เนื้อเรื่องตอนจบ The World Ends With You [2]

**คัดลอกจาก Entry - http://ffplanet.exteen.com/20080424/the-world-ends-with-you-2

-------------------------------------------------------------

หลังจากที่เนกุสามารถโค่นคิตานิจิลงได้แล้ว โจชัวก็เดินเข้าไปคุยกับคิตานิจิอย่างสนิทสนม

โจชัว : ดูเหมือนฉันจะชนะแล้วนะ
คิตานิจิ : ไม่..ต้องไม่จบแบบนี้ จะมีใครอื่นอีกที่สามารถปกป้องชิบุยะได้...

ทุกคนจะสังเกตไปที่มือของคิตานิจิซึ่งมีตัวเลขบอกเวลาเดินนับถอยหลังอยู่ ตอนนี้มันเหลืออยู่แค่ 137 วินาทีเท่านั้น

เนกุ : ไทเมอร์!! ทำไมถึงมีไทเมอร์ได้?
คิตานิจิ : ท่านจะทำอย่างที่ตั้งใจไว้หรือ

(ภาพจะตัดมาที่เหตุการณ์ในอดีตเมื่อประมาณ 1 เดือนที่แล้ว คิตานิจิกับกำลังคุยอยู่กับโจชัว ทว่าโจชัวในที่นี้เป็นโจชัวในสภาพที่ปลดปล่อยพลังเต็มที่ นั่นคือร่างที่แท้จริงของเขา)

คิตานิจิ : ทำลาย...ชิบุยะ? Composer ครับ...ทำไมกัน?
โจชัว : ฉันตัดสินใจที่จะล้างมือแล้ว อนาคตของชิบุนะไม่ได้มีค่าอะไรสำหรับฉันหรือคนอื่นๆ อีกแล้ว ดังนั้นฉันจะทำลายเมืองนี้ซะ

คิตานิจิ : เดี๋ยวก่อนครับท่าน ชิบุยะยังคงเต็มไปด้วยความเป็นไปได้มากมาย
โจชัว : ใช่ แต่ผู้คนนั้นโง่เง่าและถูกบดบังจนมองไม่เห็นความเป็นจริง อิทธิพลที่ครอบงำชิบุยะอยุ่นั้นกล้าแข็งจนเกินไป ฉันต้องยุติมันแล้วก่อนที่ Ground อื่นๆ จะติดไปด้วย และนั่นจะทำให้ทุกอย่างพังพินาศลง

คิตานิจิ : ปัญหามันอยู่ที่ตัวผู้คน ถ้าพวกเขาเปลี่ยนไปในทางที่เหมาะสม ท่านก็จะยังดำเนินเกมต่อไปใช่มั้ย?
โจชัว : ใช่ แต่คำว่าเหมาะสมมันก็ค่อนข้างห่างไกลจากพวกเขามาก
คิตานิจิ : ขอโอกาสให้ผมได้พิสูจน์ว่าท่านคิดผิดเถิด ผมสาบานว่าจะสร้างชิบุยะในแบบที่ท่านต้องชอบ
โจชัว : อยากเล่นเกมงั้นรึ?
คิตานิจิ : เกม?
โจชัว : กฏก็แค่ง่ายๆ ถ้านายแก้ไขชิบุยะได้นายก็ชนะ ชิบุยะจะคงอยู่ต่อไป
คิตานิจิ : แต่ถ้าผมทำไม่ได้?
โจชัว : นายก็แพ้สิเมกุมิ แล้วชิบุยะก็ต้องถูกลบทิ้ง
คิตานิจิ : ตกลง ผมยอมเสี่ยงเพื่อปกป้องชิบุยะ ผมยินดีทำ แต่...ผมจะมีโอกาสชนะท่านได้แค่ไหนกันเชียว
โจชัว : สบายใจได้เมกุมิ ฉันจะต่อให้ละกัน ฉันจะออกไปยัง RG และจะไม่ท้าดวลกับนายโดยตรง แต่จะเลือกผู้เล่นคนหนึ่งมาเป็นตัวแทนของฉัน ตั้งแต่ที่นายพูดว่าจะสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ฉันก็เริ่มสนใจ ฉันจะขอคาดหวังและจับตาดูอยู่ห่างๆ

คิตานิจิ : ดีครับท่าน ผมขอเข้าร่วมเกมของท่าน
โจชัว : ก่อนอื่น..ฉันต้องเก็บค่าเข้าร่วมของนายก่อน

แล้วโจชัวก่อสร้างไทเมอร์ขึ้นที่มือของคิตานิจิ โดยมีกำหนดเวลา 30 วัน

โจชัว : นายมีเวลาหนึ่งเดือนนะเมกุมิ ขอให้นายทำสำเร็จ

(กลับมาที่เหตุการณ์ปัจจุบัน ซึ่งตอนนี้เวลาของคิตานิจิเหลือแค่ 15 วินาทีเท่านั้น)

คิตานิจิ : ท่านกำลังจะลบมัน เมืองที่ผมรู้จัก เมืองที่ผมรักกำลังจะจากไป
โจชัว : นายทำได้ดีแล้วเมกุมิ นี่คือเกมที่ทำให้ฉันสนุกมาก
คิตานิจิ : ผมยอมแพ้ครับท่านย ผมจะไม่เสียใจแล้ว
โจชัว : นายรู้มั้ยว่าฉันชอบความคิดของนายมาก แต่น่าเสียดายที่มันไม่เวิร์คนะ
คิตานิจิ : ท่านได้มอบโอกาสอันวิเศษให้กับผม ขอบคุณมากครับ

คิตานิจิหันไปทางเนกุ...

คิตานิจิ : สำหรับนาย นายเล่นได้ดีมาก ท้ายที่สุดแล้วฉันก็ไม่สามารถ Imprint นายได้อยู่ดี
เนกุ : ไม่หรอก.......เดี๋ยวสิ ใช่แล้ว!!

ว่าแล้วเนกุก็จะหยิบเข็มกลัดผู้เล่นขึ้นมาอีกอัน เขาจำได้ว่าตอนเริ่มเกมเขาได้รับมันมา 2 อันด้วยกัน

คิตานิจิ : เข็มกลัดอีกอัน!! ทำไมถึงมีสองอันได้ ฉันให้นายไปแค่อันเดียวนี่นา...

คิตานิจิ : ....ฮ่าๆๆๆ ใช่แล้ว...เนกุ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับนายแล้วนะ

แล้วคิตานิจิที่พ่ายแพ้เกมก็สลายไป...

เนกุ : โจชัว นี่มันอะไรกันเนี่ย!?
โจชัว : ทั้งหมดก็แค่เกมที่ฉันกำหนดขึ้นมาเท่านั้นเอง
เนกุ : อะไรกัน? นั่นแปลว่านาย...
โจชัว : ถ้าจะให้พูดให้ชัดก้อ... อืม...คงต้องจัดการกับพวกเขาก่อนแฮะ

ว่าแล้วโจชัวก็ใช้พลังของเขาพันธนาการบีทและชิกิไม่ให้ขยับได้

ชิกิ : เกิดอะไรขึ้นเนี่ย..
บีท : ฉันขยับไม่ได้เลย...

โจชัว : เนกุ ฉันเนี่ยแหละคือ....Composer แห่งชิบุยะ
เนกุ : อะไรกัน เป็นไปไม่ได้..
โจชัว : ฉันรู้ว่านายต้องไม่พอใจ โดยเฉพาะช่วงที่เราได้ใช้เวลาด้วยกัน แต่นั่นคือความเป็นจริงที่ฉันอยากให้นายยอมรับ เมกุมิกับฉันได้ตกลงที่จะเล่นเกมเพื่อตัดสินว่าชิบุยะควรจะดำรงอยู่ต่อไปหรือไม่

เนกุ : งั้นทุกอย่างที่ฉันทำ...
โจชัว : นายกำลังเล่นเพื่อฝ่ายฉันไง นายทำได้เยี่ยมมาก ฉันคงไม่ชนะถ้าไม่มีนาย
เนกุ : งั้นสิ่งที่ฉันทำ....
โจชัว : ฉันมีบทอย่างเดียวในเกมก็คือการหาคนที่จะมาเล่นเกมแทนฉัน เด็กหนึ่งคนจาก RG
เนกุ : ฉัน?
โจชัว : ใช่แล้วเนกุ ปรบมือให้กับตัวเองสิ ฉันรู้ว่าฉันได้เลือกผู้ชนะขึ้นมาแล้ว
เนกุ : แต่มินามิโมโตะเป็นคนฆ่าฉันไม่ใช่เหรอ

โจชัว : เขาลั่นกระสุนมาที่ฉันต่างหาก เขาตามล่าเก้าอี้ของฉันมาตลอด คงคิดว่าตัวเองจะมีปัญญาฆ่าฉันใน RG ได้ หมอนั่นคำนวนผิดครั้งใหญ่ Composer น่ะไม่เหมือนกับยมทูต ต่อให้อยุ่ในโลกแห่งความเป็นจริงเขาก็ยังสามารถใช้พลังได้ มินามิโมโตะมันพลาดแล้วก็หนีมาอยู่ใน UG แต่ฉันก็ปล่อยเข้าไว้ ฉันรู้ว่าเขาจะทำให้เกมมันระอุขึ้น โชคร้ายที่หมอนี่เล่นแรงเกินไปหน่อย ฉันจึงต้องรีไทร์เขาออกก่อนกำหนด จะปล่อยให้เขาทำไคลแมกซ์เสียไม่ได้หรอก

เนกุ : นายคือคนที่กำจัดเขา?
โจชัว : ใช่ นายฉลาดจริงๆ เนกุ หมอนี่ได้ตามไปกวนใจฉันทุกที่อยู่แล้ว กระทั่งตอนที่ฉันไปพาตัวนายใน RG
เนกุ : ใน RG ...เดี๋ยวก่อน!! ไม่...
โจชัว : ฉันจะคืนความทรงจำทั้งหมดที่เก็บไว้ให้นายละกัน

(ทันใดนั้นภาพแห่งความทรงจำในอดีตตอนที่เนกุตายก็กลับคืนสู่เนกุอีกครั้ง ในตอนที่เนกุกำลังยืนดูภาพวาดบนกำแพงอยู่ โจชัวก็วิ่งมาแล้วยิงปืนแฉลบเนกุไป กระสุนพุ่งผ่านหัวของเนกุไปเข้าตัวของมินามิโมโตะอย่างจัง มินามิโมโตะพยายามลั่นกระสุนรัวเพื่อตอบโต้ใส่โจชัว แต่ไม่ว่ามินามิโมโตะจะยิงกระสุนออกไปมากเท่าใด ก็ไม่มีกระสุนนัดไหนเลยที่จะทะลุผ่านกำแพงแห่งจินตนาการของโจชัวเข้าไปได้ พอเห็นท่าไม่ดีแล้วมินามิโมโตะก็เลยวิ่งหนีไป ส่วนเนกุที่ยังนั่งงงๆ อยู่ก็เจอโจชัวก้าวเข้ามายิงโป้งเข้าให้ พอมั่นใจว่าตายสนิทแล้วโจชัวก็โยนเข็มกลัดลงบนตัวเนกุแล้วก็ร้อง เยส!!)

เนกุ : แกนั่นเอง...ฉันคิด..ฉันคิดว่าในที่สุดก็ได้เจอเพื่อนที่สามารถเชื่อใจได้แล้วแท้ๆ แต่เพราะแก แกฆ่าฉัน!!
โจชัว : เนกุ มาเล่นเกมสุดท้ายกันมั้ย?
เนกุ : แกหลอกฉัน!!!
โจชัว : คนที่ชนะจะได้เป็น Composer และจะทำอะไรกับชิบุยะตามใจชอบก็ได้ ถ้านายชนะนายก็ตัดสิน ถ้าฉันชนะฉันก็เป็นคนตัดสิน แน่นอนว่าฉันได้ตัดสินใจไว้แล้วว่าจะเอายังไงกับมัน

เนกุ : ไอ้ชั่ว!!!
โจชัว : เนกุ นายควรหยิบปืนขึ้นมาได้แล้วนะ นี่คือการดวลกัน กฎก็ง่ายๆ เหมือนทั่วไป ฉันจะนับถอยหลัง 10 ถึง 0 แล้วเราก็ยิง ง่ายๆ เลยเห็นมั้ย...

เนกุ : อย่ามายั่วฉันนะโจชัว!!
โจชัว : ฉันไม่ได้ยั่วนาย การเลือกทางแยกของชีวิตมันก็ง่ายเหมือนการลั่นไกปืนน่ะแหละ

เนกุยังดูอ้ำอึ้งและเสียใจอยู่

โจชัว : เนกุ หน้านายดูตลกจังนะ จำที่คุณ H พูดไว้ไม่ได้รึไง
เนกุ : ฉัน...
โจชัว : อ่อ..ก่อนจะลืม ฉันเก็บค่าเข้าร่วมของนายแล้วนะ เริ่มเกมได้ 10...9...8...




เนกุเอาแต่ร้องไห้อย่างเดียว ทว่าพอเวลาถูกนับมาใกล้ถึง 0 เนกุก็รวบรวมสติและมองไปที่โจชัวด้วยใบหน้าอันเคียดแค้น เขายังจำตอนที่โจชัวฆ่าเขาได้ดี และจะไม่มีวันให้อภัยโจชัวเป็นอันขาด ว่าแล้วเนกุก็ยกปืนขึ้นและเล็งไปที่โจชัว

มือที่สั่นเทิ้มของเนกุทำให้เขาไม่สามารถจับปืนได้อย่างมั่นคง ท้ายที่สุดแล้วเมื่อเวลานับถอยหลังมาถึง 0 เนกุก็ไม่สามารถยิงโจชัวได้ลง เขาลดปืนลงต่ำและปล่อยให้กระสุนจากปืนของโจชัวเจาะทะลุร่างเขาไป ในวินาทีนั้นเองภาพของโจชัวที่เปี่ยมด้วยสีหน้าของฆาตกรก็ผุดขึ้นมาในโสตประสาทของเนกุ เขานึกว่าโจชัวกำลังมองเขาด้วยสีหน้าของฆาตกรเหมือนตอนนั้น แต่แล้วเมื่อเนกุพยายามรวบรวมสติจ้องมองไปยังภาพเบื้องหน้าก่อนที่เขาจะสลบไป ภาพที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าของเขากลับเป็นภาพโจชัวที่เขารู้จัก ภาพของโจชัวซึ่งเป็นเพื่อนที่เคยปกป้องเขาและเป็นเพื่อนที่พึ่งพาได้ที่สุดก็ปรากฏขึ้นมาแทน



เรื่องราวทั้งหมดน่าจะจบลงที่ตรงนี้แล้ว จริงๆ แล้วโจชัวควรจะทำลายชิบุยะลงตามเจตจำนงค์เดิม ทว่า...ด้วยการที่เขาได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเนกุ ตลอดเวลา 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา มันทำให้เขาเริ่มเชื่อมั่นขึ้นมาว่า บางที...มนุษย์อาจจะสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองไปก็ได้ บางที...ที่เนกุพูดว่าเพราะคนเรามีความคิดที่แตกต่างกันออกไป คนเราถึงได้รู้จักที่จะพูดคุยแลกเปลี่ยน และเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ซึ่งนั่นก็จะทำให้เราเปลี่ยนแปลง มันอาจเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

ถึงโจชัวจะชนะเกมกับคิตานิจิ ถึงจะชนะการดวลปืนกับเนกุ แต่ในด้านการพิสูจน์ว่าความคิดของฝ่ายไหนถูกต้อง โจชัวเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง ผิดกับเนกุที่ได้พิสูจน์ความคิดของตัวเองด้วยการเปลี่ยนแปลงตลอดระยะเวลา 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา...

ด้วยเหตุนี้ โจชัวจึงยุติความคิดที่จะทำลายเมืองชิบุยะ...และเลือกที่จะให้โอกาสมนุษย์อีกครั้งหนึ่งแทน...

........................

...................................

เนกุฟื้นคืนชีพขึ้นมาท่ามกลางผู้คนมากมายที่เดินสวนผ่านไปมาในเมืองชิบุยะ ทันทีที่เขารวบรวมสติและทำความเข้าใจกับเรื่องทั้งหมดขึ้นมาได้..เนกุก็ตะโกนขึ้นมาอย่างสุดเสียง


"ทำไม......นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน !!!!!!!!!!!!!!"

(..............7 วันต่อมา.............)

"เมืองๆ เดิม ฝูงชนที่ยังแออัดกันเหมือนเดิม ชิบุยะไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย ทว่าฉันก็ยังไม่สามารถยกโทษให้นายได้อยู่ดี นายอาจไม่รู้ว่า...ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานั้นเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับฉันมาก ฉันได้เรียนรู้ที่จะเชื่อใจคนอื่น ได้ลิ้มรสชาติการโดนหักหลัง ฉันค้นพบว่าเมืองที่ฉันกล่าวหาว่าคับแคบ แออัด และว่างเปล่า...แท้จริงแล้วมันไม่ได้เป็นแบบนั้น"

เนกุค่อยๆ ทบทวนคำพูดต่างๆ มากมายของเพื่อนที่เขาเชื่อมั่น

 .............................................................................

"ให้ฉันรู้ด้วยสิ บอกฉันมาว่าเธอคิดอะไรอยู่"

"เพียงแค่ยอมเปิดใจให้คนอื่นเท่านั้นรึ ยังมีหนทางอื่นอีกมั้ยที่เรายังจะสามารถเป็นตัวของตัวเองได้"

"ฉันกลัว... กลัวว่าจะไม่ได้รับโอกาสคืนชีพอีกครั้ง"

"ฟังให้ดีนะ เพราะฉันจะไม่พูดอีกเป็นครั้งที่สอง โปรด....ช่วยฉันด้วย นายต้องช่วยฉัน"

"เนกุ นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่เธอยอมเรียกชื่อของฉัน"

"เนกุ ฉันรู้ว่านายมีพลังที่จะทำได้ ถ้านายยอมแพ้ให้กับตัวเอง ก็เท่ากับนายยอมแพ้ให้กับโลก"

"นายไม่ใช่คู่หูของฉันอีกแล้ว แต่นายเป็น..เพื่อนของฉัน"

"ถ้าเธอได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของฉันแล้ว เราจะยังเป็นเพื่อนกันอยู่อีกมั้ย"

........................................................................................


"ฉันดีใจที่ได้พบกับพวกนาย พวกนายทำให้ฉันรู้จักกับหลายสิ่งหลายอย่างที่ฉันอาจไม่เคยสนใจ"

"ฉันเชื่อมั่นในคู่หู ถึงฉันไม่ยกโทษให้นาย แต่ฉันก็จะเชื่อมั่นในตัวนาย"

"นายช่วยพวกเราไว้ใช่มั้ย ไม่งั้นชิบุยะ...โลกของฉันก็คงจะหายไปแล้ว"

"นี่... ฉันพูดไปรึยังว่าฉันมีเพื่อนแล้ว เราจะมารวมตัวกันครั้งแรกในอาทิตย์นี้"

"แล้วไว้เจอกัน"

เนกุเดินเข้าไปที่รูปปั้นฮาจิโกะ สถานที่ๆ เขาใช้เป็นที่นัดพบกับเพื่อนอีกสามคน 

บีท : "โย่วววว!!"

ไรม์ : "ทางนี้!!"

เนกุวิ่งเข้าไปหยอกล้อเล่นกับบีทและไรม์ ในไม่ช้าชิกิก็ตามเข้ามาสมทบ...

 



บนยอดอาคาร 104....โจชัวกับฮาเนโกมะกำลังเฝ้าดูพวกเนกุอยู่

ฮาเนโกมะ : รู้มั้ย..ข้อความนี้จะต้องส่งไปถึงโลกด้านบนแน่นอน แต่ว่า...อย่างน้อยทุกอย่างก็กลับเป็นปกติแล้วนะ ถูกมั้ย?

โจชัวไม่ได้ตอบอะไรแต่ดูมีสีหน้าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่



ฮาเนโกมะ : อะไรกัน ดูไม่พอใจเลยนะ เฮ้..นี่มันโลกของพวกเขานะ พวกเขาต้องเป็นคนตัดสินใจว่าจะทำยังไงกับมัน พวกเราก็แค่... 

โจชัวรู้สึกเหมือนตัวเองเสียหน้าที่เคยคิดจะทำลายชิบุยะทิ้ง ไอ้ครั้นจะไปเถียงไม่ก็ไม่มีเหตุผล เลยบินหนีไปเลย

ฮาเนโกมะ : ฮะๆๆ คนบางคนนี่ก็ตอบว่าไม่ ไม่เป็นซะด้วยสิ...



ว่าแล้วฮาเนโกมะก็กางปีกเทวดาของเขาขึ้นมา แล้วก็ออกบินตามโจชัวขึ้นไป



........................................ 

"....ท้ายที่สุดแล้วโลกนี้จะเป็นอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณนั่นเอง...."

ไม่มีความคิดเห็น