ฉากจบ Lightning Returns -FFXIII- เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ
จากที่ทางฝั่งยุโรปมีผู้เล่นบางส่วนที่ได้แผ่น Lightning Returns -Final Fantasy XIII- ได้เล่นตัวเกมจนจบไปแล้วนั้น ล่าสุดก็มีคนที่อัพโหลดคลิปการเล่นตั้งแต่ต้นจนจบให้ดูกัน ซึ่งด้านล่างนี้ก็คือลิงค์เนื้อหา 1 ชั่วโมงสุดท้ายของเกม ตั้งแต่จุดพักสุดท้ายเป็นต้นไป
ส่วนตัวผมดูเนื้อหาท่อนนี้จบแล้ว ไม่ค่อยชอบสคริปต์ภาษาอังกฤษที่ถูกแปลมาสักเท่าไหร่ ไอ้ประโยคที่เป็นท่อนจี๊ดหลายๆ จุดในเวอร์ชั่นญี่ปุ่น (ต.ย. เซ็นโคว, ลาสต์รีสอร์ท!!, เน่จัง, นี่แหละคือพลังของมนุษย์, สายสัมพันธ์ของมนุษย์) มันกลายเป็น.... @!@#%*!#@ ทำให้ผมต้องสบถ F******K ออกมาหลายครั้งหลายหน
แต่ก็เอาเถอะ... ในแต่ละจุด ทีมแปลเขาก็คงมีเหตุผลในการดัดแปลงสคริปต์ของเขา เหตุผลที่เขาคิดว่าทำแบบนี้จะทำให้ชาวตะวันตกเข้าใจและเข้าถึงได้ดีที่สุดแล้ว ซึ่งผมก็ไม่ขอก้าวก่าย... แต่ถ้าให้ผมเป็นคนให้คะแนน งวดนี้สคริปต์ญี่ปุ่นวินครับ...
Update
ในเกมดังกล่าวนั้น Senkou เป็นคำแทนการเรียกชื่อไลท์นิ่งในอีกแบบหนึ่งแหละ ดังนั้นในอารีน่า เขาถึงเรียกไลท์นิ่งว่านักรบแห่ง Senkou ส่วนเพลง Blinded by light ที่แปลงมาจากคำว่า Senkou ก็เป็นการสื่อว่าเขาแทน Senkou=Light(ning) เช่นกัน
ทีนี้ในตอนท้ายที่ไลท์นิ่งพุ่งเข้าไปกระซวกบูจังนั้น สคริปต์ญี่ปุ่น บูจังจะพูดว่า "แสงที่ก้าวข้ามกระทั่งแสงแห่งพระเจ้าไปได้ (kami no hikari o koeta ) ..... senkouuuu!!!" ท่อนนี้เป็นประโยคที่สื่อความหมาย 2 อย่างพร้อมกันในทีเดียว อย่างแรกคือ นี่คือประกายแสงสายฟ้าที่เจิดจ้าเหนือแสงปกติทั่วไป และอีกอย่างคือไลท์นิ่งได้ก้าวข้ามพระเจ้าแห่งแสงไปแล้ว
แต่พอมาในเวอร์ชั่นอังกฤษ บูจังพูดแค่ว่า "The light... so briiliant. Greater than god" แล้วก็จบแค่นี้ .....โดยท่อนฮุคที่บูจังกรีดร้องคำที่สื่อถึง senkou ดังๆ โดนลักพาตัวไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ ....เดามั่วว่าอาจจะเพราะไม่สามารถหาคำที่จะสื่อความหมาย 2 อย่างพร้อมกันแบบในภาษาญี่ปุ่นได้
นอกจากนี้ในสคริปต์อังกฤษ ยังมีอีกหลายจุดที่แปลมาแล้ว ความจี๊ดในสคริปต์ญี่ปุ่นหายไป เช่น
- ตอนไลท์นิ่งพุ่งเข้าไปตะโกนใช้ลาสต์รีสอร์ท ในเวอร์ชั่นอังกฤษกลายเป็นประโยคดาดๆ แทน
- ตอนเซร่าห์กลับมาหาแล้วเรียก "โอเน่จัง" มาในเวอร์ชั่นอังกฤษ กลายเป็นเรียกไลท์นิ่งตามเดิม
- ตอนไลท์นิ่งพูดว่า "นี่แหละคือพลังของมนุษย์" (รู้สึกการ์ตูนญี่ปุ่นจะฮิตรูปประโยคทำนองนี้นะ...) เวอร์ชั่นอังกฤษกลายเป็น That's make us strong.... ก็ยังคล้ายๆ กัน ถือว่าผ่าน
- ตอนจะพิฆาตบูจัง เวอร์ชั่นญี่ปุ่นไลท์นิ่งพูดปิดท้ายว่า "พลังที่มองไม่เห็น... สายสัมพันธ์ของมนุษย์" .....มาเวอร์ชั่นอังกฤษ คาดว่าผู้แปลคงตระหนักได้ว่ารูปประโยคดังกล่าวมันนามธรรมเกิน ประโยคแบบนี้อาจจะเป็นที่ถูกใจของชาวเอเชียโดยเฉพาะชาวแดนเอวี แต่ไม่เป็นที่ปลาบปลื้มใจของชาวตะวันตก ...เลยดัดแปลสคริปต์ด้วยการเอาสลับลำดับประโยค กล่าวคือเอาสองประโยคปิดท้ายนี้ขึ้นมาพูดก่อน แล้วเอาประโยคก่อนหน้านั้นมาพูดปิดท้าย ทำให้ท่อนฮุคหลังสุดกลายเป็นท่อนที่ว่า "Together..... We can change the world" ซึ่งดูแล้วน่าจะเข้ากับวิธีพูดของชาวตะวันตกมากกว่า
แต่ในสายตาของผมที่เป็นชาวเอเชีย ได้แต่กรีดร้องดังๆ ว่า F******************K~
Update
ในเกมดังกล่าวนั้น Senkou เป็นคำแทนการเรียกชื่อไลท์นิ่งในอีกแบบหนึ่งแหละ ดังนั้นในอารีน่า เขาถึงเรียกไลท์นิ่งว่านักรบแห่ง Senkou ส่วนเพลง Blinded by light ที่แปลงมาจากคำว่า Senkou ก็เป็นการสื่อว่าเขาแทน Senkou=Light(ning) เช่นกัน
ทีนี้ในตอนท้ายที่ไลท์นิ่งพุ่งเข้าไปกระซวกบูจังนั้น สคริปต์ญี่ปุ่น บูจังจะพูดว่า "แสงที่ก้าวข้ามกระทั่งแสงแห่งพระเจ้าไปได้ (kami no hikari o koeta ) ..... senkouuuu!!!" ท่อนนี้เป็นประโยคที่สื่อความหมาย 2 อย่างพร้อมกันในทีเดียว อย่างแรกคือ นี่คือประกายแสงสายฟ้าที่เจิดจ้าเหนือแสงปกติทั่วไป และอีกอย่างคือไลท์นิ่งได้ก้าวข้ามพระเจ้าแห่งแสงไปแล้ว
แต่พอมาในเวอร์ชั่นอังกฤษ บูจังพูดแค่ว่า "The light... so briiliant. Greater than god" แล้วก็จบแค่นี้ .....โดยท่อนฮุคที่บูจังกรีดร้องคำที่สื่อถึง senkou ดังๆ โดนลักพาตัวไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ ....เดามั่วว่าอาจจะเพราะไม่สามารถหาคำที่จะสื่อความหมาย 2 อย่างพร้อมกันแบบในภาษาญี่ปุ่นได้
นอกจากนี้ในสคริปต์อังกฤษ ยังมีอีกหลายจุดที่แปลมาแล้ว ความจี๊ดในสคริปต์ญี่ปุ่นหายไป เช่น
- ตอนไลท์นิ่งพุ่งเข้าไปตะโกนใช้ลาสต์รีสอร์ท ในเวอร์ชั่นอังกฤษกลายเป็นประโยคดาดๆ แทน
- ตอนเซร่าห์กลับมาหาแล้วเรียก "โอเน่จัง" มาในเวอร์ชั่นอังกฤษ กลายเป็นเรียกไลท์นิ่งตามเดิม
- ตอนไลท์นิ่งพูดว่า "นี่แหละคือพลังของมนุษย์" (รู้สึกการ์ตูนญี่ปุ่นจะฮิตรูปประโยคทำนองนี้นะ...) เวอร์ชั่นอังกฤษกลายเป็น That's make us strong.... ก็ยังคล้ายๆ กัน ถือว่าผ่าน
- ตอนจะพิฆาตบูจัง เวอร์ชั่นญี่ปุ่นไลท์นิ่งพูดปิดท้ายว่า "พลังที่มองไม่เห็น... สายสัมพันธ์ของมนุษย์" .....มาเวอร์ชั่นอังกฤษ คาดว่าผู้แปลคงตระหนักได้ว่ารูปประโยคดังกล่าวมันนามธรรมเกิน ประโยคแบบนี้อาจจะเป็นที่ถูกใจของชาวเอเชียโดยเฉพาะชาวแดนเอวี แต่ไม่เป็นที่ปลาบปลื้มใจของชาวตะวันตก ...เลยดัดแปลสคริปต์ด้วยการเอาสลับลำดับประโยค กล่าวคือเอาสองประโยคปิดท้ายนี้ขึ้นมาพูดก่อน แล้วเอาประโยคก่อนหน้านั้นมาพูดปิดท้าย ทำให้ท่อนฮุคหลังสุดกลายเป็นท่อนที่ว่า "Together..... We can change the world" ซึ่งดูแล้วน่าจะเข้ากับวิธีพูดของชาวตะวันตกมากกว่า
แต่ในสายตาของผมที่เป็นชาวเอเชีย ได้แต่กรีดร้องดังๆ ว่า F******************K~
Post a Comment