บทสัมภาษณ์เนื้อเรื่องจาก FFXII-2 Ultimania Omega
โลกของ FFXIII ซึ่งผดุงไว้ด้วยไลท์นิ่งผู้กลายเป็นคริสตัล
- ก่อนหน้านี้คุณโทริยามะเคยบอกว่า "สักวันหนึ่งผมจะสร้างเนื้อเรื่องที่ไลท์นิ่งได้มีความสุข" แต่ FFXIII-2 ดันจบแบบสะเทือนใจซะอย่างงั้น
โทริยามะ : เมื่อคุณได้เล่น DLC เนื้อเรื่องไลท์นิ่ง คุณก็จะเข้าใจความคิดตอนที่เธอกลายเป็นคริสตัล มันน่าเศร้าอยู่ แต่ผมว่าคุณจะได้รับความประทับใจจากการที่ท้ายที่สุดแล้วเธอก็รู้สึกปล่อยวางลงบ้าง แต่ยังไงก็ตาม ผมก็ไม่อาจพูดได้ว่าบทสรุปในคราวนี้คือความสุขของเธอ นี่ก็เป็นไปตามกลยุทธ ผมว่าผมอยากจะลองแต่งเนื้อเรื่องถัดจากนั้นไปอีกก้าวหนึ่งเหมือนกัน
วาตานาเบะ : ยังไงซะ ไลท์นิ่งก็เป็นตัวละครที่แบกรับทุกสิ่งทุกอย่างไว้กับตัวเอง ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากที่เธอจะก้าวข้ามสิ่งเหล่านั้นจนค้นพบความสุขได้ เธอเป็นคนที่จะยืนหยัดได้เมื่อได้ทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำลงไปแล้ว ดังนั้นในสถานการณ์ที่เป็นใจให้เธอแล้วเธอก็คงรู้สึกไม่สบายใจได้ ตัวอย่างเช่น ต่อให้สันติสุขดำเนินต่อไปภายหลังจากตอนจบของ FFXIII แล้วไลท์นิ่งได้ใช้ชีวิตร่วมกับข้าวใหม่ปลามันอย่างสโนวและเซร่าห์ ผมไม่คิดว่าเธอจะรู้สึกเหงาอย่างที่คนอื่นๆ คาดคิดกันหรอก (เพราะเธอได้ทำสิ่งที่จำเป็นต้องทำไปหมดแล้ว)
โทริยามะ : แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ผมว่าไม่ช้าก็เร็ว ไลท์นิ่งก็คงจากไปอยู่ดีแหละนะ (หัวเราะ)
- คุณวาตานาเบะมีงานอดิเรกในการจินตนาการถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหลังตอนจบ อย่างเช่นตอนที่คุณเคยทำเมื่อพัฒนา FFXIII เสร็จ แล้วตอนนี้มีคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากตอนจบของ FFXIII-2 แล้วหรือยัง?
วาตานาเบะ : อืม ผมคงไม่ปฏิเสธว่าผมไม่ได้คิด ในตอนจบของ FFXIII-2 โลกที่มองเห็นได้เชื่อมต่อกับวาลฮัลล่า และถูกปกคลุมด้วยเคออส นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้โลกล่มสลาย และผมว่านั่นเป็นเนื้อเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดกันมาก่อน ถ้ามันล่มเพราะเกิดสงครามครั้งใหญ่หรือโดนมอนสเตอร์จากโลกอื่นรุกรานก็ว่าไปอย่าง แต่พอมันเป็นแบบนี้แล้ว จะเกิดอะไรขึ้นกับผู้คนที่ยังมีชีวิตอยู่กันบ้าง? ถ้ามีการผจญภัยต่อไปในโลกนั้น พวกเขาจะได้พบเจอกับอะไรบ้าง? นี่ก็เป็นเรื่องที่ผมครุ่นคิดในฐานะคนเขียนบทครับ
โทริยามะ : ส่วนตัวแล้ว ผมก็อยากลองสานต่อฉากจบพาราด็อกซ์อย่างตอนที่เซร่าห์และสโนวออกเดินทางตามหาคริสตัลทั้ง 13 ใน "สองผู้ออกเดินทาง" และตอน "สู้ปูรินด้วยปูริน" ที่เซร่าห์และโนเอลปลอมตัวเป็นมอนสเตอร์ ผมว่ามันน่าสนุก (หัวเราะ) ถึงแม้เรื่องเหล่านั้นจะเป็นแค่มุก แต่คิดๆ ดูแล้วหากเป็นไปได้ เราก็อยากจะแต่งเนื้อเรื่องเหล่านั้นไปจนจบ โดยไม่ให้หลุดไปจากตำนานคริสตัลของ Fabula Nova Crystallis ฉากจบแบบที่ไลท์นิ่งจะได้มีความสุขเองก็ไม่ต่างกัน
- หลังจากนี้แล้ว เป็นไปได้มั้ยที่จะช่วยไลท์นิ่งที่กลายเป็นคริสตัลไปแล้ว?
วาตานาเบะ : เราเคยบอกไว้แล้วว่าธีมของเนื้อเรื่องคือ "อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน แต่เราสามารถก้าวเดินต่อไปได้ตราบเท่าที่เรายังมีความหวัง" เรื่องไลท์นิ่งก็เหมือนกัน บทสรุปที่เธอกลายเป็นคริสตัลนั้นอาจดูน่าผิดหวัง แต่ก็ไม่มีการบอกสักหน่อยว่าอนาคตหลังจากนั้นเป็นอย่างไร ผมก็อยากจะให้แฟนๆ มีึความหวังกันต่อไป หากย้อนคิดไปถึง FFXIII แล้ว การกลายเป็นคริสตัลแล้วได้รับชีวิตอันเป็นนิรันดร์ ก็หมายถึงการทำภารกิจของลูซิได้สำเร็จแล้ว และเข้าสู่สภาวะเตรียมพร้อมที่จะกลับมาอีกครั้ง
โทริยามะ : เนื้อเรื่องของไลท์นิ่งไม่ได้จบลงอย่างสดใส แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะคิดยังไงด้วย ไลท์นิ่งยังคงเก็บรักษาหัวใจของเธอไว้แม้ในตอนที่เธอกลายเป็นคริสตัล โลกของ FFXIII จึงยังคงถูกผดุงไว้ชั่วนิรันดร์ด้วยฝีมือของเธอ ผมเองก็ภาวนา เฝ้ารอให้วันเวลาที่ไลท์นิ่งจะตื่นขึ้นมาและได้รับเซร่าห์คืนกลับมาอีกครั้งมาถึง
ประโยคที่ปรากฏขึ้นในตอนจบของเนื้อเรื่องไลท์นิ่ง XXX Years Later... มีความหมายอย่างไร?
- คุณได้อธิบายเหตุผลที่ไลท์นิ่งกลายเป็นคริสตัลในตอนจบเนื้อเรื่องของเธอแล้ว น่าสนใจทีเดียว
โทริยามะ : ตอนแรกเราก็วางแผนว่าจะให้มีเหตุการณ์ที่ไลท์นิ่งไล่กำจัดสัตว์อสูรด้านมืดอย่าง Odin Dusk ด้วย แต่ในเมื่อผมจะให้มันเนื้อเรื่องตอนจบของ FFXIII-2 แล้ว มันก็เลยออกมาเป็นแบบนั้น ซึ่งก็มีการใส่ระบบพิเศษลงไปในการต่อสู้เช่นกัน มีเสียงตอบรับกันมาว่าเราได้สร้างระบบต่อสู้ที่ทำให้ซีรียส์ FFXIII สมบูรณ์แล้ว ผมจึงอยากที่จะได้ยินความคิดเห็นจากผู้เล่นทุกๆ คน เช่นกัน
- ถ้าได้คะแนนในการต่อสู้นั้นสูงมากพอ ก็จะได้เห็นฉากลับหลังเครดิต
คิตาเสะ : ที่จริงแล้ว ตอนแรกเราก็ไม่มีแผนที่จะใส่ฉากนั้นลงไปหรอก สิ่งที่เกิดขึ้นกับไลท์นิ่งก็ต้องทำให้มันเหมือนกันกับฉากจบเกมแบบปกติ ทว่าก็มีความคิดกันว่าท้ายที่สุดแล้วควรจะให้ไลท์นิ่งปรากฏตัวขึ้นและก้าวไปข้างหน้า ก็เลยมีการเพิ่มเหตุการณ์ลับนั้นลงไป เหตุการณ์นั้นเกิดในโลกแห่งความจริง? หรือเป็นเพียงการคิดไปเองของไลท์นิ่ง? ก็ไม่มีการกล่าวไว้ แต่แม้ว่าเธอจะกลายเป็นคริสตัลไปแล้ว เราก็อยากจะให้พวกคุณประทับใจกับการที่ไลท์นิ่งยังคงที่จะก้าวต่อไป
โทริยามะ : ถึงได้คะแนนในการต่อสู้สูงพอแล้ว ก็ต้องอัพเลเวลไลท์นิ่งให้ถึง 10 ด้วยจึงจะได้เห็นฉากที่ว่า ก็ลองดูละกันครับ
- ในเหตุการณ์นั้น คำว่า XXX Years Later ที่ปรากฏขึ้นมา มีความหมายอย่างไร?
คิตาเสะ : ผมว่าถึงอธิบายไปก็ไม่มีความหมายหรอกมั้ง (หัวเราะ) แต่ขอผมพูดอะไรอย่างหนึ่ง ประโยค "To Be Continued..." ที่ปรากฏในตอนจบนั้น คนส่วนใหญ่คงคิดกันว่าเนื้อเรื่องไลท์นิ่งคงจะไปดำเนินต่อใน DLC ทว่าเรากลับแปลความมันไปในทางอื่น ผมบอกได้แค่นี้
(หมายถึงคนทั่วไปเห็นประโยคนั้นแล้วคิดว่า เนื้อเรื่องหลังจากที่ไลท์นิ่งกลายเป็นคริสตัลจะมีให้เล่นกันใน DLC ทว่ามันไม่ใช่แบบนั้น คำว่า To Be Continued นั้นมีความหมายไปในทางอื่น และ DLC เนื้อเรื่องไลท์นิ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากฉากจบปกติ)
โทริยามะ : การที่ไลท์นิ่งก้าวเท้าออกไปในเหตุการณ์ลับ ผมว่าพวกเราเองก็อยากจะให้โปรเจคท์ของพวกเราก้าวต่อไปเช่นกัน ผมก็หวังว่าพวกคุณจะตั้งตารอคอยกันครับ
- พวกคุณได้รับเสียงตอบรับเรื่อง DLC จากผู้เล่นบ้างรึเปล่า?
คิตาเสะ : ถึงแม้พวกผมจะไม่ได้ฟีดแบ็คมาตรงๆ แต่ดูเหมือนมันจะเป็นที่นิยมพอตัว โดยดูจากจำนวนดาวที่แฟนๆ โหวตกันมาเวลาดาวน์โหลดไปน่ะครับ
โทริยามะ : ผมว่าหลังจากนี้ึคงต้องไปเก็บความเห็นภายในหน่วยงานแล้วว่าฟีดแบ็ค DLC เป็นไงบ้าง
ที่มา : Olivia Slayton @SQEX Info
Post a Comment