เหตุฆาตกรรมม้าลายในวินนิ่งฯ

 เรื่องของเรื่องเกิดขึ้นเวลาประมาณ 4 ทุ่มครึ่งตามเวลาท้องถิ่นของไทยแลนด์

ระหว่างที่ผมกำลังท่องโลกวินนิ่งฯ ออนไลน์เพื่อมองหาคนแข่งด้วยนั้น สายตาของผมก็กระแทกไปยังห้องๆ หนึ่ง ที่มีวินนิ่งเออร์ระดับ D1 ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดรอคนมาเล่นด้วยอยู่ หลังจากพินิจพิเคราะห์ดูข้อมูลของอีกฝ่าย... ผมก็ต้องตื่นตะลึงว่าอีกฝ่ายคือวินนิ่งเออร์อันดับที่ 11 ของเอเชีย...!!!

แถมพี่แกกำลังฟอร์มฮอต พึ่งชนะมา 7 นัดติดต่อกันอีกต่างหาก!!!

วินาทีนั้น... ใจหนึ่งบอกผมว่า จงทะยานเข้าไปฟาดฟัน และกำราบหมายเลข 11 ของเอเชียลงซะ

ขณะที่อีกใจหนึ่งบอกผมว่า ถ้าไม่อยากเก็บ Lose เพิ่ม... ก็จงไสหัวหนีไปให้ไกลจากห้องนั้น...

ในตอนนั้น ผมพึ่งทำสถิติชนะ 8 นัดรวดมาหมาดๆ ซึ่งถือว่าเป็นสถิติชนะต่อเนื่องที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยทำมา ดังนั้นหากผมวิ่งเข้าไปลุยกับวินนิ่งเออร์อันดับที่ 11 ของเอเชีย... มันย่อมมีแนวโน้มสูงว่าผมคงไม่อาจทำสถิติชนะรวดติดต่อกันเป็นนัดที่ 9 ได้....

มองในแง่ผลประโยชน์แล้ว... ผมควรทำตัวหัวกุดรีบรุดรีบหนีไปจากที่นั้นให้ไวที่สุด

แต่อีกใจหนึ่งมันบอกผมว่า โอกาสที่เราจะได้แข่งกับวินนิ่งเออร์ระดับเทพ ถึงขั้นเป็นอันดับที่ 11 ของเอเชียนั้น มันไม่ได้มีบ่อยๆ บางทีตลอดชีวิตนี้ผมอาจจะไม่ได้เจอเขาอีกเลยก็เป็นได้

และถ้าผมหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเขาในตอนนี้ แล้วเลือกที่จะไปตบตีกับคนที่แรงค์ต่ำกว่าแทน นั่นคือสิ่งที่วินนิ่งเออร์ที่แท้จริงเค้าทำกันหรือ... ผมจะมีหน้าไปบอกใครเขาได้มั้ยว่าสถิติชนะต่อเนื่องของผมนั้น มาจากการรังแกคนที่แรงค์ต่ำกว่าหมดเลย... แบบนั้นมันถูกต้องจริงๆ แล้วหรือ?

ท่ามกลางความสับสน... ผมยังคงยืนแช่อยู่หน้าห้องของวินนิ่งเออร์คนนั้น

แต่แล้ว เดชะบุญ... วินนิ่งเออร์คนนั้นกลับกวักมือเรียกผมให้เข้าไปฆ่าแกงกับเขาในนั้นซะดีๆ...

วินนิ่งเออร์อันดับที่ 11 ของเอเชียถึงขั้นกวักมือเรียกผมเลยนะครับ!!

"......... ............... ................."

ผมลังเลอยู่ชั่ววูบ... ก่อนจะคิดในใจว่า "ก็... ก็ได้... มึงเจอกูแน่..!!"

ว่าแล้วผมก็กดตกลงเข้าไปร่วมดวลแข้งกับคุณ naokicup_winner วินนิ่งเออร์อันดับที่ 11 ของเอเชีย...

ผมเลือกใช้ทีม Real Madrid คู่ใจ ขณะที่คุณนาโอกิก็ใช้ Juventus ทีมโปรดของเขา

แต่แล้วขณะที่ผมกำลังดูเขากำลังจัดทีม ...ผมก็ต้องอุทานร้อง "ไอ้เจ๊ตโด้ววว" ออกมาโดยไม่รู้ตัว เพราะระบบที่คุณนาโอกิแกติดตั้งให้กับทีมม้าลายของเขาคือระบบ 0-7-3....

โปรดฟังอีกครั้ง....!! เลขที่ออก... 0-7-3

ทีมม้าลายสายพันธุ์นรกของพี่แก... ใช้กองหน้า 3 ตัว... แดนกลางอัดแน่นกัน 7 ตัว

โดยที่ไม่มีกองหลัง...!!!

"จะบ้าเหรอ!! บ้านนี้เมืองนี้มันเป็นอะไรกันไปหมด!! จะเอากันให้ตายไปเลยรึไง!!" ผมสบถคำพูดเหล่านั้นในใจ

ทั้งที่ทีมของคุณนาโอกิไม่มีกองหลัง แต่พี่แกกลับมีสถิติการเสียประตูเพียง 0.75 ประตูต่อนัด ซึ่งถือเป็นสถิติที่ดีมาก การที่เขามีสถิติเสียประตูอันน้อยนิด ทั้งที่ทีมไม่มีกองหลังนั้น แสดงว่าพี่แกต้องมั่นใจในผู้เล่นแดนกลางทั้ง 7 คนที่สะพรั่งสรรพคุณ ด้วยความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมว่าจะไม่มีผู้ใดกระชากผ่าน 7 เซียนเทวดานั้นออกไปได้แน่ๆ

ยังไม่ทันที่ผมจะหายอึ้งกับแผนของพี่แก เกมก็ได้เริ่มต้นขึ้นเสียแล้ว...

......................................................................

หลังจากทีบอลได้ถูกเขี่ยออกจากกลางสนามเป็นครั้งแรก ผมก็ฟาดแข้งกับคุณนาโอกิได้อย่างสูสี ผมค่อยๆ เรียนรู้ว่าจุดเด่นของคุณนาโอกิอยู่ที่จิตวิทยาในการเล่น ใครที่เคยเล่นวินนิ่งฯ จนถึงระดับหนึ่งมาก่อนย่อมรู้ดีว่าความแตกต่างระหว่างผู้เล่นที่มีประสบการณ์และไม่มีประสบการณ์นั้นก็คือ "จิตวิทยา"

คนที่ไม่มีประสบการณ์ จะเล่นบอลตามช่อง ไปดื้อๆ ตรงๆ ไม่มีแผน ไม่มีกลลวงหลอกอะไร

แต่คนที่มีประสบการณ์ในระดับหนึ่ง จะเริ่มมีลูกหลอกขึ้นมาบ้างตามลำดับ

คนที่มีประสบการณ์สูงขึ้นไปอีก ก็จะรู้ลูกเล่นพรรค์นั้น และสามารถดักทางอีกฝ่ายที่ใช้ลูกเล่นตื้นๆ นั้นได้

ขณะที่วินนิ่งเออร์ที่มีประสบการณ์สูงสุด นอกจากจะสามารถดักทางลูกเล่นทั้งหมดได้แล้ว นอกจากจะสามารถเอาลูกเล่นทั้งหมดมาใช้ได้แล้ว ต้องสามารถหลอกล่อให้อีกฝ่ายใช้ลูกเล่นหรือเคลื่อนไหวไปตามกับดักที่เราคิดได้ด้วย

ซึ่งคุณนาโอกิแก... ก็เป็นวินนิ่งเออร์แบบนั้นแหละครับ...

กองหน้ารู้จักเคลื่อนไหวหลอกว่าจะไปทางหนึ่ง แต่ไปอีกทางหนึ่ง.... ส่วนกองกลางก็อ่านเกมขาด ตัดบอลได้หมด

เรายื้อแข้งกันมาจนถึงนาทีที่ 24... กระทั่งคุณนาโอกิส่งบอลให้กวายาเรลล่าที่หลุดขึ้นไปในกรอบเขตโทษ เขากำลังจะเผชิญหน้ากับกองหลังตัวสุดท้ายของผม... ในตอนนั้นผมให้กองหลังแกล้งโยกไปทางซ้าย เพื่อเปิดช่องว่างทางขวา.. ก่อนที่จะรีบหักหลังไปทางขวาเต็มตัว ทว่าคุณนาโอกิแกไม่หลงครับ ไม่่ว่าจะเพราะเค้าอ่านทางผมออกหรือเพราะเหตุบังเอิญ เขาก็เลือกพุ่งมาทางซ้าย แล้วก็ซัดผ่านมือกาซิยาสเข้าประตูไปได้

คุณนาโอกิขึ้นนำไป 1-0.... พร้อมกับความรู้สึกในใจผมที่ว่า "ฉิบหายแล้ว..."

การเสียประตูไปก่อนนั้นไม่ใช่เรื่องดี แต่มันจะเป็นเรื่องฉิบหายทันทีหากฝ่ายที่นำไปนั้นเป็นคนที่เก่งกว่าเรา

.... บอลถูกนำมาเขี่ยใหม่ที่กึ่งกลางสนาม ในเวลาที่เหลือของครึ่งแรก ผมพยายามจะฝ่ากองกลางของแกไปให้ได้ แต่ก็ไม่สามารถสลัดเข้าไปบู๊กับบุฟฟ่อน นายทวารของอีกฝ่ายในแบบตัวต่อตัวได้สักที ครึ่งแรกจึงจบลงด้วยสกอร์ 1-0

ในครึ่งหลัง ผมค่อยๆ อ่านทางคุณนาโอกิออกมาขึ้นเรื่อยๆ เริ่มเข้าใจรูปแบบการเคลื่อนไหวในแดนกลางของเขา จนในที่สุดทีมของผมก็สามารถฉีกแดนกลางเข้าไปลุยกับบุฟฟ่อนได้ และสามารถทวงประตูกลับมาเป็น 1-1 สำเร็จ

เมื่อสกอร์ถูกตีตื้น คุณนาโอกิรีบเปลี่ยนตัวและปรับขบวนทัพเล็กน้อย ผมไม่ได้ใส่ใจอะไรมากไปกว่าการสังเกตว่าพี่แกจะส่งกองหลังลงมาหรือไม่... โชคดีครับที่พี่แกยังคงยึดมั่นในระบบ 0-7-3 เช่นเดิม ถึงแม้จะมีการปรับตำแหน่งการยืนเล็กน้อย แต่ผมก็มั่นใจว่าแผนเดิมๆ ของผมต้องสามารถใช้กับคุณนาโอกิได้แน่...

แต่ยังไม่ทัน... ผมก็โดนคุณนาโอกิ ฝ่าเข้าไปใช้ความแม่นยำ ซัดประตูนำเป็น 2-1 ในนาทีที่ 72....

จากเดิมที่ว่าฉิบหาย... การโดนนำในช่วงท้ายเกมแบบนี้ แถวบ้านผมเรียกว่าบรรลัยครับ...!!! นอกจากจะเหลือเวลาให้แก้ตัวไม่มากแล้ว ลูกทีมผมมันเริ่มเดินเล่นกันแล้ว!! ผมสังเกตได้ว่ามันไม่วิ่งกันแล้วครับ!!!

ผมรีบส่งเปโดร เลออน ลงมาช่วยแทนเมซุส โอซิล...

ลาซซาน่า ดิย์ยาร่า มาแทนชาบี อลอนโซ่

และเนรเทศมาเชลโล่ออกไปพัก โดยให้อาร์เบลัวลงมาแทน

แล้วลูกทีมทั้งหมดก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง ....เมื่อเจ้าเจ๊ตโด้วของผมตะลุยฝ่าเข้าไปในกรอบเขตโทษได้สำเร็จ ก่อนที่มัน.. เอ๊ย เขาจะถูกทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ และแล้วเจ้าเจ๊ตโด้วก็ลุกขึ้นมาตะบันจุดโทษเข้าไป ทำให้สกอร์กลับมาเสมอกัน 2-2 ในนาทีที่ 84....

นาทีนั้น ผมไม่คิดจะให้เกมจบลงด้วยการเสมอแล้วครับ ผมรู้ดีว่าถ้าเกมจบลงด้วยการเสมอ ค่าเรทติ้งของผมจะมากขึ้นจากการที่ผมสามารถยันเสมอคนที่เก่งกว่าได้... บางทีการปรับทัพโดยเพิ่มกองหลัง เพิ่มผู้เล่นในแดนกลาง แล้วหารถเมล์คันโตมาอุดหน้าประตูอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีในสถานการณ์นั้นๆ แต่ผมรู้ครับว่าโมเมนตัมมันกำลังเหวี่ยงมาทางเรอัลของผม!! ในเมื่อลุยมาถึงตรงนี้แล้ว เราต้องมั่นใจว่าเรามีดีพอที่จะฝันถึงชัยชนะได้!!

ในไม่ช้าเวลา 90 นาทีก็จบลงด้วยผลเสมอ... เข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษ โดยถ้ายังเสมอกันอีกก็ถือว่าเสมอ

...................................................................

ช่วงต่อเวลาพิเศษเริ่มต้นขึ้น โดยที่ทั้งผมและคุณนาโอกิไม่มีการปรับทัพแต่อย่างใด

แต่จะด้วยความบังเอิญหรือโชคก็ไม่รู้ ไอ้เจ๊ตโด้วของผมก็ครอสบอลเข้ามาให้อิกัวอินซัดนำเป็น 3-2 ได้ในนาทีที่ 98 ทำให้ทีมผมพลิกขึ้นมานำคุณนาโอกิได้เป็นครั้งแรก!! หลังจากที่ผมโดนจัดหนักมาตลอด 90 นาที!!

ในตอนนั้นผมเห็นชัยชนะอยู่แค่เอื้อมแล้วครับ... ด้านคุณนาโอกิเองพอโดนขึ้นนำในช่วงต่อเวลาพิเศษ ก็ลนลานอย่างเห็นได้ชัด พี่แกเริ่มเล่นไม่เป็นขบวน จิตวิทยาที่เคยเฉียบแหลมก็สลายกลายเป็นการควบบอลเข้าไปลุยแบบซื่อๆ ด้านผมเองพอตัดบอลจากพี่แกได้ก็สาดยาวให้กองหน้าอย่างเดียว อะไรไม่รู้แหละ ตรูสาดยาวอย่างเดียวแล้ว

แล้วเรื่องไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นเมื่อกาก้าและเบนเซม่าของทีมผม ช่วยกันฝ่าแดนกลางของคุณนาโอกิที่ไม่เหลือความเยือกเย็นแล้ว เข้าไปยิงได้อีกคนละตุง... จนจบเกม สกอร์ปิดลงด้วย 5-2 โดยที่ผมเป็นฝ่ายชนะ!!

* ที่เห็นผมมีโอกาสยิง 21 ครั้ง เกือบทั้งหมดมันเกิดขึ้นในช่วงต่อเวลาพิเศษ ที่ผมมีโอกาสพับสนามบุกครับ

เกมจบลงด้วยความประทับใจ เป็นอีกหนึ่งแมตช์ที่ทั้งสองฝ่ายฟัดกันได้อย่างสนุกเร้าใจผมมาก และผลก็ออกมาน่ายินดียิ่ง ทุกอย่างดูเลิศเลอไปหมด เว้นก็แต่คุณนาโอกิที่พอจบเกมก็ออกจากห้องไปทันที โดยไม่อยู่คุยกันก่อน... ทั้งที่ตอนก่อนเริ่มเกมและช่วงพักครึ่งยังพิมพ์คุยกันอยู่เลย....

(...แอบสงสัยว่าจริงๆ พี่แกอาจจะปวดส้วมตั้งแต่ตอนต่อเวลาพิเศษก็ได้นะ...)

ผลจากการชนะในนัดนี้ ทำให้จากเดิมที่ผมทำสถิติชนะต่อเนื่องสูงสุดไว้ 8 นัด ก็เพิ่มกลายเป็น 9 นัด!!

และหลังจากพยายามมานาน ผมก็ไต่ขึ้นมาสู่อันดับที่ 193 ของเอเชียได้สำเร็จ!!!

เป้าหมายต่อไปคือติด 1 ใน 100......  และสุดท้ายก้าวเข้าไปติด 1 ใน 10 ให้ได้

(ส่วนอันดับ 1 คงไม่ขอฝันถึง.... เพราะหากพูดไปมันคงชวน ถรุ๊ยยยยส์ มากกว่า~)

ส่วนด้านล่างนี้เป็นสถิติของคุณนาโอกิ ตอนที่เรทติ้งตกลงมาแล้ว แต่ยังไม่ได้จัดอันดับใหม่ครับ

;w; น่ากลัวจริงๆ เลยนะนาย.... Win Rate 71.5% เสียประตูเฉลี่ยนัดละ 0.75 ลูก

เคยติด Top 10 ถึง 2 ครั้ง... และติด Top 100 ถึง 3 ครั้ง...

อย่างไรก็ตาม การชนะวินนิ่งเออร์อันดับที่ 11 ของเอเชีย มันจะไม่มีความหมายอะไรเลย หากหลังจากนี้ทีมของผมดันไปสะดุดหัวทิ่มให้กับทีมที่มีอันดับวรรณะต่ำกว่า... ซึ่งนั่นจะยิ่งเป็นการฟ้องว่าที่ผมชนะคุณนาโอกิได้มันเป็นเพราะเหตุบังเอิญ!!!

หากฟังแล้วไม่เข้าใจอารมณ์ ผมก็คงบอกได้แค่ว่ามันคงเหมือนสถานการณ์ของทีมสีแดงๆ บางทีม ที่ดันทะลึ่งชนะทีมสีน้ำเงินได้แบบพลิกความคาดหมาย... ก่อนจะประสบความวอดวายอย่างที่เป็นอยู่ล่าสุดนี้ อุฮิ อุฮิ...

ไม่มีความคิดเห็น