เก็บตกรายละเอียดจาก Final Fantasy XIII-2 [24]

Ochu Fragment - Best of the Bestiary

โอจูเป็นมอนสเตอร์พืชป่าที่อาศัยอยู่บนแกรนพัลส์ มีพันธุ์เครือญาติคือไมโครจูและเนโอจู รวมถึงเจาจูที่กลายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว

โอจูและพลพรรคอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบเดียวกัน พวกมันจึงเป็นศัตรูสำหรับอาหารและทรัพยากรธรรมชาติ บนแกรนพัลส์นั้นการวิวัฒนาการเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เผ่าพันธุ์ใหม่ๆ สามารถเกิดขึ้นได้ทุกปี ซึ่งโอจูและเนโอจูก็ดิ้นรนแข่งขันกันมาอย่างอย่างนาน

Long Gui Fragment - Best of the Bestiary

ลองกุยเป็นหนึ่งในมอนสเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดบนพัลส์ เหล่าสมาชิกเผ่าพันธุ์เต่าสินแร่นั้นต่างก็มีอายุขัยที่ยืนยาว นักวิจัยบางส่วนก็เชื่อว่าแท้จริงแล้วลองกุยก็คือ เชาลองกุยที่มีชีวิตอยู่รอดได้ยืนยาวกว่าปกติ แต่อีกฝ่ายก็ยืนยันว่ามันเป็นคนละสปีชีส์กัน

ทั้งสองฝ่ายนั้นต่างก็มีหลักฐานสนับสนุนพร้อม แต่ด้วยความที่มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอายุยืนยาวนับศตวรรษ กว่าที่ทั้งสองฝ่ายจะได้ข้อสรุปที่เห็นพ้องต้องกันได้ คงอีกหลายยุคเลยเชียว

Yomi Fragment - Best of the Bestiary

ทุ่งอาคิลิทจะแตกต่างไปจากปกติเมื่อสายฟ้าผ่าลงมาจากสวรรค์ เพื่อต้อนรับการมาถึงของโยมิ หนึ่งใน Undying ที่รู้จักกันในนามปีกแห่งความตาย

เหตุใดมันจึงปรากฏตัวช่วงฟ้าผ่า? คำตอบอยู่ในอดีตชาติของมัน ครั้งหนึ่งโยมิเคยเป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่ มุ่งมั่นจะพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคนั้น แต่เขากลับโดนฟ้าผ่าตายคาทุ่งซะก่อน

บัดนี้โยมิจึงร่อนเร่ไปในทุ่งที่สะบั้นชีวิตของมัน ท่ามกลางสายฟ้าที่เกรี้ยวกราดและสายลมที่รุนแรง ไม่มีใครได้ยินเสียงกรีดร้องแห่งความระทมทุกข์ของมัน

Fragment of Invincibility - Best of the Bestiary

สงครามแห่งการรุกล้ำ (The War of Transgression) ระหว่างพัลส์และโคคูนเกิดขึ้นเมื่อ 700 ปีก่อนหายนะ ชาวโคคูนเชื่อกันว่าสงครามปะทุขึ้นเพราะการรุกล้ำของฝ่ายพัลส์ ทว่าบันทึกของฝ่ายพัลส์ก็อ้างว่าคนร้ายก็คือปิศาจจากโคคูน ประวัติศาสตร์ในส่วนนี้จึงถูกแบ่งออกเป็น 2 ทางมาจนถึงทุกวันนี้

หมายเหตุ : ในเกม FFXIII บอกว่าสงครามนี้เกิดขึ้นเมื่อ 600 ปีก่อน ซึ่งต่อมาในซีนาริโอ้อัลติมาเนียหน้า 55 เขียนว่าเกิดขึ้นเมื่อราว 600 ปีก่อน ในวงเล็บทฤษฎีหนึ่งกล่าวว่า 666 ปีก่อน ซึ่งถ้าตัวเลขจริงๆ คือ 666 ปีก่อน การจะประมาณว่า 600 หรือ 700 ก็ถูกทั้งคู่

ชาวพัลส์นั้นหวาดกลัวการรุกรานจากฟากฟ้าเรื่อยมา จึงเตรียมตัวรับมือไว้ ในการรับมือนั้นก็รวมถึง Immortal เครื่องจักรสงครามที่มีความแข็งแกร่งและทนทานขนาดที่สามารถต่อกรกับฟัลซิได้ต่อให้พังไปครึ่งตัวก็ตาม อาวุธโบราณนี้ถูกออกแบบมาให้ตั้งรับสงครามจากภาคพื้นดินได้ แต่ไม่สามารถทำการโจมตีกลางอากาศได้ นักประวัติศาสตร์บางท่านจึงอ้างว่านี่คือหลักฐานที่แสดงว่าโคคูนเป็นฝ่ายเริ่มสงครามก่อน (เพราะฝั่งพัลส์ตั้งรับได้อย่างเดียว บินไปสู้ไม่ได้)

โอลบา -AF???-

หลังจากปราบไคอัสใน AF200 ได้ จะเจอฉากจบแบบนี้

Paradox Ending : Vanille’s Truth

  • พอมาถึงเซร่าห์จะบอกว่าที่นี่เหมือนโอลบาที่พินาศเพราะสงครามหลายร้อยปีก่อนที่เธอจะเกิดเลย ร่องรอยของมนุษย์ถูกแทนที่ด้วยซีธ ผู้คนถูกช่วงชิงชีวิตอันปกติ กระทั่งแม้ยามตาย ก็ยังต้องร่อนเร่อยู่ในซากเมืองอันเป็นบ้านเกิด ฉันได้ยินเสียงกระซิบอันแผ่วเบาที่คุ้นเคย เป็นเสียงของใครสักคนที่เคยอยู่ที่นี่เมื่อนานมาแล้ว? เสียงของใครสักคนที่อ้อนวอนให้มีคนรับฟัง?
  • แล้วเสียงของวานิลล์ดังก้องขึ้นในโสตประสาทของเซร่าห์และโนเอล

“สงครามกับโคคูนเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ กองทัพของแกรนพัลส์ถูกทำลายล้างโดยพลังอันยิ่งใหญ่ของฟัลซิ ชีวิตนับไม่ถ้วนต้องสูญไป แต่ฉันไม่ได้สู้ ฉันไม่อาจปกป้องเพื่อนของฉัน ผู้คนที่ฉันรักไว้ได้ ทั้งเกลียด ทั้งเจ็บปวด ทั้งอยากทำลาย ฉันปฏิเสธที่จะยอมรับภารกิจของฉัน ฉันเสียใจ ฉันกลัว ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจหนี ฉันปล่อยให้แฟงก์จัดการทุกอย่าง เราสาบานที่จะปกป้องกันและกัน แต่ฉันผิดสัญญา ฉันเป็นต้นเหตุที่ทำให้แฟงก์ต้องรับภาระกลายเป็นมอนสเตอร์แร็คนาร็อค เพราะฉันอ่อนแอ เพราะฉันทิ้งเธอไป แฟงก์... เธออยู่ไหน? ฉันจะจัดการกับสิ่งที่ฉันทำลงไปยังไงดี?”

  • พวกเซร่าห์มาหาจนเจอคริสตัลของวานิลล์ เซร่าห์บอกวานิลล์ว่าแม้วานิลล์จะเป็นคริสตัล แต่วิญญาณก็ยังอยู่ แม้จะหลับใหล แต่ความคิดยังคงตื่น (หลับแต่ร่างกาย) ฉันรู้เพราะฉันก็เคยเป็นมาก่อน ฉันรู้สึกถึงความเจ็บปวด ความเสียใจ ระทมทุกข์ของเธอ ฉันรู้ว่าเธออยากขอโทษใครบางคน แต่ขอเวลาหน่อยได้มั้ย? ฉันสัญญาว่าจะไปพาแฟงก์มาที่นี่ เพื่อที่เธอจะได้บอกความรู้สึกออกไปได้ วานิลล์ขอบคุณแล้วบอกว่าเธอรู้ว่าสักวัน เธอจะได้รับการปลดปล่อย ถึงตอนนั้นเธอจึงจะได้ขอโทษ แต่นั่นคือเวลาแห่งชะตากรรมของเรา แล้วชะตากรรมเองก็ได้ทำให้พวกเซร่าห์มาที่นี่ มาได้ยินเสียงของเธอ ถนนทั้งหมดได้เชื่อมถึงกัน และมันทั้งหมดก็นำไปสู่ช่วงเวลาแห่งทางรอด (Salvation) ในยามที่วิญญาณที่ถูกจองจำ เป็นอิสระ ทั้งหมดต่างนำไปสู่จุดจบของโลก และการเริ่มต้นใหม่ (ภาพฉายไปยังโคคูนที่เปลือกพึ่งแตกจากการโดนโจมตี แสดงว่านี่เป็นยุคอดีตจริงๆ)

หมายเหตุ : เป็นการบอกใบ้ว่าตอนจบของ Lightning Returns –Final Fantasy XIII- วิญญาณทั้งหมดเป็นอิสระ โลกใบเก่าถึงจุดจบ และวิญญาณทั้งหมดนั้นได้เริ่มต้นใหม่ในโลกใบใหม่

หมายเหตุ : คำอธิบายของยุคนี้ เขียนถามว่านี่เป็นอดีตหรือเป็นภาพสะท้อนความทรงจำของบางคน? เนื่องจากเราท่องอดีตไปก่อน AF0 ไม่ได้ (สายเวลาก่อนหน้านั้นเป็นเส้นตรง ไม่ได้บิดเบี้ยว แล้วค่อยมาบิดเบี้ยวหลัง AF0) ดังนั้น มันก็คือโลกในความทรงจำของวานิลล์นั่นแหละ

Fragment : Vanille’s Truth  (ความจริงของวานิลล์) ตัดตอนจากประวัติศาสตร์อีกทางหนึ่ง

นานมาแล้ว ในโบราณกาล โคคูนและพัลส์ได้ก่อสงครามอันโหดร้ายแก่กัน หญิงสาวสองคนนามว่าแฟงก์และวานิลล์ได้ปลดปล่อยมอนสเตอร์แล้วบุกมายังโคคูน

ในตอนนั้น เทพธิดาได้ปลดปล่อยเวทย์อันยิ่งใหญ่และเปลี่ยนทั้งสองให้กลายเป็นรูปปั้นคริสตัล ร่างอันหลับใหลของพวกเขาถูกจับวางไว้ภายในวิหารของโอลบา ซึ่งวันหนึ่งก็ถูกยกขึ้นไปสู่โคคูน

ณ ที่แห่งนั้น พวกเธอได้หลับใหลจนกระทั่งหลายร้อยปีต่อมา หญิงสาวคนหนึ่งก็ได้เตร็ดเตร่เข้าไปในวิหารและถูกสาปให้กลายเป็นลูซิ

หญิงสาวคนนั้นชื่อเซร่าห์ และนั่นคือก็เป็นจุดเริ่มต้นของ 13 วันแห่งการเพิร์จ (Purge)

โบราณสถานเบรชา AF100

  • คำบรรยายบอกว่ายุคนี้มีมอนสเตอร์โผล่มาจากพาราด็อกซ์มาก กระทั่งกองทัพยังต้องถอนตัว ทางรัฐบาลจึงเสนอเงินตอบแทนก้อนโตให้คนที่จัดการพาราด็อกซ์ได้ ตอนนี้จึงมีทั้งฮันเตอร์และนักวิชาการมาล่ารางวัลกันเต็มไปหมด
  • ตั้งแต่ AF20 มอนสเตอร์ก็เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมาก แต่ไม่กี่ปีมานี้ มันทวีมากขึ้น รัฐบาลก็พึ่งวางมือไปเร็วๆ นี้
  • แพ็ท (Pat) กำลังพัฒนาอาวุธใหม่ ต้องการวัตถุดิบในโบราณสถานซึ่งพาราด็อกซ์รุนแรงสุดในที่นี้ อยากให้ไปเอามา พอได้มาแล้วเธอบอกจะเอาไปทำอาวุธขายให้รัฐบาล

Fragment : Palladium Ring – หลายปีก่อนรัฐบาลตัดสินใจทิ้งที่แห่งนี้ไป แต่กลายเป็นว่าพวกมอนสเตอร์ทะลักออกจากที่นี่แล้วบุกเข้าเมือง ถ้าปล่อยไว้โคคูนจะกลายเป็นรังมอนสเตอร์ขนาดยักษ์ เลยต้องตอบโต้กลับกันทีละน้อย

  • ศจ. คนหนึ่งพลัดหลงกับผู้ช่วย เลยฝากเราไปหาแล้วบอกให้เราเอารายงานวิเคราะห์มอนสเตอร์มา  เราจะไปเจอผู้ช่วยคนนั้นหลงอยู่ในช่องแยกมิติ ความทรงจำของเขาขาดช่วงไปหน่อย แต่ก็ให้รายงานมา เขาขอบคุณที่เราช่วยเอาไว้ เพราะรู้ตัวว่าเกือบไม่รอดแล้ว
  • พอเราเอารายงานมาคืนให้ ศจ. จะบอกว่าข้อมูลนี้จะช่วยแก้พาราด็อกซ์ได้ โนเอลถามว่าของแบบนี้มันจะแก้พาราด็อกซ์ได้จริงเหรอ? ม็อคบอกว่าเรื่องนี้มันต้องค่อยไปทีละก้าว เซร่าห์บอกว่าพูดไม่สมเป็นม็อคเลย ครั้งสุดท้ายที่ม็อคลงมาก้าวเดินน่ะ เมื่อไหร่กัน!?

Fragment : Osmium Ring – ปฏิบัติการณ์ฆ่าล้างมอนสเตอร์ในเบรชา ถูกมอบหมายโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ ส่วนทางอเคเดเมียมีนโยบายที่จะไม่เข้ามาก้าวก่าย เหล่านักวิทยาศาสตร์ของทางอเคเดเมียกำลังดูดเอาทรัพยากรไปทำโครงการใหญ่ๆ ซะหมด ในขณะที่ทางรัฐบาลก็ย่ำแย่ลง ถ้าหากงานวิจัยเกทเรียบร้อยแล้วปรากฏว่ายังไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาการระบาดของมอนสเตอร์ได้ ทางอเคเดเมียคงจะแย่งเงินทุนจากเราได้ยากกว่าเดิมล่ะ (แสดงว่าเดิม ตอนนี้ทางอเคเดเมียแย่งทุนจากรัฐบาลเอาไปวิจัยเกทซะเยอะ ถ้าวิจัยเสร็จแล้วยังแก้ปัญหาไม่ได้ก็ต้องโดนลดงบ)

  • วอลเตอร์ (Walter) ศึกษาสังคมวิทยาของมอนสเตอร์ ดูว่ามันตอบสนองต่อมนุษย์อย่างไร จะได้เป็นประโยชน์ต่อกองทัพในการวางกลยุทธสู้ ที่นี่มีทหารรับจ้างคนหนึ่งชื่อเรย์มอนด์ (Raymond) ที่ดุดัน สู้ฟัดกับมอนเสเตอร์มาตลอด ถ้าเขาใจเย็นอ่อนนุ่มขึ้น มอนสเตอร์จะตอบสนองอย่างไรกันนะ อยากรู้จัง? เราเลยไปคุยกับเรย์มอนด์ พูดชมปลอบเขาว่าเป็นคนดัง ชมว่าอาวุธเจ๋ง และขอให้เขาสอนการต่อสู้ให้ เจ้าตัวก็จะอารมณ์ดีขึ้น
  • พอกลับไปคุยกับวอลเตอร์แล้วเขาบอกว่าพฤติกรรมของมอนสเตอร์แทบไม่เปลี่ยนไปเลย แบบนี้ถ้าวิจัยต่อไปก็คงเสียเปล่า

Fragment : Rethenium Ring – รัฐบาลให้รางวัลใหญ่สำหรับคนที่จัดการยุติการระบาดของมอนสเตอร์ได้ แต่ก็ให้รางวัลสำหรับการฆ่ามอนสเตอร์รายตัวได้เช่นกัน

  • โรนัน (Ronan) ได้วางอุปกรณ์สำหรับการรวบรวมข้อมูลไว้หน้าหลุมศพ เพื่อใช้เก็บข้อมูลระยะยาว หวังว่าในอนาคตหลายร้อยปีข้างหน้า ข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่เก็บอุปกรณ์ไปได้ เราเลยอาสาไปเอามาให้ (เครื่องมันเป็นรูปตุ๊กตาคาร์บังเกิล)
  • พอเอาเครื่องมือจากอนาคตมาให้ เขาจะเอาไปวิเคราะห์ พบว่าต้นตอของพาราด็อกซ์อยู่ที่เครื่องควบคุมแอตลัส ถ้าเอาไปบอกรัฐบาลก็คงปรับกลยุทธใหม่ได้ โนเอลบอกว่าพาราด็อกซ์เกิดเพราะเครื่องควบคุมเนี่ยนะ? มีใครไปยุ่งกับมันรึเปล่า? เซร่าห์บอกว่าอาจ *มีคนไปเปิดมัน (กลุ่มคนร้าย) โดยผิดพลาดก็ได้ ลองไปดูกัน

Fragment : Rhodium Ring – ทหารรับจ้างที่นี่ชอบทอง เงิน เพชรพลอย อะไรก็ตามที่แปลงเป็นเงินสดได้ แต่ก่อนเราใช้กันแต่บัตรเดบิต แทบไม่มีใครพกเงินกัน แต่พอพาราด็อกซ์ป่วนระบบ แตต่ละคนก็พิสูจน์ไม่ได้ว่าใครมีเงินเท่าไหร่ จึงเป็นการแงะฝาโลงให้กับเงินจริงอีกครั้ง เรามักมีตลาดมืดสำหรับแลกเปลี่ยนเงินตรานอกระบบ เพราะผู้คนไม่ชอบจ่ายภาษี กระทั่งรัฐบาลก็ใช้ พวกเงินตราที่จับต้องได้จึงกลับเป็นราชาอีกครั้ง ทุกคนรักทองกัน

  • พอร์ทเตอร์ (Porter) ถูกรัฐบาลส่งตัวมาสำรวจอุปกรณ์ควบคุมแอตลัส แต่มันล็อคระบบอยู่ ต้องใช้รหัสผ่าน 2 ชั้น ทางอเคเดเมียรับผิดชอบดูแลรหัสอันนึงอยู่ แต่คนถือรหัสตายไปแล้ว ส่วนอีกรหัสนึงไม่รู้เหมือนกันว่าจะหายังไง เขาจะใช้รหัสเพื่อปิดระบบ บางทีในอนาคตอาจมีคนอัจฉริยะที่แกะระบบให้ได้
  • ลองไปที่ยาจัส AF100 อูม่า (Uma) บอกว่าคุณธอร์น (Thorne) เป็นคนดูแลรหัส แต่เขาหายไปกับพาราด็อกซ์นานแล้ว คุณธอร์นเป็นหัวหน้าของเธอเอง จากนั้นให้ข้ามไปยัง AF110 จะเจอธอร์นที่จำชื่อตัวเองไม่ได้ เราก็บอกชื่อให้เขาไป เขาจะจำได้ว่าขณะกำลังสำรวจโบราณสถานก็ **โดนผลักเข้าพาราด็อกซ์ แล้วเขาก็ตอบแทนเราด้วยการจดรหัสมาให้
  • ม็อคจะเพ้อให้ฟังว่าเมื่อได้เงินรางวัลมาแล้วจะเอาไปทำอะไรดีนะ? โนเอลสงสัยว่าตัวเองฟังผิดรึเปล่าที่ว่าธอร์นโดนผลักเข้าไปในพาราด็อกซ์ เซร่าห์บอกว่าไม่ผิดหรอก มีใครบางคนพยายามฆ่าเขา

โบราณสถานเบรชา AF300

  • พวกเซร่าห์ไปยังเครื่องควบคุมแอตลัสด้วยความคิดว่าในอนาคตคงจะมีคนอัจฉริยะที่แกะระบบได้แล้ว เลยไปดูว่ารหัสของเครื่องเป็นอะไร แต่ที่เครื่องเราจะพบช่องแยกเวลา (วงกตกาลเวลา) เกิดขึ้น เนื่องจาก***มีคนใช้พาราด็อกซ์มาเป็นตัวคุ้มกันรหัส (พวกคนร้าย) ทำให้เกิดมิติจำลอง (Virtural Space) ภายในเครื่องควบคุม พวกเซร่าห์เลยต้องเข้าไปแก้ปริศนาภายในช่องแยกเวลาภายในนั้นเพื่อปลดรหัสออกมา พอแก้ได้ถึงได้รหัสมา
  • ม็อคจะเพ้ออีกว่าถ้าได้เงินมาแล้วจะแหวกว่ายไปบนกองเงิน แต่เซร่าห์และโนเอลกลับดูเครียด กังวลบางอย่าง

โบราณสถานเบรชา AF100

  • เรากลับไปยัง AF100 เพื่อเอารหัสให้กับพอร์ทเตอร์ รหัสที่เราให้ไปนั้นใช้ได้ แล้วพอร์ทเตอร์ก็บอกว่าดูเหมือนพาราด็อกซ์จะเกิดด้วยฝีมือของมนุษย์ใน AF20 *มีคนไปยุ่งกับมันจนเป็นต้นตอของเรื่องนี้ คนร้ายทำให้มอนสเตอร์เพิ่มจำนวนขึ้น **และจัดการกับคนที่รู้พาสเวิร์ด คิดว่ากลุ่มคนที่คัดค้านความคิดของอเคเดเมีย ***ได้ใช้พาราด็อกซ์เพื่อประโยชน์ของฝ่ายตนเอง มันพยายามทำลายอเคเดเมีย ทุกวันนี้เรายังไม่รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังและทำไปทำไม ในฐานะที่เขาเป็นตัวแทนของรัฐ เขาขอตอบแทนให้ด้วย Adamantite Ring จากนั้นพอร์ทเตอร์ก็จะปิดเครื่องควบคุมได้ ทำให้พาราด็อกซ์หายไป
  • เราคุยกับพอร์ทเตอร์อีกรอบ แล้วจะเกิดแผ่นดินไหวขึ้น มอนสเตอร์จากโพ้นอันว่างเปล่าได้โผล่มาในยุคนี้ การที่เราแก้พาราด็อกซ์ เป็นการปิดจุดวาร์ปให้มันกลับไปที่โพ้นอันว่างเปล่าไม่ได้ (มอนสเตอร์ Kalavinka)

Fragment : Adamantite Ring – ดูเหมือนว่าเครื่องควบคุมแอตลัสจะใช้เทคโนโลยีสูงกว่าตัวแอตลัสเอง ในAF100 มนุษย์สามารถสร้างแอตลัสได้แล้วด้วยความรู้ในยุคนั้น แต่ปัญหาคือวิศวกรยังไม่สามารถเข้าใจกระบวนการทำงานของเครื่องควบคุมได้ จึงยังไม่มีทางควบคุมแอตลัสได้ ตัวเครื่องควบคุมนั้นมันอ่านความคิดของมนุษย์ แล้วแปลงความนึกคิดนั้นให้เป็นการกระทำโดยแอตลัส ผ่านทางโทรจิต (คน ถูกอ่านโทรจิตโดยเครื่องควบคุมแอตลัส แล้วตัวเครื่องนั้นก็ส่งโทรจิตต่อไปยังแอตลัส) ไม่รู้ว่าใครเป็นคนสร้างขึ้นมา มันเป็นวัตถุจากต่างโลก พาราด็อกซ์โดยแท้

  • พอปราบ Kalavinka ได้ เซร่าห์จะบอกว่าไม่เชื่อเลยว่าเครื่องจักรที่มนุษย์สร้างจะนำมาซึ่งมอนสเตอร์แบบนี้ แล้วยังพาราด็อกซ์ที่มนุษย์ก่อเองด้วย โนเอลบอกว่ามอนสเตอร์มันไม่ได้จะฆ่าคน แต่คนจะฆ่ากันเองสินะ ม็อคคิดว่าที่จริงแล้วคนน่ะน่ากลัวกว่ามอนสเตอร์ เราปิดคดีได้แล้วแต่รัฐบาลก็ไม่จ่ายเงินสักกิลให้ แล้วดันให้ของเล็กๆ น้อยๆ พวกของใช้ในบ้านมาแทน มีใครที่ไหนต้องการกระดาษเช็ดก้นขนาด 10 ปีกันบ้างคุโปะ! ม็อคเลยปฏิเสธรางวัลไป รัฐบาลมันชั่วร้ายมาก! มนุษย์มันชั่วร้ายมาก! คุโปะ! (ได้ Key item กระดาษเช็ดก้นขนาด 10 ปีมา)

Fragment : Kalavinka – เป็นชีวอาวุธที่สร้างโดย PSICOM ของรัฐบาลเก่า เชื่อกันว่าอาวุธพวกนี้สูญหายไปหมดแล้วตอนเกิดหายนะขึ้น แต่กลับมีตัวนึงหลงไปในโพ้นอันว่างเปล่า มันได้รับพลังใหม่ที่โหดกว่าเดิม ปีกของมันทำให้เวลาบิดเบี้ยว และสร้างบาดแผลให้ผิวของมิติได้ มันไปไหนก็จะทำให้มิติเสียหาย โชคดีที่ความเสียหายจนถึงตอนนี้เกิดขึ้นแต่ในเบรชา โคคูนยังปลอดภัยอยู่ ก็ต้องขอบคุณเหล่าทหารรับจ้างยิบย่อยด้วย

  • ในเรื่องที่ม็อคบ่น จริงๆ มันก็ใบ้มาก่อนแล้วว่ายุคนี้รัฐบาลถังแตก พวกเงินทุนสนับสนุน ทรัพยากรต่างๆ ก็โดนอเคเดเมียดูดไปหมด จึงไม่น่าแปลกใจ
  • แต่ยังไม่เข้าใจว่าคนร้าย สร้างพาราด็อกซ์ เป็นเหตุให้มอนสเตอร์เพิ่มจำนวนขึ้นมา แพร่กระจายทั่วโคคูน มันเป็นการป่วนอเคเดเมียให้ต้องมามุ่งเน้นเรื่องการแก้ปัญหานี้และการวิจัยเกท แทนที่จะไปมุ่งเน้นกับการสร้างโคคูนใหม่และ meta-shield (เบาะพลังงานขนาดยักษ์) วิธีการนี้มันป่วนได้จริง! แต่ทำแบบนี้ก็เสี่ยงที่โคคูนจะพินาศไปด้วย? ใครมันจะกล้าทำ? ถ้าบอกว่าเป็นพวกบูชาฟัลซิในโคคูนก็ยิ่งแปลก เพราะทำแบบนี้โคคูนก็จะพินาศเอา...

Fragment : Travel Guide Bresha Ruins – เป็นซากเมืองโบราณที่เคยตั้งใกล้ทะเลสาบเบรชา หนึ่งในสถานที่สุดลี้ลับของโคคูน ในเหตุการณ์เพิร์จ ฟัลซิของพัลส์ (อนิม่า) ได้เปลี่ยนน้ำในทะเลสาบให้กลายเป็นคริสตัล เหล่าร้านภัตตาคารปลาเลื่องชื่อที่ตั้งริมทะเลสาบเป็นหย่อมๆ จึงไม่มีอีกแล้ว เพราะน้ำในทะเลสาบแข็งหมดแล้ว

Fragment : Travel Guide Vile Peaks – เป็นที่ทิ้งขยะขนาดใหญ่ตอนฟัลซิสร้างโคคูน กับระหว่างตกแต่งก็มีการยกวัตถุดิบจำนวนมากจากผิวแกรนพัลส์ พวกส่วนเกินก็ถูกทิ้งไว้ที่นี่ ตอนนี้เต็มไปด้วยเครื่องจักรสงครามโบราณของพัลส์ (โดนหิ้วติดขึ้นมาตอนสร้างโคคูน) ขนาดทหารยังเข้ากันไม่ค่อยจะได้ เฉพาะพวกนักสะสมอาวุธโบราณกับของเก่าเก็บ ถึงจะเข้ามาที่นี่กัน

Fragment : Travel Guide Archylte Steppe – เป็นทุ่งกว้างที่ตั้งอยู่มุมอันห่างไกลของแกรนพัลส์ นักสำรวจที่เคยไปถึง กลับมาเขียนรายงานถึงชนเผ่าฮันเตอร์เร่ร่อนที่แยกตัวไปใช้ชีวิตอย่างป่าเถื่อน พวกเขาอยู่ที่นั่นมาเป็นศตวรรษ ตัดขาดจากอารยธรรมของมนุษย์อื่น ที่ตั้งจริงของมันไม่เป็นที่เปิดเผย แต่นักท่องเที่ยวที่สนใจในการผจญภัยก็อาจรวมตัวกันออกค่าใช้จ่ายในการเช่าเรือเหาะ เพื่อตามหาที่แห่งนี้ได้ / บ้างเชื่อกันว่าฮันเตอร์เหล่านี้เป็นลูกหลานของผู้ที่อาศัยอยู่ในพัลส์ดั้งเดิม บ้างก็อ้างว่าพวกเขาเป็นชนเผ่าที่สาบสูญของโคคูน ถ้าใกล้ชิดจนพวกเขาเชื่อใจ พวกเขาอาจเล่าเรื่องของเขาให้ฟังได้

ไม่มีความคิดเห็น