมาะสมกับบทบาทนี้ที่สุด

พูดถึงสคอลล์แล้ว คนสัมภาษณ์ก็ถามว่า การที่ภาคนี้เรียกเขาว่าเลออน โดยตัดมาจากนามสกุล (Leonhart) จะสื่อว่าเขาคือสคอลล์ที่ตัด Heart ออกไป, หรือเป็นฮาร์ทเลสรึเปล่า?

ในประเด็นนี้คุณโนมุระบอกว่าตีความลึกกันจริง ๆ แต่เขาไม่ได้ต้องการสื่อแบบนั้นนะ (หัวเราะ) ที่จริงแล้วเหตุผลของการเปลี่ยนชื่อคือต้องการให้ผู้เล่นตกใจกับการพบกันครั้งแรก โดยเรื่องมันเริ่มมาจากจดหมายที่ปราสาท Disney หากเขียนข้อความบนจดหมายนั้นว่า "ไปพบสคอลล์" ผู้เล่นก็จะนึกภาพสคอลล์ออก แล้วการเจอเขาครั้งแรกที่เมืองเทรเวิร์สมันก็จะไม่อิมแพคท์ แต่ถ้าบอก "ไปพบเลออน" แล้วคนเล่นมาเห็นว่าเลออนที่ว่าก็คือสคอลล์ที่พวกเขารู้จัก แบบนี้มันอิมแพคท์กว่า ไอเดียในการเปลี่ยนชื่อนี้มาจากคุณจุน อาคิยามะ (ผู้กำกับการออกแบบอีเวนต์) แล้วเราก็คุยกันว่าจะใช้นามสกุลของสคอลล์ละกัน

ส่วนเหตุผลที่สคอลล์ปฏิเสธที่จะให้เรียกว่าสคอลล์ คุณโนมุระบอกว่าเขาได้ใส่เครื่องหมายปีกของริโนอาไว้บนหลังเสื้อของสคอลล์ แทนการบอกใบ้ว่าเคยมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับเขาในอดีต (ในเนื้อเรื่องเกม สคอลล์ไม่สามารถปกป้องบ้านเกิดไว้ได้และสูญเสียดวงดาวไป จึงเป็นที่เชื่อกันว่าเหตุการณ์นั้นทำให้สคอลล์คิดว่าเขาเสียริโนอาไปแล้ว)

เมื่อถูกถามว่า ไม่มีความคิดจะให้ริโนอาปรากฏตัวบ้างเหรอ? คุณโนมุระก็ปฏิเสธพลางหัวเราะ เขาบอกว่าส่วนตัวแล้วเขามองว่าริโนอาเป็นตัวละครที่แตกต่างจากคนอื่น ๆ ใน FFVIII และบุคลิกของเธอนั้น เป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจ

ว่าแล้วคุณโนมุระก็พูดถึงเรื่องของคลาวด์บ้างว่า ดีไซน์ของคลาวด์นั้น โดยเฉพาะแขนซ้าย เอาต้นแบบมาจากวินเซนต์ เนื่องจากในภาคนี้คลาวด์ได้ก้าวสู่ความมืดมิด ก็เลยอยากทำให้ดูเหมือนพวกฝ่ายมาร วินเซนต์เองก็ถูกออกแบบมาในลักษณะเช่นนั้น ก็เลยเอาลักษณะของวินเซนต์มาใส่ลงไปในคลาวด์

ในเกม KH นั้น บ้านเกิดของคลาวด์ก็คือ Hollow Bastion แต่ตอนที่เกิดความปั่นป่วนขึ้นบนดาว แล้วซิดกับคนอื่น ๆ หนีตายกันออกมา คลาวด์ไม่ได้อยู่กับพวกเขาในตอนนั้น ก็เลยแยกจากกัน ไม่ได้มาโผล่ที่เมืองเทรเวิร์สด้วย

และสำหรับคำถามที่ว่าคลาวด์ตามหาใครอยู่นั้น หากคำตอบคือแอริธ ก็หมายความว่าฉากจบเกมได้ตอบคำถามนั้นให้แล้ว... คุณโนมุระบอกว่าใครจะเชื่อแบบนั้นก็ได้ ทว่าจากการที่คลาวด์เป็นตัวละครที่มีชื่อเสียง เขาจึงไม่อยากที่จะสรุปเรื่องนี้ให้ ผู้เล่นทั้งหลายต่างก็มีความเห็นที่แรงกล้ากันอยู่แล้ว คุณโนมุระจึงอยากจะปล่อยให้เป็นเรื่องที่ผู้เล่นได้ตีความกันเอาเองมากกว่า


==========================
เรื่องราวของการสรรค์สร้าง "ฮิคาริ"
==========================

คุณโนมุระเล่าให้ฟังว่าเขาเป็นคนเลือกอูทาดะ ฮิคารุ ให้เป็นผู้ขับร้องเพลงธีมให้ Kingdom Hearts ด้วยตนเอง หลายคนคิดว่าการชวนอูทาดะให้มาร้องเพลงให้กับวีดีโอเกมนั้นเป็นเรื่องยาก แต่เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้

หลายต่อหลายคนบอกคุณโนมุระให้หยุดดีกว่า ยังไงอูทาดะก็น่าจะปฏิเสธ แต่คุณโนมุระยืนกรานมาตลอดว่ายังไงนักร้องต้องเป็นอูทาดะเท่านั้น

ทีนี้พอการเจรจาเริ่มต้น ทุกอย่างราบรื่นกว่าที่คิด ตัวแทนของอูทาดะบอกว่าเธอชอบวีดีโอเกม เธอชอบ Disney ดังนั้นก็น่าจะได้

พออูทาดะกลับมาจากต่างประเทศ คุณโนมุระก็ได้เจรจากับเธอโดยตรง ตอนนั้นอูทาดะขอดูตัวอย่างเกมหน่อย พอส่งให้เธอดูได้ 1-2 วัน อูทาดะก็ตอบตกลง ทำให้คุณโนมุระแปลกใจมาก (ว่าทำไมมันง่ายกว่าที่คิดหว่า!?)

เมื่อเจรจาถึงเนื้อหาของเพลง คุณโนมุระบอกกับอูทาดะว่า เขาต้องการเพลงประกอบฉากจบ ที่พระนางต้องแยกจากกัน ซึ่งเขามีคิดภาพเหตุการณ์นั้นไว้ตั้งแต่แรกแล้ว โดยตั้งใจจะทำไม่ให้มันดูเป็นการแยกจากกันอย่างเศร้า แต่เป็นการแยกจากกันด้วยความรู้สึกที่ดี

พออูทาดะไปแต่งเนื้อเพลงมาเสร็จ คุณโนมุระได้ยินแล้วก็สั่นสะท้าน รู้สึกว่านี่มันลงตัวเป๊ะ

อย่างไรก็ตาม คุณโนมุระก็ยังได้ให้คุณอูทาดะแก้เนื้อร้องบางส่วน โดยคุณโนมุระบอกให้คุณอูทาดะตัดพวกสิ่งที่ไม่มีอยู่ในโลกของ KH อย่างเช่น "โทรศัพท์มือถือ" ออกไป แต่อูทาดะก็ยังอุตส่าห์ใส่คำว่า "ทีวี" เข้าไปแทน (หัวเราะ) ซึ่งมันก็มีความหมายลึกซึ้งด้วย (TEREBI keshite, Watashi no koto dake o miteite yo)

==========================
การตั้งชื่อให้กับแผ่นดินของตนเอง
==========================

คุณโนมุระเล่าให้ฟังว่าเขาตัดสินใจแต่แรกว่าเกมนี้ต้องมีคำว่า Kingdom อยู่ในชื่อ เหตุเพราะเขาอยากได้คำที่ฟังแล้วสื่อถึง Disney เพราะ Disney มีอิมเมจที่สื่อถึง Kingdom จึงได้ตั้งชื่ออย่าง "Magic Kingdom" และ "Animal Kingdom" ขึ้นมา อีกทั้งเขาอยากได้คำที่มีความหมายลึก

เนื่องจากนี่เป็นเกมใหม่ ทีมงานชุดที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่ ไม่ใช่ภาคต่อ ราวกับว่าเรากำลังจะสร้างทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นจากดินแดนอันว่างเปล่า จึงเกิดเป็นอิมเมจว่าพวกเรากำลังสร้างประเทศใหม่ขึ้นมา นี่คือความหมายที่อยู่เบื้องหลังคำว่า Kingdom ของเกมนี้

ทว่าพอไปเช็คดู กลับพบว่าเขาไม่สามารถใช้ชื่อ Kingdom ลอย ๆ ได้ เพราะชื่อนี้เป็นเครื่องหมายการค้าที่ถูกจดทะเบียนไปแล้ว

ตอนนั้นคุณโนมุระกลับมานั่งเก๊กซิม แล้วหารือเรื่องชื่อใหม่กับทุกคน จนมีคนเสนอไอเดียขึ้นว่า "Kingdom Champion" ซึ่งคนญี่ปุ่นจะเรียกสั้น ๆ ได้ว่า "คินฉะ"

แต่ในท้ายที่สุด เขาก็คิดได้ว่า ธีมของเนื้อเรื่องนั้นเกี่ยวกับหัวใจ ก็อยากใช้คำว่า Heart อยู่ในชื่อเกมด้วย แต่ลำพังคำว่า "Kingdom Heart" เฉย ๆ มันฟังไม่ลื่น เลยคิดว่าเอาเป็น "Kingdom Hearts" ดีกว่า (เสียงลงท้าย ต่างกันระหว่าง โตะ กับ ซึ)

พูดถึงเรื่องการตั้งชื่อตัวละคร มีคนตั้งข้อสังเกตว่าชื่อโซระนั้น มันไปสอดคล้องกับชื่อของพวกคลาวด์ สคอลล์ ทีดัส ซึ่งเป็นสภาพอากาศ ....เรื่องนี้คุณโนมุระอธิบายว่าชื่อทีดัสนั้น คนตั้งชื่อคือคุณโนจิมะ (คนเขียนบท) ไม่ใช่ตัวเขาเอง และเขาเดาว่าคุณโนจิมะตั้งใจตั้งชื่อทีดัสให้สอดคล้องกับคลาวด์และสคอลล์

สำหรับชื่อโซระนั้น มันอาจจะไปคล้องกับชื่อของพระเอกพวกนั้นโดยบังเอิญ คุณโนมุระไม่ได้รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ เพราะเขาตั้งชื่อโซระ ริคุ และไคริ จากธาตุทั้ง 3 ที่ให้กำเนิดโลกขึ้นมา (ท้องฟ้า แผ่นดิน มหาสมุทร) เขาไม่ได้คิดจะตั้งชื่อโซระให้สอดคล้องกับสภาพอากาศแต่อย่างใด

เมื่อผู้สัมภาษณ์ถามว่า คำว่า ไค ก็หมายถึงมหาสมุทรแล้ว ทำไมถึงต้องเติม ริ ลงไปด้วย? คุณโนมุระเฉลยว่าเพราะชื่อ ไค นั้นมันฟังดูไม่เหมือนชื่อผู้หญิง เลยต้องเติมเสียงลงท้ายลงไปหน่อย ว่าแล้วเขาก็เริ่มไล่เสียงจาก "อะ.." ไป จนมาถึง "ริ" เนี่ยแหละ ที่คิดว่าเหมาะสมที่สุดแล้ว

นอกจากนี้ ทั้งโซระ ริคุ และไคริ ก็ถือเป็นตัวละครหนึ่งของทาง Disney ด้วย ดังนั้นสักวันพวกเขาอาจจะไปโผล่ในหนังของ Disney ก็เป็นไป มันไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้

==========================
ปริศนาในเนื้อเรื่อง #1
==========================

คุณโนมุระบอกว่าเนื้อเรื่องของ KH ต้องการจะสื่อถึง "สายสัมพันธ์" ระหว่างผู้คนซึ่งมันไม่เป็นรูปธรรม แม้จะแยกจากกัน แต่สิ่งที่เชื่อมโยงถึงกัน ก็จะยังสื่อถึงกันเสมอ

ในการออกแบบเนื้อเรื่องนั้น ตอนแรกเขาคิดเพียงว่าจะให้เป็นเกมที่เล่นสนุก มีเนื้อเรื่องเข้าใจง่าย เมื่อพิจารณาถึงวัยของลูกค้า Disney ก็ย่อมไม่ควรแต่งเนื้อเรื่องให้มันซับซ้อน

แต่แล้วเมื่อโปรเจคท์เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง คุณซากากุจิก็มาบอกว่า "ถ้าไม่เล็งกลุ่มแฟน FF ด้วย โปรเจคท์นี้ไม่รอดแน่" อืม... คุณโนมุระเผยต่อว่าจริง ๆ แล้วต่อให้คุณซากากุจิไม่พูด เขาก็รู้ดี

(หมายเหตุจาก shinya : จากคำว่า FFをやる層を狙わないと ถ้าจะบอกแค่ว่าต้องทำให้ได้ระดับ FF มันไม่น่าจะใช้คำว่า 狙わないと น่ะ เพราะตัวนี้มันแปลว่า เล็ง เจาะกลุ่ม ตั้งเป้า ไรงี้ อีกอย่าง ในเมื่อตัดสินใจใส่ตังละครFFมา มันก็ไม่น่าจะตั้งเป้าว่าต้องทำให้ได้ตามมาตรฐาน FF แต่เป็นการเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นแฟนFFมากกว่านะ)

คำพูดนั้นไม่ได้ส่งผลอะไรต่อเกมเพลย์ ทว่าได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องเป็นอย่างมาก ตอนแรกสุดเลยเขาตั้งใจจะให้เนื้อเรื่องมันอนุบาลสุด ๆ แล้วเชียว กะให้ตีมาเลฟิเซนต์ตายก็เป็นจบ ไม่ได้คิดถึงเรื่องของอันเซมเลยด้วยซ้ำ

เมื่อถามถึงการที่ไคริได้หลุดออกจากโลกของเธอมาถึงเกาะแห่งชะตากรรม คุณโนมุระบอกว่าอันเซมเป็นคนส่งตัวเธอมาจาก Hollow Bastion เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการตามหาคีย์เบลด เรื่องนี้เขาทิ้งหลักฐานไว้ที่ดาว End of World แล้ว อันเซมนั้นเชื่อว่าเจ้าหญิงตัวน้อยคนนี้จะเดินทางไปจนพบพานกับคีย์เบลดเอง ดังนั้น การที่ไคริได้มารวมกลุ่มกับโซระและริคุ เป็นทั้งชะตากรรม (ในแง่เจ้าหญิงแห่งหัวใจ จะได้รับการปกป้องจากผู้ใช้คีย์เบลดอยู่แล้ว) และเป็นทั้งความบังเอิญ (ในแง่ที่จักรวาลนี้มีผู้ใช้คีย์เบลดอีกหลายคน แต่ไคริกลับมาโผล่ที่เกาะแห่งชะตากรรม)

มาถึงคำถามสำคัญ ทั้งที่ริคุเป็นผู้ถือครองที่แท้จริงของ Kingdom Key... แล้วไหงโซระถึงได้มันไปในตอนต้นเกม?

คุณโนมุระบอกว่าที่จริงประเด็นนี้เขาอยากจะปิดบังไว้ก่อน แต่เนื้อหาเท่าที่พูดได้ในตอนนี้คือ ในตอนที่ริคุกำลังถูกความมืดกลืนกิน แสงสว่างได้ปรากฏขึ้น แล้วโซระก็ได้คีย์เบลดไปทันที (เป็นการบอกว่า Kingdom Key มันปฏิเสธความมืดในใจของริคุ)

ความมืดที่ปกคลุมทั้งคู่ในตอนนั้นก็คือความมืดในจิตใจของริคุ แต่แสงสว่างที่โซระเห็นในตอนนั้น ก็คือแสงสว่างในใจของริคุอีกเช่นกัน โซระได้สัมผัสกับแสงนั้น และได้สิทธิครอบครอง Kingdom Key เล่มนั้น "มาชั่วคราว" (ฟังดูแล้ว เหตุผลแรกที่ Kingdom Key เลือกโซระ ก็เพราะโซระมันอยู่ตรงนั้นพอดี)

คีย์เบลดนั้นตอบสนองต่อหัวใจของเจ้าของที่แท้จริง และปรากฏตัวขึ้นมา แม้ริคุจะเป็นผู้ที่เรียกมันออกมา แต่เหตุผลที่โซระสามารถถือคีย์เบลดได้ ก็เพราะโซระนั้น "มีคุณสมบัติ" อยู่เช่นกัน (เป็นการบอกว่า เหตุผลที่สองที่ Kingdom Key เลือกโซระ ก็เพราะโซระมีคุณสมบัติที่จะถือคีย์เบลดอยู่ในตัวตั้งแต่แรกแล้ว แต่คุณสมบัตินั้นคืออะไร... มันเป็นสิ่งที่คุณโนมุระยังไม่ควรเปิดเผยในเวลานั้น)

เมื่อผู้สัมภาษณ์ถามถึงนิทานที่ยายของไคริเล่าให้ฟังว่า "จักรวาลนี้ได้เคยถูกทำลายมาครั้งหนึ่ง แต่ด้วยพลังจากแสงสว่างในหัวใจของเด็ก ๆ จักรวาลถึงได้กลับคืนมา" ดวงดาวที่เกิดขึ้นมาใหม่ ก็คือดาวแต่ละดวงในเกมนี้ใช่มั้ย? แน่นอน คุณโนมุระตอบว่าใช่ และเสริมว่ามันไม่ใช่ประวัติศาสตร์ของจักรวาลนั้นซะทีเดียว มันเป็นเพียงนิทานสำหรับผู้คนในจักรวาลนั้น แต่ระหว่างประวัติศาสตร์กับนิทาน มันก็มีส่วนที่ทับซ้อนกันอยู่ (แล้วนิทานนั้นก็ถูกกล่าวถึงในภาคต่อ ๆ มา มันคือเรื่องราวในภาค Unchained χ และคาบเกี่ยวไปถึงสงครามคีย์เบลดนั่นเอง)

==========================
ปริศนาในเนื้อเรื่อง #2
==========================

ข้อความในคอมพิวเตอร์ ที่อยู่ในคุกของดาวสุดท้าย (เวอร์ชั่นต้นฉบับ)

ก่อเกิดจากหัวใจ บุตรแห่งความมืดผู้ปราศจากหัวใจ
กลืนกืนดวงดาวทั้งมวล และสร้าง End of the World
รวบรวมหัวใจทั้งมวล และสร้างหัวใจอันยิ่งใหญ่เพียงหนึ่งเดียว
หัวใจทั้งหมดจะกลายเป็นหนึ่ง หัวใจเพียงหนึ่งที่เป็นทุกสิ่งทุกสิ่งอย่าง
อีกนัยหนึ่ง นั่นคืออาณาจักรแห่งหัวใจ Kingdom Hearts
หัวใจอันยิ่งใหญ่ ปกปิดไว้ซึ่งความมืดอันยิ่งใหญ่
บุตรแห่งความมืด บัดนี้ได้กลับคืนสู่ความมืดที่ผนึกไว้ซึ่งแสงสว่าง
ความแข็งแกร่งจากหัวใจที่ไร้ซึ่งความมืดนั้น จะเปิดทางสู่ "Kingdom Hearts"
จักรวาลนี้มีหัวใจที่ปราศจากความมืดด้วยกัน 7 ดวง กับอีก 1 รูกุญแจ และ 1 กุญแจ
ผู้ที่จะปิดประตูสู่ความมืดมีด้วยกัน 2 คน กุญแจทั้ง 2 จะปิดประตู
ประตูสู่ความมืดที่ผนึกไว้ซึ่งแสงสว่าง ประตูที่ตัวตนแห่งแสงไม่สามารถผ่านไปได้
เฉพาะความมืดที่ก่อเกิดจากความมืด ถึงจะก้าวผ่านไปได้ สู่ใจกลางของความมืดมิดในหัวใจ
ก่อเกิดจากหัวใจ บุตรแห่งความมืดผู้ปราศจากหัวใจ
กลืนกินหัวใจทั้งมวล ตราบจนประตูแห่งความมืดได้ปรากฏขึ้น

แปลเป็นภาษาคน โดยผมเอง
1. บุตรแห่งความมืดผู้ปราศจากหัวใจ : อันเซมตัวปลอม (ฮาร์ทเลส)
2. หัวใจของเจ้าหญิงทั้ง 7 สามารถนำมาสร้างเป็นคีย์เบลดพิเศษ ซึ่งเมื่อส่งพลังจากคีย์เบลดนั้นผ่านหัวใจของโลก พลังนั้นจะส่งไปถึงจักรวาลแห่งความมืด (Realm of Darkness) และกระตุ้นให้ Door to Darkness (หรืออีกชื่อคือ Door to KH) ปรากฏขึ้นมา
3. Door to Darkness ต้องใช้คน 2 คนช่วยกันปิด จาก 2 ฟากประตู
4. คนที่จะเดินผ่าน Door to Darkness ได้ มีแต่พวกที่เกิดใน Realm of Darkness เท่านั้น

จากข้อความตรงนี้ ผู้สัมภาษณ์ถามคุณโนมุระว่าผู้ที่จะปิดประตูซึ่งมีด้วยกัน "2 คน" ต้องการสื่อถึงใคร?

คุณโนมุระตอบกลับมาทันทีว่า คนหนึ่งคือโซระอยู่แล้ว ส่วนอีกคน จะคิดว่าเป็นริคุคือมิคกี้ก็ได้ ส่วนคำว่า "กุญแจทั้ง 2" สามารถแปลความหมายได้ 2 แบบ จะแปลว่า "คีย์เบลดของโซระและมิคกี้" ก็ได้ หรือจะหมายถึง "ตัวโซระกับริคุ" ก็ได้

คำถามต่อมา.. หลังจบเรื่องแล้ว ไคริไปโผล่ที่เกาะแห่งชะตากรรม ทำไมเธอถึงไม่ไปโผล่ที่ Hollow Bastion ที่เป็นบ้านเกิดของเธอ?

คุณโนมุระบอกว่า ภายในเกม เจ้าหญิงทั้ง 7 ก็บอกไว้แล้วว่าหลังจากนี้เราจะกลับไปยัง "ดาวที่เราอยู่ในตอนที่ดวงดาวถูกกลืนกิน" ไครินั้นหายตัวไปจากเกาะแห่งชะตากรรม เธอจึงกลับไปยังเกาะแห่งชะตากรรม

ถัดไป ผู้สัมภาษณ์ถามว่าทำไมริคุและมิคกี้ ถึงไปอยู่ในอีกฟากของประตูได้?

คุณโนมุระบอกว่ากรณีของมิคกี้ เขาไปยังจักรวาลอีกด้านหนึ่งตั้งแต่ต้นเกมแล้ว ที่มิคกี้หายตัวไปก็เพราะเขาไปตามหา 1 ใน 2 กุญแจ (ที่จะใช้ปิด Door to Darkness) ก็ไปผจญภัยเหมือนโซระ จนได้กุญแจมา และก็ยังอยู่ในจักรวาลแห่งความมืด

ส่วนกรณีของริคุ ร่างของริคุโดนอันเซม (ตัวปลอม) ยึดไป หัวใจของริคุก็ไม่ได้อยู่ในจักรวาลแห่งแสงแล้ว จึงล่องลอยไปสู่จักรวาลแห่งความมืดตามที่อันเซมกล่าวไว้ (ในเกมมีฉากที่มิคกี้อธิบายเรื่องนี้ไว้อยู่แล้ว หัวใจที่ถูกช่วงชิงไป มันจะมารวมตัวกันที่นี่อยู่แล้ว) แต่เมื่ออันเซมตัวปลอมหายไป ร่างกายของริคุ ก็กลับไปรวมกับหัวใจของริคุที่อยู่ในจักรวาลแห่งความมืด

พอคนสัมภาษณ์ถามว่า พอริคุได้ร่างกายกลับคืนมาแล้ว ทำไมไม่ก้าวผ่าน Door to Darkness กลับมายังจักรวาลแห่งแสงล่ะ?

คุณโนมุระบอกว่า เขาก็เขียนไว้ในคอมพิวเตอร์ที่คุกแล้วไงว่า เฉพาะความมืดเท่านั้นที่จะก้าวผ่านประตูนั้นได้ ริคุและมิคกี้ไม่ใช่พวกที่เกิดในจักรวาลแห่งความมืด เลยไม่สามารถก้าวผ่านประตูนั้นไปได้

ผู้สัมภาษณ์ถามต่อว่า การที่ริคุและมิคกี้ไปอยู่ในจักรวาลแห่งความมืด โดยไม่ได้ใช้ Door to Darkness แปลว่ามันมีหนทางอื่นในการเข้าสู่จักรวาลแห่งความมืด โดยไม่ต้องใช้ประตูนั้นใช่มั้ย?

คุณโนมุระบอกว่าใช่ ในข้อความที่มิคกี้ทิ้งไว้ก็มีคำว่า "จงตามหา Door to Light" ซึ่งพวกที่เกิดในจักรวาลแห่งแสงจะก้าวผ่านไปได้

นอกจากนี้คุณโนมุระยังเผยอีกว่า ช่วงต้นเกมในเมืองเทรเวิร์ส ตอนที่กู๊ฟฟี่พูดว่า "พลูโต เราจะไปแล้วนะ" ตอนนั้นพลูโตก็ไม่อยู่แล้ว ตัวพลูโตนั้นรู้สึกว่ามิคกี้อยู่แถวนั้น (ในภาค Coded มิคกี้ก็มายืนยันอีกทีว่าตอนนั้นเขาก็อยู่ในเมืองเทรเวิร์สด้วย) จากนั้นพลูโตก็หายตัวไป เขาได้พบกับมิคกี้ และมาโผล่อีกทีในตอนจบ

ส่วนที่พลูโตหายตัวไป เขาก็ไปผจญภัยในโลกที่ไม่ปรากฏในเกมภาคแรก ในเกมมันยังมีดาวอีกมากมายที่โดนฮาร์ทเลสกลืนกิน แต่เดิมมันก็ไม่มี End of World อยู่ แต่แล้วดวงดาวที่ถูกกลืนกินก็มารวมตัวกันเป็น End of World และนั่นก็คือที่ซึ่งประตูสู่ Kingdom Hearts (อีกนัยหนึ่งก็คือ Door to Darkness) ได้ปรากฏขึ้น ซึ่งที่จริงแล้วแต่เดิมที่ตรงนั้นก็เป็นดาวดวงอื่น หมายความว่าในตอนจบนั้นโซระและพวก กำลังเดินอยู่ในดาวดวงอื่นที่กลับคืนสู่สภาพเดิมแล้วนั่นเอง

สุดท้ายเมื่อผู้สัมภาษณ์ชะงัก แล้วถามว่า "งั้นที่พลูโตมาโผล่ตรงนั้นในตอนจบ ก็แปลว่านั่นหรือคน ๆ นั้น.... (ก็อยู่ใกล้ ๆ กับจุดที่พวกโซระเดินทางอยู่) ซึ่งคณโนมุระก็ตอบว่าเรื่องราวหลังจากนั้น เขาหวังว่าจะได้เปิดเผยมันในสักวันหนึ่ง


==========================
ปริศนา : ฉากจบลับ
==========================

เมื่อถามถึงคนลึกลับทั้ง 3 คนที่ปรากฏตัวในฉากจบลับของเกมเวอร์ชั่นญี่ปุ่น คุณโนมุระบอกใบ้เพียงว่ามันมีคำว่า "Another Side, Another Story" ปรากฏขึ้นมา แสดงว่ามันเป็นเรื่องราวที่แตกต่างออกไป (หมายถึงไม่ใช่เรื่องฝั่งโซระ) และเนื่องจากทุกคนก็กำลังสนุกกับการตีความกันอยู่ เขาจึงไม่อยากเปิดเผยอะไรมาก แต่ที่บอกได้เล็กน้อยคือ หนึ่งในนั้นคือริคุ

ในตอนนั้น ทางค่ายยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะให้ Kingdom Hearts มีภาคต่อได้รึเปล่า มันขึ้นอยู่กับเสียงตอบรับและยอดขายทั่วโลก คุณโนมุระจึงพูดเฉลยเลยไม่ได้ และบอกว่าถ้ามันได้รับอนุมัติให้มีภาคต่อ เขาก็จะเฉลยเรื่องนั้นในภาคต่อเอง

พอผู้สัมภาษณ์ถามว่า จากการที่ในฉากจบลับ มันมีกลุ่มคำมากมาย ปรากฏขึ้นมาเต็มไปหมด หมายความว่าคุณโนมุระมีคิดเนื้อเรื่องของภาคต่อเอาไว้ชัดเจนแล้วรึเปล่า?

สำหรับคำถามนี้ คุณโนมุระบอกว่าใช่ ถ้ามีภาคต่อ เขาก็อยากให้อันเซมโผล่มา ตอนท้ายของเรื่องนั้นอันเซมสูญเสียร่างกายไป (หมายถึงคืนร่างที่ยึดมาให้ริคุ) อันเซมที่เราเห็นกันในช่วงท้ายเกมนั่นไม่ใช่ร่างกายที่แท้จริงของเขา แต่เป็นร่างที่เกิดจากการยึดร่างของริคุมา ฉะนั้นแล้วตัวตนของชายในชุดคลุมในตอนต้นเรื่องจึงน่าสงสัยมาก ซึ่งไม่ว่าจะได้ทำต่อหรือไม่ เขาก็มีคิดไอเดียมากมายเผื่อได้ทำต่อไว้แล้ว

ผู้สัมภาษณ์ถามต่อว่าหากมีภาคต่อแล้ว คลาวด์จะได้กลับมาอีกมั้ย? คุณโนมุระบอกว่าเขาอยากให้คลาวด์กลับมาด้วย ที่จริงแล้วใน KH เวอร์ชั่นต่างประเทศ เซฟิรอธก็จะปรากฏตัวด้วย เขาอยากจะขยายเนื้อเรื่องของคลาวด์ออกไปอีก

คุณโนมุระเผยว่าแท้จริงแล้ว ในการทำ KH เวอร์ชั่นญี่ปุ่น ทีมงานได้ออกแบบและทำโมเดลของเซฟิรอธเอาไว้แล้ว แต่ต้องตัดทิ้งไปเนื่องจากข้อจำกัดด้านเวลา (ทำส่วนอื่น ๆ ไม่ทัน) ก็เลยจะให้เซฟิรอธปรากฏตัวในเวอร์ชั่นต่างประเทศที่ออกตามมาทีหลัง

นอกจากนี้คุณโนมุระยังโฆษณาอีกว่า ตัวเกมเวอร์ชั่นต่างประเทศนั้น จะใช้นักพากย์ออริจินอลของทาง Disney พากย์ตัวละครให้ ส่วนพวกตัวละครออริจินอลของเกมเอง ก็จะใช้นักพากย์ชื่อดังพากย์เช่นกัน เช่น Haley Joel Osment เป็นต้น ส่วนตัวแล้วเขาอยากเอาตัวเกมเวอร์ชั่นต่างประเทศ (หมายถึงเวอร์ชั่นที่ใช้นักพากย์ฝรั่งและมีเซฟิรอธด้วย) มาวางขายในญี่ปุ่นด้วย แต่ถ้าใช้คำว่า "International" ต่อท้าย มันฟังดูไม่ดียังไงไม่รู้ ประเด็นนี้มันค่อนข้างละเอียดอ่อน แต่เขามีคุยกับทีมงานไว้แล้วว่าหากสามารถเอาตัวเกมเวอร์ชั่นต่างประเทศ มาวางขายในญี่ปุ่นได้จริง ก็อยากให้ลงท้ายชื่อภาคว่า "เวอร์ชั่นเสียงอังกฤษ" มากกว่าจะเป็น "International" (หัวเราะ)

หมายเหตุ : ถ้าลองย้อนกลับไปดูองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ปรากฏในฉากจบลับของ Kingdom Hearts ภาคแรก จะเห็นข้อมูลหลายอย่าง รวมถึง "ร็อคซัส ริคุ ประตูแห่งแสง โนบอดี้ ตัวตนที่แท้จริงของอันเซมตัวปลอม อันเซมรีพอร์ทของจริง ฯลฯ" รวมถึง "ฉากจบของ Kingdom Hearts II" ทั้งหมดนี้คือหลักฐานว่าเฮียแกคิดเค้าโครงของเรื่องพวกนี้เอาไว้ตั้งแต่ตอนทำภาคแรกแล้ว

==========================
ข้อความ : ถึงผู้ที่เล่นเกมนี้
==========================

คุณโนมุระเผยว่าในการออกแบบโดนัลด์และกู๊ฟฟี่ แกไม่ได้ทำคนเดียวทั้งกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบ แต่แกใช้เทคนิคที่เรียกว่า Tight Pencil วาดดราฟท์แล้วส่งไปให้ทาง Disney ดู จากนั้นดีไซเนอร์ของ Disney ก็จะเอาไปตรวจสอบ แก้ไขดีไซน์แล้ววาดกลับมา พอคุณโนมุระได้รับ ก็จะไม่แก้ไขอะไรอีกแล้ว แต่จะวาดให้กลายเป็นลายเส้นของตนเอง พวกดีไซน์พิเศษของโดนัลด์และกู๊ฟฟี่ในดาวแอตแลนติก้าและเมืองฮัลโลวีนก็เช่นกัน คุณโนมุระเป็นคนดราฟท์ขึ้นมาตั้งแต่แรก

จากนั้นผู้สัมภาษณ์ก็บอกว่า คิด ๆ ดูแล้ว การรวมตัวละครจาก Disney และ Square เข้าด้วยกัน เป็นเรื่องที่ทุกคนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ไหนจะทาบทามอูทาดะ ฮิคารุให้มาร้องเพลงประกอบให้อีก ทว่าคุณโนมุระกลับทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทุกคนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ให้เป็นจริงได้

ถึงตรงนี้คุณโนมุระก็บอกว่า ทีมงานเองก็พูดเหมือนกันว่าการที่ทุกอย่างกลายเป็นจริงได้ มันราวกับฝันไป โชคดีจริง ๆ ที่เขาไม่ได้ยอมแพ้ไปตั้งแต่แรก

จากนั้นผู้สัมภาษณ์ก็บอกว่าตอนนี้ยอดขายเกมค่อนข้างดีทีเดียว จำนวนคนที่เรียกร้องให้ทำภาคต่อก็มีมากขึ้นเรื่อย ๆ คุณโนมุระเองก็บอกว่าทางบริษัทเร่งรัดให้เขาตัดสินใจว่าจะทำโปรเจคท์ไหนต่อไป ซึ่งเขาเองก็มีคิดไว้ 3-4 อย่าง หนึ่งในนั้นคือภาคต่อ KH แต่ก็กำลังหารือกับสตาฟฟ์อยู่ว่าจะทำอะไรก่อนดี ยิ่งพักหลังมานี้เขาเฟดเอาท์ (หายหน้าหายตา) ไปนานพอควร ก่อนหน้านี้ไปช่วยดีไซน์ FFXI ด้วย แต่ไอ้ที่เขาช่วยทำ มันก็ไม่ได้โดดเด่นสักเท่าไหร่

สำหรับ KH นี้ก็เป็นครั้งแรกที่คุณโนมุระได้ฟอร์มทีมขึ้นมาเอง และเขาก็สนุกกับการตั้งทีมมาก เขาคิดว่านี่สิคือความรู้สึกของการสร้างเกมที่แท้จริง มันทำให้เขาได้รู้สึกถึงสิ่งที่หายไปนาน และรู้สึกว่าตัวเองได้บรรลุอะไรบางอย่าง และหวังว่าความรู้สึกนั้นจะไปส่งถึงผู้เล่นด้วย

สุดท้าย คุณโนมุระอยากฝากถึงผู้เล่นว่า เขารู้สึกขอบคุณทุกคนที่เล่นเกมนี้เป็นอย่างมาก ก่อนที่เกมจะวางขาย เขาไม่รู้เลยว่ามันจะออกมาเป็นยังไง ไม่รู้ว่ามันจะน่าสนใจรึเปล่า แต่เมื่อเกมวางขาย มันก็ได้รับความนิยมสูง ผู้คนต่างบอกว่าพวกเขาชอบมัน มันกลายเป็นที่นิยม เขาจึงรู้สึกขอบคุณยิ่ง เขาได้ยินว่าในโปสต์การ์ดสำรวจความคิดเห็นที่แฟน ๆ ส่งกลับมา มีคนเขียนให้ทำภาคต่อด้วยตรึมเลย เขาเองก็จะเอาไปคุยกับทีมงานต่อว่าทำยังไงถึงจะตอบสนองความคาดหวังนั้นได้ ขอบคุณทุกคนจริง ๆ

==========================
ความลับของเกมนี้ที่คุณโนมุระรู้คนเดียว
==========================

คำพูดที่ปรากฏขึ้นในฉากเปิดเกม คือคำพูดที่ตัวละครตัวนั้น (มิคกี้) กำลังจะพูดในตอนจบ ขอให้สนุกกับการคาดเดาว่าใครคือตัวละครที่พูดประโยคนั้น

ไม่มีความคิดเห็น