ทาบาตะเผยได้นอนวันละ 3 ชั่วโมง ยอมอายุสั้นเพื่อ FFXV และ FF Type-0


"คุณคงตกใจ อย่างที่ว่าเอาไว้ ผมน่าจะได้นอนราว ๆ 3 ชั่วโมงต่อวัน ทุกวันมันยากลำบากหมดแหละ..."

"ก็รู้นะว่ามันจะทำให้อายุสั้นลง แต่มันคุ้มที่จะทำ"


คุณฮาจิเมะ ทาบาตะ ให้สัมภาษณ์เว็บไซต์ Polygon ในเดือนมกราคม 2015 ขณะที่กำลังพัฒนา Final Fantasy Type-0 HD และ Final Fantasy XV

"กรณี Type-0 HD เราเริ่มต้นโปรเจคท์เพราะแฟน ๆ เราอยากสร้างความมั่นใจว่าเราจะสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ให้พวกเขาได้อย่างเหมาะสม"

"กรณี XV เรายิ่งมองไปข้างหน้า และอยากสร้าง Final Fantasy ที่วิวัฒนาการไปอีกขั้น ทั้งสองเกมจึงคุ้มค่าแก่เวลาของเรา"

Polygon ถามถึงแนวทางของ Final Fantasy ในอนาคต ซึ่งคุณทาบาตะบอกว่าทางค่ายก็ไม่ได้ตีกรอบอะไร

"ในแง่ภาพรวมของแฟรนไชส์ ไม่ได้มีคำสั่ง หรือแนวทางชัดเจนว่าให้เรามุ่งไปทางไหนในยุคนี้"*

**ซึ่งก็สอดคล้องกับที่ Dev หลายคนในค่ายก็บอกว่า ทางค่ายให้อิสระผู้กำกับแต่ละภาค ไปตัดสินใจกันเอาเอง

อย่างไรก็ตามคุณทาบาตะบอก Polygon ว่าทีมของเขามีไอเดียที่อยากจะทำกันชัดเจนแล้วเป็นการภายใน

ในส่วนของ FFVersus XIII ที่โปรเจคท์ถูกรีแบรนด์เป็น FFXV และดำเนินมาร่วม 8 ปีแล้วในขณะนั้น (2006- ม.ค. 2015) คุณทาบาตะเผยว่าการที่คุณเท็ตสึยะ โนมุระ ผู้กำกับคนก่อนออกจากโปรเจคท์ไป เป็นเรื่องที่ช็อคแฟน ๆ  และมีการถกเถียงยาวเหยียดกันภายในบริษัท และภายในหัวของคุณทาบาตะเอง

"ผมรู้ว่าอายุขัยของผมที่สั้นลงเพราะ Type-0 ไปแล้ว จะยิ่งสั้นลงไปอีกเพราะ XV แต่หลังจากคิดทบทวนอยู่ 1-2 นาที ผมคิดว่า มันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร"

คุณทาบาตะไม่ได้เพียงแค่สละเวลานอนมหาศาลทิ้งไป แต่ยังสละบทบาทในฐานะสามี บทบาทของพ่อต่อลูกสาวที่อยู่ในวัยอนุบาล เขาบอกว่าเวลาที่เขาอยู่บ้านนั้น มันไม่เคยพอ เขาวุ่นหัวหมุนในช่วงเช้าตรู่ของแต่ละวัน และใช้เวลาสุดสัปดาห์เล่นกับลูกสาวหรือกินข้าวกับภรรยา เวลาส่วนตัวของเขาแทบไม่มี หรือมีแค่ระหว่างทางที่เขานั่งรถออกไปทำงาน

"ในรถ ผมก็ฟังเพลง แค่นั้นเลยจริง ๆ นั่นเป็นสถานที่เดียวที่ผมฟังเพลงได้ในตอนนี้"

"ในที่สุด ฉันก็ได้มาอยู่ในสมรภูมิเดียวกับเกม AAA ชื่อดังทั่วโลก"

"นั่นคงเป็นความรู้สึกที่ดีที่สุด ที่ได้มาจากการทำงานตรงนี้"

"พอได้ยินข่าวจากแฟน ๆ ที่สนุกกับเกม ก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่า เราลืมความลำบากทั้งหมดที่เผชิญหน้าในการพัฒนา... ผมว่านั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้ผม เดินหน้าต่อไป"

ประโยคด้านบนนั้น คุณทาบาตะหมายถึงช่วงการพัฒนา FF Type-0 ที่วางจำหน่ายให้ PSP ในปี 2011 โดยระหว่างการพัฒนานั้น ประเทศญี่ปุ่นผจญมรสุมจากแผ่นดินไหวโทโฮคุ, เกิดซึนามิยักษ์ ฆ่าล้างชีวิตคนนับพัน โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เกิดอุบัติเหตุและระบบล่ม ครอบครัวมากมายต้องพลัดจากบ้านเกิด

"ตอนนั้นเราได้รับจดหมายมากมาย บอกว่าพวกเขารอคอยการวางจำหน่ายของ Final Fantasy ผมรู้สึกปลื้มใจมากที่สื่อบันเทิง สามารถช่วยให้ผู้คนเงยหน้า เป็นสิ่งที่ผู้คนจะคอยหา"

"ผมว่าตอนนั้นเอง ที่ผมเริ่มรู้สึกว่า โอเค - มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร หากอายุจะสั้นลงแต่แลกมาด้วยการทำให้คนอื่นมีความสุขได้ ตอนนั้นเองที่ mindset ผมเริ่มเปลี่ยนไป"

คุณทาบาตะบอก Polygon ว่า Dev ญี่ปุ่นก็มักมีความคิดประมาณนี้ แต่แล้วแกก็รีบพูดให้ดูติดตลกว่า

"ผมคงไม่แนะนำให้มาสร้างเกมที่ Square Enix นะ พวกเราไม่นอนกัน" แต่ในน้ำเสียงนั้น ก็มีความภาคภูมิใจแฝงอยู่

"ผมทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างลงไปในเกมที่ผมสร้าง Final Fantasy จะคงอยู่ในความทรงจำของผู้คนมากมาย... ดังนั้น หากผมกำลังส่งมอบพลังบวกให้กับผู้เล่น หากผมกำลังถ่ายทอดประสบการณ์ที่เป็นพลังบวกออกไป...  ผมว่า การได้ถูกจดจำว่าเป็นใครคนหนึ่งที่เป็นส่วนหนึ่งของแฟรนไชส์นี้ คงเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากจริง ๆ"

https://www.polygon.com/a/life-in-japan/Tabata-Final-Fantasy-15

ไม่มีความคิดเห็น